Chapter 6 อสุรกายร้าย
หากว่าเขาได้เงินทองมากมาย เขาจะหาหญิงสาวหน้าตาสะสวยอีกกี่สิบคนก็ย่อมได้ ก็แค่ลูกเลี้ยงปากดีจองหองคนเดียวจะเสียดายทำไมกัน ขืนชักช้ามนรดาเกิดมีคนรักขึ้นมา เยื่อพรหมจรรย์ที่ควรจะตีค่าเป็นเงินทองมากมายมหาศาลคงอันตรธานหายไปในพริบตา
‘แกจะพาฉันไปไหน’ มนรดาพยายามตั้งสติ สูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ อย่างน้อยเธอน่าจะพยายามลองเกลี้ยกล่อมดู เป็นการประวิงเวลาเผื่อว่ามารดาจะกลับมาจากตลาดเร็วขึ้น หรือไม่หากโชคดีมีใครสักคนผ่านมาเธอจะได้รีบร้องขอความช่วยเหลือ
‘เข้าป่า’ ยศพลเดินไปหยิบผ้าอีกผืน แล้วสาวเท้าเข้าหาลูกเลี้ยงด้วยดวงตากักขฬะดูคล้ายคนเป็นโรคจิตวิปลาส
‘พาฉันไปในป่าทำไม’ เธอคาดเดาว่ายศพลคงพาเธอไปขายให้เสี่ย หรือนักการเมืองผู้มีอิทธิพลคนใดคนหนึ่ง เพราะพ่อเลี้ยงติดการพนัน ติดเหล้า และมีหนี้สินล้นพ้นตัว แต่ ‘ป่า’ เป็นสถานที่ที่เธอคาดไม่ถึง และไม่อาจคาดเดาว่ามันจะพาเธอไปที่นั่นทำไม
‘อื้อ!’ มนรดาร้องเสียงหลงเมื่อพ่อเลี้ยงใช้ผ้าปิดปากของเธอเอาไว้ จบกัน! แล้วเธอจะร้องขอความช่วยเหลือจากใครได้
‘ฉันจะพาแกไปสังเวยให้กับอสุรกายในป่า แลกกับเงินทองมากมายที่ฉันจะใช้ไปทั้งชาติไม่มีวันหมด” ยศพลยิ้มเหี้ยมมองเข้าไปในดวงตาเหลือกโพลงของลูกเลี้ยง ก่อนจะพูดพล่ามอย่างมีความหวังต่อไปว่า “แต่แกไม่ต้องกลัวหรอกนะ ครบ 7 คืนเมื่อไหร่มันก็จะปล่อยแกออกมาจากป่า ฉันจะไปรอรับแกกลับมา...’
หนุ่มใหญ่หยักยิ้มที่มุมปาก มองไปยังหน้าอกขนาดใหญ่ของเด็กสาวที่กระเพื่อมขึ้นลงตามจังหวะการหายใจ สะโพกผายได้รูปรับกับเอวคอดกิ่วแม้จะสวมเสื้อยืดตัวหลวมแต่ก็มิอาจซ่อนเร้นเนื้อนมไข่ได้เลย แล้วยังเรียวขาสวยที่สวมกางเกงยีนขาสามส่วนเอาไว้อย่างน่าหลงใหลนั่นอีกเล่า รับรองเลยว่าอสุรกายหมาป่าต้องพอใจในเครื่องเซ่นจนบันดาลเงินทองให้เขามากมาย
‘ถ้าแกโชคดีมีชีวิตรอดกลับมา ฉันก็ยินดีรับของเหลือเดนด้วยความเต็มใจ แต่ถ้าแกโชคร้ายถูกอสุรกายฆ่าตายในป่าฉันจะเจียดเศษเงินทำบุญไปให้’ พูดจบก็หยิบผ้าอีกผืนมาปิดตาเธอเอาไว้แล้วแบกเธอออกจากบ้าน ยัดใส่ลงไปในรถยนต์สภาพบุโรทั่งอย่าไม่อินังขังขอบว่าหญิงสาวจะได้รับบาดเจ็บหรือไม่
‘ไอ้อาติอั้ว!’ มนรดาร้องด่าฟังไม่ได้ศัพท์ด้วยความโกรธ
ไร้สาระ! นี่พอเลี้ยงของเธอติดสุราขั้นหนักจนสติเลอะเลือนหลงเชื่อเรื่องเล่าเพ้อเจ้อพวกนี้ด้วยหรือนี่ หากว่ายศพลพาเธอไปเซ่นบูชาในป่าเธอก็คงต้องตายเพราะสัตว์ร้ายอย่างเสือ สิงโต หรือไม่ก็ถูกยุงและสัตว์มีพิษกัดจนป่วยตาย สมัยนี้แล้วจะมีอสุรกายหมาป่าได้ยังไง เรื่องเล่าหลอกเด็กชัดๆ
หญิงสาวไม่รู้เลยว่าตอนนี้เธออยู่ที่ไหนแล้ว รู้แต่เพียงว่าเธอปวดเมื่อยไปหมดทั้งตัวที่ต้องนอนอยู่บนหลังรถทั้งที่ถูกมัดแขนขา ปิดปากปิดตาจนไม่สามารถทรงตัวหรือช่วยเหลือตัวเองได้เลย ต่างจากพ่อเลี้ยงจิตป่วยที่ฮัมเพลงอย่างมีความสุขไปตลอดทาง
หัวใจของหญิงสาวตกลงไปอยู่ที่ตาตุ่มเมื่อรถยนต์ดับเครื่องลงพร้อมกับเสียงเปิดประตูลงจากรถ อึดใจเดียวเสียงประตูด้านหลังก็เปิดออก เจ้าของมือหนาสากกระชากเธออย่างแรงก่อนจะแบกเธอขึ้นบ่าแล้วก้าวยาวเข้าไปในป่าอย่างรวดเร็ว
เธอมั่นใจว่าเธอกำลังอยู่ในป่า! เพราะเธอได้ยินเสียงนก เสียงลม และเสียงใบไม้เสียดสี หลายครั้งที่กิ่งไม้ขูดไปตามร่างกายของเธอ ไอ้พ่อเลี้ยงใจโฉดมันกำลังพาเธอไปที่ไหนกันแน่ หรือมันจะเอาเธอไปขายให้พวกมาเฟียที่ผลิตยาเสพติดตามชายแดน ถ้าเป็นเช่นนั้นชีวิตเธอคงมืดแปดด้านเพราะไม่รู้ว่าจะหลบหนีจากพวกมาเฟียทรงอิทธิพลยังไง
ขณะที่มนรดากำลังสิ้นหวัง ยศพลกลับยิ้มกว้างด้วยความหวัง เขาแบกลูกเลี้ยงสาวอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ก้าวเข้าไปในป่าลึกตามคำบอกเล่าที่ได้ยินมา แล้วเขาก็เบิกตากว้างเมื่อพบน้ำตกขนาดใหญ่ตรงกับคำบอกเล่า น้ำตกซึ่งดูเหมือนว่าจะไม่เป็นที่รู้จักจึงเงียบสงัดได้ยินเพียงเสียงสายน้ำตกกระทบหินกระเซ็นกระสายไปทั่วจนอากาศบริเวณนั้นค่อนข้างเย็นยะเยือก
‘ถ้ามึงไปถึงน้ำตกมึงก็เดินอ้อมไปทางด้านขวา ด้านหลังน้ำตกจะมีแท่นหินบูชายัญ มึงเอาผู้หญิงไปวางไว้แล้วสวดอ้อนวอนเรียกอสุรกายหมาป่าออกมารับเครื่องบรรณาการ แต่มึงต้องเอาผู้หญิงพรหมจรรย์ไปเท่านั้นนะ เพราะถ้ามึงเอาผู้หญิงไม่บริสุทธิ์ไปเซ่นไหว้มึงโดนฆ่าตายเป็นผีเฝ้าป่าแน่’
ยศพลยิ้มกว้างเมื่อเดินอ้อมมาด้านหลังน้ำตกแล้วพบแท่นหินเก่ารกร้าง มีเครือไม้และเถาวัลย์มากมายพันเกี่ยวแท่นหินเอาไว้จนแทบมองไม่ออก เขารีบนำร่างมนรดาไปวางลงบนแท่นหินทันที
‘อ่อย! อ่อยอั้นนะ ไอ้อั้ว!’ มนรดาร้องด่าจนสุดเสียง ตกใจเมื่อแผ่นหลังของตนกระทบกับแผ่นหินแข็งกระด้างเย็นเยียบ เธอไม่รู้เลยว่าตอนนี้เธอกำลังตกอยู่ในสถานการณ์อะไร เพราะเธอมองไม่เห็นอะไรเลย พยายามเงี่ยหูฟังก็มีเพียงเสียงเดินไปเดินมาของยศพล ไม่มีเสียงของคนอื่นเลยสักคน
ยศพลคุกเข่าลงที่พื้นตรงหน้าแท่นหิน ยกสองมือขึ้นพนมตรงกลางอก ก่อนจะเริ่มอ้อนวอนขอในสิ่งที่ต้องการออกมาด้วยน้ำเสียงดังฟังชัด ‘ข้าพเจ้านายยศพล ขอสวดอ้อนวอนต่อท่านอสุรกายหมาป่า ข้าพเจ้านำเครื่องบรรณาการซึ่งเป็นสาวพรหมจรรย์มาเซ่นไหว้ ขอได้โปรดรับและประทานเงินทองความมั่งมีให้ข้าพเจ้าด้วยเถิด...’ เมื่อสิ้นสุดคำพูดของยศพล ทุกสรรพสิ่งรอบตัวเงียบสงัดไม่มีเสียงตอบรับใดๆ ตอบกลับมามีเพียงสายลมเย็นที่พัดผ่านไปอย่างแผ่วเบา