"เห็นว่าได้หอพักรวมเหรอ?" เควินพูดเกริ่นในเรื่องที่ตั้งใจจะพูดเมื่อทั้งคู่รับประทานอาหารกันเสร็จแล้ว
"ใช่ค่ะ หอพักอยู่ห่างจากมหาวิทยาลัยประมาณหนึ่งป้ายรถเมล์ หนูก็จะเดินไปเรียนได้ค่ะ" วิลาสินีพูดถึงข้อดีที่เธอเลือกที่จะเข้าพักในหอพักนั้น ด้วยความที่มหาวิทยาลัยนั้นอยู่ในที่ชุมชน รถราที่วิ่งผ่านเยอะมากทำให้รถติดเป็นพอสมควร เธอจึงคิดที่จะเดินทางด้วยทางเท้าเพราะน่าจะใช้เวลาน้อยกว่าขึ้นรถโดยสารด้วยซ้ำไป
"ไม่รู้หรือไงว่าหอพักรวมมันอันตราย เดี๋ยวผมหาที่พักให้ใหม่" เควินเอ่ยเสียงดุที่เด็กทุนคนสวยของเขานั้นคิดถึงความสบายมากกว่าความปลอดภัย เด็กนี่ไม่รู้จักห่วงตัวเองบ้างเลยหรือไง ขนาดเขาเป็นคนอื่นเขายังนึกเป็นห่วงเลย
"คนอื่นเขายังอยู่ได้เลยนี่คะ หนูอยู่ได้ค่ะ" วิลาสินีแย้งเสียงเบา ไม่เข้าใจว่าเขาจะมาสนใจกับความเป็นอยู่ของเธอทำไมกัน เพราะเธอและเขาก็เป็นแค่เด็กทุนกับผู้ให้ทุนกันเท่านั้นเอง
"ยังจะเถียงอีก ไม่รู้ล่ะ ผมจะพาไปหาห้องวันนี้เลย กินอิ่มแล้วใช่ไหม ไปกัน" เควินหันไปทำหน้าดุใส่คนตัวเล็กแล้วลุกขึ้นยืน สายตาคมมองไปที่เด็กทุนคนสวยเพื่อกดดันให้เธอขยับตามเขากลาย ๆ
"หนูไม่ได้เถียงแค่บอกให้ฟัง แต่คุณไม่ต้องลำบากหาห้องให้หนูก็ได้ค่ะ หนูอยู่ได้จริง ๆ นะ" วิลาสินีค่อย ๆ ลุกขึ้นอย่างอ้อยอิ่ง จับสายกระเป๋าขึ้นสะพายไหล่ขณะที่ปากปฏิเสธความช่วยเหลืออย่างอ้อม ๆ และเธอก็เห็นสายตาคมดุให้อีกครั้ง
"ไม่ต้องพูดแล้ว ผมตัดสินใจแล้วว่าจะหาที่อยู่ให้ใหม่" พูดจบเควินก็เอื้อมมือไปจับท่อนแขนเรียวดึงให้เธอออกไปจากห้องอาหารพร้อมกัน
"แต่คุณเควินคะ ราคาห้องหนูสู้ได้แค่เดือนละสามพัน แพงกว่านี้หนูจ่ายไม่ไหวนะคะ ไม่อยากรบกวนแม่" วิลาสินีต้องบอกไปตามความจริงเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายที่เธอคำนวณไว้แล้วว่าแต่ละเดือนต้องใช้เท่าไรถึงจะให้พอดีกับเงินทุนที่ได้รับมาจากเขาในทุก ๆ เดือน เธอไม่อยากจะแบมือขอแม่ แล้วเธอก็คิดว่าจะหางานพาร์ตไทม์ทำด้วยเพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระของแม่ด้วย
