อัสนีหัวเราะเยาะเย้ย ก่อนจะปิดประตูรถเสียงดังลั่น แล้วกลับขึ้นมานั่งประจำที่คนขับเหมือนเดิม แต่เขาคงประเมินความสามารถในการเอาตัวรถของหญิงสาวต่ำไป เพราะพอเขาดึงประตูรถปิด ปลายฟ้าก็ยืดตัวขึ้นปลดล็อกและเปิดประตูรถได้ เธอหนีลงจากรถ วิ่งเข้าป่าข้างทางไปอย่างรวดเร็ว
“ให้ตายเถอะ ! ยัยตัวดี !” อัสนีผลักประตูรถเปิดออก ร่างสูงใหญ่กระโดดลงจากรถแล้ววิ่งตามไปติด ๆ
เพราะชุดที่สวมและรองเท้าส้นสูงทำให้ปลายฟ้าวิ่งไม่ถนัดเลยสักนิด เธอวิ่งห่างออกมาจากรถได้เพียงแค่สิบเมตร ก็ล้มลงบนพื้นที่มีแต่ใบไม้ใบหญ้าและฝุ่นดิน
อัสนีวิ่งตามมาทันอย่างรวดเร็ว เขามองสภาพเจ้าสาวคนสวยคลุกฝุ่นที่พยายามจะลุกขึ้นด้วยสายตาเย้ยหยัน
อัสนีนั่งคุกเข่าข้างเดียวลงตรงหน้าหญิงสาว เขาบีบแก้มนวลด้วยมือเดียวบังคับให้เธอเงยหน้าขึ้นมา
“เธอทำให้ฉันเสียเวลา” เสียงเข้มโกรธจัดของเขาทำให้ปลายฟ้าหวาดหวั่น เธอสะบัดหน้าหนีมือแข็งแรง ทว่าก็ไม่อาจหลุดพ้น การต่อต้านของเธอยิ่งทำให้เขาบีบแก้มเธอแรงขึ้น
ปลายฟ้าเจ็บจนน้ำตาซึม เธอส่งเสียงอื้ออึงในลำคอ เธอไม่รู้จักเขา ไม่เคยพบหน้า แล้วเขาจับตัวเธอมาทำไม เขาเข้าใจผิดอะไรหรือเปล่าถึงได้ทำแบบนี้ เมื่อหนีไม่พ้น เธอจึงอยากถาม และอยากพูดกับเขา เผื่อว่าบางทีเขาจะได้ปล่อยตัวเธอไป
อัสนีหงุดหงิดเสียงในลำคอของหญิงสาว ชายหนุ่มถอนหายใจแรง ก่อนจะแก้ผ้ามัดปากให้เธอ
“คุณเป็นใครคะ เราไม่เคยรู้จักกัน คุณเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่าถึงจับตัวปลายมาแบบนี้” เสียงที่เปล่งออกมาสั่นเครือปนหอบ
“เธอชื่อปลายฟ้า เป็นลูกของนายนิพนธ์กับนางมณี มีพี่ชายชื่อปองภพ และวันนี้เธอต้องแต่งงานกับพ่อเลี้ยงธงชัย เพราะพ่อกับแม่ของเธอต้องการเงินสินสอดสิบล้านไปใช้หนี้ที่พี่ชายเธอกู้มาทำธุรกิจ แต่เจ๊งไม่เป็นท่า”
ปลายฟ้าอ้าปากค้าง มองหน้าเขาอย่างครุ่นคิด เขารู้จักเธอ รู้กระทั่งเรื่องในครอบครัวของเธอ แต่ทำไมเธอไม่รู้จักเขาเลย
“ฉันไม่ได้เข้าใจอะไรผิด และจับตัวมาถูกคนแล้ว อย่าพูดมากเลยน่า ขึ้นรถ !” อัสนีไม่อยากเสียเวลาไปมากกว่านี้แล้ว ตอนนี้บ่ายโมงแล้ว กว่าจะเข้าไปถึงกระท่อมกลางป่าก็คงค่ำพอดี
ปลายฟ้าขยับข้อมือตลอดเวลาที่พูดกับเขา แม้จะเจ็บแสบข้อมือแต่เธอก็ไม่หยุดขยับ และในที่สุดมันก็เป็นผล เมื่อเชือกที่มัดข้อมือไว้คลายออก ปลายฟ้าจึงสะบัดเชือกออก และผลักอกกว้างสุดแรง
“ไม่ ! ปลายไม่ไปกับคุณ !”
อัสนีไม่ทันระวังตัวจึงเสียหลักเล็กน้อย เปิดโอกาสให้ปลายฟ้าลุกขึ้นวิ่งหนีได้อีก
“ยัยตัวดี ! อยากถูกจับกดกลางป่าใช่ไหม...ได้ !”
ร่างสูงใหญ่วิ่งตามคนหนีไปอย่างรวดเร็ว เพียงครู่เดียว อัสนีก็ตามทันและคว้าตัวปลายฟ้ามากอดไว้ได้
“ปล่อยนะ ! คนเลว !” ปลายฟ้าตะโกนลั่นป่า และดิ้นรนสุดแรง
อัสนีหัวเราะในลำคอ เขาจับบ่าบอบบาง กระชากปลายฟ้าหันมาเผชิญหน้ากัน แล้วดันร่างสาวจนแผ่นหลังเนียนชนกับต้นไม้ใหญ่ ร่างกำยำนาบตัวเองกดกายสาวไว้แนบต้นไม้ ไม่ให้เธอหนีไปไหนได้อีก
“คนเลวเหรอ ! หึ !” อัสนีกระชากสไบออกจากเรือนกายสาว และตามด้วยฉีกกระชากเสื้อชั้นในเกาะอกของเธอออกอย่างรวดเร็ว เนื้อตัวท่อนบนของเจ้าสาวคนสวยจึงเปลือยเปล่า
ปลายฟ้ารีบยกสองแขนขึ้นกอดอก ใช้สองมือปิดบังเต้านมอวบใหญ่คัพดีไว้ด้วยความตกใจ แต่กลับถูกมือแข็งแรงรวบจับข้อมือสองข้างเธอขึ้นไปกดแนบกับต้นไม้เหนือศีรษะของเธอด้วยมือข้างเดียว เขากอดรัดเอวบางดึงเธอไปแนบชิดด้วยวงแขนอีกข้าง ใบหน้าดุดันก้มลงมาหาจนปลายจมูกแทบชนกัน
“ต่อไปต้องเรียกฉันว่าผัว ไหนลองเรียกซิ”
“ไอ้โจรบ้า !” ปลายฟ้าว่าเสียงสั่น หวาดกลัวเขาสุดหัวใจ
“ไอ้โจรบ้าเหรอ” อัสนียิ้มร้าย ตาคมเป็นประกายไหวระริก “อยากเรียกอะไรก็เรียกไปเถอะ สุดท้าย...เธอก็ต้องเรียกฉันว่าผัวอยู่ดี เพราะเธอกำลังจะถูกไอ้โจรบ้าคนนี้ยัดเยียดความเป็นผัวให้ !”
“อื๊อ !” ปากอุ่นร้อนที่กดลงบนกลีบปากอิ่มทำให้ปลายฟ้าทำได้แค่เพียงส่งเสียงอู้อี้ในลำคอ ตาคู่สวยเบิกกว้างอย่างตื่นตระหนก หญิงสาวเม้มปากแน่น ไม่ยอมรับจูบจากเขา แต่พอเขาปล่อยมือจากเอวคอด แล้วเลื่อนฝ่ามือหยาบกร้านขึ้นมาบีบขยำเต้าอวบจนเนื้อนุ่มหยุ่นทะลักออกตามง่ามนิ้วมือ เธอเจ็บจนน้ำตาซึม จึงอ้าปากร้องออกมา คนที่รอท่าอยู่แล้วสอดลิ้นเข้าสู่โพรงปากนุ่ม และตะโบมจูบเธออย่างหื่นกระหาย
การรุกล้ำกักขฬะที่ไม่เคยพานพบ จูบแรกในชีวิตที่แสนดุดันดิบเถื่อนทำให้ปลายฟ้าขวัญหนีดีฝ่อ เรียวลิ้นที่ซุกไซ้ไล่ต้อนอยู่ในปากอุ่นนุ่มทำให้คนถูกจูบใจสั่น กลิ่นกายผู้ชายที่นาบแนบกับเรือนกายสาวทำให้เธอหวิวไหว หายใจไม่ทัน รอบกายหมุนเคว้งราวกับพื้นที่ยืนอยู่โคลงเคลง นัยน์ตาพร่ามัวและค่อย ๆ เลือนราง แล้วสติรับรู้ของเจ้าสาวคนสวยก็ดับวูบลง
น้ำเย็นที่สาดลงบนเรือนกายเปลือยท่อนบนทำให้คนหมดสติสะดุ้งรู้สึกตัว ปลายฟ้าลุกขึ้นนั่งแล้วมองไปรอบ ๆ
“จูบแค่นี้ก็เป็นลม ถ้าโดนขย่ม ไม่หัวใจวายตายเลยหรือไง” คนที่เป็นต้นเหตุทำให้หญิงสาวเป็นลมตวาดอย่างขัดใจ