หนีที่ 2 ไม่พบ

2300 คำ
หนีที่ 2 ไม่พบ ยังคงพอมีเวลา หลังจากขวัญเมืองต่อสายหาท่านอคตสึที่ตนรู้จักแต่ก็ใช่ว่าจะสนิทแม้ขวัญเมืองจะเคยใช้เส้นสายมังกรแดงดำของสามีในการทำธุรกิจแต่ยังคงเว้นระยะห่างกับเหล่ายากูซ่า เนื่องด้วยไม่อยากให้พวกเขาเข้ามายุ่มย่ามกับชีวิตของตนและลูกๆ หลังจากคุยกับยากูซ่าอาวุโส ได้ความว่าฮิโรชิจะมาแทนจริง เนื่องจากสามจังหวัดหน้าด่านเริ่มเติบโตการเรียกเก็บค่าคุ้มครองและธุรกิจอื่นๆ ก็ทำกำไรได้มาก ยากูซ่าไม่ปล่อยให้โอกาสนี้หลุดรอดและฮิโรชิเองก็เอ่ยปากขอมาที่นี่เอง แต่กว่าจะเตรียมลูกน้องยากูซ่าในมือให้พร้อมคงใช้เวลาพอสมควร ฮิโรชิ หากเอ่ยถึงคนคนนี้ในสายตระกูลยากูซ่าไม่มีใครรู้จัก เขาเป็นลูกชายของ ท่านยามาดะ หัวหน้าแก๊งยากูซ่าใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่นสัญลักษณ์ประจำแก๊งคือมังกรแดงดำ ไม่ค่อยมีใครกล้าเอ่ยถึงท่านยามาดะนัก ไม่สิ เรียกว่าคนที่จะได้พบเจอเขานั้นแทบนับคนได้กันเลยทีเดียว เอาเป็นว่ายังไม่ขอกล่าวถึงเขา รู้แค่ว่าท่านฮิโรชิคือใคร เขาคือลูกชายคนเดียวของมารดาที่เป็นคนไทย และมีพ่อเป็นยากูซ่าใหญ่ของญี่ปุ่น แม่ของเขาเป็นหนึ่งในบรรดาเมียของท่านยามาดะ เป็นเมียคนไทยที่ถูกขายไปในวงจรค้ากามแล้วท่านยามาดะก็ถูกใจจึงรับเลี้ยงไว้ นี่คงเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ฮิโรชิเกิดสนใจขวัญเมือง ท่านยามาดะมีลูกกับเมียคนอื่นหลายคน แต่ฮิโรชิเองก็โดดเด่นเสียยิ่งกว่าลูกชายคนไหนของพ่อ ด้วยความสามารถที่แพรวพราวจึงไม่แปลกที่ท่านยามาดะ จะยกธุรกิจหลายอย่างในไทยให้ฮิโรชิดูแล ขวัญเมืองไม่มากก็น้อยเขาเคยใช้ชีวิตช่วงหนึ่งอยู่กับฮิโรชิ แทบจะกล่าวได้เต็มปากว่าเขารู้นอกออกในเรื่องราวของมาเฟียหรือยากูซ่าอยู่พอสมควร ชีวิตต้องดำเนินต่อไป หลังวางแผนรับมือ เขาก็กลับมาใช้ชีวิตตามปกติ ซ้ำยังคิดเข้าข้างตัวเอง ไม่แน่สามีใจร้ายของตนอาจลืมเขาไปนานแล้ว “คุณขวัญเมืองครับ คุณอัมพรขอเข้าพบ ตอนนี้รออยู่ที่ห้องรับแขก” เสียงจากพ่อบ้านชราดังขึ้น ภายในห้องทำงาน เจ้าของชื่อกล่าวโดยไม่เงยหน้าว่า “ไม่พบ” พ่อบ้านยืนอยู่หน้าประตูไม่ได้เปิดเข้ามากล่าวรับคำ กะทิยืนอยู่ข้างๆ นายของเขาต้องสบถอย่างชิงชังรังเกียจว่า “เจ้าบัดซบนั่น ยังไม่ยอมแพ้คิดใฝ่สูงมาเกาะแกะคุณชาย ถ้าคุณขวัญไม่ด่าไปตรงๆ สักรอบ กะทิว่าเดี๋ยวเขาก็ส่งคนมาอีก” ขวัญเมืองนั่งอ่านหนังสือเงียบๆ ต้องเงยหน้ามองคนใช้ปากกล้า ดุด่าเขาไปว่า “ปากจัดแบบนี้ไงกะทิ ถึงขายไม่ออกไม่มีคนเอา!” ได้ยินคนใช้ฝีปากกล้าเอ่ยกลับมาว่า "จะขายออกได้ยังไงครับ กะทิอายุสิบเก้าก็โดนเจ้านายสั่งให้เป็นม่ายผัวตายลูกติดซะแล้ว หมดกันโปรเจกต์สู่การเป็นตัวท็อปของกะทิ ฮือ" “…” โถงกลางรับแขก หญิงชรานามว่า อัมพร รู้ตัวว่าถูกปฏิเสธก็กลับไปอย่างมีมารยาท หากแต่พอขึ้นรถยนต์คันหรูของตนได้ ก็ด่าทอขวัญเมืองว่า “เหอะ คิดว่าตัวเองสูงส่งนักรึไง ถ้าไม่ใช่หลานชายของฉันตาต่ำพอใจในตัว แม้แต่หน้าบ้านฉันก็ไม่อยากจะเหยียบ!” คนรับใช้ที่มาด้วยนั่งอยู่ข้างๆ คันปากยิบๆ อยากเอ่ยเรื่องนี้มานานแล้วได้ยินหล่อนเอ่ยน้ำเสียงค่อนขอดว่า “ถ้าเป็นคุณชายสูงส่งจริงทำไมถึงท้องไม่มีพ่อ คุณชายของเราต้องถูกเขายั่วยวนแน่ๆ ไม่อย่างนั้นด้วยฐานะเขา ทำไมถึงทำให้คุณชายของเราสนใจได้” สองคนช่วยกันสาปส่งขวัญเมืองตลอดทางกลับ เพราะรู้สึกเสียหน้าที่ถูกปฏิเสธครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ก็ขัดใจหลานชายไม่ได้ อัมพรอายุหกสิบกว่า จึงต้องออกโรงบากหน้าทาบทามของมีตำหนิชิ้นนี้ พูดถึงสามด่านนอกจากโกฮัน ก็ยังมีเอซ และสุดท้ายคือฮาร์น ซึ่งแน่นอนว่าชื่อตั้งขึ้นจากผู้เริ่มก่อตั้งเมืองนั้นๆ หากแต่ตอนนี้ถูกมาเฟียครอบงำธุรกิจทั้งขาวและเทาไปเกินครึ่ง ที่คฤหาสน์ตระกูลวายุตรา ชายหนุ่มนามว่า เมฆา พอย่ากลับมาก็ตรงไปสอบถาม แต่เขาก็ต้องผิดหวังอีกครั้ง คำตอบก็ได้เพียงว่า “เขาไม่ให้พบ!” ตามมาด้วยคนเป็นย่าหายใจฟึดฟัดเข้าห้องของตนเองไป “สายใจ! ไหนบอกว่าเขาเมาหัวราน้ำอยู่เพทายคลับสามวันสามคืนไม่ใช่หรือ ทำไมเขายังหลบหน้าผมอีก!” คนรับใช้ติดตามคนสนิทเอ่ยอย่างจนปัญญาว่า "โถ่ คุณเมฆา เขาเมาจริง! แต่เรื่องที่หลบหน้าคุณเกี่ยวอะไรกับเรื่องนี้คะ" ชายหนุ่มคิดว่าเป็นไปไม่ได้ ปกติขวัญเมืองไม่เคยเสียมารยาท ถ้าหากไม่มีเรื่องสะเทือนใจ ไม่มีหรอกที่คนน่ารักแบบนั้นจะแสดงออกมาโต้งๆ แบบนี้ นอกเสียจากว่าจะอกหักจากผู้ชาย เมฆาคิดว่าตัวเองเดาไม่ผิด ตั้งแต่ติดพันเขามาสองปีกว่า ก็คอยสืบเรื่องเกี่ยวกับเขาตลอด นอกจากชายที่ไม่ทราบว่าเป็นใครคนนั้น ก็ไม่เห็นเขาคบหาใครอีก “หรือว่าผมเดาผิดไป ไม่ใช่ว่าที่เขาเมาเพราะเสียใจเรื่องอื่นหรือเปล่า” สายใจคิดในใจ 'จะไปรู้ได้ยังไง ก็แค่บอกว่าเห็นเขาเมา ตัวเองคิดเองเออเองไปถึงไหน' แต่ปากยังกล่าวตอบเจ้านายไปว่า "คุณขวัญเมืองร่ำรวยเงินทอง เขาจะมีเรื่องอะไรให้เสียใจได้อีก" “อืม ถูกของเธอ ก่อนหน้าเขายังดีๆ อยู่เลย เรื่องอะไรกันที่ทำให้เขาทุกข์ใจได้ขนาดนั้น” เมฆาไม่เชื่อว่าขวัญเมืองที่ที่สูงคนนั้นจะมีเรื่องอะไรให้เสียใจถึงขนาดไปเมามายได้อีกนอกจากอกหัก เขาต้องอกหักแน่ๆ คิดแล้วเขาก็สั่งสายใจให้ส่งคนไปคอยจับผิดขวัญเมืองไว้ว่าเขากำลังกลุ้มใจเรื่องอะไร *** นับตั้งแต่ย้ายมาอยู่ในเมืองโกฮัน ความผิดพลาดหนึ่งเดียวของขวัญเมืองคือคบเพื่อน แต่นี่เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ เพราะเพื่อนทางการค้าผู้นี้จำเป็นต้องคบหา เนื่องจากเขาเป็นผู้กุมการค้ากับต่างเมือง ซึ่งน้อยคนนักจะมีความสามารถมากพอที่จะทำได้ เมฆาวัยยี่สิบเก้าปี เขาคลั่งรักขวัญเมืองมาก มีอยู่ครั้งหนึ่งที่ชวนฝ่ายนั้นมางานเลี้ยงน้ำชาเจ้าพ่อแล้วถือวิสาสะประกาศกับคนทั้งหลายว่า ขวัญเมืองกำลังคบหากับเจ้าตัวอยู่ วันนั้นขวัญเมืองอับอายมาก ปกติก็ถูกหาว่าเป็นเมียน้อยอยู่แล้ว พอเจอเรื่องนี้เข้าไปคุณแม่ลูกแฝดถึงกับต้องกุมขมับ ขวัญเมืองรู้สึกว่าตัวเองไม่ได้รับความเป็นธรรม เขาก็แค่ท้องไม่มีพ่อเท่านั้นเอง แต่ก็ถูกก็นินทาว่าเป็นเมียน้อยคนนั้นบ้างคนนี้บ้าง พอเมฆาบอกว่าชอบเขา ทุกคนก็มองว่าเขาเล่นชู้กับว่าที่หัวหน้าตระกูลมาเฟียท้องถิ่นอีก ทั้งๆ ที่เขายังไม่ได้ทำอะไรเลยด้วยซ้ำ ใช่แล้ว วายุตรา คืออีกหนึ่งตระกูลมาเฟียท้องถิ่นเล็กๆ ในเมืองโกฮัน ยังมีอีกเรื่องหนึ่งที่ขวัญเมืองยังไม่รู้ ที่จริงแล้วเมฆายังป่าวประกาศกับเพื่อนตัวเอง ว่าเขาได้ครอบครองเรือนร่างของขวัญเมืองแล้ว จนเป็นที่เล่าลือกันในกลุ่มมาเฟียแถบชายแดน ว่าทั้งสองมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกัน "..." ขวัญเมืองอยู่ชายแดนเป็นยังไง ฮิโรชิที่อยู่ไกลถึงเมืองหลวงไม่ได้เก็บมาใส่ใจ ตอนนี้เขาวุ่นวายอยู่กับการเตรียมตัว เคลียร์เหล่าลูกน้องเก่าใหม่ บางคนอาสาตามติดมารับใช้ในที่กันดาร บางคนไม่อยากจากครอบครัวและความสบายในเมืองหลวง ไหนจะต้องสู้รบตบมือกับ อายูมุ ลูกสาวยากูซ่าตระกูลรอง แต่ละวันก็ไม่ได้อยู่สงบสุขสบาย “หลบไป!” ห่างจากเมืองหลวงไปไม่ไกล ฐานรองของยากูซ่าสาขาย่อย หากมองด้วยตาเปล่าก็คล้ายกับตึกหลายชั้น แต่ถ้าสังเกตจริงๆ คนแถบนั้นรู้ดีว่า ผู้ที่เข้าออกสถานที่แห่งนี้ไม่ใช่คนปกติทั่วไป อายูมุถือดีว่าตัวเองมีศักดิ์ฐานะสูงส่ง สองขาเรียวเดินส่ายอาดๆ ไม่เกรงกลัวเหล่าลูกสมุนที่คอยเฝ้าอยู่ในแต่ละจุด เพื่อเข้าไปพบหน้าชายคนรักของตน “อายูมุ ไม่รู้ระเบียบรึไง ผู้ไม่เกี่ยวข้องห้ามเข้ามาในฐาน!” อายูมุน้ำตาคลอเบ้า อีกหน่อยเดียวก็ร้องไห้แล้ว “ฮิโรชิ คุณไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้” ลูกสาวยากูซ่าพอมาก็ถูกเรียกอย่างเหินห่าง ความจริงคิดมาขอร้องให้เขาเปลี่ยนใจ แต่ฟังจากน้ำเสียงไม่ต้องกล่าวออกมาก็ทราบได้ เพื่อหลบหน้าเธอแล้ว เขาถึงกับเลือกไปลำบากอยู่ชายแดน ฮิโรชิไม่ใช่คนช่างพูด เขาลุกขึ้นจากโต๊ะทำงาน บอกว่า "คุณหนู เดี๋ยวฉันไปส่งขึ้นรถ ฐานะแบบเธอไม่สมควรออกนอกเขตตระกูล" กล่าวเพียงเท่านี้ อายูมุร้องไห้โฮออกมา รถแล่นออกไป ฮิโรชิไม่แม้แต่มองดูสักหางตา ส่งคนเสร็จเดินกลับเข้าตึกทันที “เมื่อกี้ใครเฝ้ายาม ลงโทษตามกฎเดี๋ยวนี้! ต่อไปอย่าให้มีอีก” ไม่มีคำอ้อนวอน ลูกน้องทำหน้าที่เฝ้ายามสี่คนได้แต่ทำสีหน้าสิ้นหวัง คิดในใจ “หญิงสาวของหัวหน้ามาตอแย ทำไมพวกเราต้องเป็นฝ่ายถูกทำโทษ” *** รถยุโรปคันหรูแล่นมาถึง บอดี้การ์ดและคนรับใช้นับสิบได้แต่เดินตามด้วยความท้อแท้ ขนาดพวกเขาเป็นเพียงคนใช้ยังรู้สึกเสียหน้า คุณหนูก็ยังไม่รู้จักเข็ดหลาบ ตอนนี้เป็นยังไงล่ะ บีบบังคับท่านฮิโรชิจนเขาทนไม่ไหว สุดท้ายก่อเรื่องมีปากเสียงกับคนตระกูลรองจนเป็นข่าวใหญ่โต! ใช่แล้ว อายูมุเป็นลูกสาวยากูซ่าตระกูลรอง เป็นญาติห่างๆ ที่ไม่ได้ร่วมสายเลือดของฮิโรชิ แถมยังเป็นคู่หมั้นคู่หมายของเขามาตั้งแต่อายุแปดขวบ เรื่องมีปากเสียงกับตระกูลรองไม่ขอกล่าวถึง แต่หลังจากเปิดประชุมวันรุ่งขึ้น ฮิโรชิถูกยากูซ่าสูงวัยกว่าครึ่งร้อยรวมหัวกันกล่าวโทษ ตำแหน่งของฮิโรชิจัดว่าสูงมาก กว่าจะได้ตำแหน่งนี้มาเขาก็ลำบากลำบนมาพอสมควร แต่ตำแหน่งที่ว่าก็ไม่สูงไปกว่ายากูซ่าอาวุโส เรื่องนี้อายูมุรู้ดี และรู้ว่าตนถือไพ่เหนือกว่าเพราะเป็นลูกสาวเพียงคนเดียวของยากูซ่าสูงวัยนามว่า ท่านชิโระ ความวุ่นวายในการประชุมครั้งนั้นไม่มีใครกล้าเอ่ยถึง นี่ถือเป็นหน้าตาของแก๊ง ฮิโรชิทนแรงกดดันไม่ไหวจึงเอ่ยว่าตนจะไปแทนท่านอคตสึเอง คืนนั้นเขาได้เสียมารยาทออกจากที่ประชุมโดยทิ้งพวกสูงอายุนั่งงงหาทางออกไม่ได้ ต่อหน้าคนที่ชอบ อายูมุแสดงความอ่อนแออย่างเต็มที่ หากแต่พอออกห่างจากเขา ก็กลับมาเป็นดื้อดึงเอาแต่ใจ สั่งสมุนนำทางให้ตรงไปยังตึกใหญ่ยากูซ่า ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของท่านย่า คิดเท่าไหร่ก็คิดไม่ตก เธอเองก็งดงามน่ารัก ทั้งยังมีฐานะสูงส่ง หากจะพูดถึงความสัมพันธ์เก่าก่อน พวกเขาก็ตัวติดกันมาตั้งแต่สมัยอยู่ญี่ปุ่น อายูมุถึงกับหอบตัวเองมาอยู่ที่นี่เพื่อเขา แต่ทำไมท่านฮิโรชิถึงได้เย็นชา ในวันที่พ่อตนเรืองอำนาจสูงสุดในดินแดนอาทิตย์อุทัย แต่แค่ผู้ชายคนเดียวกลับไม่ยอมให้ใจเธอ สี่ปีก่อนเขาก็หนีงานแต่งด้วยการชิงแต่งก่อน ซ้ำร้ายถึงกับส่งมือดีไปฆ่าคนทิ้ง ฮิโรชิจัดการคนของเธอคนแล้วคนเล่า โดยไม่สนสายสัมพันธ์ของตระกูล ครั้งนี้ก็เช่นกัน เธอวางแผนดิบดี ในงานเลี้ยงก็แสร้งเป็นตกน้ำให้เขาช่วย ต่อหน้ายากูซ่าอาวุโสเธอประกาศก้องเรื่องงานแต่ง แต่ฮิโรชิก็หักหน้า บอกว่าตัวเองมีภรรยาอยู่แล้วจะแต่งซ้ำได้ยังไง "เหอะ เมียที่ถือทะเบียนสมรสเอาไว้กันท่าแล้วหายตัวไปถึงสี่ปีแล้วเนี่ยนะ นี่เราเป็นถึงคุณหนูยากูซ่าเลยนะ ถูกหักหน้าท่ามกลางคนหมู่มากแบบนี้ได้ยังไง!" ภายในตึกใหญ่ อายูมุกอดย่าร้องไห้ กระซิก กระซิก กล่าวว่า “ฮือ ฮือ คุณย่าต้องช่วยหนูนะคะ ถ้าไม่ได้แต่งกับเขา หนูจะหนีออกจากตระกูล” ท่านย่าหัวจะปวด นี่ไม่ใช่ครั้งแรก สมัยก่อนตอนอยู่ญี่ปุ่น อายูมุก็ทำแบบนี้ ถ้าเป็นแต่ก่อนคงไม่ใช่เรื่องยาก ลูกชายเขาแค่ออกคำสั่งไป มีหรือฮิโรชิจะกล้าขัด แต่ว่าตอนนี้กลับทำไม่ได้ เขาขึ้นรับตำแหน่งยากูซ่าคุมถิ่นใต้ คงไม่กล้าใช้อำนาจออกคำสั่งมั่วซั่วจนถูกผู้คนวิพากษ์วิจารณ์ “อายูมุฟังย่า ย่ามีแผนการ หนูจะฟังย่ามั้ย” อายูมุพยักหน้า แค่หนึ่งในสี่เธอก็พร้อมทำตาม ขอเพียงได้ครอบครองผู้ชายคนนั้น "ไม่แน่ว่า ฮิโรชิ อาจจะกลัวการแต่งงานกับหลาน เพราะเขาดูเป็นคนรักอิสระ เขาอาจจะยังไม่อยากผูกมัด เขาอาจจะรู้ว่าถ้าเกิดแต่งกับหลานจะไม่ได้ใช้ชีวิตอิสระเหมือนกับแต่งกับไอ้เด็กนั่น" อายูมุพอฟังก็นึกได้ ใช่แล้ว! เราน่ารักงดงามขนาดนี้ เป็นไปไม่ได้ที่ท่านฮิโรชิจะไม่ชอบ ต้องเป็นแบบที่คุณย่าคาดเดาแน่นอน! ***
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม