Ep.6 ฉันกลัว

1243 คำ
Ep.6 I scared บีกันค่อยๆ หันมาช้าๆ และดูตกใจที่เห็นฉัน “ทำอะไรอยู่หรอ? ” ฉันมองขวดโซดาไฟ และน้ำยาฆ่าเชื้อต่างๆ ที่บีกันเอามาตั้งวางไว้ เพื่อล้างคอกม้า “สายหมอกไปไหน..” ฉันหันมองไปรอบๆ แต่ก็ไม่เจอ “คือคุณคินสั่งให้แยกสายหมอกออกไปรักษาก่อนนะ ” บีกันตอบอย่างไม่มองหน้าของฉันเลยด้วยซ้ำ มันรุนแรงถึงขั้นต้องแยกคอกเลยหรอ..ฉันเริ่มใจไม่ค่อยดีเลย... “สายหมอกป่วยหนัก ขนาดต้องแยกคอกกับตัวอื่นๆ เลยหรอ ..” ฉันถามเสียงสั่นๆ “ป่าวๆ ป่วยไข้หวัดธรรมดานี้แหละ ไม่ต้องกังวลนะ ” บีกันเดินเข้ามาบีบไหล่ของฉันเชิงให้กำลังใจ “แล้วแยกไปไว้ที่ไหนล่ะ พาฉันไปทีสิบีกัน ” ฉันหันไปพูดอย่างขอร้องๆ “ คือ...หมอกสบายดีนะ กลับไปอ่านหนังสือเถอะไป ” บีกันจับฉันหันหน้ากลับไปทางบ้านใหญ่ทันที “ ไม่กลับๆ ” ฉันไม่ยอมกลับง่ายๆ หรอก!! “คุณคินกับลุงหมอ ไม่อยากให้ใครเข้าไปเยี่ยมตอนนี้ ยังไงเธอไปพัก หรืออ่านหนังสือเตรียมสอบวันพรุ่งนี้ก่อนดีมั้ย ตั้งสติ สมาธิ จะได้สอบเข้ามหาลัยได้ไง?? ” บีกันดันตัวของฉันให้เดินไปตามทางกลับบ้านทันที “พี่คินกับลุงหมออีกคน กำลังรักษา สายหมอกใช่มั้ย? ” ฉันจับเสื้อของบีกันและเขย่าๆ “อื้ม!!และยังมีฉันช่วยด้วยอีกคนนะ ” บีกันยักคิ้วเล็กน้อย ก่อนจะบีบมือของฉันอีกครั้งและยิ้มออกมา บีกันคือครูสอนขี่ม้าที่มีความรู้เรื่องม้าดีพอสมควร และเขาเป็นลูกศิษย์คนโปรดของพ่ออีกด้วย เขาคลุกคลีและอยู่กับม้ามาตั้งแต่เด็ก และคุณลุงยังมอบให้เขาเป็นหนึ่งในคนดูแลม้าเกือบทั้งหมดในฟาร์มอีกด้วย... แม้ว่าบีกันจะกำชับหนักหนา ว่าพี่คินไม่อยากให้ใครเข้าไปยุ่งวุ่นวาย ระหว่างที่รักษา แต่ฉันก็อดไม่ได้ที่จะ...ขัดคำสั่ง!! ในกลางดึก หลังจากที่ฉันอ่านหนังสือ และอาบน้ำเรียบร้อย ฉันก็แอบย่องไปที่บ้านส่วนตัวของพี่คินตาใจกลางไร่นั่น จริงๆ ฉันก็ไม่ได้มั่นใจหรอกว่า สายหมอกจะรักษาตัวอยู่ที่นี้ เรียกว่า เสี่ยงดวงมาเอามากกว่า ฉันทนอยู่บ้านเฉยๆ ไม่ได้หรอกนะ ยิ่งห้ามไม่ให้ไป ยิ่งท้าทาย... แต่ฉันยังไม่ทันจะเดินถึงตัวบ้าน ฉันก็ได้ยินเสียงผู้ชายกำลังคุยกันดังขึ้นพอดี “บาซิลลัส แอนทราซีส .... ” นั่นมันเสียงพี่คินจริงด้วย “มีไข้สูง ตัวสั่น หงอยซึม ถ่ายเป็นเลือด กล้ามเนื้อขาไม่มีกำลัง.. ” พี่คินพูดต่ออย่างวิเคราะห์ๆ “มันคืออะไรหรอครับ คุณคิน ..” และนั่นคือเสียงบีกัน “มันเป็นเชื้อแบคทีเรียที่อันตรายที่สุดในม้า... และติดต่อกันได้...” พี่คินตอบด้วยเสียงเครียดๆ เขาเหมือนกำลังคุยกันถึงเรื่องอะไรสักอย่าง ที่เกี่ยวกับม้า....งั้นหรอ..... “สายหมอกเป็นม้าที่ไม่แข็งแรงตั้งแต่แรกเกิดแล้ว พ่อของหนูแอรินก็รู้ดี ...เราถึงไม่เลือกเจ้าหมอกมาเป็นม้าแข่ง ทั้งที่มันมีรูปร่าง และสีที่สวยสง่า ” ลุงหมอพูดขึ้นอีกคน.. ฉันแอบฟังอยู่หลังกำแพงไม่ไกลจากที่พวกเขาคุยกัน จึงสามารถได้ยินได้ทั้งหมด... “งั้นก็แสดงว่า..สายหมอกอาจจะไม่รอดคืนนี้งั้นหรอครับ.. ” บีกันถามขึ้นเสียงสั่นๆ “ฮั่ก.... ” ฉันเผลอหลุดเสียงร้องไห้ออกไปอย่างฝืนกลั้นไม่อยู่... “ใครอะ..” เสียงลุงหมอพูดขึ้นคนแรก ฉันก็รีบก้าวถอยหลังทันที ทำให้เหยียบเข้ากับกิ่งไม้แห้งๆ จนเสียงดังชัดกว่าเดิม แกร๊บบบบบบ... “แอรินแน่ๆ ..” เสียงบีกันเรียกชื่อฉันทันที ทั้งที่ยังหาตัวฉันไม่เจอ ฉันรีบก้าวถอยหลังหนีออกมาทันที อย่างทำอะไรไม่ถูกเลย..ขณะที่กำลังจะหันหลังกลับเพื่อวิ่งหนีออกมา แต่แค่ก้าวขาไม่อีกก้าว... หมับ!!มีมือของใครบางคนคว้ามือของฉันเอาไว้ก่อน... “พี่คิน...” “มากับฉัน... ” และเขาก็ออกแรงดึงข้อมือของฉันให้เดินตามเขาไป... “สายหมอก....โอเค.ใช่มั้ยคะ? ..” ฉันพูดออกมาทั้งน้ำตา พี่คินถอนหายใจและหยุดเดิน ก่อนจะหันมามองหน้าฉันช้าๆ “เธออยากจะไปเยี่ยมสายหมอกมั้ยล่ะ? ” พี่คินไม่ตอบคำถามของฉัน เขาพยายามจะเปลี่ยนเรื่องแทน ฉันก็พยักหน้าตอบไปเบาๆ .... พี่คินจับมือของฉันแน่นและพามาที่ คอกม้าปิด เหมือนห้องรักษาตัวในโรงพยาบาล..ซึ่งมันอยู่ใต้ชายคาบ้านส่วนตัวของพี่คิน.... “หมอก!!” ฉันอยากจะวิ่งเข้าไปหา เข้าไปกอดมันแน่นๆ แต่พี่คินดึงข้อมือเอาไว้ก่อน “อย่าเข้าไป สายหมอกไม่ค่อยแข็งแรง ต้องอยู่ในเขตปลอดเชื้อ ” สายหมอกนอนหายใจรวยริน และมีเสาน้ำเกลือขนาดใหญ่ตั้งอยู่ ข้างๆ คือเข็มฉีดยา และเครื่องรักษามากมาย “แต่หนูอยากนอนกับสายหมอก ” ฉันพูดทั้งน้ำตา “ไม่ได้ก็คือไม่ได้ แอริน!!” พี่คินตายังคงจับมือของฉันไว้แน่น และขึ้นเสียง ฉันจึงทำได้เพียงยืนมองสายหมอกอยู่ไกลๆ “ถ้าพรุ่งนี้สายหมอกอาการดีขึ้น .. ก็หมายความว่ายาฆ่าเชื้อที่ฉีดให้ไปได้ผล...และต่อสู้กับเชื้อแบคทีเรียในตัวของสายหมอกได้เป็นอย่างดี....... ” พี่คินมองหน้าของฉันนิ่งๆ ฉันยืนร้องไห้ออกมาอย่างเด็กขี้แง สายหมอกเหมือนเพื่อนยามวัยเด็ก และเป็นเหมือนน้องสาวตัวน้อยๆ ของฉัน... “แล้วถ้าไม่ดีละคะ ” ฉันถามด้วยเสียงที่สั่นและเบาหวิว “เกิดแก่เจ็บตายเป็นเรื่องธรรมชาตินะแอริน.. ” พี่คินเช็ดน้ำตาให้ฉันแบบลวกๆ และลูบหัวเบาๆ ฉันเงยหน้ามองพี่คิน...ทั้งน้ำตา “ไม่เอาอะ...ไม่เอา...เป็นแบบนั้นไม่ได้นะ...” ฉันส่ายหน้าและเริ่มร้องไห้หนักกว่าเดิม Kinta part ผมมองเด็กน้อยตรงหน้าอย่างเห็นใจ ผมไม่สามารถตอบเธอได้จริงๆ ว่า ม้าตัวโปรดของเธอจะสามารถหายป่วยได้ สายหมอก ป่วยเป็นโรค แอนแทรกซ์ โรคติดต่อที่ร้ายแรงในม้า...ด้วยสภาพอากาศที่ร้อนที่ทำให้แบคทีเรียเจริญเติบโตได้ง่าย และภูมิคุ้มกันของสายหมอกที่ไม่ได้แข็งแรงเท่าม้าแข่งตัวอื่นๆ แอรินร้องไห้อย่างไม่อาจจะหยุดได้ ตาแดงก่ำ และบวมจนเห็นได้ชัด ส่วนผมทำได้เพียงยืนอยู่ข้างๆ เพื่อคอยเป็นเพื่อนของเธอนิ่งๆ ผมไม่ฉวยโอกาสกับผู้หญิงคนไหนหรอก..แต่ว่า... ฟุ๊บบบบ......แอรินพุ่งเข้ากอดผมทันทีอย่างไม่ทันตั้งตัว.. “ฮื้ออออ....ๆๆๆๆ ” แอรินซบใบหน้าลงกับแผ่นอกของผม และถูไถเพื่อเช็ดคราบน้ำตา ซึ่งผมเองก็...ทำได้แค่ยืนงงๆ ผมไม่ได้รู้สึกเชิงชู้สาวอะไรนั่นนะ ..... เธอก็เปรียบเสมือนน้องสาวของผมนั่นแหละ...น้องสาว? “ กลัว...ฮื้ออ... ” แอรินกระชับอ้อมแขนรัดเอวของผมแน่นๆ เหมือนอยากระบาย มือเล็กๆ กำเสื้อของผมแน่น และร้องไห้หนักกว่าเดิม
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม