ท่ามกลางผืนป่าใหญ่ที่มืดสลัว มีบุรุษผู้หนึ่งกำลังดักซุ่มอยู่หลังต้นไม้ใหญ่ ร่างกำยำในชุดชาวบ้านผมเผ้าเป็นกระเซิงจากการโดนกิ่งไม้เกี่ยว ใบหน้ามีแต่หนวดเคราจนมิอาจมองเห็นดวงหน้าที่แท้จริงได้ชัดเจน มือหนากำกระบี่ไว้แน่น แววตาอันตรายดุจพยัคฆ์มองไปยังคนกลุ่มหนึ่งอย่างมาดหมาย เพียงไม่นาน ด้านหลังของคนผู้นี้ก็มีความเคลื่อนไหว เขาหันกลับไปเอ่ยถามผู้มาใหม่ทันที “เป็นเช่นไรบ้าง พวกมันมีกันกี่คน” “เรียนท่านแม่ทัพ พวกมันมีทั้งหมดสิบห้าคนขอรับ ดูเหมือนว่าจะมาดูลาดเลากันก่อน คงยังไม่ออกปล้นตอนนี้” ชายชุดดำตอบ ‘เหมาหย่งเยวี๋ยน’ เหลือบสายตามองกุนซือและรองแม่ทัพคู่กายแวบเดียว ก่อนจะหันไปสนใจคนกลุ่มนั้นต่อ “พวกเจ้าตามไปถึงรังของพวกมันหรือไม่” “ไม่ขอรับ ข้าคลาดกับพวกมันเสียก่อน น่าเจ็บใจยิ่งนัก” กุนซือหนุ่มเอ่ยอย่างเดือดดาล “หากมันง่ายดายขนาดนั้นเราคงจับพวกมันได้นานแล้ว แต่นี่ พวกมันเหมือนนกรู้ พอเริ