เขาไม่เอาผมหรอก

1342 คำ
ปิ๊งรักคุณพ่อลูกติด ผ้ายับที่พับไว้ เขียน บทที่ 4 ---- (บูม) หลังจากส่งน้องแบมไปโรงเรียนเสร็จเรียบร้อยแล้ว ผมก็กลับมาที่บ้านเพื่อทำงานบ้านส่วนที่เหลือต่อ แล้วช่วงบ่ายก็จะเข้าไปดูความเรียบร้อยที่ร้าน “มีแต่ข้าวต้มเหรอ” เสียงนิ้งร้องถามขณะที่ผมกำลังยกตะกร้าผ้าไปซัก “ไม่อยากแดกก็ทำแดกเองสิ” ผมก็ไม่ใช่คนดีอะไรนัก แค่อยากดีต่อหน้าลูกพอไม่มีลูกมาเห็นผมในมุมแย่ๆ กับนิ้งผมก็เลือกที่จะพูดแย่ๆ ใส่มัน “อู้วววว แซ่บค่ะ ลูกสาวไม่อยู่พ่อเดินลากหางทั่วบ้านเลยนะ” มันว่าพร้อมกับเดินตรงเข้ามาหาผม “คุยกับเหี้ย พูดภาษาคนมันก็ไม่ค่อยเข้าใจ” “ไอ้บูม มันจะมากไปแล้วนะ” “หึ น้อยไปสิ อย่างมึงพูดแค่นี้ไม่สะกิดผิวหน้าด้านๆ ของมึงหรอก หลบไปดูจะซักผ้า” ผมไม่อยากเสียเวลาคุยอะไรกับมันมากนักหรอก สาระก็ไม่มี มีแต่ทำให้ประสาทเสีย “ฝากซักด้วยสิ วันนี้ขี้เกียจ” ผมหยุดเดินทันที ไม่ใช่เพราะจะรับคำขอของมัน แต่จะหันไปด่า ตะกร้าผ้าในมือวางลงบนพื้นแบบกระแทกกระทั้นก่อนที่ผมจะหันกลับไปหาคนพูดประโยคเมื่อครู่นี้ “เราตกลงกันว่ายังไง ชีวิตใคร ชีวิตมัน กูจะเป็นคนดูแลลูกเอง ส่วนมึงแค่คุยดีดีกับลูกแค่นั้น ผ้า กับข้าว ถ้วยจาน กูรับผิดชอบแค่ของลูก ส่วนมึงจัดการตัวเอง” ไม่รู้ว่าเพราะมันกินเหล้าจนสมองฝ่อ หรือข้างในหัวไม่มีสมองอยู่แล้วกันแน่ ไม่ว่าผมพูดอะไรไป มันถึงได้ไม่จำสักเรื่อง “พูดเป็นร้อยรอบแล้ว ก็บอกอยู่นี่ไงว่าขี้เกียจ กูจ้างก็ได้” “เอาเงินกูมาจ้างกู หน้าด้านเกินไปหรือเปล่า” ก็ทุกบาททุกสตางค์ที่มันใช้เงินที่ขอจากผมทั้งนั้น ตอนนี้ก็ยังคิดอยู่ว่าจะตัดช่องทางนี้ด้วย เผื่อมันจะไปให้พ้นๆ จากผมสักที “เฮ้อ คู่เรานี่ก็แอบน่ารักเหมือนกันนะ กัดกันเหมือนหมาแต่ก็ตัดกันไม่ขาด” มันพูดขึ้นมาก่อนจะเดินเลี่ยงออกไปนั่งที่โซฟา “อย่าได้คิดอะไรเพ้อเจ้อแบบนั้นเชียว กูไม่เคยคิดพิศวาสมึง” “จ้า เสื่อมไปหมดแล้วมั้ง ไม่ใช้งานมาตั้งเป็นปีๆ ไม่สิ ตั้ง 56 ปีมาแล้วมั้ง เหอะเก็บไว้รออีแก้มก็ไม่ต้องรอแล้วนะ กูเจอมันไปเลือกชุดเจ้าสาวกับผัวมันอยู่ นึกแล้วก็ขำเพื่อนกันมันดี บ้านติดกันแบบนั้นคงเอากันจนไม่มีอะไรจะเอา ก็เหมือนแม่มันนั่นแหละที่....” “มึงเลิกพูดถึงคนอื่นสักทีได้ป่าววะ ตัวเองก็ไม่ได้ดีเหี้ยอะไรสักอย่าง หัดดูสารรูปตัวเองบ้างนะ เหมือนผีตายซากเข้าไปทุกวัน” ผมว่ามันก่อนจะหันกลับมายกตะกร้าเตรียมไปซักผ้า “จ้า ใครจะไปดีเท่าอีแก้มของมึงล่ะ นางฟ้านางสวรรค์ ตอแหลเก่ง โกหกเก่ง ไม่รู้มันได้กับลุงคมพ่อเลี้ยงมัน...โอ๊ย!!” ตะกร้าผ้าในมือที่เต็มไปด้วยเสื้อผ้าถูกทุ่มเข้าใส่ร่างที่นอนเล่นมือถือ แล้วแหกปากนินทาคนอื่น ผมรำคาญที่มันพล่ามถึงคนอื่นในทางเสียๆ หายๆ ทั้งที่ตัวเองก็แย่ ต่ำอย่างกับบัวใต้ตม “อยากเพ้อเจ้อก็ไปที่อื่น กูรำคาญ” “สนุกจังโว้ย เรื่องอีแก้มของมึงนี่ ผ่านมา 5 ปีก็ยังจี๊ดไม่มีจาง พูดถึงทีไรมึงหัวร้อนทุกที หึ!!” มันว่าก่อนจะลุกออกไป ไม่รู้สิ ผมว่าผมไม่ได้โกรธที่มันพูดถึงแก้มนะ ผมรำคาญเสียงมันมากกว่า ไม่ว่ามันจะพูดถึงใครก็โมโหทั้งนั้น ต่อให้มันพูดดีดีผมก็รำคาญ 16:48 ผมขับรถจากร้านแวะซื้อขนมของโปรดลูกสาวก่อนจะตรงไปที่โรงเรียนเพื่อรับลูกไปส่งบ้านป้าลี มาถึงก็เห็นน้องแบมกำลังนั่งทำไม้ทำมือเล่าอะไรสักอย่างให้ครูไอรินฟัง คนฟังก็เอาแต่ยิ้มหัวเราะชอบใจท่าทางของเด็กที่กำลังเล่าอย่างออกรส ถ้าแม่นิ้งมันสนใจลูกบ้าง น้องแบมก็คงมีความสุขมากกว่านี้ ทุกวันนี้ลูกจะเล่าอะไรให้ฟังก็ไม่เห็นมันสนใจ เอาแต่ใสหูฟัง ตาก็มองแต่จอมือถือ “พ่ออออ” ทันทีที่ผมเดินเข้าไปในรั้วโรงเรียนเด็กน้อยที่ยืนคุยกับครูอยู่ตรงม้านั่งหน้าโรงเรียนก็หันมาเรียกผมเสียงดังลั่น “กำลังโม้อะไรอยู่ล่ะ เสียงดังไปถึงในรถพ่อเลย” ผมยื่นถุงขนมให้กับลูกก่อนจะหันไปสบตากับครูเข้าพอดี “น้องแบมสอนไอรินเล่านิทานน่ะค่ะ พอดีวันนี้ไอรินต้องเล่านิทานให้เด็กๆ ฟัง แต่ว่า...ไอรินเล่าไม่เก่งเท่าไหร่” ผมแทบจะหลุดหัวเราะ เป็นครูอนุบาล แต่เล่านิทานไม่เป็นเนี่ยนะ “เล่านิทาน?” ผมทวนอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ” “พอดีไอรินไม่ได้จบปฐมวัยมาโดยตรง ส่วนตัวก็ไม่ค่อยได้เล่านิทานด้วย ก็เลย...เปิดอ่านจากหนังสือเอา แต่ก็ยังเล่าได้ไม่ดีนัก” อืม แต่จะว่าไปใครวะมันจะไปเก่งตั้งแต่เกิด ผมเองก็เพิ่งเคยเล่านิทานตอนลูกโต “ของมันฝึกกันได้ อ่านเยอะๆ เดี๋ยวก็เป็นเองแหละครับ” “เดี๋ยวน้องแบมสอนคุณครูเองค่ะ” ลูกสาวตัวน้อยก็กำลังเคี้ยวขนมหันมาบอกก่อนจะยิ้มร่า เห็นรอยยิ้มที่เปี่ยมไปด้วยความสุขของลูก คนเป็นพ่อก็พลอยอิ่มใจไปด้วย เราสามคนพากันขับรถตรงไปที่บ้านป้าลี ผมเตรียมข้าวของใส่ตะกร้ามาเรียบร้อยแล้ว จะได้ไม่ต้องย้อนไปในบ้านอีกรอบ แต่ดันลืมไปว่ายังไงก้ต้องเข้าไปส่งครูไอรินอยู่ดี “เดี๋ยวผมไปส่งครูอีกทีนะครับ” ขณะที่กำลังเลี้ยวรถเข้าบ้านป้าลี ผมก็เลยหันไปบอกกับคนที่นั่งอยู่เบาะหลังกับลูกสาวของผม “ไม่เป็นไรค่ะส่งตรงที่มีวิน เดี๋ยวไอรินนั่งวินเข้าบ้านก็ได้ค่ะ” “เช็กกระเป๋าตังค์แล้วใช่ไหมครับ” “คะ...ค่ะ” ไอ้บูมไอ้เวร ปากหมาไม่เข้าเรื่อง ดันพรั้งปากไปแซวครูเขาเข้าเรื่องกระเป๋าตังค์ ทีนี้หน้าขาวๆ ก็ขาวจนซีด ท่าทางที่ดูสดใสตอนคุยกับลูกผม เวลานี้กลายเป็นหงอยซึม ตัวหดเหลือแค่คืบขึ้นมาทันที “ครูคะ รีบหรือเปล่ามากินข้าวกับป้ามั้ยวันนี้ เนี่ยป้าทำกับข้าวไว้เยอะเลย เดี๋ยวป้าไปส่งเอง” ครูไอรินหันมามองผมก่อนจะหันกลับไปตอบป้าลี “ค่ะ” “จีบเลยบูม สวยก็สวย คนนี้ป้าถูกชะตา” ป้าลีกระซิบบอกกับผมจังหวะที่ครูไอรินกำลังเดินลงจากรถไปพร้อมกับน้องแบม “ป้า...ผมมีลูกแล้วนะ” “แกมีลูกแต่ไม่มีเมียสักหน่อย อีนิ้งน่ะเดี๋ยวป้าจัดการเอง” “โหป้า เขาไม่เอาผมหรอก” “รู้ได้ไง ยังไม่ได้ลองเลย เนี่ยเห็นมั้ยเข้ากับน้องแบมดีจะตาย” นึกแล้วไม่มีผิดป้าลีต้องเอามาชงให้ผมจีบแน่ๆ เพราะแกชอบหาคนนั้นคนนี้มาให้ผมจีบเพื่อที่จะไล่นิ้งมันออกไป ที่ผมไม่จีบใครเลยไม่ชาเพราะนิ้งนะ แต่เพราะผมยังไม่คิดจะมีใครจริงๆ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม