ตอนที่สอง สูญเสีย และได้รับ 1

1494 คำ
บ้านของกวินตราอยู่ในหมูบ้านจัดสรรรอบบ้านรายล้อมด้วยบ้านหลังใหญ่ของคนที่มีฐานะมีอันจะกิน... บ้านของเธอมีความทรงจำดีๆ ระหว่างครอบครัวอบอวลอยู่ แม้ในระยะหลังๆ เธอแทบจะไม่มีความสุขเลยยามต้องอยู่ เพราะสิ้นบิดา สิ้นพี่ชาย แม่เลี้ยงก็ไม่อยากให้เธออยู่บ้านนี้อีกจึงพยายามขับไล่เธออยู่หลายครั้งทั้งทางตรงทางอ้อม แต่เธอก็ยังอดทนเพราะหางานทำไม่ได้จึงยังไม่ย้ายออกมา จนเกิดเรื่องจึงตัดใจที่จะก้าวเดินออกจากบ้าน เหลือเพียงความทรงจำดีๆ เอาไว้ในใจแทน เมื่อกลับมาที่บ้านอีกเธอก็ต้องตกใจแทบสิ้นสติเมื่อพบว่าข้าวของของเธอถูกเก็บออกมากองอยู่หน้าบ้านเพื่อรอรถเก็บขยะมาเก็บ หญิงสาวถลาลงจากรถตู้รีบไปเก็บข้าวของเหล่านั้นทั้งร้องไห้ทั้งเก็บอย่างไม่อายใคร กรอบรูปที่กระจกแตกบาดมือเธอก็ไม่สนร้องไห้ไปเก็บไป ตุ๊กตาตัวโปรด ไดอารี่กองใหญ่ ข้าวของแห่งความทรงจำถูกเก็บออกมาทิ้งราวกับว่าเป็นขยะทั้งที่มันมีค่ามากกว่าเงินทองมากมาย “หนูกิ๊บ พอเถอะๆ ให้คนช่วยเก็บดีกว่า ดูสิ มือเลือดออกไปหมดแล้ว” ชีคคามูนาลงจากรถมารั้งเธอเอาไว้ให้มีสติมากขึ้น ท่านเรียกคนมาเก็บของช่วยเธอแล้วนำไปไว้ที่ท้ายรถตู้ “เดี๋ยวกิ๊บเก็บเองดีกว่าค่ะ” ของไม่ได้มีเยอะมาก แค่กรอบรูปเก่าๆ และตุ๊กตา กับกล่องไดอารี่เท่านั้น หญิงสาวนึกได้ว่าที่ไม่ได้เอาออกมาจากบ้านคือตู้เซฟตู้เล็กที่เธอใส่สมุดบัญชีธนาคารและเครื่องเพชรชิ้นเล็กๆ ที่มารดาเคยให้เอาไว้ เธอถามรปภ. ที่หน้าบ้านก็รู้ว่าไม่มีใครอยู่เพราะพาพ่อเลี้ยงเธอไปหาหมอกันหมด ก็ยังดีที่มันแค่เจ็บหนักไม่อย่างนั้นกวินตราคงได้มาสู้คดีฆ่าคนตายอีกคดีแน่ๆ ระหว่างนั้นมีรถขนแก๊สขับวนมาเข้าซอยหน้าบ้านเธอมาพอดี จึงมีการบีบแตรไล่รถตู้สามคันของชีคคามูนาที่จอดขวางอยู่ก่อนหน้า... “ของหมดแล้ว หนูกิ๊บไปเลยหรือยัง จะได้บอกคนย้ายรถเลย” “ยังเลยค่ะ มีตู้เซฟเล็กที่ซ่อนไว้ที่ผนังห้อง แต่เขาคงไม่เห็นเลยไม่เอาออกมาด้วย เดี๋ยวกิ๊บต้องเข้าไปเอา คุณแม่นั่งบนรถไปรอที่ลานจอดรถหน้าปากซอยก่อนก็ได้ค่ะ” หญิงสาวขอให้ท่านไปรอก่อนเพราะถนนหน้าบ้านไม่กว้างมากนัก และบริเวณหน้าบ้านเธอก็มีรถจอดเต็มหมดแล้ว ไม่มีใครเอารถออก คงเพราะว่าเรียกรถพยาบาลมารับพ่อเลี้ยงเธอจึงไม่มีใครเอารถออกจากบ้านทำให้ไม่เหลือพื้นที่ให้รถตู้ได้จอด “งั้นเดี๋ยวแม่ให้คามินตามไปช่วยดีกว่า ไม่อยากให้หนูเดินเข้าไปคนเดียว เดี๋ยวเกิดอันตรายขึ้นมา” ท่านสั่งให้บอดี้การ์ดประจำตัวตามกวินตราเข้าไปเพราะเป็นห่วงในความปลอดภัยของหญิงสาว แล้วชีคคามูนาก็ขึ้นรถตู้ไปรออยู่ที่อื่นเพราะรถส่งแก๊สบีบแตรไล่หลายรอบเหลือเกิน... กวินตาพยักหน้าให้บอดี้การ์ดหนุ่มร่างสูงโปร่งเดินตามเข้าบ้านมาแล้วเดินมุ่งหน้าไปที่ห้องนอน การมีคามินมาก็ทำให้เธอค่อนข้างโล่งใจอยู่เหมือนกันเพราะเหตุการณ์ร้ายๆ ที่เพิ่งเกิดทำให้เธอผวาที่จะเดินในบ้านนี้เพียงลำพัง มือเล็กเปิดประตูห้องนอนตนเองแล้วเดินเข้าไป เธอก็ต้องตกใจเป็นครั้งที่สอง เมื่อเห็นแม่ใจ แม่นมของเธอนอนสลบอยู่ที่ห้องนอนของเธอ “แม่ใจ แม่ใจ” เธอรีบเข้าไปดูแม่ใจ คามินนั่งลงข้างๆ แตะนิ้วเรียวที่ชีพจรของตรงบริเวณลำคอของแม่ใจแล้วก็ พยักหน้าให้หญิงสาวได้โล่งใจ “ยังมีชีวิตอยู่” เสียงทุ้มตอบกลับมา แล้วเขาก็ลุกขึ้นยืน มองรอบๆ ห้องที่ถูกรื้อของจนกระจัดกระจายแล้วหยิบได้ผ้าขนหนูไปชุบน้ำมาช่วยเช็ดหน้าเช็ดตาคนแก่ เพราะกวินตราทำอะไรไม่ถูก แม่ใจเป็นแม่บ้านคนเดียวที่รักและเอ็นดูเธอ เรียกได้ว่าเป็นพวกของเธอคนเดียวที่เหลือในบ้าน ท่านยังอยู่ที่บ้านหลังนี้ได้เพราะว่าท่านช่วยดูแลลูกๆ ของแม่เลี้ยงเธอจนน้องเลี้ยงของเธอติดแม่ใจเหมือนเธอ แม่เลี้ยงเธอจึงเก็บท่านไว้ “ไม่ได้บาดเจ็บอะไรมากนะ คงจะโดนทำร้าย แล้วก็ตกใจสลบ” คามินพูดขึ้นลอยๆ เช็ดตัวเช็ดหน้าไปพักหนึ่งแม่ใจก็ขยับตัวและลืมตาขึ้นมา ท่านชะงักเล็กน้อยเมื่อเห็นกวินตรา แม่นมวัยกลางคนลุกขึ้นนั่งโผเข้ามากอดเธอ สองแขนเหี่ยวๆ โอบรัดร่างเล็ก แนบแน่นด้วยความอาดูร “คุณกิ๊บ แม่คุณ ตอนคุณกิ๊บไปแม่ใจปกป้องของรักของคุณหนูไม่ได้ คุณอักษรกับคุณมุกดาให้คนมาขนไปทิ้งหมดเลยค่ะ” แม่ใจรีบบอก นางมาทันแค่ตอนที่กวินตราเอาโคมไฟตีหัวอักษรพ่อเลี้ยงจนนอนขยับไม่ได้อยู่บนเตียงและแม่เลี้ยงของเธอกลับมาจากข้างนอกมาโวยวายยกใหญ่ จนแม่ใจขึ้นบนบ้านมาตามเสียง ตอนนั้นกวินตาคว้าได้เพียงกระเป๋าสตางค์ใบเดียวเอ่ยลาแม่ใจแล้วก็วิ่งออกจากบ้านไปเลย “ไม่เป็นไรค่ะแม่ใจ กิ๊บยังมาเก็บได้ทัน มันทำอะไรแม่ใจกันคะ แม่ใจเจ็บมากไหม” “แม่ใจมาขอร้องไม่ให้คุณมุกดามาเอาของไปทิ้ง แต่คุณมุกดาไม่ยอม เธอโกรธมากเพราะเชื่อคุณอักษรว่าคุณกิ๊บยั่วคุณอักษรก่อน หาว่าคุณกิ๊บเนรคุณ ให้อยู่บ้านนี้ต่อไปไม่ได้แล้ว เพราะเป็นตัวอันตราย เธอช่างไม่รู้จักคิดเลยเอาแต่หลงสามีใหม่จนหน้ามืด ก่อนเธอพาคุณอักษรไปหาหมอและก็สั่งให้คนเอาของในห้องนี้ไปทิ้งให้หมด แล้วแม่ใจมาขวางไว้ มันก็เลยตีแม่ใจ แม่ใจหลับไปนานเท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้” หญิงชราเล่าทั้งน้ำตา คับแค้นใจแทนคุณหนูที่เป็นทายาทของเจ้าของบ้านแท้ๆ แต่โดนใครที่ไหนก็ไม่รู้ไล่ออกจากบ้านแล้วจะไปอยู่ที่ไหนอย่างไรได้เมื่อมีแค่ตัวคนเดียวอย่างนี้ “โธ่ พวกมันเลวจริงๆ” “มันร้ายกาจเกินคำบรรยายเหลือเกิน เพื่อนบ้านบอกว่าตำรวจกับคนแปลกหน้ามาเที่ยวด้อมๆ มองๆ บ้านเราหลายรอบแล้ว... คุณมุกดาชักศึกเข้าบ้านจริงๆ เลย แล้วนี่ก็เชื่อว่าคุณกิ๊บไปให้ท่าผัวตัวเอง ไม่รู้ว่าจะรักจะหลงกันไปถึงไหน แล้วนี่ คุณกิ๊บจะทำอย่างไรคะ แม่ใจได้ยินคุณมุกดาบอกว่าเธอจะไม่ให้คุณกิ๊บอยู่บ้านหลังนี้อีกแล้ว” แม่ใจถาม ดวงตาใต้กรอบแว่นสายตายาวผินมามองคามินแล้วย้อนมองหญิงสาวด้วยสายตามีคำถาม ด้วยอยากรู้ว่าหนุ่มรูปงามน้ำใจมากล้นที่ช่วยเช็ดหน้าเช็ดตาให้ตนจนตื่นตัวขึ้นมาเป็นใคร “เอ่อ... นี่คือคุณคามินบอกดี้การ์ดของแม่สามียัยอัยย์ค่ะแม่ใจ ออกจากบ้านไปกิ๊บก็ไปหาอัยย์ แล้วก็จะกลับมาเอาของแต่กลัวไม่ปลอดภัยเลยให้คนพามา กิ๊บจะไปอยู่กับยัยอัยย์เพราะที่นี่ไม่อบอุ่นปลอดภัยสำหรับกิ๊บอีกต่อไปแล้วค่ะ แม่ใจไปอยู่กับกิ๊บไหมคะ” หญิงสาวเอ่ยชวน แต่ก็ต้องชะงัก เพราะคิดว่าตนเองไปขออาศัยคนอื่นก็ลำบากใจพอแล้ว พาแม่ใจไปอีกคนคงยาก “ไม่เป็นไรหรอกค่ะ คุณกิ๊บจะไปอยู่ตั้งเมืองนอกเมืองนา แม่ใจคงตามไปไม่ไหว แม่ใจจะกลับไปอยู่ต่างจังหวัดกับลูกหลานดีกว่า ไม่มีคุณกิ๊บอยู่บ้านนี้แม่ใจก็คิดว่าแม่ใจหมดหน้าที่กับการทำงานที่บ้านหลังนี้แล้ว” “ได้ค่ะแม่ใจ งั้นแม่ใจก็ควรไปวันนี้พร้อมกิ๊บเลยดีกว่านะคะ รีบกลับจะได้ไม่โดนพวกมันทำร้ายอีก เดี๋ยวรีบลงไปเก็บของก่อนเลยนะคะ เดินไหวไหม” “ไหวค่ะ ไหว มันตีแค่แถวๆ ทัดดอกไม้ป้า ป้าเลยมึนไปเลย ถ้าสู้คงเจ็บตัวมากกว่านี้” นางบ่นงึมๆ ขยับลุกขึ้นยืนลำบากเล็กน้อยเพราะไม่ได้กระฉับกระเฉงเหมือนสาวๆ อาการเจ็บและมึนเล็กน้อยทำให้เชื่องช้าลงไปอีก
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม