แอดมินสายลม

1203 คำ
‘เคยคิดว่าตัวเองไร้ตัวตนบ้างหรือเปล่า ไปไหนก็ไม่มีใครเห็น ทำอะไรก็ไม่เคยพิเศษ เดินอยู่ท่ามกลางผู้คนมากมาย แต่ไม่มีใครสักคนมองเห็นคุณ มันคือความโดดเดี่ยวที่น่าน้อยใจเป็นที่สุด เราไม่ได้อยากพิเศษในสายตาคนทั้งโลก เราเพียงแค่อยาก...พิเศษสำหรับใครสักคนก็เท่านั้นเอง’ ....-แอดมินสายลม- นี่เป็นหนึ่งในหน้าที่ของฉันในทุกเช้า การตื่นขึ้นมาแล้วอัพสเตตัสเหงาๆ ลงเพจ 'มุมหนึ่งบนโลกกว้างใหญ่' ที่ร่วมมือกันทำกับคนเหงาคนอื่น ๆ ในจักรวาลแสนเคว้งคว้าง พวกเราไม่เคยเห็น ไม่เคยรู้จักกันมาก่อนเลย เราเจอกันจากเว็บหาเพื่อนบนอินเตอร์เน็ต พูดคุยกันจนถูกคอและปิ๊งไอเดียที่จะทำเพจขึ้นมา พวกเราเริ่มจากศูนย์จนตอนนี้เพจเรามีผู้ติดตามสูงถึง 100k (แสนคน) ฉันมีหน้าที่โพสตอนเช้า และแอดมินคนอื่นๆ จะโพสเวลาอื่นๆ ตามหน้าที่ตัวเอง เราเป็นเพจคำคมค่ะ บางคนก็เป็นบทกลอน หลังโพสสเตตัสตัวเองแล้วเราต้องลงนามแฝงเวลาโดนขโมยบทความเราจะมีฝ่ายกฎหมายตามไปเคลียร์ให้จะได้ง่าย ฉันชื่อ ปุยฝ้ายค่ะ ชื่อที่แม่ตั้งให้เพราะตอนแพ้ท้องแม่ชอบกินขนมปุยฝ้ายมาก แต่พอโตขึ้นมาฉันดันโตมาขัดกับชื่อ ไม่ได้น่ารักน่าทะนุถนอมแบบขนมปุยฝ้ายเลย ทั้งอ้วน ทั้งดำ จนเพื่อนๆ ในห้องเรียนเรียกฉันว่า ฝ้ายเปื้อนฝุ่น ฝ้าย 100 โล นั่นจึงเป็นช่วงเวลาเดียวที่คนมองเห็นฉัน แต่มันกลับเป็นช่วงเวลาที่แย่เหลือเกิน ไม่ว่าครั้งไหนการมีใครเรียกฉันขึ้นมาสักคนมันกลับเป็นการทำร้ายจิตใจฉันโดยที่เขาก็คงไม่ได้ตั้งใจ ตอนนี้ฉันเรียนเกี่ยวกับพฤกษศาสตร์ ก็เลยมักจะโดนล้อบ่อยๆ ว่าเรียนมาเพื่อพัฒนาพันธุ์อ้อยให้ตัวเองกิน ฉันเป็นคนอ้วน อ้วนที่อ้วนจริงๆ น้ำหนักจะแตะร้อยกิโลล่ะมั้ง ฉันไม่กล้าชั่งน้ำหนักเลย กระจกก็ส่องแค่เท่าที่จำเป็น ฉันไม่จำเป็นต้องส่องหรอกไปเรียนทุกวันก็มีคนคอยบอกตลอดว่าฉันน่ะ อ้วนและขี้เหร่แค่ไหน ฉันตื่นแต่เช้าขึ้นมาอัพสเตตัสบนเพจพร้อมกับเดินทางไปมหาลัย ฉันพักอยู่ที่บ้านกับพ่อและแม่ พวกท่านไม่ค่อยมีเวลาสักเท่าไหร่แม่เป็นครูสอนอนุบาล ส่วนพ่อน่ะเป็นนักวิจัยอยู่บริษัทเอกชน เช้ามาแม่จะตื่นมาเตรียมอาหารเช้าใส่กล่องให้ฉันแล้วก็จะออกไปทำงานเลย ส่วนพ่อกลับบ้านบ้างไม่กลับบ้างด้วยงานนั่นแหละ ฉันหยิบเอากล่องข้าวใส่กระเป๋าแล้วเดินออกจากบ้านมาปากซอยรอรถเมล์ ขึ้นรถเมล์ก็กินข้าวกล่องกับนมที่หยิบมาจากในตู้เย็น ถึงป้ายที่ต้องลงอาหารก็หมดพอดี ต่อเรือข้ามฟากแล้วเดินอีกหน่อยก็ถึงมหาลัยแล้วล่ะ “มาแต่เช้าเลยนะหนูฝ้าย” เสียงป้าแม่บ้านประจำตึกเรียนเอ่ยทักทายอย่างเอ็นดู นี่เป็นเพียงหนึ่งในไม่กี่คนบนโลกหรอกที่เห็นฉัน และมองฉันด้วยสายตาไม่รังเกียจ ฉันหันไปยิ้มให้ป้าแม่บ้านก่อนจะเดินเข้ามานั่งรอเวลาเรียนในอีก 1 ชั่วโมงข้างหน้า ปกติแล้วคนอื่นจะมาใกล้ๆ เวลาหรือไม่ก็มาสายจนเลยเวลาไปแล้ว แต่ฉันชอบมานั่งเงียบๆ ในห้องเรียนคนเดียวแบบนี้ทุกวัน มาก่อนเวลาประมาณ 1 ชั่วโมงตลอด ติ๊ง~ เสียงแต้งเตือนจากเพจดังขึ้น ‘ฉันลืมปิดเสียงเหรอเนี่ย’ ระหว่างรอเรียนฉันก็อ่านคอมเม้นของแฟนเพจบางคนก็สำนวนคมคายมากเลยนะ บางคนก็เม้นสั้นๆ บางคนก็เม้นระบาย บางคนก็เม้นสติ๊กเกอร์ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นมันคือโลกอีกใบที่ฉันมีตัวตน ฉันไม่ได้โดดเดี่ยวเพียงลำพัง ทุกครั้งที่เปิดอ่านคอมเม้นจากใครก็ไม่รู้มันกลับทำให้ฉันรู้สึกว่า ฉันมีเพื่อนร่วมชะตากรรม บางคนก็เป็นเหมือนกันกับฉัน รู้สึกสนิทกันทั้งที่ไม่เคยเห็นกันด้วยซ้ำ ติ๊ง~ -แอดมินเพจ- “สวัสดีแอดมินทุกคน” แอดแสงเดือน เป็นรีดเดอร์ใหญ่ผู้ก่อตั้งเพจขึ้นมา “สวัสดีค่ะพี่แสงเดือน” “สวัสดีค่ะ” (สนิ๊กเกอร์) เวลาใครก็ตามในกลุ่มส่งข้อความไปไม่มีสักครั้งเลยที่จะไม่มีคนตอบ แชทกลุ่มนี้อบอุ่นก็ตรงนี้แหละ “พี่อยากจัดมีตติ้งกับแฟนตัวยงของเพจอะ คนอื่นว่าไง” เรื่องนี้เราเคยคุยกันไปครั้งหนึ่งแล้ว บอกตามตรงฉันประหม่ามาก ฉันกลัว ฉันไม่กล้าไปเจอใคร ด้วยรูปร่างที่ไม่น่าจดจำนักของฉัน ด้วยรอยแผลฝังใจเรื่องการอยู่ร่วมในสังคมที่เป็นโลกจริงๆ ของฉัน “แล้วแต่พี่เลยค่ะ” แอดมินคนหนึ่งเสนอขึ้น “ถ้าจัดแอดทุกคนควรว่างไปร่วมอะ นัดวันมาก่อน เรื่องสถานที่ กับเรื่องอื่นพี่ยะไปหาข้อมูลแล้วมาเสนออีกที” ฉันที่กำลังพิมพ์ว่าจะไม่ไปต้องชะงักทันที ยังไงก็เลี่ยงไม่ได้สินะ แอดคนอื่นๆ เสนอวันที่กันใหญ่โดยมีแนวโน้มเหมือนจะเป็นกลางเดือนหน้า ฉันคงลดน้ำหนัก หรือเปลี่ยนตัวเองไม่ทันแน่ “@สายลม ว่าไงลูก ว่างวันไหนเราน่ะ” พอฉันเงียบไปพี่แสงเดือนก็จี้ถาม “ขอเป็นวันเสาร์อาทิตย์ได้หมดค่ะ” ฉันจึงต้องตอบไปก่อน เพื่อรักษามารยาท “ถ้างั้นเดี๋ยวโหวตกันนะ” พี่แสงเดือนเสนอมาสรุปผลโหวตเป็นปลายเดือนหน้า ฉันจะทำอย่างไรดี ฉันไม่อยากให้ลูกเพจเจอฉันเลย ฉันกลัว กลัวเขาจะผิดหวัง กลัวเขาจะรังเกียจยายอ้วนรูปร่างอัปลักษณ์ช่างเพ้อช่างฝัน ถ้อยคำที่ฉันร้อยเรียงลงไปในเพจมันขัดกับรูปลักษณ์ของฉันโดยสิ้นเชิง มันไม่มีเลยความเป็นสายลมขี้เหงา ฉันควรทำอย่างไรดี “อู้ยยย เกิดมาอ้วนนี่ตื่นเช้าดีจัง” เสียงเพื่อนร่วมชั้นคนหนึ่งพูดขึ้นก่อนจะเดินเข้ามานั่งในห้อง แหงล่ะพวกนี้ทั้งสวยทั้งแซ่บ ขาเรียวยาวเป็นนกกระยาง ผิวขาวอย่างกับกระดาษเอสี่ อกตู้มจนกระดุมเสื้อแทบจะขาด “ไปว่าเพื่อน เพื่อนไม่ได้อ้วน แต่แดกควายเข้าไปแล้วยังไม่ย่อย ฮ่าฮ่าฮ่า” ฉันได้แต่นั่งก้มหน้า ไม่คิดเลยว่าต้องมาใช้ชีวิตร่วมกับคนพวกนี้ แต่มันก็เป็นสัจธรรมของสังคมนี้นั่นแหละ รูปลักษณ์มีผลกับบทบาทในสังคมมาก ถ้าเกิดมาสวยก็มีชัยไปกว่าครึ่ง เหมือนสตาร์ทที่กลางทางถ้าสวยด้วยมีความสามารถด้วยเหมือนยืนอยู่หน้าเส้นชัย แต่ถ้าไม่สวยก็ต้องเริ่มที่จุดสตาร์ท ส่วนฉันไม่สวยและไม่มีความสามารถ ต้องเริ่มหลังจุดสตาร์ทไปหลายกิโล
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม