นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่องค์ชายห้ามองไปทางกาน้ำหยดตรงมุมห้อง และไม่ใช่ครั้งแรกที่พระองค์เอาแต่ทอดพระเนตรกระดาษ เซวียนจื่อแผ่นใหญ่ด้วยแววตาเลื่อนลอย แม้มือข้างหนึ่งยังจับพู่กันและจุ่มลงน้ำหมึกสีดำไว้แล้ว ทว่าสติความนึกคิดกลับไม่ได้อยู่ในเรือนอักษรแห่งนี้ มู่ห้าวชงรู้ดีว่าผู้ที่ทำให้องค์ชายเป็นเช่นนี้ย่อมไม่พ้นคุณหนูสามตระกูลเฉิน ผู้มีฐานะเป็นพระชายาเอก เห็นท่าทีขององค์ชายแล้ว องครักษ์มู่พลันมุ่นหัวคิ้ว ในเมื่อทรงโปรดปรานพระชายามากเพียงนั้นเหตุใดยังตัดสินปล่อยให้ พระชายาอยู่ตำหนักลืมเลือนอีก มิสู้รับมาอยู่จวนจิ้นฝูด้วยกันเสียเลย ทำเช่นนี้ย่อมเพิ่มความใกล้ชิดและคุ้นเคยระหว่างสามีภรรยามากขึ้น และองค์ชายของเขาก็ไม่ต้องทอดถอนใจเฉกเช่นที่เป็นอยู่ กระทั่งย่างเข้ายามเว่ยสองเค่อ พระองค์ถึงได้ยอมจรดพู่กันลงบนกระดาษเสียที พอเขียนอักษรได้คำหนึ่ง เสียงทุ้มราบเรียบพลันหลุดออกมา “ตาเฒ่าหม่ากลับมาหรือยัง”