ตอนที่ 1
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นและทำให้เทียนกัลยาที่เพิ่งตื่นนอนลืมตาอย่างงัวเงีย นักศึกษาสาวเอกเลขาชั้นปสุดท้ายอยู่ในสภาพของคนอดหลับอดนอนมาเกือบตลอดทั้งคืน ตาหล่อนไม่ต่างจากหมีแพนด้าแต่ก็ยังเห็นเค้าความสวยน่ารักหมดจดของสาววัยสะพรั่งเต็มที่ หล่อนอายุ 23 ย่าง 24 และกำลังจะเรียนจบปีนี้ เมื่อรับโทรศัพท์จึงตอบกลับไปว่า
“อ้อยมีอะไรโทรมาหากันแต่เช้าเลยนี่อยู่เพิ่งตื่นนะเมื่อคืนยังไม่ได้นอนเลย” เทียนกัลยาพูดเสียงงัวเงียก่อนที่จะได้ยินเสียงอีกฝั่งหนึ่งตอบกลับมาว่า
“ตื่นก่อน ตื่นก่อนยู...อ้อยมีเรื่องอะไรที่จะมาให้อยู่ช่วยอ้อยสักหน่อย”
เสียงนั้นเป็นเสียงของอ้อยใจซึ่งเป็นเพื่อนที่ร่วมเรียนเอกวิชาเดียวกันและถือได้ว่าเป็นเพื่อนที่มีความสนิทสนมกันมากกับเทียนกัลยา
“เรื่องอะไรนะอ้อยก็รีบรีบพูดมาสิฟังเสร็จแล้วเดี๋ยวจะได้นอนต่อ”
“ไม่ต้องรีบนอนหรอกนะเรื่องที่จะบอกกับยูเนี่ยเป็นข่าวดีนะรู้ไหม”
“นี่ยังมีข่าวดีสำหรับอยู่อีกเหรอ รู้ไหมว่าตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาอยู่ไม่ได้รับข่าวดีอะไรเลยนะนอกจากต้องรีบทำรายงานส่งอาจารย์จนหัวฟูอยู่ตอนนี้น่ะเมื่อคืนนี้ก็ทำไม่ได้หลับไม่ได้นอนเลยงานกลุ่มทักทายช้าๆแต่ยูต้องมานั่งทำคนเดียวก็ยังไม่เข้าใจอีกเหรอ?”
“เรื่องนั้นน่ะเอาไว้ก่อนแต่เรื่องที่สำคัญตอนนี้ก็คือว่าอ้อยน่ะมีอะไรที่จะรบกวนให้อยู่ช่วยอ้อยสักหน่อยก็คืออย่างนี้นะคืนนี้ อ้อยรับงานเอ็นเอาไว้ แต่ว่าอ้อยติดธุระก็เลยอยากจะอยู่ช่วยอะไรอ้อยหน่อย แค่ให้อยู่ไปแทนอ้อยไปต้อนรับมหาเศรษฐีเพราะว่าอ้อยรับงานเอาไว้ แต่ว่าพอดีมันติดธุระจริง ๆ ก็เลยต้องมาขอให้ยูช่วยเนี่ย”
“ว่าไงนะจะอยู่ไปรับงานเองค่ะต้อยอย่างนั้นเหรอ”
“ว่ายังไงนะจะให้ยูไปรับงานเอ็นแทนอ้อยอย่างนั้นเหรอ”
“ก็ใช่น่ะสิ อย่าบอกนะว่ายูน่ะหยุดรับงานช่วงนี้ ก็เมื่อสัปดาห์ก่อนยังเห็นอยู่ไปรับงานเอ็นให้รุ่นพี่อยู่เลย”
เสียงของอ้อยใจที่ดังมาอีกฝั่งทำให้เทียนกัลยารู้สึกตงิด ๆและเริ่มไม่สบายใจขึ้นมา จริง ๆ แล้วนักศึกษาสาวชั้นปีสุดท้ายเอกเลขานุการมีเบื้องหลังคือการรับงานเป็นเด็กเอ็นเตอร์เทนให้กับแขกในบาร์และโรงแรมแต่สำหรับเทียนกัลยาแล้วที่เธอต้องรับงานประเภทนี้ก็เพราะทางบ้านไม่สามารถส่งเสียให้เธอเรียนในมหาวิทยาลัยชื่อดังและค่าเทอมแพงได้ แต่เทียนกัลยาก็มีขีดจำกัดในการรับงานนั่นก็คือเธอจะไปนั่งเป็นเพื่อนและรับเฉพาะแขกที่มีความสุภาพและเธอเห็นแล้วว่าไม่พูดจารุ่มร่ามและไม่มีการลวนลามส่วนใหญ่จะเป็นแขกชั้นนักธุรกิจที่เธอเองเห็นว่าคนเหล่านั้นเป็นนักธุรกิจระดับ hi class โดยที่ตัวเธอเองไม่ปล่อยปละละเลยให้คนที่มีกิริยาวาจาไม่ดีมาลวนรามหรือไม่ก็แสดงท่าทีที่ไม่ดีกับเธอ พูดง่าย ๆว่าเทียนกัลยายังไม่เคยพลาดพลั้งหรือเสียท่าให้กับคนเหล่านั้นเพราะเธอตั้งใจทำงานเพื่อรับเงินและนำมาเป็นค่าเทอม ใช้ในชีวิตประจำวันเพื่อที่วันหนึ่งเธอจบการศึกษาแล้วก็จะได้งานทำเป็นเลขาในบริษัทใหญ่ ๆ และถ้าหากว่ามีงานไหนที่จะให้เธอทำมากกว่าการเป็นเด็กเอ็นเตอร์เทนนั่นก็คือถ้าแขกต้องการที่จะทำเกินเลยมากกว่านั้นเธอก็จะปฏิเสธทันที และสิ่งที่ทำให้เพื่อนกัลยารู้สึกไม่ค่อยสบายใจเพราะช่วงนี้เธอไม่ค่อยจะได้รับงานเอ็นสักเท่าไหร่นั่นก็เพราะว่าเธอใกล้จบการศึกษาและตั้งใจว่าจะทำรายงานส่งอาจารย์ก่อนเรียนจบและเมื่อสอบเสร็จแล้วเธอก็ตั้งใจว่าจะหยุดรับงานเอ็นหยุดการเป็นเด็กเอ็นด้วยถาวรและตั้งใจสมัครงานอย่างที่เธอต้องการ
“ว่าไงล่ะ ทำไมถึงได้เงียบไปล่ะยู”
“สัปดาห์ก่อนยูรับงานก็จริงนะแต่ตั้งใจแล้วว่าสัปดาห์นี้จะตั้งใจทำรายงานส่งอาจารย์แล้วก็คิดว่าจะหยุดรับงานเอ็นเป็นการถาวรแล้วเพราะว่ายูตั้งใจว่าสอบเสร็จเรียนจบแล้วอยู่ก็จะสมัครงานเป็นเลขานุการในบริษัทใหญ่ ๆ น่ะอ้อย”
“โอ๊ย...เรื่องนั้นยูจะต้องคิดกังวลไปทำไมในเมื่อเราก็แน่ใจอยู่แล้วว่าเราน่ะก็ต้องจบอย่างแน่นอน แต่ว่าอ้อยน่ะอยากจะอยู่ช่วยอ้อยอีกสักงานนึงเป็นงานสุดท้ายก็ได้นะเพราะว่างานนี้น่ะมันสำคัญมากจริง ๆ นะไ
“สำคัญขนาดไหนกันน่ะอ้อย”
“ก็สำคัญมากเพราะว่าแขกคนนี้เป็นมหาเศรษฐีเขาเป็นลูกครึ่งไทยรัสเซียแล้วก็เป็นเจ้าของเหมืองเพชรชื่อดังด้วยนะ แต่คนที่รับงานมาอีกทีเขาไม่ยอมเปิดเผยชื่อของมหาเศรษฐีคนนี้ให้อ้อยรู้จัก แต่ว่าอ้อยเองก็ไม่มีโปรไฟล์ของเขาที่ชัดเจนมากเท่าไหร่มีแต่คนที่ติดต่อมาเขาบอกว่าเป็นมหาเศรษฐีใจป้ำ”
“ก็แล้วทำไมอ้อยถึงได้รับเอาไว้เองล่ะถ้าเขาใจป้ำขนาดนั้นก็คิดซะว่าจะได้เงินก้อนใหญ่ก่อนเรียนจบในเทอมสุดท้ายยังไงเหรออ้อย”
“ที่มันสำคัญนะอยู่เพราะอะไรน่ะติดธุระที่จะต้องไปกับแฟนแล้วทีนี้ต้อยจะให้เขารู้ไม่ได้หรอกว่าอ้อยน่ะรับงานเอ็นอยู่ถ้ายังไงก็ช่วยเหลืออ้อยสักหน่อยนะนะถือว่าช่วยเหลือกันเป็นเพื่อนกันช่วยกันมานานแล้วไม่ใช่ว่าอ้อยจะลำเลิกบุญคุณจากยูซะเมื่อไหร่ ก็ถ้าไม่มีอ้อยยูก็คงไม่ได้เข้ามาในวงการนี้หรอกใช่ไหม”