ตอนที่สอง สูญเสีย และได้รับ 3

1992 คำ
ผลปรากฎว่าหวยมาตกอยู่กับไอศวรพี่ชายฝาแฝดของไอยวรินทร์ที่จะตกเป็นคนที่แต่งงานกับนะดา เพราะพี่ชายคนโตไม่ยอมช่วยและก็ไม่มีใครกล้าบังคับ แต่ไอศวรเป็นคนใจอ่อน และได้ยินเรื่องราวของนะดาบวกกับสีหน้าเครียดๆ ของชีคซาอิดแล้วก็เลยยอมตกลงแต่งงานกับนะดา เหตุผลอีกอย่างหนึ่งคือเขาไม่อยากให้นะดาต้องมาอยู่ในฐานะภรรยาน้อยของสามีน้องสาวตัวเอง เนื่องจากไม่มีใครแต่งงานด้วย เขาจึงยอมแต่งงานกับนะดา เพื่อดูแลเธอให้มีชีวิตเหมือนคนทั่วไป และน้องสาวของไอศวรก็จะได้สบายใจ ที่สามีตัวเองไม่ต้องรับผิดชอบนะดาอีก... ไอศวรมองรูปถ่ายของนะดาแล้วก็ยักไหล่ เพราะในนั้นไม่เห็นอะไรนอกจากดวงตาคม นัยน์ตาดำขลับล้อมรอบด้วย กรอบขนตาสีดำและเขียนขอบตาสีดำเข้มเสริมความคมของดวงตาเข้าไปอีก แม้จะถ่ายรูปมาครึ่งตัวแต่เขาก็เห็นเพียงนัยน์ตาสดใสของเธอ เพราะเธอสวมเครื่องแต่งกายปกปิดทุกอย่างเอาไว้ แต่ก็ยังพอคาดเดาได้ว่าเธอคงจะเป็นผู้หญิงตัวเล็ก “ถ้าจะถ่ายมาแค่ตา ไม่ต้องเอารูปมาให้ดูดีกว่ายัยอัยย์” ไอศวรคืนรูปให้น้องสาวแล้วก็ถอยมานั่งพิงพนักโซฟาถอนหายใจ “ก็ถ่ายได้แค่นี้นี่นาอินน์ ให้คนอื่นเห็นไม่ได้ ผู้ชายที่เห็นคนแรกต้องแต่งงานกับนะดา” “ฮื่อๆ ช่างเถอะ แต่งๆ ไป ไหนๆ เราก็ไม่มีแฟน ไม่ได้มีกิ๊กเยอะเหมือนพี่อัณณ์จนปลีกตัวมาแต่งงานไม่ได้ ฉันก็แต่งๆ มันไปก็ได้” ไอศวรพูดไปเรื่อยๆ ไม่ได้คิดหนักเลยว่าตนกำลังจะแต่งงาน เขาดูสบายๆ ผ่อนคลายจนคนเป็นน้องสาวนึกกังวลว่าจะฝากผีฝากไข้ได้หรือเปล่า... ที่ไอยวรินทร์ห่วงนะดามากนั้นไม่ใช่เพราะกลัวว่าสามีจะมีภรรยาอีกหนึ่งคนหากต้องรับผิดชอบนะดา แต่เป็นเพราะเธอรู้ดีว่าญาติๆ ของนะดาต่างต้องการสมบัติของนะดา อยากให้นะดาแต่งงานกับชายที่หาไว้ให้เพื่อสูบเงินจากนะดาให้หมด แต่ ชีคซาอิดก็รั้งนะดาไว้ จนนะดาปกครองตัวเองได้ด้วยการให้นะดาอยู่ในฮาเร็มมาตั้งแต่เด็กจนกว่าจะบรรลุนิติภาวะ ต้องอยู่ในฮาเร็มภายใต้การปกครองของชีคซาอิดมาตลอด เพราะรอบข้างอันตรายสำหรับหญิงสาว และในตอนนี้ก็จะหาคนที่เหมาะสมมาแต่งงานกับนะดา เพราะเป็นเกราะป้องกันนะดาอีกทางหนึ่ง เพราะถึงบรรลุนิติภาวะแล้วนะดาก็ยังใสซื่ออยู่ หากต้องออกมารับรู้โลกภายนอก “ไม่ใช่ว่าแต่งแล้วยังมาเรื่อยเปื่อยเหมือนเดิมนะ ต้องดูแลนะดา ช่วยนะดาดูแลกิจการต่างๆ ด้วย” น้องสาวที่คลานตามกันมาไม่กี่นาทีเตือน “ช่วยอยู่แล้วน่า เขาจ้างฉันไปทำงานนี่ ไม่ใช่แค่จ้างฉันแต่งงานกับเด็กนั่น” ไอศวรสวนขึ้นมา ผลกำไรในกิจการบ่อน้ำมันและฟาร์มไข่มุกจะถูกแบ่งให้เขาในบางส่วน เพื่อเป็นค่าแรงที่เขาช่วยดูแลปกป้องนะดา... ถือว่าเป็นค่าจ้างสำหรับรับงานการ์ดที่หนักที่สุดที่เคยได้ทำมา เพราะรู้ตัวว่าคนที่เข้าไปปกป้องมีศัตรูรอบด้าน เสี่ยงทั้งตัวและอาจจะเสี่ยงหัวใจภายหลังด้วยหาก นะดาสวย เพราะไอศวรเป็นโรคแพ้ผู้หญิงสวย แต่นะดากำหนดมาว่าคนที่จะแต่งงานกับเธอต้องไม่ล่วงเกินเธอ แม้จะอยู่ด้วยกันก็ต้องไม่ทำอะไรเธอ เพราะไม่ได้แต่งเพื่อเป็นสามี แต่แต่งไปเพื่อเป็นคนคุ้มครองเธอเท่านั้น ผู้หญิงอะไรพิลึกชะมัด ไอศวรแอบบ่นในใจ แต่เหตุผลหลายๆ อย่างรวมทั้งอยากตามไปดูแลน้องสาวที่แลตโกเวียด้วยทำให้เขารับที่จะแต่งงานกับนะดาเหมือนรับงานงานหนึ่งที่มีกำหนดวันสิ้นสุด โดยให้อนันตชัยพี่ชายคนโตดูแลงานบริษัทจัดหาบอดี้การ์ดที่เขารับไว้ทางนี้แทนเขาไปเลย “ค่าจ้างแพงนะ ทำงานให้คุ้มกับค่าจ้างด้วย” หญิงสาวยังย้ำ “น่าจะรู้นะว่าฉันเป็นคนยังไง” พอไอศวรพูดอย่างนั้น ไอยวรินทร์ก็หัวเราะออกมาทันที เพราะเป็นฝาแฝดที่สนิทสนมกันทุกอย่าง จึงรู้นิสัยอีกฝ่ายดี แบบว่าแค่มองตาก็เห็นไปถึงไหน ไอศวรเป็นพวกจ้างร้อยได้ล้าน รับงานบอกดี้การ์ดเมื่อไหร่ นอกจากจะปกป้องเจ้านายจากการลอบฆ่าได้ยังช่วยสืบสาวเรื่องราวไปจนจับโจรที่ปองร้ายคนที่ตนไปช่วยอารักขาแถมจัดการดำเนินคดีอะไรช่วยเสร็จสรรพ จนคนจ้างประทับใจกันเป็นทิวแถวแล้วมาเพิ่มค่าจ้างให้ทีหลังตลอด อนันตชัยเองก็สไตล์เดียวกันกับไอศวร เขาทำงานดีจนได้เป็นการ์ดมือหนึ่งของบริษัททั้งสองคน และการปฏิบัติตัวของสองพี่น้องก็เป็นแนวทางปฏิบัติให้กับบอดี้การ์ดคนอื่นในบริษัทของครอบครัวไอยวรินทร์ด้วย “จ้า... พ่อคนดี” ไอยวรินทร์ ยิ้มให้กับพี่ชาย เมื่อได้ยินเสียงสามีเรียกมาจากด้านบนของบ้าน หญิงสาวจึงเลิกสนใจพี่ชายไปสนใจสามีแทน พี่ชายฝาแฝดได้แต่มองตามไปอย่างเอ็นดู เพราะเห็นน้องสาวมีความสุขกับคนที่รัก เขาจึงรับปากแต่งงานกับนะดาอย่างไม่มีอิดออด เพราะในใจแอบคิดว่านะดาอาจจะชอบ ชีคซาอิดสามีของไอยวรินทร์ หากไม่มีใครแต่งงานกับนะดา เธอก็คงไม่พ้นต้องขอมาเป็นเมียสองของน้องเขยเขา ไอศวรจะไม่ยอมให้เรื่องแบบนั้นเกิดขึ้น เขาจึงเอาตัวเองกระโดดเข้าไปคลุกวงในยอมเสี่ยงตัวเองเข้าไปเพื่อสร้างสันติภาพให้ได้ งานจ้างร้อยทำล้านของเขากำลังจะเริ่มต้นแล้ว... ร้านกาแฟที่กวินตราเลือกมาดื่มและพูดคุยกับ ชีคคามูนานั้นไม่ใช่ร้านกาแฟแบรนด์ดังระดับโลก แต่บรรยากาศโล่งโปร่งตกแต่งในสไตล์หรูหราของร้านและกลิ่นหอมของกาแฟก็ทำให้ร้านดูดีขึ้นมามาก เวลานี้เป็นช่วงที่ผู้คนส่วนใหญ่ยังนั่งทำงานอยู่ในออฟฟิศอยู่ร้านจึงค่อนข้างเงียบ หลังจากที่สั่งเครื่องดื่มและของทานเล่นมาแล้วชีคคามูนาก็เริ่มต้นเรื่องที่จะพูดกับหญิงสาว “แม่ไม่อ้อมค้อมเลยนะหนูกิ๊บ... หนูกิ๊บรู้จักชีควาดิม ลูกชายคนเล็กของแม่ใช่ไหม” เมื่อท่านถามหญิงสาวก็นึกถึงผู้ชายร่างสูงโปร่ง ดวงหน้าหล่อคมหาตัวจับได้ยาก หากนัยน์ตาเขานั้นแฝงแววเศร้าสร้อยอยู่ตลอดเวลา ราวกับคนที่ยังมีห้วงทุกข์ในใจ “แม่ขอให้หนูแต่งงานกับเขาเพื่อบังหน้าได้ไหม” “แต่งงานเหรอคะ” “ใช่จ้ะแต่งงาน แต่ข้อเสนอของแม่หนูกิ๊บจะรับหรือไม่รับ แม่ก็จะช่วยเรื่องให้หนูกิ๊บเข้าไปอยู่แลตโกเวียเหมือนเดิมนะ ไม่ต้องลำบากใจกับเรื่องที่แม่กำลังพูด ถ้าเกิดลำบากใจกว่าที่จะทำได้ก็ถือซะว่าแม่ไม่เคยพูดเรื่องนี้แล้วกันนะ... เรื่องมันอยู่ที่ว่า แม่โดนกดดันจากองค์ราชินีแห่งแลตโกเวีย เรื่องที่จะให้ลูกชายแม่คนใดคนหนึ่งแต่งงานกับเจ้าหญิงเบดิญญ่าห์ธิดาของพระองค์เพื่อที่จะโค่นล้มอำนาจของเจ้าชายมกุฎราชกุมาร เพราะทรงเกรงว่าหากเจ้าชายทรงครองราชย์แล้ว พระธิดาของพระองค์จะไม่มีความสำคัญในบัลลังก์ของแลตโกเวียเลย ท่านจึงอยากให้พระธิดาอภิเษกกับลูกชายของแม่คนใดคนหนึ่ง แต่แม่ไม่ต้องการให้เป็นอย่างนั้น เพราะไม่อยากให้ลูกชายไปมีส่วนร่วมในการยึดอำนาจหรือเปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์ในด้านที่เลวร้าย เรื่องนี้รู้กันแค่เพียงแม่ที่เป็นพระสหายขององค์ราชินีกับชีคซาอิด แต่ ชีคซาอิดแต่งงานไปแล้ว คราวนี้ก็เหลือเพียงแต่ชีควาดิมที่ทรงประสงค์ แม่จึงอยากหาใครสักคนมาแต่งงานกับชีควาดิมเสีย เพื่อให้องค์ราชินีทรงดำริเกี่ยวกับเรื่องนี้ใหม่” กวินตรารู้จักทั้งเจ้าหญิงและเจ้าชายแห่งแลตโกเวีย เพราะทรงเสด็จมางานเลี้ยงฉลองแต่งงานของไอยวรินทร์และ ชีคซาอิดที่เมืองไทย ซึ่งตอนนั้นกวินตราก็มาด้วย ทั้งสองพระองค์ยังคงรักและสนิทสนมกลมเกลียวกันเป็นปรกติ แต่ประชาชนรู้ดีว่าพระมารดาแห่งเจ้าชายมกุฎราชกุมารนั้นไม่ใช่องค์ราชินีองค์ปัจจุบัน ดังนั้นเธอจึงไม่แปลกใจเมื่อได้ยินเรื่องเช่นนี้ “การแต่งงานเป็นเพียงแค่ในนาม หนูกิ๊บคงเคยได้ยินจากหนูอัยย์อยู่บ้างว่าวาดิมเคยมีคนรักเป็นหญิงไทย และผู้หญิงคนนั้นเสียชีวิต จากนั้นชีควาดิมก็ไม่เคยมีใครอีกเลย เรื่องให้เขาหาคนมาแต่งงานก่อนที่องค์ราชินีจะตรัสกับเขาเรื่องแต่งงานกับ เจ้าหญิงนั้นคงเป็นไปไม่ได้เพราะหากแม่ไม่หาให้เขา ไม่พูดเรื่องเหตุผลการปกป้องเจ้าชาย เขาคงไม่ยอมแต่งงานไปกับใครจนแก่แน่นอน” “แต่งงานแค่ในนามหรือคะ” กวินตราขมวดคิ้ว... เธอสนใจ เพราะการแต่งงานกับคนที่ยิ่งใหญ่และอยู่ห่างไกลจากประเทศไทยตั้งมากมายนั้น ทำให้เธอปลอดภัยและมีที่ซุกหัวโดยที่ไม่ต้องรบกวนใคร ซ้ำการแต่งงานครั้งนี้ยังเป็นเพียงแค่การแต่งในนาม ทุกอย่างเป็นเรื่องสมมติ... เธอควรจะรับข้อเสนอของท่าน สมองของเธอบอกอย่างนั้น “ใช่จ้ะ แต่งแค่ในนาม แต่หนูกิ๊บต้องไปอยู่ที่รัฐ คอรีเยาะห์กับแม่และชีควาดิม เพราะเขาเป็นผู้ปกครองรัฐอยู่ที่นั่น แต่ก็ยังมาเยี่ยมหนูอัยย์ที่รัฐราสอัลไมคาราฟได้เสมอๆ และก็การที่หนูกิ๊บช่วยเหลือแม่ครั้งนี้ แม่จะให้ค่าตอบแทนหนูกิ๊บเป็นเงินก้อนใหญ่ เพื่อแลกกับชื่อเสียงที่เสียไปที่อยู่ดีๆ สาวโสดอย่างหนูก็แต่งงานมีสามี” ท่านพูดติดตลก จริงๆ กวินตราไม่ห่วงเรื่องชื่อเสียงหรือภาพลักษณ์เพราะเธอไม่ใช่ดารา ไม่ใช่คนที่คนรู้จักมากมาย และก็ไม่มีชายไหนหมายปองอยู่เป็นพิเศษจึงไม่มีภาพพจน์ให้เสียหายหากจะจรดปากกาจดทะเบียนสมรสกับใคร “กิ๊บยอมทำได้ค่ะคุณแม่ แต่ไม่ต้องจ้างหรอกนะคะ ขอแค่ให้กิ๊บได้ไปอยู่ที่แลตโกเวียก็พอค่ะ” ดวงตากลมโตฉายแววจริงใจและมีความเด็ดเดี่ยวอยู่ในนั้น คำตอบที่ได้ยินทำให้ชีคคามูนายินดีเหลือเกิน ท่านไม่อยากให้ลูกชายแต่งงานกับเจ้าหญิงเพื่อยึดอำนาจของคนอื่น เพราะเชื่อว่าหากเป็นอย่างนั้นเส้นทางชีวิตต่อไปของลูกชายคงจะไม่มีความสุขหลงเหลืออยู่แน่นอน “ขอบใจหนูกิ๊บมากเลยนะจ๊ะที่ช่วยเหลือ” ท่านจับมือกวินตรา เอ่ยขอบคุณจากใจจริง ที่เหลือจากนี้คือการไปพูดกับชีควาดิมให้เข้าใจเรื่องการแต่งงานหลอกๆ เพื่อ กู้ชาติครั้งนี้ แม้ประชาชนแลตโกเวียไม่รู้ว่าผู้หญิงตัวเล็กๆ อย่างกวินตรากำลังจะช่วยไม่ให้บัลลังก์แห่งแลตโกเวียสั่นคลอน แต่ท่านกับกวินตราและลูกชายจะร่วมกันปิดทองหลังพระ ด้วยการไม่สนับสนุนการโค่นล้มราชบัลลังก์ และได้ทูลตักเตือนเจ้าชายเกี่ยวกับเรื่องนี้ให้ทรงดำริหาหนทางที่จะสร้างสันติวิธีและจะต้องผ่านเรื่องนี้ไปด้วยดี
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม