บทที่ 2

1255 คำ
“ทำไมต้องพิจารณาใหม่ด้วยพ่ะย่ะค่ะเจ้าชายอัสซัน ก็ในเมื่อเจ้าชายคาริมเป็นองค์รัชทายาทคนที่หนึ่ง เจ้าชายคาริมก็มีสิทธิ์ขึ้นครองราชย์ในทันที” อัลฮิม เจ้าหน้าที่สภาซึ่งเป็นคนรับใช้เก่าแก่ของเจ้าชายคาดีม เอ่ยคัดค้านข้อเสนอของเจ้าชายฮัสซันอย่างไม่เห็นดีด้วย เพราะรู้ว่าเจ้าชายฮัสซันกำลังต้องการสิ่งใด อีกทั้งยังรู้สึกไม่พอใจที่เจ้าชายฮัสซันเรียกเจ้าหน้าที่ในสภาประชุมด่วนเกี่ยวกับเรื่องนี้ ทั้งๆ ที่ในความเป็นจริงแล้ว ทุกคนควรคิดถึงการจัดพิธีพระศพให้กับเจ้าชายคาดีมมากกว่า “ยังไงๆ ก็ต้องมีการพิจารณาใหม่ เพื่อให้ความยุติธรรมแก่รัชทายาทองค์ที่สองด้วย” กาบิล เจ้าหน้าที่สภาคนหนึ่ง ซึ่งเป็นลิ่วล้อรับเงินสินบนจากเจ้าชายฮัสซันมานานแรมปี เป็นฝ่ายเอ่ยค้านออกมาบ้าง “ใช่ ถูกต้องเหมือนที่กาบิลพูดมา พวกท่านต้องให้ความเป็นธรรมกับรัชทายาทองค์ที่สองด้วย รัฐไบลาร์สิ้นยุคคร่ำครึของเจ้าชายคาดีมแล้ว ต่อไปรัฐไบลาร์จะต้องมีการปกครองแบบใหม่ให้เท่าเทียมกับโลกตะวันตก ที่เจริญรุดหน้าไปกว่าประเทศของพวกเราหลายสิบเท่า” เจ้าชายฮัสซันประกาศก้อง ไม่ได้รู้สึกเสียใจไปกับการสูญเสียอนุชา อีกทั้งยังไม่รู้สึกว่าตัวเองกำลังกระทำในสิ่งที่ไม่สมควรอย่างยิ่ง ที่เรียกประชุมสภาทั้งๆ ที่อนุชาสิ้นลมไม่ทันข้ามคืนด้วยซ้ำไป “แต่เราไม่จำเป็นต้องทำตามชาติตะวันตกเสมอไปนี่พ่ะย่ะค่ะเจ้าชายฮัสซัน” ผู้เฒ่าอัลฮิมเตือนเสียงทุ้มลึก ก่อนจะเอ่ยเตือนสติและเหน็บแนมบรรดาเจ้าหน้าที่สภาหลายคนที่เป็นลิ่วล้อของเจ้าชายฮัสซัน “บางสิ่งบางอย่างเราก็ควรทำตามชาติตะวันตก แต่บางวัฒนธรรมเราก็ควรคงไว้ซึ่งความเป็นรัฐไบลาร์” ‘ปากมากจริงไอ้แก่ เห็นทีว่ามึงจะอยู่ในสภานี้ได้ไม่นาน’ เจ้าชายฮัสซันเค้นสุรเสียงด่าอยู่ในใจอย่างโกรธจัด ร่ำๆ อยากทำตามที่นึกคิด ทว่าสิ่งที่พระองค์ทำได้ในขณะนี้คือการตีสีพระพักตร์นิ่งเฉย ไม่เผยอาการโกรธกริ้วให้ใครเห็น “มันก็จริงเหมือนที่เจ้าพูดมานะอัลฮิม แต่ยุคนี้มันยุคไหนแล้ว เจ้าควรโละความคิดหรือเคาะสนิมในหัวสมองของเจ้าออกบ้าง องค์รัชทายาทที่หนึ่งและที่สอง ควรมีสิทธิ์ในการขึ้นครองราชย์อย่างเท่าเทียมกัน และควรให้สภาเป็นผู้ตัดสินใจเลือกองค์รัชทายาทขึ้นนั่งบัลลังก์ไบลาร์ ไม่ใช่ให้คนแก่อย่างเจ้าเป็นคนตัดสินใจแต่เพียงผู้เดียว” เจ้าชายฮัสซันเหน็บแนมผู้เฒ่าอัลฮิมไปในตัว ในใจนั้นโกรธผู้เฒ่าหัวโบราณคนนี้ ที่มักจะคัดค้านคำพูดของพระองค์เวลาประชุมในสภาในทุกๆ ครั้ง ผู้เฒ่าอัลฮิมลอบถอนหายใจยาว แม้จะเป็นหัวโบราณเหมือนที่ถูกเหน็บแนม แต่เขาก็ไม่ได้โง่เป็นลา และรู้ว่าเพราะเหตุใดเจ้าชายฮัสซันถึงเจ้ากี้เจ้าการเรื่องการเสนอให้รัชทายาทองค์ที่สอง มีสิทธิ์ขึ้นครองราชย์ไม่ต่างจากเจ้าชายคาริมผู้สูงศักดิ์ “ที่พูดมาทั้งหมดนั้น เป็นเพราะเจ้าชายฮัสซันต้องการแก้กฎมนเทียรบาล เรื่องการขึ้นครองราชย์ที่มีมาช้านานใช่ไหมพ่ะย่ะค่ะ” ผู้เฒ่าอัลฮิมเอ่ยถามทั้งๆ ที่พอจะรู้คำตอบดีอยู่แล้ว “ใช่ เราต้องการให้แก้กฎมนเทียรบาลใหม่” เจ้าชายฮัสซันรับคำ ดวงเนตรสีสนิทเต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์ จ้องมองผู้เฒ่าอัลฮิมเขม็ง ก่อนจะตรัสบอกเสียงดังแฝงไปด้วยอำนาจบาตรใหญ่ “เราต้องการให้มีการแก้ไขกฎมนเทียรบาลในวันนี้” “รอให้เจ้าชายคาริมเสด็จกลับมาถึงรัฐไบลาร์ก่อน ไม่ดีหรือพ่ะย่ะค่ะ” ผู้เฒ่าอัลฮิมพยายามเอ่ยคัดค้านออกมาอีกครั้ง เจ้าชายฮัสซันยิ้มเยาะตรงมุมโอษฐ์ แล้วตรัสย้ำให้ตาเฒ่าหัวโบราณยอมรับความจริงสักที “อัลฮิม สภาของเราใช้วิธีอย่างไร เกี่ยวกับเรื่องที่คนในสภาเสนอมา คงไม่ต้องบอก เจ้าก็รู้ดีใช่ไหม อัลฮิม” “ไม่จำเป็นต้องให้เจ้าชายฮัสซันตรัสบอก และกระหม่อมรู้ดีว่ายังไงๆ กระหม่อมก็ไม่มีทางชนะคนของเจ้าชายฮัสซันได้” ผู้เฒ่าอัลฮิมเอ่ยตอบด้วยความเจ็บใจ “รู้ก็ดีแล้ว เอาเป็นว่าเราเปลี่ยนกฎมนเทียรบาล ณ เวลานี้ ต่อไปองค์รัชทายาทที่หนึ่งและองค์รัชทายาทที่สองมีสิทธิ์ขึ้นครองราชย์อย่างเท่าเทียมกัน” เจ้าชายฮัสซันตรัสเยาะอย่างผู้มีชัยเหนือกว่าผู้เฒ่าอัลฮิมในทุกด้าน พระองค์จ้องมองไปยังตาเฒ่าที่จงรักภักดีต่ออนุชาของพระองค์เสมอมา พร้อมกับเค้นสุรเสียงเยาะอยู่ในใจ ‘รอก่อนตาเฒ่าอัลฮิม อย่าเพิ่งทำหน้าเสียใจแทนน้องชายและไอ้หลานชายหน้าโง่ของเรา เพราะยังมีอีกหลายเรื่องที่เราจะเซอร์ไพรส์เจ้า’ “ในเมื่อทุกคนในสภาเข้าใจกันดีแล้วว่ากฎมนเทียรบาลที่ยึดถือมานานมีการเปลี่ยนแปลงไปตามยุคตามสมัยแล้ว เราต้องการให้ทุกท่านในสภา ลงคะแนนเสียงสนับสนุน ว่าระหว่างองค์รัชทายาทองค์ที่หนึ่งกับองค์รัชทายาทองค์ที่สอง พวกท่านต้องการให้ใครเป็นผู้ขึ้นครองบัลลังก์รัฐไบลาร์” เจ้าชายฮัสซันขอคะแนนเสียงจากเจ้าหน้าที่สภาทุกคน แต่เจ้าหน้าที่ทุกคนไม่ทันได้ยกมือสนับสนุนตามความต้องการของพระองค์ ก็มีเสียงของผู้เฒ่าอัลฮิมคัดค้านขึ้นมาอีกครั้ง “ไม่จำเป็นต้องยกมือให้เมื่อย ไม่จำเป็นต้องออกเสียงให้เสียเวลา เพราะเห็นกันอยู่แล้วว่ายังไงๆ เจ้าชายฮัสซันก็เป็นฝ่ายชนะ!” ผู้เฒ่าอัลฮิมผุดลุกขึ้นจากที่นั่ง แล้วเดินออกจากสภาอย่างรวดเร็ว หลังจากประกาศก้องเพราะความโกรธจัด และเจ้าชายฮัสซันก็หัวเราะร่วนด้วยความสะใจอย่างยิ่ง “ฮ่าๆๆ ก็ของมันแน่อยู่แล้ว เจ้าไม่มีสิทธิ์มาต่อกรกับเราได้หรอกตาเฒ่าอัลฮิม” ทางด้านของผู้เฒ่าอัลฮิมกับลูกน้องอีกไม่กี่คน พอเดินออกมาจากที่ประชุมได้แล้ว ต่างก็มองหน้ากัน ถอนหายใจยาวด้วยความหนักใจอย่างยิ่งยวด “พวกเราจะทำยังดีกันดีครับท่านอัลฮิม” เจ้าหน้าที่สภาคนหนึ่งเอ่ยถามเสียงเครียด เสียงหัวเราะของเจ้าชายฮัสซันและลิ่วล่อยังคงดังเล็ดลอดมาให้ได้ยินเป็นระยะ ผู้เฒ่าอัลฮิมถอนหายใจยาว ยกมือลูบหน้าด้วยอาการเคร่งเครียดไม่ต่างจากลูกน้องที่ยืนหน้าสลอนอยู่ตรงหน้าตัวเอง “พวกเราคงทำอะไรไม่ได้แล้ว เจ้าก็เห็นแล้วนี่ว่าตอนนี้รัฐไบลาร์ตกอยู่ในอำนาจเผด็จการของเจ้าชายฮัสซันไปหมดแล้ว เราคงต้องรอให้เจ้าชายคาริมเสด็จกลับมาก่อน แล้วค่อยปรึกษากับพระองค์อีกครั้ง” ผู้เฒ่าอัลฮิมได้แต่ภาวนาให้เจ้าชายคาริมเดินทางมาถึงแผ่นดินทะเลทรายโดยเร็ว เพราะตอนนี้พวกเขาไม่อาจกระดิกตัว ไม่อาจสู้เสียงต่อกรกับอำนาจของเจ้าชายฮัสซันได้ หนึ่งเสียงของเขา และอีกห้าเสียงของลูกน้องของเขา มีหรือจะสู้เสียงนับสิบๆ ของลิ่วล้อของเจ้าชายฮัสซันได้ และแน่นอนว่าเจ้าหน้าที่สภาที่เคยจงรักภักดีต่อประมุขของแผ่นดิน ได้แปรพรรคไปเป็นคนของเจ้าชายฮัสซันหมดแล้ว และสิ่งที่ทำให้คนดีๆ เหล่านี้แปรเปลี่ยนได้ในชั่วข้ามคืนก็คือ เงิน!!! ตัวเดียวเท่านั้น
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม