“ฉันไม่บ้ากับคุณหรอกนะ!...ไอ้คนโรคจิต มหาเศรษฐีโรคจิต!”
โธมัสจับข้อมือของเธอกดลงกับที่นอนอีกครั้ง คราวนี้เขาจ้องลึกเข้าไปในดวงตางามด้วยแววตาวาวโรจน์
“โรคจิตอย่างนั้นเหรอ...ถ้าอย่างนั้นลองรสชาติของเศรษฐีโรคจิตหน่อยเป็นไง จะได้รู้ว่ามันถึงใจขนาดไหน ผมรู้ว่าคุณก็อยากจนสั่นไปทั้งตัวอยู่แล้ว ไอ้ที่สั่นนี่สั่นสู้ใช่มั้ย”
“ออกไปนะ!...ออกไปจากตัวฉันเดี๋ยวนี้...อื๊อ!” เทียนกัลยาอ้าปากแต่ก็สายเสียแล้ว เสียงประท้วงของเธอหายเข้าไปในปากของโธมัส คราวนี้เขาไม่ได้ปิดปากเธอไว้อย่างเดียวแต่ยังกดสะโพกสอบหนาเปลือยกับตัวเธอ ความแข็งขันของเขากดแนบบนเนินสามเหลี่ยม เขากำลังบดขยี้ความเป็นสาวของเทียนกัลยาอย่างที่ไม่เคยมีผู้ชายคนไหนทำอย่างนี้มาก่อน เธอพยายามส่งเสียงร้องแต่กำลังกายกำลังถดถอยลงทุกขณะ บ้าที่สุด! นี่เธอเป็นอะไรไป ทำไมจู่ ๆ แรงถึงถดถอยและร้อนวูบวาบไปหมดในช่องท้อง ยิ่งตอนที่เขาบดเบียดแก่นชายบนเนินสาวยิ่งทำให้เธอวาบหวาม โอ...ไม่นะ...
“โธมัส...มะ...เมื่อกี๊...วอดก้านั่น...เพราะคุณใช่มั้ย” เธอถามเสียงหอบพร่า นัยน์ตาเริ่มร้อนผ่าวและเห็นรอยยิ้มเหยียดบนปากได้รูป เขาเลิกปากขึ้น
“มันออกฤทธิ์ค่อนข้างเร็วสักหน่อย”
“วอดก้า...อย่างนั้นเหรอ”
“ยาที่ใส่ในนั้น...ผมว่ามันจะทำให้คุณมีความสุข ไม่ใช่แค่หนึ่งครั้ง แต่จะร้องขอให้ผมช่วยคุณไปสวรรค์ทั้งคืนเลยทีเดียว”
“ไม่...ไม่...” ดูเหมือนยิ่งสายไป เทียนกัลยารู้สึกราวกับว่าเธอกำลังดิ่งลงไปในสายน้ำเชี่ยวกรากของอารมณ์ จู่ ๆ เธอก็ร้อนรุ่มจนท่าทีเป็นปฏิปักษ์กับร่างกายของเขาเปลี่ยนไปโดยฉับพลัน เรือนกายกำยำของโธมัสกำลังกระตุ้นเร้าอารมณ์ของเธอให้โลดทะยานขึ้นที่สูง เขาบดเบียดอกกว้างเข้าหา เทียนกัลยาหยุดร่ำร้องให้เขาปลดปล่อย เธอกำลังทำในสิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อน
“โอววว...โธมัส...อือ...ยะ...อย่า...” เทียนกัลยาพยายามส่งเสียงร้องแต่เนื้อตัวของเธอกำลังทำในสิ่งตรงข้ามกับการร้องขอ เธอแอ่นกายสู้ อกอวบใหญ่เกินตัวเบียดกับอกหนั่นแน่นด้วยมัดกล้าม เขารู้สึกว่าเธอกำลังเคลิบเคลิ้มและคล้อยตาม เธอไม่ปฏิเสธเขาและเปิดทางด้วยการเป็นฝ่ายสนองจูบอย่างเร่าร้อน ปลายลิ้นของเขาและเธอสัมผัสกันในโพรงปากของทั้งคู่ที่ประกบปิดแน่น โธมัสดันตัวแนบชิดและปล่อยมือเธอให้เป็นอิสระ เทียนกัลยาไขว่คว้าและกอดรัดเขาไว้แนบแน่น เธอร้อนรนและปรารถนาให้เขาสนองกลับเฉกเช่นเดียวกัน
