“คุณไฟครับ”
เสียงต้นกล้าดังขึ้นหลังจากเคาะประตูหน้าห้องของเจ้านายหนุ่ม ซึ่งพักพิงอาศัยอยู่บนเรือนไม้สักที่ตั้งโดดเด่นห้อมล้อมด้วยขุนเขา หลังเรือนมีลำธารไหลผ่านตลอดทั้งปี
บรรยากาศโดยรอบโอบล้อมด้วยต้นไม้นานาพันธุ์ ดอกกล้วยไม้ป่าขึ้นแซมรอบทิศ บ้านหลังนี้เป็นที่ต้องห้ามสำหรับบุคคลภายนอก มีเพียงไม่กี่คนที่ได้รับอนุญาตให้ก้าวเข้ามา หนึ่งในนั้นคือมือขวาอย่างต้นกล้าซึ่งควบคุมหลายสิ่งหลายอย่าง ไม่ว่าจะด้านมืดหรือด้านสว่าง
“มีอะไร? ต้นกล้า...”
เพลิงอินทรีเปิดประตูกว้าง ก้าวเท้าออกมาจากบ้านมองหน้าลูกน้องหนุ่มนิ่งๆ
“ฝ่ายนั้นเขามีข้อเสนอครับ” ต้นกล้ารายงานทันที
“ข้อเสนออะไร?”
“ลูกสาวแลกกับหนี้พร้อมเงินอีกห้าแสนบาทครับ”
“ห้าแสน! จะบ้ารึไง ลูกสาวตระกูลลีละเดชาห่อหุ้มด้วยทองคำรึไง ถึงได้แพงหูฉี่ขนาดนั้น!”
เพลิงอินทรีถึงกลับตาลุกวาว จะบ้าซะให้ได้ ค่าตัวลูกสาวเพื่อชดใช้หนี้แพงมากโข หน้าตาเจ้าหล่อนก็อย่างนั้น เปรอะเปื้อนมอมแมม ผิวพรรณกระด่างกระดำน่ารังเกียจ สัดส่วนเจ้าหล่อนรึ เท่าที่ประมวลทั้งหมด ร่างกายของผู้หญิงคนนั้นมีค่าไม่ถึงห้าหมื่นด้วยซ้ำ เอาสมองส่วนไหนคิดถึงกล้าเรียกร้องส่วนต่างตั้งห้าแสน ไม่มีวันซะล่ะ
“แล้วคุณไฟ จะว่าอย่างไรครับ”
ต้นกล้าถึงกลับต้องก้าวถอยหลังออกห่างจากผู้เป็นนายสามก้าว ลูกน้องอย่างเขาต้องหนีให้พ้นรัศมีฝ่าเท้าของเจ้านายหนุ่ม ถ้าหากอยู่ใกล้ในอารมณ์แบบนี้มีหวังต้องได้รับของแถมอย่างไม่ต้องสงสัย
“ห้าแสน หักหนี้ให้หมด เหลือเท่าไหร่ก็ให้ไปถือซะว่าเป็น...”
เป็นค่าตัวของดอกเบี้ยสาวในส่วนที่เขาจะเก็บเกี่ยว นั่นคือประโยคต่อท้ายแต่เพลิงอินทรีก็ไม่พูดให้ลูกน้องคนสนิทได้ยิน เพียงแค่สบตากันต้นกล้าก็เข้าใจในความหมาย เรียกได้ว่าแค่กะพริบตาก็เห็นถึงทรวงใน
“ถ้าฝ่ายนั้นไม่ยอมล่ะครับ” น้ำเสียงแผ่วเบาดังขึ้นจากปากต้นกล้า
“ถ้าไม่ยอมก็ปลิดชีวิตลูกหนี้ ง่ายนิดเดียว เสือโคร่งหลังบ้านก็ยังอยากจะกินอาหารอันโอชะ มีเนื้อหนังมังสาไปให้สักคนสองคน เจ้าเขี้ยวยักษ์คงจะอิ่มหนำสำราญ”
เพลิงอินทรีเอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบ นึกถึงเสือโคร่งตัวใหญ่ที่ตั้งชื่อว่า เขี้ยวยักษ์ เจ้าเสือตัวนั้นพลัดหลงเข้ามาทำร้ายคนงานหลายคน แต่แปลกเหลือเกินมันกลับสยบแทบเท้าเพลิงอินทรีคนนี้ หลังจากวันนั้นก็นับสิบปีเต็ม ที่เขาเลี้ยงดูมันอย่างดี เอาไว้ทำลายหลักฐานชิ้นสำคัญ ดับกลิ่นคาวให้หายไปจากโลกใบนี้ เมื่อเอ่ยถึงสัตว์เลี้ยงที่โปรดปรานชายหนุ่มก็อดไม่ได้ที่จะแย้มยิ้มน้อยๆ
“ไปพักผ่อนได้แล้ว พรุ่งนี้อาจจะมีอะไรคืบหน้า นายจัดการให้เรียบร้อย”
น้ำเสียงสั่งงานราบเรียบแต่ว่าคนอย่างต้นกล้าถึงกลับขนลุกเกรียวกราวไปทั้งตัว น้ำเสียงและท่าทางแบบนี้เขามีหน้าที่อย่างเดียว จัดการให้ถูกใจเจ้านาย และคนอย่างต้นกล้าก็รู้ดีว่าควรทำอย่างไร
“ครับ คุณไฟ” หลังจากรับปากเจ้านายเสร็จ ลูกน้องมือขวาก็ก้าวเดินหายไปกับความมืดมิดที่เข้ามาปกคลุมทุกพื้นที่ มองไปทางไหนมีแต่แสงสว่างจากไฟฟ้า และดวงดาวเท่านั้น
เพลิงอินทรีเงยหน้ามองดวงดาวที่เปล่งแสงริบหรี่ ไม่อยากจะคิดเปรียบเทียบกับชีวิตของใครคนหนึ่ง ผู้หญิงที่พบพานกันเพียงชั่วเวลา หล่อนคือคนงานในไร่ของตัวเอง มิหนำซ้ำไม่อยากนึกถึงแต่กลับจดจำได้ทุกรายละเอียด
“ฉันขยะแขยงคุณ!”
คำพูดนี้ดังก้องอยู่ในโสตประสาท สะบัดไล่เท่าไหร่ก็ยังคงดังอย่างต่อเนื่อง ราวกับจะตอกย้ำให้เขาจำใส่สมองอันชาญฉลาดว่าเจ้าหล่อนรังเกียจร่างกายที่หล่อเหลาอยู่ร่ำไป
“ฉันอยากจะรู้เหมือนกันว่าเธอขยะแขยงฉันมากแค่ไหน ถ้าหากว่าต้องนอนครวญครางอยู่ใต้ร่างของฉัน เนย์ญรินทร์ ลีละเดชา”
เสียงเล็ดลอดไรฟันออกมาให้ได้ยิน สายลมพัดผ่านเบาหวิวต้องกายให้ขนลุกชัน แม้แต่ท้องฟ้ายังส่งเสียงร้องเปรี้ยงปร้างลงมาก่อนจะปล่อยเม็ดฝนให้ชุ่มฉ่ำทั่วมุมเมือง
ต่อให้ฝนตก ฟ้าร้องหนักกว่านี้ ทุกอย่างก็ไม่มีทางที่จะฉุดรั้งความต้องการของเพลิงอินทรีได้ ในเมื่อหล่อนอยากตะโกนใส่หน้าเขาว่าขยะแขยงนักหนา เขาก็จะให้รางวัลหล่อนอย่างสาสม โทษฐานที่ทำให้ความรู้สึกของเขาเสียสมดุล ความมั่นใจถดถอยราวกับนับหนึ่งใหม่ ไม่เคยมีหญิงใดทำให้เขารู้สึกแบบนี้
ปกติจะมีแต่ผู้หญิงวิ่งเข้าหาไม่เว้นวัน ออเซาะฉอเลาะว่าน่ารักน่าคลั่ง รูปร่างหน้าตาล่ำสันน่าลุ่มหลงจนหัวปักหัวปำ แต่ผู้หญิงอย่างเนย์ญรินทร์ ลีละเดชากลับไม่สนใจแม้แต่จะเมียงมอง
เขาคิดว่าหล่อนคงจะกระโจนเข้าใส่ ตั้งแต่เห็นหน้าเขาในวินาทีแรก ไม่ใช่กระถดกายหนีเสียห่างไกล ถ้าหากเป็นผู้หญิงคนอื่นคงจะพุ่งเข้าสู่อ้อมกอด แต่เจ้าหล่อนกลับไม่ทำมิหนำซ้ำยังเบือนหน้าหนี
เสน่ห์ของเขาด้อยลงหรืออย่างไรกัน คนไม่มั่นใจในตัวเองเดินเข้าบ้าน ถอดเสื้อยืดออกจากกาย ยืนมองตัวเองอยู่หน้ากระจก ยอมรับอย่างสนิทใจไม่อ้อมค้อมเลยสักนิด รูปร่างของเขาน่าฟัดที่สุด แม้แต่ในสายตาของผู้ชายหลายคนยังต้องรู้สึกอิจฉา
ยิ่งคิดยิ่งแค้น ยิ่งคิดก็ยิ่งหงุดหงิดงุ่นง่านในหัวใจ นึกถึงใบหน้าของคนที่ตราหน้าดังก้องโสตประสาทการได้ยินก็ยิ่งขัดใจอย่างที่สุด หน้าตาก็อย่างนั้นยังจะเลือกมาก เขาแลเหลียวยอมให้หล่อนใช้ร่างกายสกปรกเพื่อล้างหนี้แทนพ่อของหล่อนก็ดีมากขนาดไหนแล้ว อันที่จริงหล่อนน่าจะสำนึกบุญคุณของเขาด้วยซ้ำไป
ถึงแม้ว่าทางครอบครัวลีละเดชาจะปฏิเสธ เขาก็จะหาทางบีบคั้นให้จำยอมให้ได้ ไม่ว่าอย่างไรหล่อนต้องถอดศักดิ์ศรีที่หยิ่งทระนงซบลงในอ้อมอกของเขา วันพรุ่งนี้จะรู้ว่าใครแน่กว่ากัน เขาหรือเธอที่พ่ายแพ้ แต่คงไม่ใช่เขาอย่างแน่นอน
หลังจากสำรวจตัวเองก็พาร่างกายล่ำสันก้าวเข้าห้องน้ำอาบน้ำชำระร่างกายนับครึ่งชั่วโมง เสร็จสรรพก็ล้มพับลงบนที่นอนนุ่มหลับพักผ่อนเอาแรงเพื่อสู้รบตบมือกับใครบางคนในวันข้างหน้า แค่คิดถึงใบหน้าเจ้าหล่อนเพลิงอินทรีก็หลับฝันดีอย่างประหลาด
บรรยากาศยามเย็นโพล้เพล้ที่บ้านไม้ทรุดโทรม สองสามีภรรยานั่งหน้าหงิกอยู่บนแคร่ไม้ รอคอยใครบางคนกลับมาอย่างใจจดใจจ่อ เนย์ญรินทร์ ลีละเดชา คนงานไร่ส้ม ที่ชีวิตพลิกผันเปลี่ยนจากนางฟ้ามาเป็นเพียงนางดิน ผู้ที่จะเปลี่ยนชีวิตของทั้งคู่