“คิม...คิม...เด็กน้อยของฉัน” สิ้นเสียงรำพึงรำพัน ความวิปริตที่ไม่เคยจางหายไปจากผู้ชายความคิดไม่ปกติผู้นี้ ยอดปทุมถันจึงถูกครอบครองจากเนื้อเนียนสีอมน้ำผึ้ง ค่อยๆ ถูกแต่งแต้มด้วยจ้ำแดงไปทั่ว
อื้มมมม...แรงกระตุ้นอันรัญจวน เรียกสติที่ดับไปของคิมให้ตื่นขึ้นมาอีกครั้ง
ดวงตากลมเปิดกว้างเมื่อร่างกายต้องรองรับน้ำหนักส่วนที่เป็นเนินอกอวบอิ่มเต็มไม้เต็มมือตามวัยสาว
“อย่านะ” เสียงร้องห้ามแหบพร่า เมื่อสติอันอ่อนไหวกำลังต่อสู้กับความวาบหวามที่ก่อตัวขึ้น ร่างกายประท้วงต้องการให้คงความรู้สึกอันรัญจวนนี้ไว้ แต่สติของคิมพยายามประท้วง ร้องบอกว่าผู้ชายคนนี้สารเลวเกินคน อย่าให้เขาเข้ามาในร่างกายเธอเด็ดขาด
“เธอนี่ช่างเนรคุณจริงๆ” ริมฝีปากชายหนุ่มสั่นระริกร้องบอกเสียงแหบพร่า เมื่ออารมณ์ความต้องการของตนเพิ่มทวีมากขึ้น และร่างที่ดิ้นเร้าๆ เสียดสีดิ้นรนต่อต้านจนเขารู้สึกรำคาญ เพราะถ้าเป็นเวลาอื่นเขาคงใช้กำลังกับเธอได้ แต่เวลานี้เธอมีบาดแผล
“ออกไปนะ”
“คิม ทันทีที่เธอกลับมา และทำงานที่ได้รับมาไม่สำเร็จ ผลของมันคืออะไรเธอไม่รู้เหรอ”
ทำไมเธอจะไม่รู้ งานนี้เป็นเธอเองที่อยากได้มันมา ทั้งๆ ที่รู้ว่ามันจะเป็นงานแรกและงานสุดท้ายของเธอ ในตอนนั้นเธอหวังว่าจะลากเขาลงนรกไปพร้อมกับเธอ แต่ทำไมกัน...ทั้งๆ ที่เธอมีโอกาสหลายต่อหลายครั้งที่จะลงมือโดยที่ตั้งใจเอาชีวิตของตัวเองมาสังเวยอยู่แล้วแท้ๆ...ทำไมกัน
“ทั้งๆ ที่คิมสามารถหลีกเลี่ยงมันได้ ฉันกำลังจะลืมคิมไปแล้ว...แล้วทำไมถึงกลับมา คิมแค้นฉันจริงๆ เหรอ อยากทำร้ายฉันจริงๆเหรอ...” เสียงกระเซ่าเอ่ยถามออกมา ทำไมน้ำเสียงเขาถึงชวนเย้ายวนใจ
คิมกัดริมฝีปากล่างทันที คำพูดของเขาแทงใจเธอ
“คิม สิ่งที่เกิดขึ้นกับคิม มันไม่ใช่การทำร้าย แต่นั่นเป็นพฤติกรรมที่ร่างกายฉันต้องการ มันอาจจะแปลกประหลาดกับรสนิยมที่เป็นปกติของผู้ชายทั่วไป แต่ฉันชอบแบบนั้น ฉันก็หวังให้คิมชอบมันเช่นกัน เคียงข้างฉันตลอดไปจะได้มั้ย”
บรื้นนนน แต่คิมที่ยังอึ้งไม่ทันได้เอ่ยอะไร เสียงคำรามของเครื่องยนต์ด้านนอกก็ดังขึ้นเรื่อยๆ
เลียมทำหน้าเอือมระอา เขากำลังคิดอะไรอยู่นั้นยากจะเดา ผลั่ก! แต่ก็ทำให้เขาออกจากตัวเธอ
อืม เขาล้วงโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋า ขานรับในคอสั้นๆ และเงียบเพียงชั่วครู่ เขาก็กดปิด
เลียมถอดเสื้อยืดที่ตนสวมอยู่ออก “สวมมันซะ คนของฉันมาถึงแล้ว”
คิมค่อยๆ ลุกขึ้นรับเสื้อเขามาสวมอย่างว่าง่าย ไออุ่นและกลิ่นกายชายหนุ่ม เอ่อ...ทำเอาเธอที่ไม่ใช่หญิงสาวไร้เดียงสาหรือบริสุทธิ์ ถึงกับขนลุกซู่ หัวใจวาบหวามแปลกๆ
เลียมเดินไปที่ประตู ใบหน้าเขาเปลี่ยนไปจากเมื่อครู่อย่างกับคนละคน ‘จอนสัน ฝากไว้ก่อน’ มีเพียงเสียงคำรามในใจอย่างเคียดแค้น แต่แค้นเรื่องอะไรอีกไม่นานก็คงกระจ่าง
“พี่…” ทันทีที่ประตูไม้เก่าๆ เปิด เสียงหวานดั่งกระดิ่งจากสรวงสวรรค์ก็แทรกเสียงกระหึ่มของเครื่องยนต์และเสียงหรีดริ่งเรไรท่ามกลางความมืด
ผลั่ก! สองเรือนร่างสอดประสานแนบแน่น คิมที่พึ่งสวมเสื้อแจ็คเก็ตของตนเสร็จผงกหัวขึ้นมามอง เลียมที่ไม่ได้สวมเสื้อเผยแผ่นอกกำยำเต็มแน่นไปด้วยกล้ามเนื้อได้รูปสวยงาม เสริมเสน่ห์น่ารัญจวนคือรอยแผลเป็นมากมาย
!! คิมเบิกตามองเลียมกับเจ้าเสียงกระดิ่งใส เลียมหันหลังให้เธอ เธอจึงไม่อาจเห็นสีหน้าของเขาในตอนนี้ได้ แต่ทว่า...
“เบลินด้า” เสียงอ่อนนุ่มทุ้มต่ำ ชวนอบอุ่นหัวใจ แต่ไม่ใช่สำหรับคิม
“เบดีใจที่ได้เจอพี่และเจ็บปวดใจที่พี่บาดเจ็บอีกแล้ว” เลียมยิ้มเล็กน้อย และชำเลืองไปส่งสายตาให้ลูกน้องด้านนอก และเขาก็กอดเอวคอดกิ่วของหญิงสาวเสียงกระดิ่งเดินออกไป ไม่หันกลับมามองคิมสักนิด
ทันทีที่เขาลับสายตาออกไปแล้ว ชายร่างสูงในชุดดำทั้งชุดเดินเข้ามา ยืนตรงหน้าเธอ
“ไป” เขาพูดสั้นๆ เข้าใจ
คิมเดินออกไป ไม่เห็นเลียมแล้ว รถที่ขับเข้ามาทยอยเคลื่อนออกไปทีละคัน คิมถูกพาเข้าไปในรถคันสุดท้าย คราวนี้เธอนั่งอยู่เบาะหลังเพียงลำพัง ความอ่อนล้าที่เกิดจากอาการบาดเจ็บ ทำให้เธอเผลอหลับไปในทันที
ภายในรถอีกคันที่ถูกจำกัดให้เป็นความส่วนตัวอย่างมิดชิด เจ้าของเสียงใสดั่งกระดิ่งตระกองกอดนัวเนียแนบแน่นร่างกำยำ
ริมฝีปากแดงจิ้มลิ้มปะพรมจุมพิตไปทั่วร่างเปลือยท่อนบนของชายหนุ่มไม่หยุด เลียมนั่งทอดกายแหงนหน้าพิงพนักปิดเปลือกตาในท่วงท่าที่กำลังพักผ่อน
จ๊วบ เฮ่อ เสียงจุมพิตและเสียงลมหายถี่เร็วของหญิงสาวที่ไม่ปิดบังความรู้สึกที่เป็นอยู่ว่าเธอผู้นี้กำลังต้องการปลดปล่อยความต้องการที่อัดอั้นมานาน
เบลินด้า เธอยังอ่อนเยาว์แต่กลับลื่นไหลแพรวพราวเก่งกาจในทุกท่วงท่าและสถานที่ที่ไม่เป็นอุปสรรคสำหรับเธอเลยสักนิด แม้ยังอ่อนเยาว์แต่เธอไม่มีความเอียงอายต่อสิ่งที่ทำอยู่ตอนนี้
เธอเดินหน้าอย่างเปิดเผย มือไม้เปะปะไปทั่วร่างกายชายหนุ่ม รวมถึงริมฝีปากที่ตอนนี้เปรอะเลอะเทอะเมื่อลิปสติกสีแดงป้ายละเลงไปทั่วแผ่นอกแข็งแรง และเลื่อนลงต่ำลงเรื่อยๆ
เพียงไม่นานเธอก็ดึงความแข็งแรงอันยิ่งใหญ่ของเลียมออกมาจากอาภรณ์ผงาดตั้งตระหง่านให้เธอได้จัดการอย่างถึงพริกถึงขิง
เบลินด้าจัดการได้อย่างเป็นขั้นเป็นตอน เลียมตอบสนองกลับ รับยอดอกสีชมพูเข้ามาดูดเลียสลับกันไปมา ยามที่เบลินด้ากำลังควบขี่กลืนกินเขาอย่างบ้าคลั่ง ซึ่งเลียมเข้าใจเธอดีว่าเธออดอยากปากแห้งมานาน
จึงไม่แปลกที่เธอจะอดรนทนไม่ไหวทันทีที่เขามาปรากฎตัว
เสียงครางถูกปลดปล่อยออกมาในที่สุด เมื่อสองร่างเข้าสู่ช่วงเวลาการปลดปล่อย
เฮ่อ เฮ่อ เบลินด้าหยุดร่างกายหลังอาการเกร็งกระตุก เธอทำเพียงนอนหอบหายซบอิงใบหน้าที่ซอกคอชายหนุ่ม ฝ่ามือหนาหยาบกระด้างลูบไล้แผ่นหลังหญิงสาวที่ยังคงคร่อมกักเก็บความเป็นชายของเขาไว้
ไม่มีอะไรแตกต่าง แผ่นหลังหญิงสาวควรจะเนียนละเอียด แต่หาใช่สำหรับเบลินด้า ผิวเนื้อหยาบอันขรุขระที่ดีขึ้นมากได้เท่านี้ เนื้อที่ไม่เสมอเรียบ เป็นความรู้สึกที่คุ้นเคยสำหรับเลียมดี
“พี่…”
อืม เลียมขานรับสั้นๆ
“คิดถึงนะคะ”
อืม เสียงตอบรับบ่งบอกว่าเข้าใจแล้ว เพียงแค่นั้น เบลินด้าปิดเปลือกตาหลับไป สองแขนยังคงโอบรอบคอเขาไว้แน่น
เลียมก็เช่นกันปิดเปลือกตาหลับพักผ่อนโดยที่สองแขนยังคงโอบกอดร่างที่ยังคร่อมเขาไว้อย่างอบอุ่น