Devil gang แก๊งหล่อปีศาจกับยัยนางมารขัดดอก
Ep.2
ตอนนี้ฉันเข้าใจแจ่มแจ้งแดงแจ๋แล้วว่าไอ้พวกเทพบุตรหน้าหล่อแต่แสนโหดเหี้ยมนั่นคือเจ้าหนี้ของพ่อฉันเอง
"ไอ้ธานเอากระเป๋ามาดู"
คนที่นั่งอยู่ตรงโซฟาเอ่ยขึ้นมองมาที่กระเป๋าของฉัน
ส่วนคนที่ล็อคคอฉันไว้ก็คลายวงแขนออกแย่งกระเป๋าจากมือฉันไปหน้าตาเฉย
"เอาคืนมานะ!"
ฉันพยายามจะแย่งกระเป๋าคืนแต่หมอนี่กลับโยนกระเป๋าฉันไปให้ร่างสูงที่นั่งอยู่บนโซฟาแทน
เขาถือวิสาสะเปิดกระเป๋าของฉันออกดูทุกซอกทุกมุมหน้าตาเฉยก่อนจะลุกขึ้นยืนไปที่ระเบียงแล้วโยนกระเป๋าฉันลงไป
"ม่ายยยยย นายทำบ้าอะไร!"
ฉันแหกปากร้องอย่างตกใจนี่มันชั้นที่สามสิบนะสามสิบนะโว้ย!จะโยนลงไปแบบนี้ได้ยังไง
"เธอไม่จำเป็นต้องใช้"
เขาเอ่ยเสียงเรียบหน้านิ่งเอามือกอดอกเอาไว้ แต่ฉันแทบจะพุ่งไปบีบคอเขาให้ตายคามือซะตรงนี้ถ้าไม่ติดว่าใบหน้าหล่อๆนั่นแต่แฝงความน่ากลัวไว้อยู่
"ของที่ฉันเอามามันจำเป็น เสื้อผ้าและของใช้ส่วนตัวของฉัน"
"ฉันมีให้เธอแล้ว"
ร่างสูงกระดิกนิ้วสั่งการก่อนที่ลูกน้องของเขาจะเดินถือชุดเข้ามา ฉันแทบจะกรี๊ด
นี่มันชุดบ้าอะไรวะเนี๊ย! ฉันมองดูชุดคอสเพลย์นักเรียนญี่ปุ่นที่ถือเข้ามาด้วยสายตาตกใจสุดขีด
"ล้อเล่นใช่ไหม นี่ชุดบ้าอะไรกัน"
"เธอคิดว่ามาที่นี่ทำไม? มาก็ต้องทำงานใช้หนี้ไปสิ"
"แล้วจะแต่งตัวแบบนี้ทำไมให้ฉันไปล้างจานก็ได้นะ ขัดส้วมก็ได้แต่ไม่เอาแบบนี้อย่าส่งฉันไปขายให้พวกเสี่ยเลยนะ"
ฉันคุกเข่ายกมือไหว้อย่างน่าเวทนา ไม่นะคนสวยๆจิตใจดีราวนางฟ้าอย่างฉันจะต้องเสียเวอร์จิ้นให้พวกตาแก่หัวล้านไม่ได้นะฉันไม่ยอม แต่ถ้าหล่ออาจจะยอมก็ได้นะว่าไป
สุดท้ายสิ่งที่ฉันคิดนั้นผิดมหันต์เพราะไอ้พวกนั้นมันดันส่งฉันให้มาเป็นเด็กเสิร์ฟให้บรรดาพวกเล่นการพนันชั้นvip
"พวกปีศาจมาแล้ว พวกมึงตายแน่"
ฉันหันไปมองตามเสียงของใครคนนึงที่อยู่ไม่ไกลนัก พวกปีศาจงั้นเหรอ
"ใครเหรอพวกปีศาจ?"
