บทที่ ๕ ถ้ำรักถ้ำเสน่หา(๓)

1338 คำ
เพลิงอัคนีกระซิบบอกใกล้ๆ กับเนินทรวงที่เขาโน้มใบหน้าลงต่ำ ปลายจมูกโด่งๆ นั้นกำลังสูดหอมกลิ่นรัญจวนใจของเนื้อขาวอวบที่ผลิออกมาล่อตาล่อใจ อุ้งปากร้อนๆ งับไปตามดอกบัวงามที่เต่งตึง ไม่นานก็เคลื่อนเข้าครอบครองยอดอกสล้างสีกุหลาบซึ่งน่าดื่มกิน ปลายลิ้นสากร้อนปาดป้ายไปตามยอดทรวงพร้อมงับฟันซี่ขาวสะอาดขบเม้มเบาๆ “ผมชอบจัง...ยอดทรวงของคุณน่าดื่มกินที่สุด” เสียงแหบพร่าเอ่ยชมพร้อมดูดงับสุดแรงจนร่างอรชรนั้นส่งเสียงทัดทาน เธอหน้าเบ้เล็กน้อยหากนาทีต่อมากลับต้องเคลิบเคลิ้มไปกับสัมผัสใหม่ที่ละมุนละไมอ่อนโยนอย่างไม่น่าเชื่อ “ผมอยากกินคุณ...ทั้งตัว” เขาเน้นย้ำในถ้อยคำสุดท้าย แล้วลากมือลงต่ำยุ่มย่ามอยู่กับช่วงเอวคอด เลื่อนไปยังขอบกางเกงขาสั้นตัวเล็กที่หญิงสาวยังเหลือติดกาย ลากปลายนิ้วซุกเข้าไปยังขอบชั้นในตัวจิ๋วนั้น หากมือน้อยๆ ก็ยังอุตส่าห์รีบตะครุบไว้แล้วส่ายศีรษะได้รูปไปมาเป็นการห้ามปราม “อย่าค่ะ...ได้โปรด...” นิศากรวิงวอนออกมา สายตาของเธอทอประกายสับสน ความรู้สึกหลากหลายกำลังตีกันให้วุ่นไปหมด ปากบอกว่าไม่แต่เหตุใดร่างกายถึงได้แอ่นหยัดให้มือใหญ่ได้สำรวจ ช่วงหน้าท้องของเธอนั้นบิดราวกับเกลียวคลื่นในท้องทะเล ร้อนวูบวาบไปหมด “อย่าห้ามผมเลย...คืนนี้ผมจะกลืนกินคุณทูนหัว” เขาว่าแค่นั้นก็ผละห่าง ถลกชายเสื้อกล้ามสีดำที่สวมติดตัวดึงรั้งออกทางด้านศีรษะทุยได้รูป ตอนนี้ผมของเขาที่ยาวไล้มาจนถึงช่วงต้นคอนั้นสยายยุ่งเหยิงแต่น่ามองจนนิศากรต้องเพ่งพิศ ใบหน้าภายใต้หนวดเคราที่รกรุงรังนั้น ทำไมถึงได้ตราตรึงให้เธอไร้ซึ่งพลังต้านทานเหลือเกิน หรือแท้จริงแล้วเสน่ห์บุรุษเพศที่เธอชื่นชอบไม่ใช่หนุ่มหน้าตี๋ แต่เป็นหนุ่มบุรุษผู้แสนเถื่อนถ่อยตรงหน้า หากวันไหนเขาโกนหนวดเครานั้นทิ้ง เธออาจศิโรราบให้เขาจนหมดเปลือกก็ได้ ดวงตาดำทะมึนคู่คมนั้นกำลังสะกดให้ร่างอรชรงวยงง ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าชายหนุ่มรั้งกางเกงตัวเก่งของตัวเองออกจากปลายเท้าให้เหลือแค่เพียงกางเกงในสีเข้มที่รัดรึงกล้ามเนื้อที่เริ่มขยายเหยียดเกร็งอยู่ในนั้น มือใหญ่ของชายหนุ่มเลื่อนไปคว้ามือเล็กให้มาสัมผัสขนสีดำเข้มที่เรียงตัวกระจัดกระจายอยู่กับแผงอก “สัมผัสร่างกายผม เหมือนที่ผมสัมผัสคุณสิทูนหัว” เขาสั่งพร้อมบังคับให้มือน้อยๆ นั้นลากไล้ไปตามแผงอกอันหนั่นแน่นไปด้วยกล้ามเนื้ออย่างคนออกกำลังกายเป็นสม่ำเสมอ นิศากรอยากรั้งมือกลับแทบแย่ หากเมื่อได้สัมผัสไรขนเข้มที่เรียงตัวอยู่กับช่วงอกกระด้างนั้น ทำให้เธอลืมเลือนไปซะหมด มือน้อยๆ ยังกล้าหาญเลื่อนไปเคล้นยอดอกเข้มของชายหนุ่มดั่งที่เขาทำกับตัวเอง “อะ...อย่าเล่นแบบนั้นสิทูนหัว” เขาดุเบาๆ แต่นิศากรก็ไม่ฟัง ปลายนิ้วเรียวเล็กบีบเคล้นยอดอกเข้มของชายหนุ่ม จนเพลิงอัคนีต้องกัดฟันด้วยใบหน้าขึ้นสีเข้ม แล้วเป็นฝ่ายฟอนเฟ้นกับอกอวบอิ่มของหญิงสาวเป็นการลงทัณฑ์เธอเช่นกัน “อื้อ...ฟิวส์...” เป็นอีกครั้งที่สาวน้อยต้องครวญออกมา เมื่อปลายลิ้นอุ้นชื้นปาดไล้แถวๆ ยอดอกนุ่มหยุ่นที่ดีดเด้งเป็นสปริงเข้าไปภายในอุ้งปากร้อนผ่าว เพลิงอัคนีค่อยๆ เลื่อนมืออีกข้างนั้นมาฟอนเฟ้นหน้าอกหน้าใจที่อะร้าอร่ามเต็มมือ คลุกเคล้าเบาๆ อย่างประโลมไล้ เมื่อร่างอรชรของคนใต้ร่างกำลังหลงใหลอยู่กับยอดอกเข้มๆ ของตัวเอง ชายหนุ่มก็จัดการรั้งกางเกงตัวเล็กของหญิงสาวให้ค่อยๆ ร่วงหล่นไปจากสะโพกพร้อมๆ กับซับในตัวจิ๋วนั้น เมื่อรั้งพันธนาการของหญิงสาวมาถึงช่วงเข่ามน เพลิงอัคนีก็ยกปลายเท้าขึ้นมาแล้วเกี่ยวเจ้าชิ้นน้อยๆ นั้นให้หลุดออกไปทางปลายเท้า กว่าร่างอรชรจะรู้ตัว เรือนร่างเล็กก็เปลือยเปล่ากระทบกับแสงนวลๆ ของไฟตะเกียงภายในถ้ำ ความงามเจิดจรัศทั้งเนื้อทั้งตัวทำให้เพลิงอัคนีแทบละสายตาไปไหนไม่ได้เลย รูปโฉมงดงามสลักเสลาราวแทบธิดานี้ ทำให้ดวงตาดำทะมึนของหนุ่มเฝ้าถ้ำ ถึงกับเกิดอาการปากคอแห้งผาก จนต้องรีบกลืนน้ำลายหนืดๆ ลงคอเสียอึกใหญ่ นิศากรแทบจะร้องกรี๊ดใส่หน้าชายหนุ่ม หากแต่เรียวปากหยักได้รูปทาบทับลงมาปิดกั้นเสียงร้องห้ามนั้นเอาไว้ได้ทันท่วงที มือน้อยๆ ที่พยายามทัดทานนั้นเลื่อนขึ้นโอบรอบคอพร้อมจิกเล่มลงบนท้ายทอยของชายหนุ่มราวกับต้องการลดความเสียวกระสันที่เกิดขึ้นกับร่างกาย อารมณ์ร้อนๆ ที่เธอเพิ่งเคยพานพบเป็นครั้งแรก แม้มันจะน่าหวาดกลัวหากความรู้สึกลึกๆ นั้นก็อยากจะค้นพบสักครั้ง เมื่อมือร้อนๆ ของชายหนุ่มละจากทรวงนุ่มๆ ของตัวเอง นิศากรก็ถึงกับต้องสั่นศีรษะตามสัญชาตญาณเพราะเธอรู้ดีว่าเป้าหมายของอุ้งมือร้อนๆ นั้นจะลากต่ำไปถึงไหน เขาคงอยากสัมผัสจุดอ่อนไหวที่สุดบนร่างกายของเธอ “ฟิวส์...อย่านะคะ” ร้องห้ามอีกครั้งพร้อมมือน้อยๆ นั้นรีบตะครุบมือใหญ่ เพลิงอัคนีใช้มืออีกข้างจับกุมมือเล็กทั้งสองข้างของนิศากรไว้ แล้วยกขึ้นเหนือศีรษะเล็กของเธอ กดแน่นไปกับผ้าขนสัตว์ที่นุ่มนิ่ม ส่วนมืออีกข้างลาดลงต่ำแวะทักทายสะดือบุ๋มของหญิงสาวเพียงเล็กน้อย แล้วไล้ลงมายังเรียวขากลมกลึงนั้น “อื้อ...อย่า...” ทันทีที่ปลายนิ้วเรียวของเพลิงอัคนีแตะไล้ไปยังพงไพรซึ่งรายล้อมความงามสะพรั่งประติมากรรมเล็กๆ กลางเรือนร่างเปลือยเปล่า นิศากรก็สะดุ้งเฮือก ร้องทัดทานออกมาเสียงสั่น แต่เธอก็ต้องบิดตัวเป็นเกลียวคลื่นเมื่อปลายนิ้วร้ายๆ ของเขานั้นกรีดกรายผ่านบุปผาอันงดงามนั้น ค้นพบกับความนุ่มลื่นของกลีบดอกไม้เนียนมือ “อ๊ะ...ฟะ...ฟิวส์” นิศากรร้องเรียกเสียงสั่ง ยามที่ปลายนิ้วแข็งๆ นั้นกดลงไปกับยอดกลีบเล็กๆ ที่ผลิขึ้นมากลางความงามของหมู่มวลดอกไม้ เสียงทัดทานแผ่วๆ ของเธอดูเหมือนจะสร้างความพอใจให้กับชายหนุ่มอย่างมาก ช่วงเอวสอบของเพลิงอัคนีค่อยๆ เบียดชิดกับหน้าขาเนียนๆ ของหญิงสาว แม้ผ่านเนื้อผ้าชิ้นเล็กๆ แต่ก็ทำให้ร่างอรชรรับรู้ว่าภายใต้อาภรณ์นั้น ความใหญ่โตอลังการจะทำให้เธอหวาดกลัวได้โดยง่าย “ฟิวส์...อย่ารังแกลูกจันทร์” ปากเล็กๆ นั้นค่อยๆ ขยับออกมาวอนเว้า หากแต่สายตาทั้งสองข้างเจือไปด้วยความสับสน แม้จะต้านทานเขาขนาดไหน หากเรือนกายกลางร่างถูกปลายนิ้วอุ่นๆ รุกรานไม่ได้หยุด จนตอนนี้รอบๆ ปลายนิ้วของเพลิงอัคนีชุ่มฉ่ำไปด้วยน้ำทิพย์สีขาวอันร้อนชื้น “คุณอย่าปฏิเสธเลยทูนหัว ร่างกายคุณพร้อมสำหรับผม...” เสียงแผ่วๆ นั้นกระซิบอยู่แถวๆ ยอดอกอวบอิ่มของหญิงสาว เพียงเท่านั้นก็หันมาจัดการกับพันธนาการเพียงชิ้นเดียวที่ยังติดหนึบอยู่กับร่างกาย ค่อยๆ ใช้ปลายนิ้วสะกิดจนมันร่วงหล่นได้โดยง่าย การเสียดสีของความร้อนผ่าวที่ไล้อยู่แถวๆ สะโพกเล็กคอดกิ่วนั้น ทำให้นิศากรถึงกับเบิกตากว้าง แต่เขาก็ช่างรู้ทัน ยามใดที่เธอจะเปล่งเสียงออกมา ปลายลิ้นอุ่นร้อนก็เข้ามาบดขยี้อยู่ร่ำไป แล้วอย่างนี้เธอจะทำอย่างไรให้รอดพ้นจากพญาโจรที่เตรียมขยี้ขยำนี่ได้เล่า
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม