หลังจากได้รับข้อมูลสะเทือนจิตใจ พรุ่งนี้เธอต้องพาร่างกายของตัวเองไปเป็นเครื่องสังเวยให้เจ้าหนี้หน้าเลือดอย่างนั้นหรือ คุณหนูเนย์ญรินทร์ ลีละเดชา ไร้ค่าถึงขั้นต้องไปนอนทอดกายเป็นนางบำเรอให้กับเจ้าหนี้ได้เชยชม เพื่อชดใช้หนี้สินทั้งต้นทั้งดอกที่บุพการีผู้เคารพรักเป็นคนสร้างขึ้น
ชีวิตคนเราก็มีอยู่แค่นี้ เลือกทำในสิ่งที่ถูกต้องหรือจำใจทำเมื่อไม่มีทางเลือก ตัวเธอเองคงจะไร้ซึ่งหนทางที่จะให้เลือก การทำหน้าที่ของลูกกตัญญูคือเส้นทางที่เลือกเดินมาโดยตลอด และหน้าที่ชดใช้หนี้สินให้พ่อก็คือหนึ่งในเส้นทางที่เธอเลือกเดิน เนย์ญรินทร์ ลีละเดชา จำต้องแบกภาระนี้ไว้บนบ่าเพื่อพ่อที่รัก พ่อที่มีเพียงคนเดียวในโลกใบนี้ และเป็นญาติเพียงคนเดียวที่หลงเหลืออยู่
คืนนี้เป็นคืนสุดท้ายที่จะได้อาศัยอยู่ในบ้านทรุดโทรมหลังนี้ หลังจากหุงหาอาหารให้ผู้เป็นพ่อและผู้เป็นแม่เลี้ยงกินกันจนเรียบร้อย หญิงสาวก็อาบน้ำชำระร่างกายแต่งตัวด้วยเสื้อยืดกางเกงขาสั้นล้มตัวลงบนที่นอนอย่างอ่อนแรง
“แม่ขา... เนยรักแม่ เนยคิดถึงแม่เหลือเกิน”
หลายครั้งที่โหยหาความรักความอบอุ่นจากผู้เป็นแม่ แต่ว่าต่อให้ไขว่คว้ามากเพียงใด เอื้อมมือจนสุดแขนขนาดไหน แต่ไม่มีสักวันที่เธอจะเอื้อมถึง อนาคตต่อจากนี้คงจะมืดมนไม่ต่างจากแสงอาทิตย์ที่ลับขอบฟ้ายามค่ำคืน แต่ว่าคงจะแตกต่างตรงที่วันต่อมาพระอาทิตย์ยังเปล่งแสงสว่างในวันรุ่งขึ้น แต่สำหรับเธอคงไม่มีเลยแม้แต่นิด
รุ่งเช้าตรู่ลูกสาวคนสวยของคุณสุภาษิตตื่นมาทำหน้าที่ของลูกที่ดีอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง อะไรที่เคยทำก็ทำจนเสร็จเรียบร้อย หญิงสาวยืนมองบ้านไม้ทรุดโทรมที่เธออาศัยมานับปีด้วยความรู้สึกอาลัยอาวรณ์ แม้บ้านหลังนี้จะไม่มีอะไรดีเหมือนบ้านของคนอื่น แต่ว่า... ที่นี่มีพ่อ พ่อที่เธอรัก…
“งานการเสร็จหมดแล้วใช่ไหม? ไปอาบน้ำอาบท่าอีกสักรอบสองรอบสิ เผื่อเจ้าหนี้จะหลงความสาวความสวยของเธอ แล้วลดหนี้ให้พ่อเธอสักครึ่งหนึ่ง”
ลินินทร์ก้าวเข้ามาหาลูกเลี้ยงนอกไส้ เหยียดปากพูดอย่างเย้ยหยัน แม้แต่ความเห็นใจก็ไม่เคยฉายออกจากแววตาเลยสักครั้ง
“ค่ะ... คุณน้า”
หญิงสาวรับปากแค่นั้น ก่อนจะเดินเลี่ยงห่างจากแม่เลี้ยงยังสาวที่ไม่เคยเลยสักครั้งจะปรานีเธอ อย่าถามหาถึงความรู้สึกห่วงใยเลย ตั้งแต่อยู่ด้วยกันมามีแต่ความรังเกียจที่เธอได้รับจากแม่เลี้ยง ไม่ว่าจะทำดีมากเพียงใด ต่อให้ทำจนมือหักมืองอก็คงไม่มีค่าในสายตาของแม่เลี้ยงคนนี้เลยแม้แต่นิดเดียว
“นี่... อย่าโอ้เอ้นะ เร็วๆ!”
เสียงยังดังไล่อยู่ข้างหลัง หญิงสาวผู้เจ็บช้ำน้ำใจ เดินห่างออกไปด้วยน้ำตานองหน้า น้ำตาใสๆ ไหลอาบแก้มนวลทั้งสองข้างอย่างน่าสงสาร ชีวิตเธอหมดสิ้นแล้วเนย์ญรินทร์ ค่ำคืนนี้ต้องตกเป็นเครื่องสังเวยหนี้สินให้กับคนใจร้าย ที่ขีดเส้นให้เธอต้องเดินทางนี้อย่างจำใจ “พ่อขา... เนยรักพ่อ”
“หือ... มณี คุณนี่ร้อนแรงจริงๆ”
ในห้องทำงานเสียงครวญครางกระเส่าสิ้นสุดลง ก่อนหญิงสาวที่เปลือยเปล่าจะล้มกายนอนระทดระทวยบนโซฟา พักไม่ถึงห้านาทีเจ้าหล่อนก็ขยับกายบดเบียดกระแซะเข้ามาใกล้ ลูบไล้อกบึกบึนของชายหนุ่มด้วยความหลงใหล
“ไฟขา... มณีอยากขอชดเชยที่วันนั้น แม่ของคุณเข้ามาขัดจังหวะ มณีล็อกห้องอย่างดีแล้วนะคะ ไฟขา... เต็มที่เลยนะคะ” เสียงหญิงสาวกระซิบใกล้ๆ ใบหูของชายหนุ่ม กัดเบาๆ เพิ่มความเสียวกระสัน ราวกับจะปุกปั่นให้เสือหลับกลับมาคึกคะนอง
“คุณนี่จริงๆ เลย พอแค่นี้ ผมมีงานต้องทำ คุณกลับไปเถอะ”
“แต่ว่า... มณียัง... ไฟขา... อีกสักครั้งนะคะ”
เอื้องมณีจู่โจมโรมรัน มอบจูบที่วาบหวาม จวบจนชายหนุ่มที่คัดค้านคราแรกสิ้นฤทธิ์เดช เพลิงอินทรีสลัดผ้าขนหนูออกจากกาย ร่างกายเปลือยเปล่าที่น่าฟัดพลิกกายให้หญิงสาวนามเอื้องมณีไปนอนครวญครางใต้ร่าง เรียวขาทั้งสองข้างของหญิงสาวแยกออกกว้างอย่างรอการเติมเต็มก่อนจะตวัดรัดเกี่ยวรอบเอวสอบแน่น ชายหนุ่มขยับกายเข้าใกล้ทีละนิด ริมฝีปากหนาเคลื่อนขึ้นครอบครองยอดอกสาวไล้เลียดูดกินอย่างดื่มด่ำ แต่ว่า...
ติ๊ด ติ๊ดๆ เสียงโทรศัพท์คู่ใจส่งเสียงเรียกเข้าอย่างขัดจังหวะ
“ไฟขา... อย่าสนใจค่ะ ต่อนะคะไฟขา...”
เอื้องมณีเกาะเกี่ยวลำคอแข็งแกร่งด้วยเรียวแขน ฉุดรั้งให้ชายหนุ่มลุ่มหลงกับหน้าอกหน้าใจที่มีอย่างล้นทะลัก แต่ไม่ว่าจะผ่านมานานแค่ไหน โทรศัพท์เจ้ากรรมก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุดดัง เพลิงอินทรีสะบัดร่างกายลุกขึ้นออกจากร่างบางที่กำลังอ่อนระทวยพร้อมกับมอบจูบให้อย่างดูดดื่ม
“รอก่อนนะ... ผมรับโทรศัพท์ก่อน”
เสียงทุ้มกระซิบแนบชิดใบหูสะอาด สูดหอมปลายผมสลวยหนึ่งทีให้ชื่นใจ ก่อนจะคว้าผ้าขนหนูมาพันกาย เดินไปหยิบโทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะทำงานมากดรับสาย แต่การกระทำที่กระแทกกระทั้นบอกได้เป็นอย่างดี ว่าเจ้าตัวไม่เต็มใจแม้แต่นิด
“นายครับ ลูกหนี้มาแล้วครับ”
เพียงกดรับเสียงต้นกล้าก็ดังขึ้น เพลิงอินทรีถึงกลับต้องแหงนเงยหน้าตัวเองมองเพดานห้อง ริมฝีปากหนาเม้มสนิทจนติดกันเป็นเส้นตรง
“จัดการให้เรียบร้อย... แล้วพาดอกเบี้ยไปขังไว้ที่บ้าน”
เสียงเน้นย้ำชัดเจนตรงคำว่าดอกเบี้ย ต้นกล้าทราบดีว่าต้องทำอย่างไรให้ถูกใจผู้เป็นนาย
หลังจากวางสายกับลูกน้องคนสนิท ชายหนุ่มก็เดินตรงมาหาเอื้องมณีที่ส่งสายตาหยาดเยิ้ม ไฟปรารถนาในเรือนกายของบุรุษเพศยังฉายชัดอยู่ในดวงตาทั้งสองข้างของเจ้าหล่อน
“ลุกขึ้นแต่งตัวให้เรียบร้อย... แล้วนี่เงิน! คุณกลับไปได้”
ชายหนุ่มโยนเงินหนึ่งปึก ราวๆ หนึ่งหมื่นบาท ไว้ตรงโต๊ะกระจกใกล้ๆ กับร่างของหญิงสาว เอื้องมณีดีดตัวเองลุกขึ้นจ้องมองใบหน้าของเพลิงอินทรีอย่างตัดพ้อ
“อะไรคะไฟ! ... เรายังไม่... ไฟจะทิ้งมณีกลางคันหรือคะ?”
“ผมบอกให้กลับ เชิญกลับไปได้! ห้านาทีผมต้องไม่เห็นคุณอยู่ที่ห้องนี้ เอื้องมณี!”
ชายหนุ่มกล่าวแค่นั้น มือหนาก็คว้าเสื้อผ้าของตัวเองก้าวเข้าห้องน้ำไปไม่เหลียวหลัง หญิงสาวผู้โดนถีบตกสวรรค์ซ้ำแล้วซ้ำเล่ามองตามแผ่นหลังแกร่งไปอย่างหงุดหงิดใจ ก่อนจะลุกขึ้นมาแต่งตัวให้เรียบร้อยอย่างกระแทกกระทั้น สะบัดเสื้อสวมใส่อย่างตะบี้ตะบัน เสื้อเจ้ากรรมมีรอยขาดอย่างไม่ได้ตั้งใจ แต่งตัวเสร็จหล่อนก็คว้าเงินยัดใส่กระเป๋า เดินกระแทกเท้าตึงๆ ออกมาจากห้อง