ฉันสะกิดถามคนข้างๆที่ทำงานแบบเดียวกับฉันในตอนนี้เธอหันมามองฉันตาโต นี่ฉันพูดอะไรผิดเหรอ
"นี่เธอไม่รู้จักพวกแก๊งปีศาจเหรอไปอยู่ไหนมา"
เธอคนนี้มองฉันเหยียดๆเอ่อ..ก็อยู่มาบนโลกตั้งแต่เกิดจนตอนนี้อายุ23แล้วอ่ะนะฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าไปอยู่ตรงไหมมาถึงไม่เคยรู้จักพวกเขา
"เฮ้อ... ฉันจะบอกให้นะแก๊งปีศาจคือแก๊งที่มีอิทธิพลมากเขาคุมบ่อนพนันมากมายค้าขายสิ่งผิดกฎหมายแต่ก็ไม่มีใครกล้าทำอะไรได้เลย พวกเขาเป็นสามคนพี่น้องคนแรกชื่อลูฟิเฟอร์ คนที่สองแอสโมดิวส์ คนที่สามเลเวียธาน คราวนี้รู้ยังว่าทำไมแก๊งนี้ถึงชื่อแก๊งปีศาจ"
เธอชี้ไปยังคนที่ฉันเจอเมื่อตอนนั้นที่เขานั่งอยู่ตรงโซฟาหน้านิ่งๆชื่อลูซิเฟอร์ ส่วนที่ชื่อแอสโมดิวส์คือคนที่ส่งยิ้มมีเสน่ห์ให้ฉันเมื่อตอนนั้นนี่เอง ส่วนคนสุดท้ายคือคนที่มันล็อคคอฉันแถมยังจะสั่งให้ควักลูกตาฉันอีก
ฉันนิ่งเงียบสมองกำลังประมวลผลอยู่ว่าเพราะอะไรทำไมถึงเรียกว่าแก๊งปีศาจ
"ชื่อ! ชื่อทั้งหมดล้วนมาจากชื่อของปีศาจ"
ฉันตาโตพูดอย่างตื่นเต้น คุณพระ! นี่บนโลกนี้มีคนชื่อแบบนี้อยู่จริงๆเหรอเนี๊ยใครสรรหามาตั้งให้กันนะ
"ขอบอกว่าชื่อและนิสัยนี่เหมือนกันเลยล่ะแถมหล่อสุดๆ"
"แล้วเธอทำงานใช้หนี้มานานหรือยัง"
ฉันถามออกไปเพราะงานแบบนี้ต้องทำกี่ปีถึงจะหมดหนี้ได้
"ใช้หนี้อะไรของเธอ?"
"อ้าว ไม่ใช่ว่าเธอมาเพื่อทำงานขัดดอกใช้หนี้หรอกหรอ"
"บ้า! ฉันมาทำที่นี่เพราะจะได้เห็นหน้าหล่อๆของปีศาจทั้งสามต่างหากล่ะ"
เธอยิ้มร่าทำหน้าเคลิบเคลิ้มจนฉันต้องเขยิบห่างออกมาทีละนิดทีละนิด น่าสงสารจังตาบอดตั้งแต่ยังเด็กเห็นขี้เป็นเพรชไปได้
ระหว่างที่ฉันวิ่งเสริฟโต๊ะนู้นไปโต๊ะนี้จนขาสั่นฉันก็เห็นทางสว่างนั่นก็คือ ห้องเก็บอุปกรณ์ฉันแอบจิ๊กไฟแช็คจากโต๊ะที่ฉันเสริฟมาเมื่อกี้
ฉันหันซ้ายหันขวาทางสะดวกก็แอบเปิดประตูเข้าไป โห้..มือตึดตื๋อเลยแฮะ
ฉันจุดไฟแช็กเพื่อให้พอเห็นแสงสว่างเล็กๆน้อยๆแต่เอ๊ะ
เปรี๊ยะ! เปรี๊ยะ!
เสียงประกายไฟดังขึ้นที่ที่ฉันยืนอยู่ กลิ่นไหม้ลอยเข้ามาเตะจมูกไม่ช้าไฟสีแดงฉานก็ลุกขึ้นมาอย่างเร็ว พระเจ้าช่วยกล้อยทอดยายเช้ง! ไฟไหม้เจ้าค่าาาา ไฟไหม้!
