“ท่านยังไม่บอกข้าเลยว่าท่านชื่ออะไรน้องชาย” หรวนหนิงหลงมีสีหน้าครุ่นคิดไม่คิดว่านางจะอยากทราบชื่อเขาด้วยซ้ำ “ขะขะข้าชื่อหนิงเอ่อร์”ศรีไพรยิ้ม “อี้เอ่อร์ หนิงเอ่อร์ทำไมพวกเจ้าต้องมีคำว่าเอ่อร์ รู้ไหมคำว่า เอ่อ สำหรับข้า มันฟังแปลกแต่ช่างเถอะจำง่ายดี ไว้พบกันใหม่…อือ ยินดีที่รู้จักด้วยเกือบลืมไป” หนิงหลงยิ้มน้อยๆ ศรีไพรโบกมือลาราวกับว่าจะไม่ได้พบกันอีก หนิงหลงหายไปในความมืด “ใกล้จะเที่ยงคืน” ศรีไพรพุ่งตัวเข้าไปในห้องเครื่องวิ่งไปที่กองขิงและกองมันฝรั่ง ที่ที่จำได้ว่าเห็นแสงหลากสีตรงนั้น “ใกล้แล้วใกล้แล้วสิ ขอให้เป็นอย่างที่คิดด้วยเถิด สาธุ” เที่ยงคืนของในทุกวัน แสงหลากสีจะต้องปรากฏและพาคนบางคนข้ามผ่านกาลเวลา หลับตาลงช้าๆ นับถอยหลังดังๆ “4….3….2….1” ลืมตาขึ้นไม่มีแสงไม่มีอะไรมีเพียงความว่างเปล่าและหนาวเหน็บเสียงนกเค้าแมวร้องอยู่บนหลังคา ห้องเครื่อง คล้ายกับเย้ยหยันศรีไพร ศรีไพรน้ำ