บทที่ 6
โธมัสจุ่มจ้วงลิ้นในปากเล็ก ดูดดุนและยิ่งซาบว่านในอารมณ์ เขาไม่ได้ดื่มวอดก้าก็จริงแต่กลิ่นไอจากกายสาวเย้ายวนทำให้เขาลุ่มหลง เขาตื่นเต้นและตื่นตัว ลำกลางกายแข็งชัน ปากได้รูปเลื่อนจากกลีบปากนุ่มราวกำมะหยี่ลงมาซุกไซ้ซอกคออีกครั้งแล้วเลื่อนลงไปเพื่อครอบครองปลายถันสีชมพูอย่างกระหายหิว
“อือ...อะ...อาส์...อ๊าส์!” เทียนกัลยาร้องเสียงสั่นและหอบสะท้านด้วยความสยิว ความซาบซ่านจากรสลิ้นและปากของโธมัสที่กำลังกลืนกินยอดปทุมงาม ดอกบัวทั้งสองตูมเต่งแข็งเป็นไตราวกับมันกำลังตื่นระริกไหวไปกับปากชุ่มฉ่ำ มือสากหนาแข็งแกร่งเลื่อนลูบไปมาบนเอวคอดและสะโพกผายอวบแน่น กลิ่นสาวยั่วยุกำหนัดของเขา อารมณ์ร้อนเร่าทะยานขึ้นสูง
“อืมส์....อูยยยย....ซี๊ดดดด....อูยส์....ซี๊ดดดด....อ่าส์...โธมัส...พะ...พอแล้ว” เธอร่ำร้องเหมือนจะขาดใจ ปากบอกให้พอแต่สะโพกอวบขาวกลับหยัดขึ้นรับปลายลิ้นพลิ้วไหว มัสกระชับเอวคอดงามด้วยมือแข็งแรงทรงพลัง เขาขยับตัวอยู่เหนือเธอแม้เสียดายรสนุ่มลิ้นที่หยอกเอินยอดเต้าสีสวย นัยน์ตาสีเขียวมรกตเป็นประกายยามสบตาคู่งามอย่างมีความหมาย โธมัสกดแก่นชายที่ผงาดลำตึงตัวกับเนินสาว เขาหอบหายใจสะท้อนไม่ต่างจากเทียนกัลยาที่สบนัยน์ตาของเขาด้วยอารมณ์วาบหวามรุนแรง
“โธมัส...พอเถอะค่ะ...อย่าทรมานกันอีกเลย” เธอร้องแต่เขากลับเหยียดยิ้มพึงพอใจ เขาส่ายหน้าไปมา
“พระเจ้า...จะให้ผมหยุดงั้นเหรอ ดูคุณซี...ตาของคุณมันฟ้องว่าคลั่งผมจะบ้าอยู่แล้ว”
“ใช่....โอ...ฉันพูดแบบนี้ได้ยังไง...ตะ...แต่...คุณทำอะไรกับฉัน...ไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน...จะไม่ไหวอยู่แล้วนะคะ”
“ถ้าอย่างนั้นเราก็มาสนุกกันให้สุด คืนนี้ผมจะทำให้คุณร้องจนหายอยากเลยทีเดียว....อ่าส์...พระเจ้า...ให้ตาย...ผมอยากลองคุณใจจะขาดอยู่แล้ว...ซี๊ดดดด”
เขาครางก่อนจับขาเรียวงามแยกออกห่าง เทียนกัลยาสะดุ้งเมื่อรู้สึกว่าเนื้อแข็งชันของเขาถูไถขึ้นลงตรงกลางกลีบฉ่ำหวาน โธมัสลากถูท่อนเอ็นร้อนของเขาบนเนินสวาท ส่วนปลายแดงก่ำกำลังแหวกกลีบผกาให้แยกออกเพื่อมันจะได้เคล้าคลึงยอดเกสรที่แอบซ่อนอยู่ข้างใน เทียนกัลยาส่ายสะบัดหน้าสวยไปมา
“อ๊าย!....ซี๊ดดด....อ๊าย...โธมัส...ชะ....ช่วยที....ซี๊ดดดด”
“โอววว....ผมต้องช่วยคุณอยู่แล้ว...ให้ผมเข้าไปนะยาหยี....อุวววว....ซี๊ดดดดด” โธมัสก้มลงมองขาเรียวของเทียนกัลยา