ฉันพยายามจะถอยหลังออกไปที่ประตูแต่เคราะซ้ำกรรมซัดฉันดันถอยไปชนกันชั้นวางจนมันล้มลงไปขวางประตูเอาไว้ กร๊าส!ฉิบหายแล้วไหมล่ะ
แค่กๆ
ฉันไอออกมาเพราะเริ่มจะสำลักควันขึ้นมาแล้ว ทำไมไฟมันลามเร็วอย่างนี้นะ
โครม!
เสียงดังมาจากทางประตูทำให้ฉันใจชื้นขึ้นมาทันทีในที่สุดก็มีเจ้าชายขี่ม้าขาวมาช่วยฉันแล้วเงาของร่างสูงทำให้ฉันอดยิ้มออกมาไม่ได้พ่อพระของฉัน
"ตายยัง"
ฉันหุบยิ้มทันทีที่เสียงเรียบเย็นชาของพ่อพระมาโปรดดังขึ้นมาซะก่อน
"โทษทีนะ แต่ยังไม่ตาย"
ฉันตอบกลับอย่างหมั่นไส้ทำไมทุกอย่างที่คิดและวางแผนไว้ต้องกลับตาลปัตรกันหมดขนาดนี้
"ก็ดี จะยื่นเซ่ออีกนานไหมหรือรอไฟครอกตายซะก่อนค่อยออกมา"
ร่างสูงกระชากข้อมือฉันให้ตามเขาออกไปด้วยความทุลักทุเล เพราะสิ่งกีดขวางที่ล้มระเนระนาดกับควันที่พวยพุ่งจนฉันแสบตาไปหมดแล้ว
แค่กๆ
"ขะ ขอบคุณนะเฮ้ย!นาย"
ฉันสูดหายใจเข้าเต็มปอดก่อนจะเอ่ยขอบคุณคนตรงหน้าแต่กลับผงะไปทันทีไหงถึงเป็นลูฟิเฟอร์ ไปได้
"เธอเข้าไปทำอะไรในนั้น"
เสียงเข้มเยือกเย็นดูท่าทางน่ากลัวจนฉันต้องถอยหลังหนี
พลั๊ก!
ฉันที่ถอยหนีจากลูซิเฟอร์ก็ชนเข้ากับแพงอกของใครบางคนจากด้านหลังทำให้ฉันต้องเงยหน้าขึ้นมองเป็นจังหวะเดียวกันกับที่เขาก้มลงมามองฉันเช่นกันสายตาปะทะสายตา
"คิดจะลอบวางเพลิงเหรอห๊ะยัยนี่"
"แอ่ก! ไอ้บ้าฉันเปล่านะ"
เลเวียธานใช้แขนล็อคคอฉันเอาไว้หน้าตาเฉย นี่ไม่คิดจะทนุถนอมกันเลยหรือย่ะ! เอ๊ะอะลากเอ๊ะอะล็อคคออยู่ได้
"ก็เห็นๆอยู่ว่าเธอเข้าไปในห้องนั้นแล้วยังโง่ขังตัวเองไว้ข้างในอีก"
"ฉันไม่ได้ทำ ฉันถูกใส่ร้ายนะ!"
"หรอ? นี่ไงหลักฐาน"
เลเวียธานชี้มาที่ไฟแช็คในมือของฉันทำให้ฉันต้องมองตามนิ้วมือของเขา
ฟิ้วววว~
ฉันโยนไฟแช็คจนลอยละลิ่วไปไหนแล้วก็ไม่รู้พร้อมกับแบมือออกทั้งสองข้างพูดหน้าตาย
"ไหนอ่ะ ไม่มี๊ตาฝาดป่าว"
"หึ! คนปากแข็งจะต้องถูกลงโทษรู้ไหม"
ลูซิเฟอร์เอ่ยเสียงเย็นสายตาคมเฉียบดูเยือกเย็นของเขาทำให้ฉันกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก ไม่นะชีวิตน้อยๆของฉันจะมาถูกแส้ฟาดหักแขนหักขาไม่ได้นะ ไอ้พวกผีห่าซาตานเอ๊ย! อย่าให้ฉันรอดไปได้นะคอยดู ฉันจะหนีไม่ให้พวกนายตั้งตัวได้เลยทีเดียวเฮอะ!