"ผมจ่ายเอง ไม่ต้องหาข้ออ้างแล้ว ยังไงผมก็ไม่ให้เธออยู่ที่นั่นหรอก" เควินรู้สึกหงุดหงิดอย่างบอกไม่ถูกที่เด็กสาวหาข้ออ้างมาพูดกับเขาสารพัด นิ้วยาวยื่นไปกดเรียกลิฟต์ซ้ำ ๆ อย่างต้องการระบายความหงุดหงิดใส่มัน
"ทำไมล่ะคะ ที่นั่นก็สะดวกและก็สะอาดดีออก.." วิลาสินีพูดเสียงอ่อยแต่ก็ยังพยายามอธิบายให้เขาฟังว่าทำไมเธอถึงไม่อยากอยู่ที่อื่น
"เธอนี่ดื้อจริง อยากได้สะดวกกับสะอาดใช่ไหม ผมมีอยู่ที่หนึ่ง" เควินหันมามองใบหน้าสวยอย่างขุ่นเคือง เด็กคนนี้ดื้อจนเขาอยากจะจับมาฟาดก้นจริง ๆ
จังหวะนั้นลิฟต์ก็มาพอดี เมื่อประตูลิฟต์เปิดออกเควินก็ดันแผ่นหลังเล็กให้เดินเข้าไปก่อนแล้วเขาจึงเข้าตามเข้าไป
วิลาสินีมองนิ้วยาวกดชั้นลิฟต์อย่างปลงตก เธอคงจะขัดไม่ได้แล้วเมื่อคนตัวโตเอาแต่ตัดสินใจคนเดียวทุกอย่าง คุณใจดีของเธอกลายเป็นคนเผด็จการไปเสียแล้วหรือนี่
เควินขับรถพาวิลาสินีมายังคอนโดสร้างใหม่แห่งหนึ่งซึ่งอยู่ไม่ไกลจากมหาวิทยาลัยเท่าไรนัก เป็นคอนโดที่มีทำเลติดกับถนนใหญ่ ที่สำคัญมีรถไฟฟ้าใต้ดินผ่าน ซึ่งสถานีรถใต้ดินนั้นอยู่หน้าทางออกคอนโดพอดีและที่หน้ามหาวิทยาลัยก็มีสถานีรถไฟใต้ดินด้วยเหมือนกัน เรียกว่าการเดินทางไปเรียนของวิลาสินีนั้นไม่ต้องกังวลเรื่องรถติดเลย
"สะอาดแล้วก็สะดวกอย่างที่เธออยากได้" เควินเอ่ยพลางหน้าเด็กสาวอย่างผู้มีชัย กระตุกยิ้มมุมปากเมื่อเห็นใบหน้าสวยทำหน้ากระอักกระอ่วนเมื่อเขาได้จอดรถยังหน้าสำนักงานคอนโด เขาถอดเสื้อสูทออกแล้วโยนไปยังที่นั่งด้านหลัง ก่อนจะหันมาพับแขนเสื้อเชิ้ตให้ขึ้นไปที่ครึ่งท่อนแขนเพื่อความสบายตัว
"เอ่อ.. คุณเควินคะ" เสียงหวานเปล่งออกมาแผ่วเบา ขณะที่สายตายังจ้องมองตึกที่ตั้งตระหง่านเบื้องหน้าไม่วางตา
"หึหึ ลงจากรถได้แล้ว" เควินบอกก่อนจะเปิดประตูรถออกไปทำให้วิลาสินีต้องลนลานลงตามไป
เมื่อเดินเข้ามายังสำนักงาน เควินก็เจอกับเจ้าของคอนโดพอดี
"อ้าว เค มาทำอะไรวะ?" วายุเอ่ยทักเพื่อนสนิท วันนี้วายุเข้ามาดูความเรียบร้อยการจับจองคอนโดพอดีไม่งั้นก็คงจะไม่ได้เจอกัน วายุนั้นทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เขามีทั้งโรงแรม มีทั้งคอนโด ไหนจะรีสอร์ตอยู่ต่างจังหวัดอีกนับสิบแห่ง คอนโดนี้ก็เป็นโครงการใหม่ที่เพิ่งสร้างแล้วเสร็จ
"อยากซื้อคอนโดสักห้อง" เควินตอบเพื่อน แต่แล้วเขาก็ต้องชะงักเมื่อรู้สึกถึงแรงดึงเสื้อจากด้านหลัง เมื่อเอี้ยวตัวไปมองก็พบว่ามีมือน้อยดึงเสื้อเชิ้ตของเขาอยู่
"จะซื้อเลยเหรอคะ ราคาน่าจะแพงนะคะ" วิลาสินีขยับตัวไปใกล้ร่างสูงเพื่อกระซิบกระซาบ จะได้ไม่เป็นการเสียมารยาทจนเกินไปที่จะทำให้เจ้าของคอนโดรับรู้ว่าเธอคิดอย่างไรกับคอนโดนี้
"ที่นี่เขามีแต่ขายไม่มีเช่า" เควินตอบก่อนจะออกเดินเข้าไปหาเพื่อนโดยลากเอาคนตัวเล็กที่ยังไม่ปล่อยมือจากเสื้อให้เดินตามไปด้วย
"อยากได้ห้องแบบไหน?" วายุหยิบแผ่นพับซึ่งแยกขนาดและราคาของแต่ละห้องส่งให้เควิน เหลือบไปมองสาวน้อยที่ยืนเยื้องด้านหลังเพื่อนอย่างสงสัยกับสถานะของทั้งคู่ แต่เดี๋ยวค่อยถามก็แล้วกัน ตอนนี้ขอขายของก่อน
"ห้องที่ดีที่สุด" เควินพลิกแผ่นพับในมือลวก ๆ อย่างไม่ยี่หระกับขนาดห้องและราคาว่าจะต่างกันขนาดไหน แต่หลังจากที่เขาบอกเพื่อนไป ก็รู้สึกถึงแรงกระตุกของเสื้ออีกครั้ง
"คุณเควินคะ.." วิลาสินีเรียกคนตัวตัวโตเสียงเบาอย่างต้องการที่จะห้ามปราม ห้องที่เขาเลือกนั้นเกินความจำเป็นสำหรับเด็กอย่างเธอจริง ๆ
"อยู่เฉย ๆ ผมจัดการเอง" เควินหันไปบอกกับคนด้านหลัง
จากนั้นเควินก็ไม่สนใจเด็กสาวอีก เขาได้หันมาคุยเรื่องรายละเอียดต่าง ๆ เซ็นสัญญาซื้อขายและจ่ายเงินเสร็จสรรพ โดยมีสาวน้อยได้แค่นั่งมองตาปริบ ๆ โดยที่เธอไม่สามารถออกเสียงหรือความเห็นได้เลย
ราคาคอนโดที่สูงถึงสิบล้านนั้นทำเอาใจของวิลาสินีเต้นระรัว ลำพังแค่ทุนที่เขาให้เธอก็ถือเป็นพระคุณมากมายแล้ว แล้วเขามาซื้อคอนโดด้วยราคาที่สูงลิบลิ่ว เธอจะตอบแทนเขาได้อย่างไรหมด
"เรียบร้อยแล้ว พรุ่งนี้ขนของเข้าอยู่ได้เลยนะ" วายุบอกกับเควินหลังจากยื่นสัญญาซื้อขายให้เพื่อน ก่อนที่จะมองเลยไปยังสาวน้อยหน้าหวานที่ยืนทำหน้ากระอักกระอ่วนที่นั่งอยู่ข้างเพื่อนของตน ดูก็รู้ว่ามันซื้อคอนโดให้สาวน้อยคนนี้แน่นอน
"ได้ยินแล้วนะ พรุ่งนี้ก็ขนของมาอยู่ได้เลย กลับกันเถอะผมจะไปส่ง" เควินหันไปบอกกับเด็กสาวที่ทำหน้าอิหลักอิเหลื่อ แค่เขาซื้อคอนโดให้อยู่เองไม่ได้บังคับเธอมาเป็นเมียเสียหน่อย ทำไมต้องทำหน้าให้เขาอยากจับกดขนาดนั้นด้วยก็ไม่รู้
...........................
ก็เพราะคิดไม่ซื่อแบบนี้ไงลุง น้องถึงไม่เต็มใจรับของจากลุง55555