หญิงสาวลักษณะรูปร่างสูงโปร่ง มีรูปหน้าอ่อนหวานงดงาม ถึงดูไม่สวยเด่นเหมือนกับคนน้องเพราะคนละสายเลือด แต่ทว่าโครงหน้าโดยรวมของเจ้าหล่อนก็ไม่ได้ดูด้อยหรือเป็นรองกว่าแต่อย่างใด ขาดเสียแต่หญิงสาวไม่ค่อยชอบแต่งหน้า ชอบปล่อยตัวตามสบาย แถมยังชอบแต่งกายด้วยชุดสีทึบ ดับความสดใสลงเกินกว่าครึ่ง...
เจ้าหล่อนกำลังเดินกระวนกระวายใจอยู่ภายในห้องชุดริมแม่น้ำ เธอยกนิ้วเรียวยาวขบจนได้กลิ่นคาวสนิมคลุ้งภายในโพรงปาก เจ็บใจนักทำไมแดนดินถึงไม่ยอมติดเบ็ดเธอสักที ทั้งที่ตนนั้นวางเหยื่อล้อชิ้นโต หวังให้ปลาฮุบเหยื่อเธอสักครั้ง หากกลับยังพลาดอีกจนได้...
แดนดินไม่สนเหยื่อชิ้นโต เขาเอาแต่ระวังตัวแจ จนเธออยากเอามีดคมสักเล่มผ่าเอาเนื้อสมองออกมาดูนัก ทำไมเขาถึงได้โง่ขนาดนี้นัก...
เธอรึอุตส่าห์ยอมลดตัว อ่อยเขาถึงขั้นชักชวนให้ขึ้นมานั่งดื่มน้ำเย็นบนห้องพัก หากชายหนุ่มกลับทำเป็นเล่นตัว บ่ายเบี่ยงปฏิเสธไม่ยอมขึ้นมาบนห้องสองต่อสองกับเธอท่าเดียว...
หึ...คงจะกลัวยายรุ้งรู้สิท่า เขาถึงได้ปฏิเสธเธอแบบไม่กลัวถูกเธอไล่ออก...
“ไอ้พวกหน้าโง่!...โง่...โง่...โง่...”
ธิดารัตน์ก่นด่าด้วยความเจ็บแค้น เธอเดินวนรอบห้องเร็วขึ้น เพิ่มแรงขบนิ้วในโพรงปากโดยไม่รู้ตัว มันแรงขึ้นจนหญิงสาวรู้สึกเจ็บจี๊ด จำจนต้องรีบดึงนิ้วเรียวออกมาสะบัดเร่า ฟันคมสัมผัสได้ถึงเนื้ออ่อนเลือดสีแดงสดไหลทะลักออกมาตามติด...
ความเจ็บทำให้ธิดารัตน์สบถคำหยาบคายออกมา...
“บ้าฉิบ...”
แววตาในยามอยู่ต่อหน้าผู้คนมากมาย มักฉายออกมาด้วยความนุ่มนวลละมุนละไม หากมาบัดนี้ยามอยู่ตามลำพังในห้องหับมิดชิด แววตาอ่อนหวานกลับแปรเปลี่ยนเป็นมืดมน สุมด้วยเพลิงแห่งไฟริษยา
หญิงสาวกำมือเข้าหากันแน่น ไม่สนใจบาดแผลตรงปลายนิ้วว่ามันจะเจ็บสักแค่ไหน เธอสูดลมหายใจลึก อึดอัดจนต้องหาทางระบายออก...
เพล้ง!
แจกันดอกไม้ถูกปัดตกพื้นจนแตกเป็นชิ้นละเอียด ธิดารัตน์ยกเท้าสูง เหยียบขยี้ลงกับกลีบดอกกุหลาบจนมันเละติดพื้น คล้ายกับกองเลือด เจ้าตัวหาได้สนใจต่อเศษกระเบื้องของแจกัน อาจมีบางเศษชิ้นโดนเท้าของเธอจนได้รับบาดเจ็บได้ ธิดารัตน์ไม่คิดสนใจ นอกจากเหยียบขยี้กลีบดอกไม้บนพื้นเท่านั้น...
ทำทีว่าดอกกุหลาบเหล่านั้นเป็นตัวแทนของรุ้งแก้ว...
มันจะมีความสุขมากกว่าเธอไม่ได้เด็ดขาด...
“แดนดินเป็นของฉัน...เขาเป็นของฉันตั้งแต่ทีแรก...ได้ยินไหม อีรุ้งแก้ว!...แกมันอีนางขี้ขโมย”
ดวงตายาวเรียวฉายแววมุ่งมั่น ธิดารัตน์ชิงชังลูกติดของแม่เลี้ยงตัวเองตั้งแต่วันแรกที่เห็นหน้า จะว่ามันมีดีกว่าเธอทุกอย่าง เธอก็ไม่อาจยอมรับในส่วนนี้ได้อย่างเต็มคำ ความรู้ความสามารถ เธอชนะรุ้งแก้วอย่างขาดลอย ขาดแค่เพียงเรื่องเดียว ฐานะทางสังคม เธอยังด้อยกว่าอีกฝ่ายราวฟ้ากับเหว...
แต่ก่อนพ่อของเธอก็เป็นเพียงลูกน้องในบริษัทของป้ารุจี มีตำแหน่งเป็นเพียงหัวหน้าฝ่ายการเงินธรรมดา ไม่รู้พ่อเธอทำงานอีท่าไหน ถึงได้สะดุดใจเจ้าของบริษัทเข้า ถึงขนาดเลื่อนขั้นให้เป็นสามีคนปัจจุบัน พลอยทำให้เธอในฐานะลูกสาว สุขสบายตามไปด้วย...
แต่กว่าจะมีวันนั้น ใจเธอกับต้องแลกมาด้วยคำว่า ทรยศ...
และนั่น...มันคือต้นเหตุแห่งความเกลียดชังทั้งหมด ที่เธอมีต่อรุ้งแก้ว...
“เราเลิกกันเถอะผึ้ง...เราสองคนคงไม่เหมาะสมกันหลอก เรากลับมาเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิมน่าจะดีกว่านะ” คำพูดฟังดูธรรมดา หลุดออกจากปากคนมักง่ายได้อย่างง่ายดาย แววตาคมลึกไร้ซึ่งความเสียใจ ตอกย้ำให้คนฟังเจ็บจนช็อกเลยทีเดียว...
“ซัน! นายกำลังพูดเรื่องบ้าอะไรอยู่...รู้ตัวหรือเปล่า?” อาทิตย์หรือซันทำท่าไหวไหล่
“เราไม่อยากฝืนใจ เมื่อหมดรักต่อกัน ก็แค่ถอยมายืนจุดเดิมมันก็ดีกับทุกฝ่ายนี่นา”
ธิดารัตน์ยังจดจำถ้อยคำวันนั้นได้ขึ้นใจ คำเลิกราที่เธอไม่เคยคิดว่าจะได้ยิน...
อาทิตย์คือรักแรกของเธอ ความสัมพันธ์ตลอดหลายปีมานั้น มันถือว่าดีมาก ดีจนเธอกับเขาเคยวาดฝันถึงวันแต่งงาน จวบจนกระทั่งเธอพาเขาเข้ามาไหว้ รุจี ในฐานะแม่เลี้ยง แน่นอนว่าวันนั้น รุ้งแก้วก็อยู่ในบ้านหลังนั้นด้วย...
หลังจากนั้น เธอก็กลายเป็นอีหน้าโง่คนหนึ่ง ถูกหักหลังจากคนที่เธอรัก และจากคนที่เธอคิดว่าเป็นคนในครอบครัวด้วยซ้ำ...
“สาระเลว...ผู้ชายมันก็น่าโง่ด้วยกันหมดทั้งนั้นนั่นแหละ...”
หญิงสาวสะบัดหน้าไล่สิ่งกวนใจ มันเปล่าประโยชน์เกินไปหากจะคร่ำครวญถึงอดีตแสนเจ็บช้ำ...
ท้ายที่สุดแล้วไอ้คนทรยศคนนั้น มันก็ถูกกรรมตามสนองทันท่วงที แต่มันยังไม่สาแก่ใจเธอ ในเมื่ออีกคน ยังคงลอยหน้าลอยตา ใช้ชีวิตอย่างสุขสมหวังอยู่เลยนี่นา...
ธิดารัตน์ยืนกัดฟันกรอด เธอไม่เข้าใจผู้ชายสมัยนี้เลยสักนิด สายตาพวกมันเป็นอะไรกันไปหมด ถึงได้เห็นอีรุ้งแก้วมันมีดีกว่าเธอทุกอย่าง ทำไมผู้ชายทุกคนที่เธอรู้จัก ถึงได้จ้องแต่อยากจะงาบเอามันมาเป็นเมียกันนัก ทั้งที่มันทำตัวหยิ่งยโส ไม่เคยมองเห็นหัวใครทั้งนั้น มันทำราวกับว่าตัวเกิดมาจากฟากฟ้า ดุจนางฟ้านางสวรรค์ก็ไม่ปาน ใครทุกคนที่ชิดใกล้ ต้องยอมศิโรราบให้มันแต่เพียงผู้เดียว ทั้งที่ความจริง ตัวมันเองก็ไม่เห็นจะมีอะไรแตกต่างจากพวกโสเภณีร่านสวาทเลยด้วยซ้ำ เที่ยวแล่นให้ท่าผู้ชายเขาไปทั่ว ลากใครต่อใครมาเป็นคู่ควงไม่เคยซ้ำหน้า โดยเฉพาะข่าวใหม่ล่าสุด อีรุ้งแก้วมันซื้อผู้ชายมากกกอดอยู่ที่คอนโดส่วนตัว...
เธอจะไม่สนใจข่าวล่าสุดนี้เลยสักนิด ถ้าหากผู้ชายคนนั้นจะไม่ใช่ผู้ชายคนเดียวกันกับที่เธอแอบหมายตาเอาไว้ในใจ เธออยากได้แดนดินมาครอบครอง มองไกลจนอยากได้เขามาเป็นคู่ชีวิตจริงจัง โดยคิดจะใช้วิธีผูกสัมพันธ์ด้วยการทำตัวชิดใกล้ แล้วค่อยเปิดใจศึกษากันและกัน
ใครจะรู้ อีรุ้งแก้วมันกลับใช้ทางลัด ด้วยการเหยียบหัวใจเธออีกครั้ง มันเสนอเงินก้อนโต ขอซื้อผู้ช่วยของเธอไปเป็นนายบำเรอส่วนตัวของมัน...
ครั้นพอคิดถึงใบหน้าหล่อเหลา รูปร่างบึกบึนต้องใจปรารถนา ความเป็นหญิงของเธอ มันเริ่มปวดหนึบ กึ่งกลางลำตัวเริ่มมีน้ำซึมผ่านรอยแยกกลีบเนื้อสวาท จิตใจกระสับกระส่าย เริ่มไม่เป็นตัวของตัวเองไปโดยปริยาย...
อาการพวกนี้ ธิดารัตน์ไม่เคยรู้ตัวมาก่อน มันเกิดขึ้นตั้งแต่ตอนไหน...
ธิดารัตน์ขมวดคิ้ว สีหน้ารัญจวนซ่านสยิว ก่อนหนีบลำขา ทรุดกายลงกับพื้นพรม
อา...ตอนนี้...เธอต้องการชายหนุ่มสักคน มาบำบัดความทรมานให้หาย...
ถ้าหากว่าเป็นแดนดินคงจะดีไม่น้อย แต่ก็รู้ดีแก่ใจไม่เป็นไปได้ยาก หากถึงกระนั้นก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้เสียหน่อย รอก่อนเถอะ อีกไม่นานนี้หรอกเขาต้องกลายมาเป็นของเธอเข้าสักวันหนึ่งเข้าจนได้...
“แดนดิน...ฉันต้องการนาย...อา...”
ธิดารัตน์หลับตาพริ้ม พร้อมจินตนาการถึงใบหน้าชายหนุ่มที่ใจเธอหมายปอง หญิงสาวนั่งชันเข่าแบะขาออกกว้าง ดึงชายกระโปรงสั้นเหนือเข่าหล่นขึ้นมาจนถึงโคนขาขาว ปลายนิ้วเรียวยาวถูกส่งผ่านสอดแทรกขอบข้างของแพนตี้ตัวน้อย ก่อนเนื้อผ้าถูกแหวกออกจนกว้าง พอให้ปลายนิ้วสอดส่าย ปรากฏความฉ่ำเยิ้ม ตอกย้ำถึงความต้องการขั้นไหน หญิงสาวสะกิดเม็ดพลอยจุดกำเนิดแห่งความเสียวซ่าน เธอแหงนหน้าส่งเสียงครางระโหย ก่อนดันปลายนิ้วจุ่มจมลงแอ่งน้ำทิพย์ ขยับเข้าออกตามจังหวะเสียงเต้นของหัวใจ...
“อา...แดนขา...ขยับแรงอีกนิดสิคะคนดี...”
แดนดินทำให้เธอรู้สึกหัวใจเต้นแรง เลือดลมสูบฉีดได้ทุกครั้งยามมีโอกาสใกล้ชิดกัน ชายหนุ่มถูกส่งตัวให้มาเป็นผู้ช่วยของเธอ นับตั้งแต่วันแรกที่เธอเข้ามารับตำแหน่งงานในบริษัทของป้ารุจี บิดาเธอยังคงทำงานในบริษัทเช่นเคย ตอนนี้ท่านเป็นผู้จัดการฝ่ายการเงิน มีหน้าที่ดูแลเรื่องบัญชีให้กับบริษัทราฟิวกู๊ด อินเจียร์ริ่งจำกัดทั้งหมดทุกสาขา
ท่านตกพุ่มม่ายตั้งแต่เธออายุได้เพียงสิบขวบ ครองตัวเป็นโสดมานานหลายปีทีเดียว ก่อนเธอจะรู้ความจริง ท่านทั้งสองแอบมีใจเสน่หาต่อกันมานาน เธอไม่แน่ใจมันนานพอกับสามีคนเก่าของป้ารุจียังมีชีวิตอยู่หรือไม่
หลังจากเธอเรียนจบมหาวิทยาลัย ท่านทั้งสองถึงได้ประกาศแต่งงานกันชนิดสายฟ้าแลบ โดยหันหลังให้คำนินทาทั้งปวง บิดาให้เธอย้ายเข้ามาอาศัยยังคฤหาสน์หลังโตของคุณป้ารุจี แทนบ้านหลังเก่าซึ่งมีขนาดเล็กกว่าหลายเท่า คราแรกเธอไม่นึกขัดข้องอะไร ดีใจด้วยซ้ำกับชีวิตที่สุขสบายขึ้น
หากนั่นมันก่อนเธอจะเจอกับรุ้งแก้ว...ลูกติดของป้ารุจี ความร้ายกาจของมัน ไม่เพียงแต่ทำให้เธอถูกคนรักหักหลัง ทว่ามันกลับยังเป็นต้นเหตุ ทำให้เธอกระเด็นออกมาจากคฤหาสน์หลังโอ่อ่า มาอยู่ยังห้องคับแคบนี่แทน...
ส่วนตัวแดนดินเองนั้น ชายหนุ่มเพิ่งเข้ามาทำงานที่นี่หลังจากเธอราวอาทิตย์กว่า เขาเป็นคนขยันขันแข็ง บวกกับเป็นชายหนุ่มที่มีวิสัยทัศน์และมุมมองที่กว้างไกล มีหลายครั้งเวลาเธอติดขัดปัญหาเรื่องงาน แดนดินจะช่วยให้คำปรึกษาอีกทั้งยังช่วยชี้แนะ หาทางแก้ไขให้เธอเสมอมา...
มันจึงเป็นความประทับใจ นำพาให้เธอตกหลุมรักเขาได้ไม่ยาก...
***************************