สเตลล่าตื่นขึ้นในเช้าวันถัดมา เธอยืดแขนบิดขี้เกียจหลังจากที่ได้นอนหลับเต็มอิ่ม เธอไม่เคยรู้สึกดีแบบนี้มาก่อนเพราะปกติต้องดิ้นรนทำงานตลอดเพื่อหาเงินให้เพียงพอต่อค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือน ทว่าตอนนี้มันแตกต่างออกไป เธอลุกขึ้นยืนแล้วก็พาตัวเองเข้าไปในห้องน้ำเพื่อแปรงฟัน ก่อนจะตรงไปที่ห้องรับประทานอาหารทั้งที่อยู่ในชุดคลุม
หญิงสาวถามหาแพทริคแต่แม่บ้านบอกว่าเขาออกไปทำงานแล้ว พอได้รับคำตอบเธอก็มองดูสลัดผักและขนมปังปิ้ง สเตลล่าคิดว่าแพทริคคงเป็นคนสั่งให้แม่บ้านทำอาหารเช้าไว้รอเธอ และพอคิดเช่นนั้น เธอจึงหันไปพูดกับแม่บ้านที่เสิร์ฟอาหารเช้าให้
“คุณช่วยทำเบคอนไข่ดาวกับขนมปังปิ้งให้ฉันเพิ่มหน่อยได้ไหมคะ"
"ได้ค่ะคุณผู้หญิง” สาวใช้ตอบรับพร้อมถือจานสลัดเข้าไปในครัวเพื่อทำออเดอร์เพิ่มให้สเตลล่า
สเตลล่ารู้ดีว่าเธอกำลังต่อต้านคำสั่งของแพทริค แต่ก็ไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อย อีกอย่างการกินมันคือความสุขของเธอนี่ เธอพอใจที่ได้ทำแบบนี้ อีกทั้งน้ำหนักเธอยังเท่าเดิมมาตั้งแต่อายุสิบเก้า มันจะเพิ่มหรือลดยังไงก็ไม่เกินหนึ่งกิโลกรัม แล้วเขาจะมาบังคับให้เธอทานแต่สลัดอย่างเดียวเนี่ยนะ เดี๋ยวก็ได้ตายกันพอดี ร่างกายของเธอต้องการพลังงานมากกว่านี้ในหนึ่งวันนะ…
เมื่อทานอาหารจนอิ่ม สเตลล่าจึงขึ้นไปอาบน้ำ หลังจากจัดการธุระส่วนตัวเสร็จเธอก็เดินเข้าไปแต่งตัวในห้องเสื้อผ้า ก่อนจะตกใจเมื่อพบว่าภายในตู้นั้นมันว่างเปล่าไม่มีอะไรเหลืออยู่เลย ทำเอาเธอกรีดร้องลั่นจนแม่บ้านสาวรีบวิ่งเข้ามาในห้องของเธออย่างรวดเร็ว ก่อนจะพบว่าสเตลล่ากำลังค้นอะไรบางอย่างไปมาทั่วทุกพื้นที่ เห็นเพียงชุดชั้นใน เสื้อเดรสสีน้ำตาล เสื้อโคต และรองเท้าบูทสั้นสีดำแค่นั้น
"เกิดอะไรขึ้น ! ทำไมเสื้อผ้าถึงหายไปหมด” เธอค้นหาเสื้อผ้าต่อไปด้วยหวังว่าจะได้พบอะไรบางอย่าง "เสื้อผ้าฉันอยู่ที่ไหน"
"นายท่านสั่งให้พวกเรานำของทั้งหมดของคุณผู้หญิงออกไปค่ะ" แม่บ้านก้มหน้าตอบ
"ทำไม !" เธอตะโกนเสียงดัง
"ดิฉันก็ไม่ทราบค่ะคุณผู้หญิง"
"แล้วฉันจะเอาเสื้อที่ไหนใส่ล่ะ ไหนจะเสื้อผ้าของฉันที่ไม่รู้ว่าถูกขนไปไหนอีก !” สเตลล่าสังเกตเห็นว่าแม่บ้านตัวสั่นด้วยความหวาดกลัวเพราะเธอเสียงดัง
"ขอโทษด้วยจริง ๆ ค่ะ แต่ดิฉันจำเป็นต้องทำตามคำสั่งของคุณท่านที่ว่าให้พวกเราเอาไปทิ้งค่ะ"หล่อนพูดน้ำเสียงแผ่วเบาและแฝงไปด้วยความกลัว
