“ก็จริงค่ะ เรื่องดีๆ วันนี้คือ ฉันได้ออกมาปลดปล่อยก่อนที่จะไม่เหลืออะไรเลย” ฤทธิ์แอลกอฮอล์ทำให้เมรีญาพูดออกไปอย่างใจคิด เพราะแค่นึกถึงวันพรุ่งนี้ เธอก็แทบไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้ว
“ไม่ใช่สักหน่อย เรื่องดีๆ วันนี้คือการที่ผมกับคุณได้มาเจอ แล้วก็คุยกันต่างหาก ผมยินดีรับฟังเรื่องของคุณนะ ขอแค่คุณพร้อมที่จะเล่าให้ผมฟัง” คุณหมอหนุ่มพูดขึ้นมาอย่างอบอุ่น ด้วยความที่อาชีพหลักเป็นหมอศัลยกรรมความงาม แน่นอนว่าต้องได้พบเจอผู้หญิงมากหน้าหลายตา พวกเธอต่างมีปัญหามากมายก่ายกอง และเขาเองก็เป็นหมอที่ต้องคอยพูดจาเพื่อละลายพฤติกรรมให้กับคนไข้เสมอ
“หือ? คุณนี่น่ารักดีนะคะ”
เมรีญามองหน้าชายหนุ่มชัดๆ จะว่าไป เขาเองก็เป็นสเปกของเธอเลยก็ว่าได้ แต่ที่ผ่านมา หญิงสาวไม่เคยคิดเรื่องแฟนมาก่อนเลยตัดผู้ชายทุกคนที่เข้ามาตอแยออกไป
“พูดตรงขนาดนี้ ผมก็เขินเป็นนะครับ คุณ…” เวทัสเอ่ยขึ้นเพราะเขาเองก็อยากจะรู้ชื่อหญิงสาวพราวเสน่ห์ตรงหน้าเช่นกัน
“อย่ารู้ชื่อฉันเลยค่ะ ยังไงพรุ่งนี้ เราก็เป็นคนแปลกหน้าของกันและกันอยู่ดี”
หญิงสาวพูดเสียงเรียบ และนั่นก็ดึงสติของเวทัสได้พอสมควร เพราะมันก็ถูกของเธอ เขาไม่ควรที่จะแสดงความสนใจลูกค้ามากจนเกินไป
ชายหนุ่มเผลอลอบมองหญิงสาวตรงหน้าที่ตอนนี้หันไปสนใจสิ่งรอบข้างแทนการพูดคุยกับเขา แม้จะรู้ว่าเป็นสิ่งที่เสียมารยาท แต่รูปร่าง หน้าตาของเธอช่างถูกใจจนไม่สามารถหยุดมองได้
หญิงสาวรูปร่างบอบบาง น่าจะสูงประมาณหนึ่งร้อยหกสิบเซนติเมตร แต่จากที่แอบมองเรียวขาภายใต้กางเกงยีนส์ขาสั้นก็รู้ได้ทันทีว่าเธอมีรูปร่างที่สมส่วนพอดีตัว
สายตาคมกริบของเขาไล่ขึ้นไปมองที่บริเวณหน้าอกของคนตัวเล็กอย่างห้ามไม่ได้ แม้เธอจะสวมเพียงเสื้อยืดธรรมดา แต่ด้วยความที่เป็นเสื้อยืดสีขาวเนื้อผ้าบางทำให้สามารถมองทะลุไปเห็นลวดลายเสื้อชั้นในได้เลย
เวทัสขบฟันกรามจนนูนเป็นสันขึ้นมาเมื่อรู้ว่าตนเองมีความรู้สึกบางอย่างที่ต้องการปลดปล่อย ทั้งที่ชายหนุ่มไม่ใช่พวกที่ ‘ของขาด’ แต่เมื่อมองหญิงสาวมันกลับทำให้เกิดแรงปรารถนาขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อ และด้วยอาชีพหลัก มันทำให้อดสงสัยไม่ได้ว่าอกอวบใหญ่ได้ทรงสวยภายใต้เสื้อยืดตัวบางนั้นเป็น ‘ของจริง’ หรือไม่ และทางเดียวที่จะรู้ได้นั่นคือ เขาต้องได้เห็นหรือสัมผัสมันด้วยตัวเอง!
“จ้องอะไรของคุณ”
เสียงของหญิงสาวทำให้ชายหนุ่มตื่นจากภวังค์ความหื่นกามของตนเอง เขาอยากจะตบหน้าตัวเองแรงๆ ที่เผลอคิดอกุศลกับคนที่เพิ่งเจอตรงหน้านัก
“เอ่อ คุณต้องการเครื่องดื่มอะไรเพิ่มไหมครับ เดี๋ยวผมจัดการให้” เวทัสแสร้งทำเป็นไม่ตอบ ก่อนที่จะหันไปจัดการเครื่องดื่มโดยที่ลูกค้าสาวไม่ได้สั่งด้วยซ้ำ
“เมื่อกี้ ฉันถามว่าคุณมองอะไร ทำไมไม่ตอบ” เมรีญารับแก้วจากชายหนุ่ม พร้อมกับถามคำถามเดิม เมื่อครู่นี้มั่นใจว่าเห็นเขาแอบมองหน้าอกเธออยู่นานสองนาน ถ้าเป็นเวลาปกติคงโวยวายด่ากราดไปแล้ว แต่กับเวลานี้ หญิงสาวไม่ได้นึกอยากด่าเขา แต่อยากยื่นข้อเสนอให้เสียมากกว่า!
“ผมเปล่า…”
“คุณแอบมองหน้าอกฉันเหรอ” เมรีญาพูดแทรกขึ้นมาทันทีเมื่อเห็นว่าชายหนุ่มตรงหน้าทำท่าทีจะปฏิเสธในสิ่งที่เธอเห็นเต็มตาว่าเขาทำ
“ผมขอโทษครับ ผมไม่ได้ตั้งใจ” เมื่อเห็นว่าไร้หนทางจะปฏิเสธความจริง เวทัสจึงยอมรับไปตรงๆ
“ฉันแค่ถาม ไม่ได้ว่าอะไรค่ะ ว่าแต่คุณทำงานที่นี่นานหรือยังคะ” เมรีญาแสร้งทำเป็นถามเรื่องราวของอีกฝ่าย เธอต้องการให้ชายหนุ่มวางใจก่อนที่จะยื่นข้อเสนอบางอย่างให้กับเขา
“ก็...ตั้งแต่บาร์ที่นี่เปิดเลยครับ” เวทัสไม่ได้โกหก เพราะเขาทำงานที่นี่ตั้งแต่วันแรกที่เปิดบาร์ เพียงแต่ว่าไม่ใช่ตำแหน่งบาร์เทนเดอร์เท่านั้นเอง
“งั้น…มีผู้หญิงแบบฉันมาเที่ยวที่นี่เยอะไหมคะ” เธอเอ่ยถามขึ้นอีกครั้ง เรียกความสงสัยให้กับชายหนุ่มทันที
“แบบคุณ? แบบไหนครับ” เวทัสเอ่ยถามด้วยความสงสัย
“ก็แบบที่มาคนเดียว มีเรื่องเครียด หรือว่ามีเรื่องให้บาร์เทนเดอร์อย่างคุณต้องคอยมาชวนคุยให้สบายใจ” เมรีญาถามเพื่อให้แน่ใจว่าข้อเสนอที่ตนเองจะยื่นให้นั้นมีความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหนที่เขาจะยอมรับมัน
“ก็มีนะครับ คนที่มาที่นี่คนเดียว ส่วนใหญ่ก็มีปัญหาทั้งนั้น บางทีไม่รู้จะเล่าให้ใครฟังก็จะระบายกับบาร์เทนเดอร์นี่แหละ” เวทัสตอบตามจริง เพราะรู้ดีว่าลูกน้องเขาหลายคนต้องคอยเป็นที่ปรึกษา พูดคุยเป็นเพื่อนลูกค้าอยู่เสมอ และหากลูกค้าถูกใจคนไหนก็จะให้เงินพิเศษไป ซึ่งเรื่องตรงนี้อยู่เหนือการควบคุมของเขาจึงไม่เข้าไปยุ่ง
“ฉันเคยสงสัยนะคะว่า ทำไมเวลาคนมีปัญหาถึงชอบดื่มแอลกอฮอล์ วันนี้ ฉันรู้แล้วแหละค่ะว่าเพราะอะไร คนเรามักจะกล้าพูด กล้าคิด แล้วก็กล้าทำในสิ่งที่ปกติจะไม่ทำสินะคะ” เมรีญากำลังพูดถึงตัวเอง เธอมีจิตสำนึกรู้สึกผิดชอบชั่วดีอยู่เสมอ แต่ ‘ความกล้า’ ที่เกิดขึ้นเพราะแอลกอฮอล์ทำให้อยากทำเรื่องบางเรื่องให้จบๆ ไปเสียที
“จะว่าอย่างนั้นก็ไม่ถูกเสมอไปหรอกครับ บางคนอาจชอบบรรยากาศชิล ได้ผ่อนคลาย การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก็มีส่วนช่วยผ่อนคลายได้เหมือนกันครับ”
เวทัสแย้งยิ้มๆ เมื่อพอจะจับทิศทางได้ว่าหญิงสาวตรงหน้าเปรียบเสมือนเด็กเนิร์ดที่เพิ่งหัดดื่ม
“แล้วสำหรับคนที่ดื่มเอาเป็นเอาตายจนหาเรื่องให้ครอบครัวเดือดร้อนล่ะคะ” เมรีญาพูดเสียงนิ่งเรียบ หากดื่มเพื่อความบันเทิงก็พอเข้าใจได้ แต่ดื่มแล้วสร้างปัญหาให้คนอื่น เธอไม่เข้าใจ!
“ทุกคนล้วนมีความรับผิดชอบที่ต่างกัน สำนึกก็ต่างกัน ผมไม่รู้ว่าคุณพูดถึงใคร แต่ผมมองว่าเรื่องแบบนี้เป็นความรับผิดชอบส่วนบุคคลมากกว่า ถ้าเรารู้ตัวว่าดื่มมากแล้วทำให้คนอื่นเดือดร้อนก็ต้องพิจารณาตัวเอง แต่จะมาโทษว่าทุกคนที่ดื่มเป็นคนไม่ดี อันนี้ ผมไม่เห็นด้วยเท่าไหร่” เวทัสพูดพร้อมกับยิ้มเบาๆ ให้หญิงสาว
“ฉันเห็นด้วยกับคุณค่ะ แต่ฉันยังมีเรื่องสงสัยอีกค่ะ” เมรีญาพูดพร้อมกับโน้มตัวมาเท้าข้อศอกลงกลางโต๊ะตรงหน้า จนเวทัสเผลอมองหน้าอกอวบที่ตอนนี้เกยล้นอยู่ตรงขอบโต๊ะ ไม่อยากจะคิดเข้าข้างตนเองว่าหญิงสาวทำแบบนี้เหมือนกำลังจงใจจะยั่วเขาชัดๆ!