หลังจากหมดชั่วโมงเรียน ฉันโกหกน้ำหวานกับซีนบอกว่าปวดท้อง ไปทำงานไม่ไหว แล้วแอบไปขึ้นรถพี่ลีโอที่จอดรออยู่
บอกตามตรงว่ารู้สึกผิดมากจริงๆ ที่ต้องโกหกไปแบบนั้น แต่ถ้าเพื่อนฉันรู้ก็คงจะผิดหวังในตัวฉัน เหมือนที่ฉันผิดหวังกับตัวเองอยู่ในตอนนี้
ฉันนั่งเงียบไปตลอดทางจนถึงคอนโดของพี่ลีโอ เมื่อรถจอดสนิทพี่ลีโอก็เปิดประตูรถเดินนำฉันไปโดยไม่ได้หันมามองเลย
ภายในห้อง...
“ไปอาบน้ำ” พี่ลีโอทำเหมือนกับว่าก่อนหน้านี้เขาไม่เคยพูดให้ฉันเลิกยุ่งกับเขาเลยจริงๆ นะ
“สรุปจะให้พายเลิกยุ่งกับพี่หรือเปล่าคะ” ฉันถามอย่างประหม่า พี่ลีโอที่กำลังถอดเสื้ออยู่หันมามองฉันช้าๆ
“ถ้าอยากเลิกยุ่ง เธอก็คงไม่ยอมมากับฉัน”
มันรู้สึกจุกในอกไปเลยพอได้ยินแบบนี้ ใช่ไง ฉันยอมมาง่ายๆ โอเคฉันผิดเอง
เฮ้อ...
ฉันถอนหายใจออกมาเบาๆ และกำลังคิดว่าตัวเองไม่ควรมานั่งอยู่ตรงนี้เลย ยัยพายเอ้ย!!
“งะ งั้นพายขอตัวกลับดีกว่านะคะ....” ฉันลุกขึ้นยืนแต่ยังไม่ทันที่จะได้ก้าวขาเดินพี่ลีโอก็พุ่งปรี่เข้ามาประชิดตัวฉันอย่างรวดเร็ว
ใบหน้าคมคายก้มมองฉันอย่างเกรี้ยวกราด ลมหายใจที่เริ่มแปลกไปมันทำให้ฉันรู้ได้ทันทีว่าพี่ลีโอเริ่มจะหงุดหงิดขึ้นมาแล้ว
“จะรีบกลับทำไม” ไม่พูดเปล่าพี่ลีโอกดฉันลงบนโซฟาอีกด้วย
“ที่พายยอมมาด้วยก็เพราะพายรัก แต่พี่ลีโอต้องการแค่ร่างกายของพาย” ฉันสูดลมหายใจเข้าปอดแล้วพูดต่อด้วยเสียงที่สั่นเครือเล็กน้อย “ทำไมถึงไม่รักพายบ้างเลย”
มันอาจจะเป็นคงามพูดที่แสนธรรมดา แต่ความรู้สึกในตอนพูดคำนี้ มันผิดหวังมากจริงๆ
“พายไม่สมควรได้รับความรักจากพี่ลีโอหรอคะ...” ฉันมองใบหน้าของพี่ลีโอเพื่อรอคำตอบ แต่สิ่งที่ได้กลับมาคือความว่างเปล่า
“ฉันไม่อยากรักใคร”
“ไม่อยากรักใคร...เป็นเพราะพี่ลีโอยังลืมพี่สายธารไม่ได้ใช่มั้ยคะ” จริงๆ ฉันว่าจะไม่หยิบเอาเรื่องนี้มาพูดแล้ว
ไม่ใช่ว่าฉันไม่รู้ ฉันเคยได้ยินพี่เลย์กีบพี่เตชินพูดแซวพี่ลีโอบ่อยๆ ตอนแรกก็ไม่คิดอะไร แต่สายตาของพี่ลีโอเวลามองพี่สายธารมันทำให้ฉันคิดเป็นอื่นไม่ได้จริงๆ
“พูดบ้าอะไรของเธอ !!”
“ถามตัวเองดูสิคะ แต่อย่าลืมนะว่าพี่สายธารมีแฟนแล้ว” ไม่รู้ว่าฉันไม่เอาคงามกล้ามาจากไหนถึงได้กล้าพูดอะไรแบบนี้ออกไปเหมือนกัน
พี่ลีโอลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ฉันจึงรีบลุกขึ้นนั่งทันที
“อยากกลับมาก ก็กลับไปซะ !!”
พี่ลีโอตวาดเสียงดีงลั่นห้อง คำพูดของฉันมันทำให้เขาโมโหได้ขนาดนี้เลยงั้นหรอ แต่ถึงอย่างนั้นฉันก็รีบวิ่งออกไปจากห้องของพี่ลีโอทั้งที่เพิ่งจะมาถึง
ถ้าจะบอกว่าฉันวิ่งไปด้วยและร้องไห้ไปด้วยจะถูกมองว่าอ่อนแอหรือเปล่า แต่ความรู้สึกช่วงนี้มันอ่อนแอมากจริงๆ
วันต่อมา...
บอกตามตรงว่าฉันแอบรู้สึกผิดไม่น้อยที่พูดแบบนั้นกับพี่ลีโอ ฉันไม่ควรพูดเรื่องนั้นเลย แถมตอนนี้โทรไปหาพี่ลีโอก็ไม่ยอมรับสายอีกต่างหาก แชทไปหาเขาก็ไม่เปิดอ่าน
ในขณะที่ฉันกำลังนั่งรถเมล์ไปเรียน สายตามันเหลือบไปมองเห็นป้ายรับสมัครเด็กเสริฟที่ร้านเหล้า มองดูแล้วน่าจะเป็นคลับ ฉันยืนคิดอยู่สักพักก่อนจะหันไปบอกน้ำหวานกับซีนชวนสองคนนั้นให้ลองไปสมัครกันดู
“มันจะดีหรอพาย” น้ำหวานทำหน้าลังเล
“ไม่ลองไม่รู้นะน้ำหวาน” ซีนพูด
“พวกแกไม่เดือดร้อนอะไรเรื่องเงินมาก แต่ฉันสิงานที่ทำอยู่กับขายของที่ตลาด ยังไม่พอใช้จ่ายเลย” ฉันถอนหายใจออกมาเบาๆ บางทีมันก็รู้สึกน้อยใจกับชีวิตที่ไม่มีอะไรดีพร้อมเลยสักอย่าง อีกทั้งเรื่องหัวใจก็ยังผิดหวัง
“อื้อๆ ลองดูก็ได้ ซีนอกต้องไปทำเป็นเพื่อนกันนะ”
“ขอบคุณแกสองคนมากนะ ที่ไม่เคยทิ้งฉันเลย ^_^” ฉันน้ำตาคลอ ซึ้งใจมากจริงๆ ที่มีเพื่อนดีๆ คอยอยู่ข้างๆ แบบนี้
“เลิกเรียนแล้วเราไปสมัครดูกัน ^_^” ซีนบอก
วันนี้ที่มหาวิทยาลัยไม่เจอกับพี่ลีโอ ไม่เจอทุกคนในกลุ่มพี่ลีโอเลย สงสัยจะไม่ทีเรียนแน่ๆ จริงๆ ฉันเตรียมจะมาขอโทษพี่ลีโอ แต่เอาไว้วันหลังก็ได้
1 อาทิตย์ผ่านไป...
ฉันได้งานเด็กเสริฟแล้วนะ แต่มันผิดจากที่เราคาดการณ์เอาไว้เยอะเลย ฉันคิดว่าแค่เสริฟเหล้าเสริฟอาหาร แต่เปล่าเลย เจ้าของร้านให้ฉันกับเพื่อนใส่ชุดที่มันค่อนข้างโป๊แล้วเดินรับแขก และเดินชงเหล้าให้แขกบ้าง แต่จะบอกว่าถึงงานจะล่อแหลมไปหน่อยที่ฉันกับเพื่อนยังทำอยู่จนมาถึงหนึ่งอาทิตย์ก็เพราะว่ามันได้เงินดีกว่าทุกงานที่ฉันเคยทำมาเลย
แต่มันก็จะเหนื่อยหน่อยแหละเพราะทำหลายอย่างในวันเดียว ทั้งงานที่ร้านคอฟฟี่ ที้งขายเสื้อผ้า ทั้งมาเสริฟที่ร้านเหล้า กว่าจะได้พักผ่อนก็ตีสองตีสาม
วันนี้ลูกค้าเข้าเร็วมากกว่าทุกวัน ฉันกับเพื่อนต้องแยกกันไปเดินดูตามโต๊ะผู้คนที่มา แค่เดินไปมาตามโต๊ะชั่วโมงกว่าก็ได้ทริปมาแล้วตั้งหนึ่งพันกว่าแหนะ
“พาย ไปดูลูกค้าโต๊ะนั้นหน่อย ดูแลดีๆนะ โต๊ะนั้นชอบแจกทริป” พี่เมย์เป็นพีอาร์คนเก่าแก่ของร้านเป็นคนแนะนำฉัน พอได้ยินว่าได้เงินดีฉันก็รีบเดินบึ่งไปที่โต๊ะตามที่พี่เมย์บอกทันที
แต่!!! ใครจะไปคิดว่าฉันจะเจอเข้ากับ ‘พี่ลีโอ’ โต๊ะของพี่ลีโออยู่ใกล้ๆ กับโต๊ะแขกคนที่พี่เมย์แนะนำ
ก่อนหน้านี้ที่มหาวิทยาลัยฉันไม่ได้พูดคุยอะไรกับพี่ลีโอเลย ถูกเขาเมินอีกตามเคย....
ฉันกลัวนะว่าพี่ลีโอจะโกรธที่เห็นฉันทำงานที่นี่ แน่คิดในอีกมุมหนึ่ง เขาไม่เคยแคร์ฉันเลยนี่นา
“มาใหม่หรอน้อง” พี่ผู้ชายคนหนึ่งถามฉัน เขานั่งอยู่กับโต๊ะที่พี่เมย์ให้ฉันมาดูแล
“ใช่ค่ะ ^_^”
“สวยใช้ได้เลยนะเนี่ย มีคนเลี้ยงยังครับ”
ฉันขมวดคิ้วเป็นปม มีคนเลี้ยงมันแปลว่าอะไรกันนะ
“น้องคะๆ” เสียงโต๊ะด้านพูดขึ้น และสะกิดแขนฉัน ภาวนาขอให้ไม่ใช่โต๊ะที่พี่ลีโอนั่ง แต่เมื่อหันหน้าไปมองแล้วก็ต้องผิดหวัง เพราะคนที่เรียกคือคนที่อยู่โต๊ะกับพี่ลีโอ
และในตอนนี้พี่ลีโอก็เห็นฉันแล้ว เขากำลังจ้องฉันเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่สักอย่างด้วยใบหน้าที่เรียบตึงมันยิ่งทำให้พี่ลีโอดูน่ากลัว
ฉันรีบรับออร์เดอร์แล้วเดินไปสั่งของพยายามก้มหน้าไม่เงยขึ้นมองใครทั้งนั้น
ติ่ง~ ในขณะที่ฉันเอาออร์เดอร์มาส่งงเสียงโทรศัพท์ของฉันก็ดังขึ้น เมื่อหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดดูก็เห็นข้อความจากคนที่ฉันไม่คิดว่าเขาจะทักมา
( ออกมาคุยกับฉันที่หลังคลับ ตอนนี้!! )
ใจของฉันเต้นรัวราวกับว่ามีคนจับมันเขย่าแรงๆ เมื่อได้อ่านข้อความที่พี่ลีโอเป็นคนส่งมา