สเตลล่าไม่พูดอะไรอีกหลังจากนั้น เธอจะไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีใครบุกมาในห้องของเธอตอนที่ยังหลับอยู่ นี่เธอหลับลึกขนาดนั้นเลยอย่างนั้นเหรอ
หญิงสาวค้นหาโทรศัพท์ของตัวเองที่วางไว้บนเตียงด้วยความหงุดหงิดก่อนจะโทรไปที่หมายเลขของแพทริคทันที หลังจากรอไม่นานเขาก็รับสาย
“คุณทำอะไรกับเสื้อผ้าของฉัน ทำไมถึงต้องให้แม่บ้านมาขนเอาของของฉันไปทิ้งด้วย !” เธอตะโกนใส่โทรศัพท์ด้วยความโกรธและไม่สนใจว่าแม่บ้านยังอยู่ในห้องหรือเปล่า
(นี่คือเหตุผลที่คุณโทรมาหาผมในเวลางานเหรอ !) แพทริคถามกลับเสียงดังอย่างไม่พอใจเช่นกันเพราะไม่เคยโดนใครตะคอกใส่มาก่อน
“คุณถามแบบนี้ได้ยังไง แล้วฉันจะเอาอะไรใส่ในเมื่อไม่มีเสื้อผ้าเหลือให้ฉันเลยสักตัว”
(ผมสั่งให้แม่บ้านเหลือชุดให้คุณใส่อยู่นะ คุณน่าจะเห็นแล้วนี่)
“นี่คุณพูดจริงหรือพูดเล่นเนี่ย” น้ำเสียงไม่พอใจถูกพูดออกมา
(ในห้องทำงานของผมมีบัตรเครดิตใบหนึ่งวางอยู่บนโต๊ะ คุณเอามันไปช็อปปิงซะสิ) พอเขาพูดจบประโยคนั้นก็ทำเอาสเตลล่าชะงักไปเล็กน้อย
“คุณหมายความว่าให้ฉันใช้มันได้อย่างนั้นเหรอคะ” สเตลล่าแทบไม่เชื่อหูตัวเองว่าแพทริคจะอยากให้เธอไปซื้อเสื้อผ้าใหม่โดยมีบัตรเครดิตของเขาเป็นใบเบิกทางแบบนี้ และด้วยเหตุผลนั้นเธอจึงคลายโทสะลงและกลายเป็นตื่นเต้นแทน
(ใช่ ผมให้คุณใช้ ออกไปช็อปปิงซะ และไม่ต้องห่วงเพราะบัตรใบนั้นไม่จำกัดวงเงิน)
หญิงสาวพูดไม่ออก คำพูดของอีกฝ่ายทำให้เธอประหลาดใจว่าเขาเชื่อใจเธอมากขนาดไหนกันถึงได้กล้าให้เธอใช้บัตรเครดิตของเขา หนำซ้ำยังเป็นบัตรแบบไม่จำกัดวงเงินอีก บ้าไปแล้วเหรอ…
“จริง ๆ นะ” เธอถามอีกครั้งด้วยเสียงที่ตื่นเต้น
(อืม ขึ้นอยู่กับว่าคุณอยากได้หรือเปล่า ถ้าไม่ก็ลืมมันไปซะ)
“ไม่ ! ฉันจะไปช็อปปิง” เธอพูดอย่างรวดเร็วราวกับไม่ต้องการให้เขาเปลี่ยนใจ
(โอเค ผมขอตัวกลับไปทำงานก่อน)
“คุณแพทริค เอ่อ... ขอบคุณมากนะคะ” สเตลล่ายิ้มกริ่ม
(คุณไม่จำเป็นต้องขอบคุณผมหรอก) เขาตอบกลับ สเตลล่ายิ้มสดใสใส่โทรศัพท์แม้อีกฝ่ายจะไม่เห็นก็ตาม เมื่อเธอหันกลับไปก็เห็นว่าแม่บ้านคนเดิมยังคงยืนรออยู่ในห้อง
“อืม… บายค่ะที่รัก ฉันรักคุณนะคะ” สเตลล่ารีบหันหลังกลับเพื่อซ่อนความกังวลใจทันที ให้ตายสิ แม่บ้านคนนี้ได้ยินการสนทนาทั้งหมดของเธอ บ้าจริง !
เธอประมาทไป หากพลาดขึ้นมาก็จะถูกจับได้เป็นแน่ เธอจึงรีบวางสายโดยไม่รอการตอบกลับจากแพทริค เพราะไม่อย่างนั้นเธอคงประหม่ากว่าเดิมจนทำให้ถูกสงสัยยิ่งขึ้น
สเตลล่าสูดหายใจเข้าลึก ๆ เพื่อแต่งตัวให้เสร็จและหันไปเผชิญหน้ากับสาวใช้ก่อนจะพูดด้วยรอยยิ้มกว้าง
“พวกเราไปช็อปปิงกันเถอะ”