บทที่ 2

1489 คำ
“รางวัลที่เด็กคนนี้เป็นเด็กดี ไม่ทำตัววุ่นวาย ไม่ขัดคำสั่ง สำคัญที่สุดคือซื่อสัตย์กับผม” “อาจารย์เห็นด้วยเหรอคะ” ตาที่กลมและโตอยู่แล้วพอเบิกกว้างด้วยความสงสัยประหลาดใจก็ยิ่งโตเข้าไปอีก และมันช่างตลกในสายตาคนมองซะเหลือเกิน “ตาไม่ได้บอดนี่” น้ำเสียงที่แลดูสบายๆ ก่อนหน้านี้เข้มขึ้นเมื่อนึกถึงเวลาที่ต้องไปพบเจอหรือเห็นผู้ชายคนอื่นมาขายขนมจีบและก้อร่อก้อติกผู้หญิงของเขา และเขาก็แสดงตัวไม่ได้ด้วย “ก็ช่อคิดว่าอาจารย์ไม่ได้สนใจนี่คะ” ช่วงแรกๆ ที่เข้ามหาวิทยาลัยเธอก็คิดว่าเพราะเป็นน้องใหม่เฟรชชี่ ทั้งรุ่นพี่และเพื่อนรุ่นเดียวกันเลยให้ความสนใจเป็นพิเศษ แต่พอนานวันเข้าก็ยังมีเพื่อนผู้ชายคณะเดียวกันและคณะอื่นเข้ามาขอทำความรู้จักไม่ได้ขาด เพื่อนสนิทของเธออย่างนิรินมักพูดเสมอว่าเพราะเธอสวย หน้าเด็ก กิริยาท่าทางเรียบร้อยและเป็นมิตร ใครๆ ก็ชอบ ถ้าหากตอนนั้นเธอตอบรับคำชวนรุ่นพี่เป็นตัวแทนเข้าประกวดดาวเดือนของคณะ ป่านนี้คงต้องนั่งแจกบัตรคิวให้คนที่เข้ามาต่อแถวรอจีบเธอจนยาวไปถึงหน้ามหาวิทยาลัยแล้ว “ใครบอก” มีเสียงดังหึออกมาจากลำคอหลังจากที่นับพันพูดจบ ไม่มีใครบอกหรอก... และเพราะไม่เคยมีใครบอกนั่นแหละเธอจึงคิดเอาเองมาตลอดว่าเขาเองก็ไม่ได้สนใจไยดีอะไรเธอนัก หลายครั้งหลายคราที่เขาเดินผ่านเธอไปเฉยๆ ภายใต้ใบหน้านิ่งเย็นราวแช่แข็งไว้ไม่บ่งบอกอารมณ์ใดแม้จะเห็นว่ามีใครให้ความสนใจเธออยู่ก็ตาม ช่างต่างจากเวลาที่อยู่ด้วยกันตามลำพังในที่รโหฐานแบบนี้ราวฟ้ากับเหว จากน้ำแข็งถึงได้แปรเปลี่ยนเป็นลาวาไฟร้อนระอุจนเกินจะรับมือไหว... “ไม่ใช่ไม่สน แต่ผมเคารพการตัดสินใจของช่อ หากช่ออยากจบ หรือเจอคนที่ดีกว่า ผมก็ไม่ว่า” ความรวดร้าวจากภายในถูกขุดแซะขึ้นมาอีกหน ‘ผมไม่ว่า’ ในสายตาของนับพันก็หมายความว่าเขาพร้อมจะเลิกรากับเธอโดยไม่รู้สึกอะไรสักนิด เขาให้เธอเป็นฝ่ายเลือกมาตลอด และเธอก็เลือกจะอยู่ข้างกายเขาในมุมมืดมิดแบบนี้มาตลอดเช่นกัน “ช่อรู้ค่ะ” หญิงสาวเอียงศีรษะเล็กน้อยเพื่อรอรับการจูบไซ้อีกหน ความอดทนอดกลั้นของอาจารย์หนุ่มมีไม่มากนักหรอกเมื่อต้องอยู่กันตามลำพัง แม้จะรู้จักกันมานานหลายปีแต่น้อยครั้งเหลือเกินที่เราทั้งคู่จะได้สนทนากันแบบยาวๆ เธอจึงบอกได้ไม่เต็มปากว่ารู้จักผู้ชายคนนี้ดีแค่ไหน เพราะทุกครั้งมักจะเริ่มที่บนเตียงและจบลงที่บนเตียงด้วยเสมอ “อื้ม...” เธอครางระบายความรู้สึกเสียวกระสันเมื่อมือใหญ่เลื้อยลงไปที่ตำแหน่งกึ่งกลางลำตัวสาว เพราะค่ำคืนนี้ผ่านการมีอะไรกันมาจนนับครั้งไม่ถ้วน จึงแทบไม่จำเป็นต้องมีการเล้าโลมใดๆ กันอีกแล้ว “พร้อมแล้วเหรอ” นับพันเหมือนละเมอพูดกับตัวเองเมื่อแค่เพียงสัมผัสไปที่กลีบดอกบวมช้ำจากการถูกกระแทกและกระทำมาอย่างยาวนานก็พานพบกับน้ำหวานชั้นเลิศที่เอ่อซึมออกมา ช่ออัญชันรับรู้ทุกการกระทำของอาจารย์หนุ่ม ใบหน้ากำลังแหงนเงยรับเรียวลิ้นและริมฝีปากร้อนร้ายที่แทะโลมเธอราวกับถ้าเขากัดกินผิวเนื้อเธอแทนอาหารแล้วอิ่มได้ นับพันคงฉีกทึ้งกัดกินไปแล้ว และในจังหวะที่มือหนาเอื้อมไปหยิบกล่องขนาดเล็กจากตรงไหนสักที่บนเตียง ดึงของชิ้นสุดท้ายภายในนั้นออกมาฉีกออกอย่างชำนาญ ก่อนจะเขวี้ยงทั้งกล่องและห่อพลาสติกด้านนอกทิ้งลงข้างเตียง และจัดการสวมใส่ของในนั้นเข้ากับอวัยวะพองใหญ่กลางตัวของเขาเอง “คืนนี้สามกล่องแล้วรู้มั้ย” เธอไม่รู้เพราะไม่ได้นับ นับพันเป็นผู้ชายที่แข็งแรงและแข็งแกร่งมาก หากเธอไม่เคยเจอค่ำคืนที่ทรหดกว่านี้ คงไม่มีวันรับได้อย่างแน่นอน “ที่จริงอาจารย์ไม่ต้องใช้ก็ได้ค่ะ ยังไงช่อก็กินยาคุมไม่ได้ขาดอยู่แล้ว” “ต้องกันพลาด อ๊า...” หญิงสาวรองรับทั้งความรู้สึกกลัวพลาดมีลูกกับเธออย่างที่เขาบอก พร้อมกับแรงตึงคับที่จุดสงวนเมื่อความแข็งแกร่งร้อนผ่าวถูกเสือกไสเข้ามาครึ่งทาง “อื้อ” มันทรมานในช่วงแรกเพราะเขาแข็งแกร่ง ดุดัน แม้พยายามอ่อนโยนกับเธออย่างที่สุดแล้ว “บอกผม” “คะ ?” สีหน้าอาจารย์หนุ่มครานี้ดูทรมานแจ่มแจ้งกว่าครั้งไหน “บอกผมทีว่าทำยังไง ร่างกายช่อถึงได้รัดแน่นเหมือนจะฆ่าผมให้ตายคาบทรัก ทุกครั้งที่เราเมกเลิฟกัน” ความเสียวปลาบพุ่งวาบจากกระดูกสันหลังไปจนถึงก้านสมอง เหงื่อกาฬเขาไหลราวกำลังเหนื่อยหนักทั้งที่ยังไม่ได้ทำสิ่งใดนอกจากสอดใส่ตัวตนเข้าไปในกายสาวเพียงครึ่งๆ กลางๆ เท่านั้น “ช่อทำอาจารย์เจ็บหรือเปล่าคะ” เธอมีแก่ใจถามไถ่เขาทั้งที่ตัวเองก็ทรมาน อึดอัด แสบซ่านไปทั้งอณูกาย แต่เพราะเส้นเลือดปูดพองที่ขึ้นเป็นริ้วๆ ไปทั่วร่างกายสูงใหญ่ ทุกส่วนบนร่างเปลือยเปล่าเกร็งสะท้านเหมือนกำลังเบ่งพลังและจวนเจียนจะระเบิดออกมา ทำให้เธออดเป็นห่วงเขาไม่ได้ “ไม่เจ็บ แต่...” เจ้าของร่างบึกบึนสมชายชาตรีจงใจเว้นคำในช่องว่างให้สาวน้อยตัวนิ่มได้ตอบ โดยใช้สายตาร้อนระอุสื่อความหมายเป็นคำใบ้ และไม่ใช่เพียงเขาคนเดียวที่กำลังถูกความทรมานซ่านเสียวนี่เล่นงานอยู่ เพราะร่างบอบบางเนื้อตัวแดงซ่าน สีหน้าเหยเกจากการแทรกบุกทะลวงของเขาอยู่ตอนนี้ ก็ดูจะทรมานไม่แพ้กันเลย หากเธอถามกลับไปบ้างว่า เขาทำยังไงถึงได้เก่งกาจ แรงดีไม่มีตก และทำให้เธอแทบแดดิ้นตายคาบทรักของเขาได้ทุกครั้งที่อยู่ด้วยกัน นับพันจะมองว่าเธอไร้ยางอายไปหรือเปล่า “หรือว่าช่อเจ็บ” “ช่อไม่เคยเจ็บหรอกค่ะ” สองมือนุ่มเล็กถูกยกขึ้นไปแนบกับใบหน้าคมคร้ามหล่อเหลา ใบหน้าที่ลงตัวทั้งรูปคิ้ว จมูก ริมฝีปาก รวมถึงมีแรงดึงดูดมหาศาลด้วย แต่ที่เธอบอกว่าไม่เจ็บนั้นหมายถึงทางกายมิใช่ทางใจ เพราะหากเป็นก้อนเนื้อเต้นได้ด้านใน มันเจ็บจนชินและชาไปนานแล้ว “ช่อมีความสุขเสมอที่ได้อยู่กับอาจารย์” ดูเหมือนคำตอบของเธอจะทำให้นับพันยิ้มได้ เขามีเสน่ห์อย่างเหลือร้าย มีพลังงานบางอย่างที่ดูดดึงสายตาทุกคู่ให้มองไปที่เขาอย่างลุ่มหลง เทิดทูน แค่เพียงทำหน้านิ่งๆ ไม่แสดงอารมณ์ใดก็มีแต่คนอยากจับจองเป็นเจ้าของเขา แต่ช่ออัญชันชอบให้อาจารย์หนุ่มยิ้มแบบนี้ อาจแค่เพียงช่วงสั้นๆ หรือแม้แค่เพียงกะพริบตาครั้งเดียวรอยยิ้มนั้นจะหายไปก็ตาม “อึก...” ความยาวใหญ่ร้อนผ่าวที่ถูกเสือกไสเข้ามาในโพรงนุ่มเป็นจังหวะสุดท้าย ก่อเกิดความจุกเสียดขึ้นมาเล็กน้อยจนหญิงสาวต้องเปล่งเสียงออกไป พร้อมกับใช้ฝ่ามือยันไปแตะที่หน้าท้องแข็งเป็นลอนเป็นลูกเบาๆ บอกเป็นนัยให้อาจารย์หนุ่มอย่าเพิ่งขยับ “เข้าได้หมดสักที” เสียงนั้นสั่นพร่า เธอห้ามเขาขยับเพียงครู่แต่เหมือนนับพันจะไม่ยอมประวิงเวลาให้ผ่านไปเสียเปล่า ริมฝีปากร้อนร้ายตรงเข้าครอบงับปลายถันของเธอ ดูดรัดสลับไล้เลียอยู่อย่างนั้น แต่นั่นยังไม่ร้ายเท่ามือเขาที่ขยำก้อนทรวงของเธอราวกับว่าจะให้มันแหลกเหลวคามือซะให้ได้ “อื้อ อาจารย์...” ทำไมไม่ชินเสียที เหตุใดเธอถึงตั้งรับกับกระบวนท่าความช่ำชองของเขาไม่ได้ ความปริตึงที่หว่างขายังไม่ผ่อนทุเลาไปไหน นั่นก็เพราะชายหนุ่มยังไม่ได้ขยับเขยื้อนเพื่อจะดึงตัวตนออกไปและตอกอัดกลับเข้ามาใหม่อย่างที่ควรจะเป็น ... แต่เขาใช้การควงสะโพกสอบบดบี้ หมุนวนกับสิ่งนั้น และการเคลื่อนไหวแบบนี้มันยิ่งสร้างความทรมานร้อนผ่าวให้เธอไปทั่วทั้งตัวอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้เลย “ขยับสิ ขยับไปพร้อมกัน” เขาไม่ใช่พวกไก่อ่อนที่แค่เจอบทรักถึงใจหรือผู้หญิงถูกใจก็กักเก็บอารมณ์ไม่อยู่ แต่กับช่ออัญชันมันต่างออกไป และเขาก็บอกไม่ได้ว่าสิ่งนั้นคืออะไร
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม