วันรุ่งขึ้น ผมตื่นมาในตอนสายๆเพราะเมื่อคืนนี้กลับมาบ้านบอกหนูนาว่าขึ้นห้องนอนก็จริง แต่ผมก็ยังไม่ได้นอนเพราะมัวแต่คุยโทรศัพท์กับกวางอยู่จนดึก แต่เพราะผมยังนอนตื่นสายได้เพราะว่าผมได้วันหยุด 1 อาทิตย์ ที่บริษัทให้พักได้หลังจากที่แต่งงาน
“ตื่นแล้วหรอค่ะ...?”
ผมหันไปมองตามเสียงที่ทักมาก็เห็นว่าเป็นหนูนาแต่งตัวเหมือนจะออกไปข้างนอก
“นี่คุณจะไปไหนหรอครับ...?”
“นาจะออกไปซื้อของนะคะ พอดีของใช้ส่วนตัวมันหมดที่รักจะออกไปด้วยกันไหมคะ...”
“ไม่ดีกว่าครับ คุณไปเถอะผมอยากนอนอยู่บ้านพักผ่อนมากกว่า...”
“ค่ะ...ก็ได้ค่ะ”
ผมมองตามเธอ ที่เดินออกไปก็เห็นนะว่าสีหน้าตอนผมปฎิเสธเธอดูไม่ได้รู้สึกอะไรเลย ก็จริงนะก็เรา 2 คนเพิ่งรู้จักกันได้แค่ 1 เดือน จะให้รักกันหวานชื่นเหมือนคู่แต่งงานคู่อื่นๆเขาได้ยังไง
ห้างสรรพสินค้า ฉันออกมาเดินซื้อของที่ห้างคนเดียว ก็ดีเหมือนกันเขาไม่มาด้วยเพราะจริงๆฉันก็ไม่ได้อยาก
ให้เขามาด้วยอยู่แล้ว ไม่อยากเห็นสีหน้าของคนที่ดูฝืนตัวเองเหมือนโดนบังคับให้ทำเหมือนว่ารักกัน แต่จริงๆแล้วมันไม่ใช่
“อ้าว...คุณหนูนา”
“คุณต้น...”
ลูกพี่ลูกน้องของเขาเดินเข้ามาทักฉันที่เดินเลือกซื้อของในห้างอยู่
“มาซื้อของหรอครับ...? แล้วนี่ไอ้เอกอยู่ไหนละครับ”
“คุณเอกไม่ได้มาด้วยหรอกค่ะ พอดีนามาซื้อของใช้ส่วนตัวนะคะ”
“แล้วนี่จะกลับยังไงครับ...? พอดีผมมารับลูกสาวนะครับแกมาเรียนพิเศษที่นี่...ถ้ายังไงกลับด้วยกันนะครับเดี๋ยวผมไปส่ง...”
“เอ่อ. คือ”
“อย่าเกรงใจเลยครับ ผมก็อยากไปหาไอ้เอกมันเหมือนกัน นะครับเดี๋ยวผมไปส่ง”
“ก็ได้ค่ะ...”
ฉันรู้สึกเกรงใจเขาจังเลยแต่ก็ไม่กล้าปฎิเสธ เรา 2 คนจึงมานั่งรอน้องอรลูกสาววัย 8 ขวบของคุณต้นกันที่ร้านไอติม
“คุณพ่อค่ะ...”
“หนูอร เสร็จแล้วหรอลูก...?”
“เสร็จแล้วค่ะ น้องอรอยากกินไอติมค่ะ คุณพ่อซื้อให้น้องอรนะคะ”
“พ่อเตรียมไว้ให้แล้ว นี่ไง...”
“โห...มีตั้งหลายรสเลย น้องอรชอบที่สุดเลยค่ะ.” ฉันยิ้มให้กับพ่อลูกที่คุยกันมันช่างดูน่ารักจริงๆ
“สวัสดีคุณอาสิลูก คุณอาหนูนาเป็นแฟนของอาเอกนะ...”
“สวัสดีค่ะ คุณอาหนูนา”
“เรียกว่าอานาเฉยๆก็ได้ค่ะ...”
น้องอรยิ้มให้ฉันแล้วก็รีบมานั่งตรงที่มีไอติมถ้วยใหญ่อยู่ตรงหน้า เธอกินมันอย่างเอร็ดอร่อยจนฉันมองแล้วต้องยิ้มตาม
“ดูท่าน้องอรจะชอบไอติมมากนะคะ...”
“ใช่ครับ ของโปรดแกเลยละครับ”
“ตอนเด็กๆนาก็ชอบทานไอติมค่ะ แต่ก็ไม่ค่อยได้ทานเท่าไหร่”
“ทำไมละคะ...? คุณพ่อคุณแม่ของอานาไม่ซื้อให้หรอคะ” น้องอรถามฉันด้วยความใสซื่อ
“คุณพ่อคุณแม่ของอาเขาเสียไปตั้งแต่อายังเด็กๆแล้วค่ะ เลยไม่มีใครซื้อไอติมให้อาทาน”
“คุณนามีพี่น้องหรือเปล่าครับ...?” อยู่ๆคุณต้นก็ถามฉันขึ้นมา
“มีค่ะ นามีพี่ชาย 1 คนนะคะ”
“แล้วคุณนาไม่มีญาติที่ไหนหรอครับ นอกจากพี่ชาย?”
“ไม่มีค่ะ นามีแค่พี่ชายคนเดียว เราโตมาด้วยกันตั้งแต่เด็ก เรารักกันมากแล้วเราก็ไม่เคยทิ้งกัน”
“แล้วทำไมวันแต่งงานพี่ชายคุณนาถึงไม่มาร่วมงานด้วยละครับ...?”
“เอ่อ...คือ”
“คุณพ่อค่ะ หนูอรอิ่มแล้วค่ะ...”
หนูอรพูดแทรกเข้ามาจนคุณต้นต้องหันไปมองลูกสาว แล้วพวกเราก็เก็บของไปที่รถกันแต่กาอนจะไปถึงรถน้องอรก็ร้องอยากนั่งม้าหมุน คุณต้นกันมามองฉันเพราะคงเกรงใจ
“ไม่เป็นไรค่ะ นาไม่ได้รีบไปไหนอยู่แล้ว...ไปเลยค่ะน้องอร อารอได้เล่นให้สนุกเต็มที่เลยนะคะ”
“ขอบคุณค่ะอานา...”
น้องอรพูดจบก็รีบวิ่งไปที่ม้าหมุนเพื่อเล่นของเล่น ฉันยืนมองรอยยิ้มที่มีความสุขนั้นของเธอ มันทำให้ฉันนึกถึงเรื่องในสมัยเด็กที่ฉันวิ่งเล่นในสนามเด็กเล่นกับพี่ชาย
“คุณนา คุณร้องไห้หรอครับ...?”
“ฉันร้องไห้หรอค่ะ ฉันไม่รู้ตัวเลย...” ฉันต้องรีบยกแขนขึ้นปาดน้ำตาตัวเองโดยเร็ว
“คุณกังวลเรื่องอะไรอยู่หรือเปล่าครับ...?”
“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ...ฉันคงแค่คิดถึงบ้านนะคะ”
“คุณมาจากเชียงใหม่ได้เดือนกว่าแล้วนี่ครับ คงจะคิดถึงคนที่บ้านโดยเฉพาะพี่ชายคุณแน่ๆเลย ใช่ไหมครับ?”
“ค่ะ นาคิดถึงเขามาก ทุกวันที่อยู่ที่นี่ไม่เคยมีวันไหนเลยที่นาไม่คิดถึงเขา นาอยากให้เขามาอยู่ตรงนี้มาอยู่กับนาที่นี่ แต่นาก็ทำไม่ได้...”
“ทำไมละครับ...? พี่ชายคุณเขาไม่อยากมาอยู่กรุงเทพหรอครับ...?”
“เขาอยากมาค่ะ แต่เขามาไม่ได้...”
“พี่ชายคุณคงจะติดงานจริงๆหรือติดธุระที่สำคัญมากๆ คุณเป็นน้องสาวแท้ๆถ้างานนั้นไม่สำคัญสำหรับเขาเขาคงละมางานแต่งคุณแล้ว คุณนาอย่าติดมากเลยนะครับ...”
“ขอบคุณนะคะคุณต้นที่ปลอบนา...”
“อานาค่ะ น้องอรอยากไปเล่นบ้านบอลค่ะ อานาเข้าไปเล่นกับน้องอรนะคะ...นะคะๆ”
น้องอรมาดึงมือฉันแล้วลากเข้าไปในบ้านบอที่มีลูกบอลเล็กๆมากมาย เราเล่นกันสนุกสนานเพราะฉันเองก็ไม่เคยเล่นแบบนี้มาก่อน จนเราสนุกกันเพลินจนเกือบเย็น
“วันนี้น้องอรสนุกที่สุดเลยค่ะ...”
“ชวนอานาเล่นจนเหนื่อย ดูสิอานาเหงื่อออกเต็มไปหมดแล้ว...”
“ไม่เป็นไรค่ะ นาไม่ได่เล่นแบบนี้นานแล้ว แต่ก็สนุกดีนะคะ...”
“ผ้าเช็ดหน้าครับ เหงื่อคุณนาออกเต็มเลย”
คุณต้นยื่นผ้าเช็ดหน้ามาให้ฉัน ฉันขอบคุณเขาแล้วยื่นมือไปรับผ้าเช็ดหน้าจากมือเขา มาซับเหงื่อที่หน้าผากตัวเองที่มีเหงื่อไหลเต็มหน้า
“เดี๋ยวนาเอาผ้าเช็ดกน้าไปซักให้นะคะ”
“ไม่เป็นไรครับแค่นี้เอง...ไม่ต้องคืนผมหรอก”
“ขอบคุณค่ะ...”
ฉันส่งยิ้มให้เขาเพื่อเป็นการขอบคุณ แต่เขามองหน้าฉันแปลกๆแล้วยังยิ้มหวานส่งมาให้ฉันแบบนี้อีก เขาคงเอ็นดูฉันมั้งที่ฉันเป็นเพื่อนเล่นให้ลูกสาวเขาได้
เวลา 4 โมงเย็น ผมเปิดโทรทัศน์ย้ายช่องไปมาเพราะหัวสมองของผมคิดถึงแต่เรื่องของหนูนา เธอหายไปตั้งแต่ 10 โมงเช้า แล้วนี่มันก็จะ 5 โมงเย็นแล้ว แต่เธอก็ยังไม่กลับมาสักที ผมโทรไปเธอก็ไม่รับสายหายไปไหนของเธอนะ