บทที่ 3

1416 คำ
  แก้วกานดากลับไปที่แผนกฝ่ายขายและได้ยินเพื่อนร่วมงานพูดถึงเจ้านายคนใหม่   ทุกคนมีเรื่องจะเล่าราวกับว่าพวกเขารู้จักเจ้านายใหม่เป็นอย่างดี   เมื่อมุก รุ่งเรืองเพื่อนร่วมงานของเธอเห็นเธอเข้า เธอรีบเข้าไปและพูดว่า "แก้วกานดา เธอโชคดีมากที่ได้เป็นคนแรกที่ทำงานเคียงข้างเจ้านาย"   แก้วกานดายิ้มจางๆ แล้วพูดว่า “ก็แค่ทำงาน ถึงเราจะอยู่ข้างกันก็ยังเป็นแค่งาน ถ้าเธอคิดว่าเธอทำงานได้ดีกับเจ้านาย เธอขอให้ผู้จัดการของเราส่งเธอไปทำงานให้กับเจ้านายในอนาคตสิ"   มุกรีบโบกมือแล้วพูดว่า "ถึงเจ้านายคนใหม่ของเราจะหล่อและมีเสน่ห์ แต่ฉันก็ไม่กล้าเข้าใกล้เขาให้โดนสายตาและเส่ห์ของเขาหรอกนะ"   “บอสใหม่จะมาตรวจงานประจำวัน กลับไปที่ตัวเองและทำในสิ่งที่ควรจะทำได้ละ!” ศศินา โอสถา ผู้จัดการฝ่ายขาย เดินเข้ามาในสำนักงานและดุลูกน้อง   บอสใหม่กำลังมาตรวจงาน!   เมื่อได้ยินข่าวนี้ แก้วกานดาก็อดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลายด้วยความกลัว เธอประหม่ามากจนหัวใจแทบตกอยู่ตาตุ่ม   เธอยังต้องการเวลาเพื่อทำความเข้าใจความจริงที่ว่า กร สามีหมาดๆ ของเธอเป็นเจ้านายใหม่ของบริษัท เธอไม่พร้อมที่จะเผชิญหน้าเขาไปสักพัก   เพื่อนร่วมงานคนอื่นต่างกลับไปนั่งที่ยกเว้นแก้วกานดาที่ยังคงยืนงงอยู่ตรงนั้น ศศินามองไปที่แก้วกานดาและถามว่า "แก้วกานดา เธอไม่มีอะไรทำเหรอ"   "ฉันสบายดีค่ะ" แก้วกานดารู้สึกตัวและกำหมัดเงียบๆ เธอรีบกลับไปที่ที่นั่งและเปิดคอมพิวเตอร์เพื่อตรวจสอบข้อมูลของลูกค้า   ผ่านไปครู่หนึ่ง เสียงกริ่งลิฟต์ก็ดังขึ้น และกรซึ่งรายล้อมไปด้วยกลุ่มคนก็ปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าแก้วกานดาอีกครั้ง   โชคดีที่กรแค่มาทักทายพนักงานของแผนกอย่างเร็วๆ หลังจากฟังรายงานสั้นๆ จากศศินาแล้ว เขาก็นำกลุ่มคนออกไป   หลังจากที่กรจากไป ทั้งแผนกก็กลับมาเสียงดังอีกครั้ง แม้แต่ศศินาซึ่งปกติแล้วขึงขังมาก ก็อดจะซุบซิบกับคนอื่นไม่ได้   หัวข้อเดียวที่พวกเธอพูดถึงคือเจ้านายสุดหล่อคนนี้แต่งงานหรือยัง   แก้วกานดาฟังบทสนทนาของพวกเธอและไม่พูดอะไร เธอกำลังคิดว่าถ้าผู้หญิงกลุ่มนี้รู้ว่าชื่อของเธอระบุว่าเป็นคู่สมรสในทะเบียนสมรสของเจ้านาย เธอจะถูกพวกหล่อนถลกหนังทั้งเป็นไหมนะ   ในที่สุดวันทำงานที่ตึงเครียดนี้ก็ผ่านไป แก้วกานดาเก็บของกลับบ้านหลังจากที่เพื่อนร่วมงานของเธอออกไปหมดแล้ว   เมื่อเธอเสร็จงานในตอนกลางวัน ความคิดแบบไหนที่เธอต้องมีเพื่อเผชิญหน้ากรในตอนกลางคืน?   แก้วกานดาไม่รู้จริงๆ ว่าต้องทำอย่างไร เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเธอควรกลับไปที่ "บ้าน" ของเธอกับกรหรือไม่   นอกอาคาร แก้วกานดามักจะเลี้ยวขวาไปสู่ทางเข้า B ของรถไฟใต้ดิน หลังจากเดินมาได้ซักพัก เธอก็จำได้ว่าตอนนี้เธออาศัยอยู่กับสามีของตัวเองแล้ว   อพาร์ตเมนต์ของกร อยู่ไม่ไกลจากเทค วัลเลย์ แค่ป้ายรถเมล์สามป้าย หรือเดินเท้าครึ่งชั่วโมงก็ถึงแล้ว   แก้วกานดามองดูเวลา ตอนนี้เพิ่งจะห้าโมงเย็น แต่ เธอไม่รู้ว่าจะเผชิญหน้ากับกรอย่างไร เธอจึงเลือกเดินกลับบ้าน เธอค่อยๆ คิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างพวกเขา   แก้วกานดาตัดสินใจซื้อผักและเนื้อจากซูเปอร์มาร์เก็ตใกล้ๆ ไม่ว่าปัญหาจะใหญ่แค่ไหน การอิ่มท้องก็ยังเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรก   เธอไม่รู้ว่ากรชอบกินอะไร เธอจึงหยิบโทรศัพท์ออกมาแล้วอยากจะโทรไปถาม แต่เธอกังวลว่าเขาจะไม่สะดวกรับสาย เธอจึงใส่กลับเข้าไปในกระเป๋า   หลังจากซื้อวัตถุดิบแล้ว เธอก็นำกลับบ้าน   เมื่อเธอใกล้ถึงลิฟต์ของอพาร์ตเมนต์ เธอก็เห็นร่างที่คุ้นเคย เขาหันหน้าไปทางลิฟต์และยืนตัวตรงมาก เขาสวมสูทสีเทาอ่อน   หุ่นของกรดีมาก จากระยะไกลเขาช่างดูดี   แก้วกานดายังคงไม่เข้าใจว่าทำไมผู้ชายที่โดดเด่นเช่นนี้ ซึ่งเป็นหัวหน้าบริษัทใหญ่ๆ จึงไปนัดบอดและเธอคือผู้หญิงโชคดีที่ได้รับเลือก   "คุณกลับมาแล้ว" แก้วกานดาเดินเข้าไปและพยายามทักทายเขาแบบสบายๆ   "ครับ" กรหันกลับมามองเธอ เขาไม่ได้เปลี่ยนสีหน้า เขายังคงเฉยเมยเล็กน้อย   แก้วกานดายิ้มจางๆ ให้เขาและยืนอยู่ข้างๆ เขา   เธอเหลือบมองเขาและรู้สึกว่าเขาดูเปลี่ยนไปเล็กน้อยในวันนี้ เธอไม่รู้ว่าอะไรกันแน่ที่ต่างไปจากเดิม   เธอมองเขาจากหางตา ปรากฏว่าวันนี้เขาสวมแว่นกรอบสีทองทำให้เขาดูสงบและยับยั้งชั่งใจมากขึ้น   แก้วกานดาถอนหายใจอย่างเงียบ ๆ ในใจ อีกแล้วที่ผู้ชายคนนี้พูดเพียงน้อยคำเมื่อเจอเธอในวันนี้ ปกติเขาก็เป็นคนพูดน้อย เธอไม่รู้ว่าต้องทำอะไร เธออยากจะลดช่องว่างระหว่างพวกเขา   ตอนนี้เธอรู้ถึงตัวตนที่แท้จริงที่น่าตกใจของเขาแล้ว เธอไม่รู้ว่าจะเข้าหาเขาอย่างไร   ขณะที่เธอกำลังคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ จู่ๆ กรก็ยื่นมือออกมาหาเธอ แต่เธอก็ก้าวถอยหลังเล็กน้อยโดยไม่รู้ตัวเพื่อรักษาระยะห่างจากเขา   “ผมจะถือของให้คุณ” เขาพูดอย่างสงบ เขาไม่ได้โกรธแม้ว่าเธอจะรักษาระยะห่างของตัวเอง เขากลับหยิบถุงในมือขึ้นมาแทน   แก้วกานดารู้สึกว่าใบหน้าของเธอร้อนผ่าว เขาแค่อยากจะช่วยเธอถือถุง แต่เธอกำลังคิดมากเกินไป   เธอมองลงไปยังแขนที่แข็งแรงของกรซึ่งถือถุงใบใหญ่อย่างง่ายดาย ความรู้สึกอบอุ่นโจมตีหัวใจของเธอ   เธอคิดในแง่ดีว่า "ถึงแม้จะไม่มีความรัก แม้ว่าเขาจะเป็นเจ้านายที่บริษัท ตราบใดที่พวกเขาสองคนสามารถอุทิศตนเพื่อจัดการชีวิตแต่งงานนี้ได้ มันก็คงจะไม่เป็นไร"   ทั้งสองเข้าไปในลิฟต์ และไม่มีใครพูดอะไรระหว่างขึ้นลิฟต์   หลังจากกลับถึงบ้าน กรวางของในครัวแล้วพูดเบาๆ ว่า “ผมทำอาหารไม่เป็น คืนนี้ผมคงจะต้องรบกวนคุณ”   “คุณทำงานของคุณไปเถอะค่ะ ปล่อยให้ทำอาหารเป็นหน้าที่ของฉันเอง” แก้วกานดาเก็บกระเป๋า ถอดเสื้อคลุมออก และสวมผ้ากันเปื้อน   “ขอบคุณครับ” เขาพูดเบาๆ   “คุณก็สุภาพเกินไป” คาเรนฝืนยิ้ม ซึ่งรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย   พวกเขาเป็นสามีภรรยากันแล้ว แต่วิธีที่พวกเขาอยู่ด้วยกันกลับรู้สึกเหมือนเป็นคนแปลกหน้าสองคน   เธอรู้สึกว่าการที่ภรรยาทำอาหารให้สามีเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผล แต่วิธีการพูดของเขาทำให้เกิดระยะห่างระหว่างทั้งสอง   เธอคิดว่าแม้ว่าการแต่งงานของพวกเขาจะไม่ได้เกิดจากความรัก แต่ปฏิสัมพันธ์ของพวกเขาก็ไม่ควรห่างกันมากนัก   เธอไม่ได้คิดมากเกี่ยวกับมันอีกต่อไป เธอหันกลับมาและเดินไปที่ห้องครัว เธอรีบล้างข้าวและใส่ลงในหม้อ แล้วเธอก็แยกผักล้างให้สะอาด...   ผ่านไปครู่หนึ่ง จากหางตาของแก้วกานดา เธอเห็นร่างสูงยืนอยู่ที่ประตูห้องครัว เธอหันกลับมาถาม “มีอะไรเหรอคะ?”   “ถ้าคุณต้องการความช่วยเหลือ บอกผมนะ” กรยืนแข็ง น้ำเสียงของเขายังคงสงบ แต่ก็ฟังดูเป็นกังวลเล็กน้อย   “รอเดี๋ยวนะคะ ใกล้เสร็จแล้ว!” แก้วกานดาโผล่หัวออกมาและมองดูนาฬิกาที่แขวนอยู่บนผนังในห้องนั่งเล่น ตอนนี้เป็นเวลาทุ่มครึ่งแล้ว และเขาอาจหิวโซ   เธอคิดในใจว่า “พรุ่งนี้ฉันต้องรีบกลับหลังเลิกงาน ฉันควรจะทำอาหารให้เร็วกว่านี้ เพื่อที่เขาจะได้กินทันทีเมื่อเขากลับมาบ้าน”   ไม่ว่ากรจะเป็นใคร การแต่งงานครั้งนี้เธอเลือกเอง เธอต้องพยายามทำให้ดีที่สุด
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม