ปกติแล้ว แม้อาชีพหลักของเวทัสจะเป็น ‘ศัลยแพทย์’ หรือเรียกง่ายๆ ว่าหมอศัลยกรรมความงาม และดูแลปัญหาด้านผิวหนังให้ผู้หญิง แต่อีกอาชีพหนึ่งก็คือ ‘เจ้าของบาร์นั่งชิล’ ด้วยความฝันในวัยเด็กที่อยากเป็นบาร์เทนเดอร์ทำให้ชายหนุ่มเก็บเงินที่ได้จากอาชีพหลักเปิดบาร์ลับของตนเองขึ้นมา แม้ไม่มีเวลาที่จะมาทำหน้าที่บาร์เทนเดอร์อย่างที่ฝันไว้ แต่แค่ได้เห็นว่าอีกหนึ่งความฝันได้สำเร็จลุล่วงด้วยดี เขาก็ดีใจ
ส่วนหนึ่งที่คุณหมอหนุ่มหล่อประสบความสำเร็จในอาชีพเจ้าของบาร์ก็เป็นเพราะบารมีของผู้เป็นพ่อ ซึ่งเป็นถึงอดีตนายตำรวจใหญ่ ที่แม้ตอนนี้จะเกษียณแล้ว แต่ท่านก็ยังเป็นที่นับหน้าถือตา รวมไปถึงเป็นที่เกรงขามของหลายๆ คน ทำให้ในแวดวงธุรกิจกลางคืนของเวทัสเดินได้สะดวก แต่ชายหนุ่มไม่เคยคิดที่จะทำผิดโดยใช้เส้นสายใดๆ เพราะลำพังทุกวันนี้ก็แทบไม่อยากบอกใครด้วยซ้ำว่าตัวเองเป็นลูกอดีตตำรวจใหญ่ ด้วยกลัวว่าคนอื่นๆ จะพากันเกรงใจไปหมด
และค่ำคืนนี้ที่ชายหนุ่มต้องมาสวมบทบาร์เทนเดอร์จำเป็น นั่นเป็นเพราะว่าบาร์เทนเดอร์หนุ่มของที่ร้านป่วยกะทันหัน แถมวันนี้ก็เป็นวันศุกร์สุดสัปดาห์ ลูกค้าที่ร้านก็จะเยอะกว่าปกติ เวทัสไม่ใช่คนขี้เหนียว ขี้งกแต่อย่างใด แต่แค่ไม่อยากให้ลูกค้ามาต่อว่าทีหลังได้ว่าบาร์ของตนเองบริการล่าช้า นั่นจึงเป็นสาเหตุที่คุณหมอหนุ่มต้องลงมาบริการลูกค้าแทน และเขาเองก็ยินดีมากๆ เช่นกัน ยิ่งได้เจอสาวน้อยที่ถูกใจเช่นนี้…ยิ่งทำให้รู้สึกว่าคิดไม่ผิดจริงๆ ที่คืนนี้มาทำงานที่นี่
“เอ่อ ขอโทษค่ะ”
เมรีญารีบพูดออกมาทันทีด้วยความเขินอายที่ถูกชายหนุ่มจับได้ ปกติ เธอไม่ค่อยสนใจผู้ชายคนไหนเป็นพิเศษ แต่สำหรับผู้ชายตรงหน้า ถือว่าปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเจ้าตัวมีเสน่ห์เหลือล้นจนไม่สามารถละสายตา
“อยากดื่มอะไรดีครับคุณผู้หญิง”
เวทัสพูดขึ้นเพื่อไม่ให้หญิงสาวหน้าแดงไปมากกว่านี้ แม้เขาจะชอบที่เห็นมัน แต่ก็คงดีไม่น้อยหากเธอได้ดื่มเครื่องดื่มจากเขา
“อะไรก็ได้ค่ะ ฉันไม่เคยมาที่นี่”
เมรีญาตัดสินใจพูดความจริงออกไป เพราะไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องมากลัวขายหน้ากับคนที่คงเจอกันแค่คืนนี้คืนเดียว
“ได้ครับ ถ้างั้น เดี๋ยวผมทำบลูฮาวายให้คุณก็แล้วกัน” เขาพูดยิ้มๆ ก่อนจะหันไปจัดการชงเครื่องดื่มให้กับลูกค้าสาวทันที
เมรีญามองภาพนั้นอย่างเพลิดเพลิน เธอไม่เคยแม้แต่จะคิดว่าจะต้องมาดื่มอะไรแบบนี้ แต่ด้วยปัญหาต่างๆ ที่เข้ามาทำให้หญิงสาวอยากจะรู้นักว่า สิ่งที่พ่อของเธอติดนักติดหนามันดียังไง รวมถึงตนเองก็อยากจะใช้ชีวิตให้สุดเหวี่ยงก่อนที่สิ่งสุดท้ายที่ ‘หวงแหน’ มาตลอดจะต้องเสียไปในวันพรุ่งนี้…
“ขอบคุณค่ะ” เธอรับเครื่องดื่มจากชายหนุ่มมาไว้ ก่อนจะค่อยๆ จิบเบาๆ
“หืม อร่อยจังค่ะ”
เมรีญายิ้มออกมาทันทันเมื่อรู้ว่าเครื่องดื่มตรงหน้าไม่ได้รสชาติแย่อย่างที่คิด แต่มันกลับหวานจนแค่ชิมไม่พอ หญิงสาวตัดสินใจกระดกพรวดเดียวจนหมดแก้วจนบาร์เทนเดอร์หนุ่มมองด้วยความตกใจ
“เฮ้ย เบาๆ นะคุณ หวานๆ แบบนี้นี่ตัวดีเลยนะ เมาง่าย” เวทัสมองสาวเจ้าอย่างอึ้งๆ เธอคงไม่เคยดื่มจริงๆ จึงไม่รู้ว่ารสชาติแบบนี้นี่แหละทำให้คนเมาเสียสติจนภาพตัดมาหลายคนแล้ว
“ฉันขอเพิ่มอีกค่ะ อร่อยดี” เมื่อได้ลองแก้วแรกก็อยากชิมแก้วที่สองตามมาติดๆ
ชายหนุ่มหันไปทำเครื่องดื่มให้ลูกค้าต่อ พร้อมกับลอบสังเกตว่า สาวเจ้าดูไม่เหมือนผู้หญิงคนอื่นที่มาเที่ยวที่นี่เอาเสียเลย จากการแต่งกายที่มาในชุดเสื้อยืดสีขาว กางเกงขาสั้นแบบสบายๆ เผ้าผมและใบหน้าที่แทบไม่แต่งเสริมเติมอะไร ทำให้เวทัสรู้ได้ทันทีว่าเธอไม่ได้มาที่นี่เพื่อเช็กเรตติ้งเหมือนที่สาวๆ หลายคนชอบทำกัน แต่เธอมาที่นี่เพราะอยากหาที่สบายใจ หรือไม่ก็พลัดหลงเข้ามา
แต่ไม่ว่าจะเป็นลมอะไรพัดเธอให้ผ่านมา เขาชักไม่อยากให้สาวน้อยคนนี้ถูกพัดผ่านไป เธอดูธรรมดาแต่เตะตาเขาจัง
“คุณมีปัญหาอะไรหรือเปล่า ระบายได้นะ”
เวทัสเอ่ยถามขึ้นพร้อมกับนั่งลงที่เก้าอี้ตรงข้ามเธอ เวลานี้ สาวน้อยเริ่มมีใบหน้าแดงก่ำจากฤทธิ์แอลกอฮอล์ มันทำให้เจ้าตัวดูน่ารักและน่าขย้ำในสายตาของเขายิ่งนัก
“หืม? เพิ่งรู้นะคะว่าบาร์เทนเดอร์ที่นี่รับงานปรึกษาปัญหาชีวิตให้ลูกค้าด้วย” ฤทธิ์แอลกอฮอล์ทำให้เมรีญากล้าที่จะพูดในสิ่งที่ปกติจะไม่พูดเด็ดขาด
“อืม...ก็ไม่ใช่กับทุกคนหรอกครับ ผมคุยเฉพาะกับคนที่ผมสนใจ” ชายหนุ่มพยายามหักห้ามใจตนเองไม่ให้เผลอไผลไปกับลูกค้าสาว แต่แรงดึงดูดของเธอทำเอาเขาอดไม่ได้ที่จะพูดจาเย้าแหย่ ซึ่งปกติคนอย่าง ‘หมอเวทัส’ ไม่มีวันทำ!
“ปากหวานจังเลยนะคะ อยากได้ทิปจากฉันแหงๆ บอกก่อนนะว่าฉันไม่มีหรอกค่ะ ฉันมันประเภท สวยแต่จน พร้อมพาทุกคนไปลำบาก” เมรีญาพูดยิ้มๆ ติดตลกส่วนหนึ่งเพื่อทำให้ตัวเองไม่เครียด ก่อนจะยกแก้วดื่มอีกรอบจนเวทัสต้องจับมือบางยั้งเอาไว้เสียก่อน
เวทัสอมยิ้ม นึกขำสาวน้อยตรงหน้า แล้วเอ่ยเตือน“ผมว่าคุณค่อยๆ ดีกว่านะ เดี๋ยวก็เมาไม่รู้เรื่องหรอก” เขากล่าวเตือนด้วยความเป็นห่วง แม้จะชอบเห็นหญิงสาวเมาหน้าแดงแต่ความปลอดภัยของลูกค้าก็เป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะลูกค้าสาวสวยที่มาคนเดียวแบบเธอ
“ฉันมีสติ ฉันไม่ปล่อยให้ของพวกนี้มาชนะฉันหรอกน่า”
ไม่วาย หญิงสาวยังคงอวดเก่งพร้อมกับดื่มต่อ ชายหนุ่มจนปัญญาจะห้ามจึงได้แต่มองหน้าสาวขี้เมาที่ตอนนี้เริ่มแดงระเรื่อหนักกว่าเก่า พลางคิดว่าหากเธอจะได้รับอันตรายก็คงเป็นอันตรายจากเขาเองเสียมากกว่า
“ดูท่าแล้ว คุณคงมีเรื่องไม่สบายใจมากๆ สินะครับ” เวทัสตั้งใจชวนคุยเพื่อให้หญิงสาวตรงหน้าหันมาโฟกัสที่เขามากกว่าเครื่องดื่ม
“เรียกว่า…ชีวิตฉันกำลังจะจบลงมากกว่าค่ะ” เมรีญาพูดยิ้มๆ แต่แววตากลับเศร้าหมองจนเวทัสสังเกตได้
“ทุกปัญหามีทางแก้ คุณใจเย็นๆ ดีกว่านะครับ” ชายหนุ่มรู้ดีว่าไม่ได้อยู่ในสถานะที่จะไปสอดรู้สอดเห็นเรื่องของลูกค้าสาวมากนัก นอกจากว่าเธอเต็มใจที่จะเล่าให้เขาฟังเอง
“ฉันก็แก้ แก้มาตลอด แต่สุดท้าย มันก็เหมือนเดิม ฉันทำใจไว้แล้วค่ะ” เมรีญาพูดต่ออย่างเลื่อนลอย จนเขาอดสงสัยไม่ได้ว่าหญิงสาวตัวเล็กๆ แค่นี้มีปัญหาอะไรกันแน่
“อย่างน้อยคืนนี้ก็มีเรื่องดีๆ นะครับ” เวทัสพูดขึ้นมาอีกครั้งเพื่อดึงความสนใจ เพราะไม่อยากให้เธออยู่ในอาการเศร้าอย่างที่เป็น