ตอนที่ 6 ชื่อตอน เฮยพั่ง

1403 คำ
หลังจากหลบหน้าคนมาได้ เสี่ยวโซ่วร้อนไปทั้งกาย นางหลบหน้าหวงต้าเกอมิยอมไปส่งข้าวให้กิน คนรอก็แขวนท้องไปตลอดที่เข้ายาม จนถึงยามที่เปลี่ยนกะได้ ก็เร้นกายหายวับไปกับองครักษ์ที่มาถึงเมืองฝูหลิงนับร้อยนาย ยามค้นพบเสี่ยวโซ่วก็ยิ้มให้นางและแลบลิ้นแดงๆออกมา ก่อนจะทำทีเหมือนมิมีอันใดเลย เสี่ยวโซ่วตกใจหน้าแดงเรื่อ วิ่งหนีหายไปทันที นางกอดหน้าไม้วิ่งหนีไปจนท้ายเมือง ก่อนจะพบว่านกเงียบสงัด และในความเงียบมีเสียงน้ำดังที่ท้ายเมือง เป็นคูน้ำเก่าที่ทหารมิใช้งานแล้ว เสี่ยวโซ่วรู้สึกผิดปกตินางจึงเร้นกายมุดลงในบ่อน้ำแห้งๆ ที่นางเคยมานอนยามขอทาน และคลานไปช้าๆตามอุโมงค์แห้งๆนั้น ก่อนจะถึงใต้ซากโพรงไม้โพรงหนึ่ง นางจึงแอบมองออกไปและพบว่ามีทหารฉีอัน ลักลอบว่ายน้ำมานับร้อยที่ท้ายเมืองแล้ว นางยิ้มแสยะและมิยอมหายใจ ปล่อยให้คนเข้าไปในท้ายเมืองเสียให้หมด ยามส่วนหนึ่งไปรอด รออีกนิดกลับพบอีกส่วนดำน้ำขึ้นมาอีก ยามรออีกนิดจึงมีอีกและมีเสียงคุยกันเบาๆ “กองแรกไปหมดแล้วใช่หรือไม่” “ไปหมดแล้วขอรับท่านนายกอง ข้าน้อยจะรอส่งสัญญาณที่นี่หากการโจมตีมิเป็นผลขอรับ ทัพใหญ่จะได้มิข้ามมา” “ดี เจ้าไปซุ่มทางนั้นข้าจะไปทางนี้เอง เจอทหารแคว้นหลิงจับมันไว้ให้ได้ซักคน อย่าเพิ่งเร่งร้อนสังหารไปเล่า” เด็กสาวหายใจเบาๆและนอนลงในพื้นฟางที่นางปูไว้เพื่อนอนเล่นเป็นประจำ ในนี้มีสมุนไพรไล่หนู และมีอาหารแห้งอยู่เป็นบางส่วน นางจึงมิขยับตัวมากรอไปพักหนึ่งก็พบว่ามีทหารมาอีกแล้ว มันขึ้นไปซุ่มมากขึ้นเรื่อยๆ สาวน้อยจึงแย้มรอยยิ้มบาน และรอคนเข้าไปมากๆสับกลไกลงปล่อยจระเข้ลงมา และกดกลไกสั่นต้นไม้ไปทั่วเมืองจนนกบินหนีไปจนสิ้น มีเสียงกระดิ่งลมดังกรุ้งกริ้ง และคล้ายคนหายไปจนสิ้น ก่อนจะมีเสียงข้าศึกเดินค้นหาคน และเที่ยวเปิดประตูไปทั่ว ก่อนจะมีเสียงไก่ขันดังขึ้น และมีเสียงธนูแหวกอากาศมาปะทะผนังและเนื้อคนดัง ปัง ปัง ปัง เสี่ยวโซ่ว คลานไปเรื่อยๆสับกลไกที่ใต้ดิน ปิดประตูหลังเมืองเป็นชั้นๆ ที่หลังเมืองมีกำแพงกลไกเคลื่อนไปมาจากซ้ายขวา เคลื่อนบีบตีกันโครม โครม โครม “อ๊าก อ๊าก อ๊าก” คนร้องเพราะกำแพงกระแทกอัดจนเครื่องในระเบิด เสียงกำแพงดังจนพื้นสะเทือนเหมือนม้าเคลื่อนไปออกศึก มินานก็หยุดลงยามมีของไปขัดกลไกมาก คนติดภายในที่ยังมิตายสนิทร้องโหยหวล เสี่ยวโซ่วสวดมนต์ออกมากล่าวขอขมาเบาๆ และคลานหนีน้ำเลือดที่ไหลลงมาอย่างตื่นกลัว นางน้ำตารินคลานและไถลไปตามทางลาด และไปพบทางออกที่มีเชือกอันหนึ่ง นางโหนเชือกปีนไปเกาะกำแพงเมือง และร้องไห้ออกมาน้ำตาทะลักพลัน “ฮื้อ กำแพงบ้าของเมิ่งเกอ ทำที่นอนของข้าที่ใต้อุโมงค์ดินมีแต่เลือดและชิ้นเนื้อของมนุษย์ ต่อไปข้าจะมิไปนอนแล้ว แง๊ ฮือ ข้ากลัวภูติผีมารังควาญ ฮือ ฮือ ฮือ” เสี่ยวโซ่ววิ่งร้องไห้มิมองทางจนไปชนเข้ากับกำแพงมนุษย์ กายอุ่นร้อนกอดนางเอาไว้แน่น และหอมลงที่เรือนผมของนางแรงๆ ดึงนางมาสำรวจกายอย่างตื่นตระหนกทันที “เจ็บที่ใดหรือไม่ ผู้ใดทำอันใดเจ้า บอกต้าเกอมาเดึ๋ยวนี้นะ” หวงเกาเทียนตื่นตกใจยามที่ได้เห็นน้ำตาของเสี่ยวโซ่ว นางจึงเบะปากหนักขึ้นและชี้ลงไปที่ท้ายเมือง ที่มีเสียงตึงตังดังภูเขาเคลื่อนอยู่ นางกอดรัดร่างหนาและแหกปากลั่นอีกคราหนึ่ง “แง กำแพงบ้าของเมิ่งเก้อเกอ มันบดร่างมนุษย์ทหารฉีอัน จนน้ำเลือดและเนื้อมนุษย์ไหลลงไปในถ้ำใต้บ่อน้ำของข้า ต่อไปข้าจะไปนอนได้อย่างไรกัน ที่มืดมิดเหล่านั้นต้องมีกลิ่นเนื้อเน่าและผีไปทวงแค้นข้าแล้ว เมิ่งเก้อเกอบ้าที่สุด ทำของน่ากลัวออกมาเช่นนี้ได้อย่างไร แง” ทหารลับฟังแล้วตาโต เร่งไปตามเล่อหานเสวี่ยที่ยังอยู่ในเมืองมาดูกลไกของเมิ่งฉีเซิง เผื่อว่าตนเองจะพลาดไปเหยียบสิ่งใดเข้าแล้วตายอย่างโง่เง่า จึงต้องตามหาเล่อหานเสวี่ยที่ออกมายืนหาวเบาๆ และออกมายืนมองต้นเหตุของเสียงและตะโกนลั่น “เฮ๊ย ทหารฉีอันบุกมามากเช่นนั้นเลยหรือนี่ ผู้ใดสับกลไกกันนี่ มันมีมากอีกเท่าใด ตายกันไปจนหมดสิ้นไปแล้วหรือยัง” “แง๊ เล่อเก้อเกอ เมิ่งเก้อเกอใจร้าย กำแพงมันบีบข้าศึก โพล๊ะ โพล๊ะ โพล๊ะ ทำน้ำเลือดและเนื้อมนุษย์ไหลลงจนล้นในถ้ำใต้ดินของข้า ต่อไปข้าจะไปนอนในบ้านใต้บ่อน้ำได้อย่างไร อาหารแห้งและเนื้อรมควันของข้า ล้วนถูกเลือดมนุษย์หลั่งรินรดไปหมดแล้ว ฮือ ฮือ ฮือ” เล่อหานเสวี่ยตาโตขึ้น ที่ไปรู้ความลับน่าขำนี้ของเจ้าเสี่ยวโซ่ว จึงเร่งลงไปนอกกำแพง ก่อนที่เสี่ยวโซ่วจะเคาะไม้เรียกลูกๆของนางกลับมา เจ้าตัวดำหนังหนาคลานขาสั้นๆ ตะกายขึ้นมาบนบกและอ้าปากค้าง คายหัวของมนุษย์ออกมา เสี่ยวโซ่วหวีดร้องลั่น และกระโดดเหยงไปกอดรัดหวงเกาเทียนในทันที “อร้า เจ้าดำอ้วนลูกของข้ากินคนแล้ว มิใช่ว่ามันแค่ไล่คนไปได้หรอกเหรอ ข้าเคยแต่ตกปลาเลี้ยงหนูให้มัน ข้ามิได้ตั้งใจนะ ฮือ ข้านึกว่ามันมิกินคนแบบนี้ อร้า แง๊” ทุกผู้คนตกใจกันจนสิ้น ที่เสี่ยวโซ่วบอกว่าเจ้าจระเข้ตัวมหึมาที่อ้วนดำนี้ คือลูกๆของนางเอง เล่อหานเสวี่ยกระโดดเหยงหนีไป ทหารอื่นก็พอกัน เมื่อเสี่ยวโซ่วสับกลไกอีกครา ก็พบว่ามีทางลาดเปิดลงไปในบ่อน้ำแห้ง เหล่าเจ้าอ้วนดำตะแคงกายไถลลงไปนอนต่อในทันที มีเสียงหวีดร้องและเสียงลากและกัดกระดูก กร๊อบ กร๊อบ กร๊อบ เสี่ยวโซ่วตื่นตกใจกระโดดกอดขารัดเอวหวงเกาเทียนในทันที “แง๊ เจ้าอ้วนดำของข้ากินคนแล้ว มันมิเคยกินคนมาก่อน เมิ่งเก้อเกอไอ้คนบ้า ทำให้ลูกของข้าออกมาล่ามนุษย์แล้ว ต่อไปข้าจะกล้าลงไปนอนกอดพวกมันได้อย่างไร มันกินหัวคนลงไปแล้ว ข้าจะกอดมันนอนได้อย่างไร แง๊ แง๊ แง๊” ทุกผู้คนหันมองเสี่ยวโซ่วกันเป็นตาเดียวและหัวเราะลั่นขึ้นมาอีกครา ยามที่เจ้าอ้วนดำของนางลากตุ๊กตาเป็ดมาให้นาง และคายขาคนลงบนพื้นก่อนจะคลานอย่างว่องไว มากอดรัดถูหัวที่ปากมีเลือดและชิ้นเนื้อหยดย้อยลงมาแผละๆ เสี่ยวโซ่วเบะปากคว่ำลง และก้มลงกอดหัวเหม็นคาวเลือดของต้าเฮยพั่งจระเข้ตัวโปรดของนาง และโยนตุ๊กตาเป็ดลงบ่อไป มันไถลตามลงไปเล่นตุ๊กตาและคาบกลับมาใหม่ให้เล่นด้วยสามสี่ครา ก่อนจะลงไปแทะบางสิ่ง กร๊อบ กร๊อบ กร๊อบ เสี่ยวโซ่วสะดุ้งเฮือกน้ำตาริน นางกระโดดรัดลำคอแกร่งในอีกครา “อรึ้ย ข้ามิกล้าลงไปนอนในบ่อแล้ว ข้ากลัวเฮยพั่งมันกินข้า ฮือ ฮือ ฮือ”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม