ตอนที่ 1 เพื่อนข้างห้อง
ก๊อก ก๊อก ก๊อก!
เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้นมาในยามดึก ทำให้หญิงสาวที่นอนหลับอยู่บนเตียงต้องลืมตางัวเงียขึ้นมา เพื่อไปดูว่าใครที่มาเคาะห้องของเธอในยามวิกาล
เธอส่องดูที่ช่องตาแมวก็พบว่า เขาคือ ‘ปราณ’ ชายหนุ่มห้องข้างๆ อีกตามเคย
“คราวนี้มีอะไรอีก” เธอถามเขา เพราะรู้ว่าปราณมาหาเธอที่ห้อง ถ้าไม่มายืมเครื่องปรุงก็ยืมอาหารแห้งที่เธอตุนเอาไว้
“ฉันว่าจะมายืมบะหมี่ ยืมไข่ แล้วก็ยืมน้ำสักสองขวด” เขาบอกแล้วฉีกยิ้มกว้างออกมาทำหน้าทะเล้น
“ถ้าจะยืมขนาดนี้ เอากระทะไฟฟ้ากับทัพพีไปด้วยเลยไหมล่ะ” ดุจฟ้าถามอย่างประชดประชัน
“ยืมได้เหรอ ยืมได้ก็ดีสิ กำลังคิดอยู่ว่าจะทำอย่างไรให้ไข่สุก”
“โอ้ย จริงดิ นี่นายไม่คิดจะซื้ออะไรไว้ติดห้องเลยหรืออย่างไรเอะอะก็ยืม เอะอะก็ยืม”
“แต่ฉันก็ซื้อมาคืนเธอทุกครั้งนะ คืนเยอะกว่าที่ยืมไปด้วย อย่าบ่นเลย เดี๋ยวก็แก่ไวหรอก” เขาบอกแล้วมองใบหน้าสดที่ปราศจากเครื่องสำอางนั้นอย่างพอใจ
“ก็เพราะอย่างนี้ไง ฉันถึงยอมให้นายยืม เพราะฉันได้กำไร” ดุจฟ้าบอกแล้วเอามือปิดปากหาวเบาๆ
“แล้วกินแต่บะหมี่ จะอิ่มท้องไหมล่ะ พรุ่งนี้ต้องออกไปทำงานแต่เช้านี่ งั้นเอาหมูบดกับผักไปใส่ด้วย” เธอบ่น แต่ก็ค้นหาของในตู้เย็นให้เขาไป
เธอรู้ว่าเขานั้นทำอาชีพเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัยและมักควบสองกะเสมอ
“ก็ฉันเพิ่งตื่นนี่นา ตื่นมาก็หิวเลย ไม่มีอะไรในตู้ด้วย นึกอะไรไม่ออกก็ ‘คิดถึงแต่เธอ’ เนี่ยแหละ” ปราณพูดหยอดเธอไป แต่ว่าดุจฟ้าก็ยังไม่รู้ตัว
เธอหยิบบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป หมูบด ผักกาดขาวและไข่ไก่อีกสองฟองใส่ถุงให้เขา พร้อมกับกระทะไฟฟ้าเพื่อให้เขาต้มมันกินแทนลวกแค่เส้นกับไข่ เพื่อให้ได้สารอาหารครบ
“ล้างมาคืนฉันด้วย”
“ครับ รับรองว่าผมจะล้างให้เงาวิ้ง ขัดคราบดำให้ด้วย พอใจไหมครับคุณดุจฟ้า”
“ค่อยเอามาคืนก็ได้ ฉันไม่ค่อยได้ใช้หรอก ทุกวันนี้ก็กินแต่กับข้าวถุง”
“งั้นฉันไม่รบกวนแล้วนะ ขอบใจมากที่ช่วยเหลือมาโดยตลอด ถ้าฉันรวยเมื่อไหร่รับรองว่าฉันจะไม่ลืมบุญคุณเธอเลย”
“ให้มันจริงเถอะ นายจะได้เลิกมายืมของในห้องฉันเสียที”
ดุจฟ้าบอกเขาอย่างรำคาญปนหงุดหงิดเล็กน้อย แต่แทนที่เขาจะรู้สึกผิดกลับมองว่าท่าทางของเธอเป็นท่าทางที่น่ารักและยิ้มออกมาอย่างชอบใจ ก่อนที่จะหอบของที่เธอยื่นให้ กลับไปที่ห้องของตัวเอง
ปราณกลับไปถึงห้องแล้วก็ยิ้มกับถุงข้าวของที่เธอนั้นให้เขามา ถึงปากจะบ่นแต่ก็ยังเป็นห่วงเขาอยู่ ทำให้เขานั้นมีความสุขเป็นอย่างมาก
“ถ้าเธอรู้ว่า ที่ฉันไปยังของในห้องเธอทุกวัน เป็นเพราะฉันอยากเจอหน้าเธอ เธอจะรังเกียจฉันหรือเปล่านะ” เขาพูดแล้วยิ้มกับตัวเอง ก่อนที่จะเอาบะหมี่สำเร็จรูปนั้นไปวางรวมกันกับห่ออื่นๆ ที่มีอยู่แล้วในชั้นวาง และเก็บไข่สองฟองนั้นเอาไว้ในตู้เย็นที่เต็มไปด้วยของสดและอาหารที่เขาซื้อมาแช่เอาไว้
**********************
ก๊อก ก๊อก ก๊อก!
เสียงเคาะประตูห้องของปราณดังขึ้นในตอนเช้ามืด ขณะที่เขากำลังแต่งตัวจะออกไปทำงาน เขาเปิดประตูออกพบว่าเป็นดุจฟ้าที่อยู่ในชุดคลุมอาบน้ำ แล้วยิ้มเจื่อนๆ มองเขาด้วยสายตาเหมือนกำลังจะขอความช่วยเหลือ
“มีอะไรรึเปล่าฟ้า ทำไมมาในสภาพนี้”
“นายช่วยไปจัดการแมงมุมในห้องให้ฉันหน่อยสิ ฉันไม่กล้าเข้าไปอาบน้ำเลย มันก็อยู่หน้าประตูห้องน้ำเลยนะ เขวี้ยงของใส่เท่าไรก็ไม่ยอมไป” เธอพูดด้วยน้ำเสียงที่ดูตกใจกลัวจริงๆ
“โอเค งั้นเธอรออยู่ห้องฉันไปก่อน ฉันไล่แมงมุมออกไปได้แล้ว ฉันจะมาเรียกเธอก็แล้วกัน”
ขณะที่เขาไปดูแมงมุมในห้องของเธอตามที่เธอขอร้อง ดุจฟ้าก็มองสำรวจไปรอบๆ ห้องของเขา เห็นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปอยู่ในชั้นวาง หลากหลายยี่ห้อและหลากหลายรสชาติ เธอก็ขมวดคิ้วขึ้นมาเบาๆ
นอกจากนั้นห้องของเขาก็ยังมีกระทะไฟฟ้า และบรรดาเครื่องปรุงต่างๆ อยู่ในชั้นวางจัดไว้เป็นระเบียบอีก
เธอเดินไปเปิดดูตู้เย็นเพื่อให้หายสงสัย ก็พบว่าในนั้นมีไข่อยู่เต็มช่องวางไข่ มีทั้งหมู ไก่ และผักต่างๆ อยู่ในตู้ มีขนมปังและน้ำผลไม้ต่างๆ พร้อมกับเครื่องดื่มชูกำลังอีกด้วย
“นายตุนของกินไว้เยอะกว่าฉันอีก แต่ก็ยังไปยืมทุกคืน นายมีจุดประสงค์อะไรกันแน่นะ โรคจิตหรือเปล่าเนี่ย” เธอพูดขึ้นมาแล้วเอามือทาบหน้าอกด้วยความตกใจ ไม่ได้คิดเข้าข้างตัวเองด้วยซ้ำว่าที่เขาทำไปเพราะอยากเจอหน้าเธอ
ปราณกลับมาอย่างห้องของตัวเองพร้อมกับซากแมงมุมที่เขาจัดการกำจัดทิ้ง เพื่อยืนยันให้เธอดูว่าเขานั้นกำจัดมันออกไปได้ แต่แทนที่ดุจฟ้าจะดีใจเธอกลับยืนกอดอกแล้วจ้องหน้าเขาเขม็ง
“ฉันจัดการมุมให้เธอแล้วนะ ไปอาบน้ำได้แล้ว เดี๋ยวก็ไปทำงานสายหรอก”
“นายมีจุดประสงค์อะไรกันแน่”
“เธอพูดเรื่องอะไร”
“นายมายืมบะหมี่ในห้องฉัน มายืมนั่นยืมนี่ ทั้งๆ ที่ห้องของนายมีของเยอะกว่าห้องฉันอีก นายต้องการอะไรจากฉันกันแน่ หรือว่านายตั้งใจจะก่อกวนฉัน”
“เฮ้ย เปล่านะฉันไม่ได้ก่อกวนหรือว่าเป็นโรคจิตนะ อย่าพึ่งเข้าใจผิดสิ”
“แล้วนายมีจุดประสงค์อะไรถึงทำแบบนี้ บอกความจริงมาเลยนะไม่งั้นฉันจะบอกเจ้าของหอไล่นายออกไปจากหอพักนี้แน่”
“ฉันชอบเธอ” เขาพูดออกมาตรงๆ เมื่อเห็นว่าเธอกำลังเข้าใจผิดอยู่
“อย่ามาโกหกฉันนะ” เธอบอกเสียงเข้ม
“เหตุผลที่ผู้ชายคนหนึ่งไปยืมของผู้หญิงคนหนึ่งเพื่อที่จะอยากเห็นหน้าเธอทุกวัน มันจะมีเหตุผลอะไรอีกนอกจากว่าฉันรักเธอและอยากเจอหน้าเธอทุกวัน อยากหาเรื่องพูดคุยด้วย”
เธอลดท่าทีลงเมื่อเห็นท่าทีจริงจังของเขากับแววตาที่มองมาด้วยสายตาที่ดูมีความหมายนั้น
“ฉันไม่รู้จะเข้าหาเธออย่างไร เธอทำงานอยู่บริษัทใหญ่โต ดูฉันสิเป็นแค่พนักงานรักษาความปลอดภัยคนหนึ่งเท่านั้น ถ้าฉันเสนอหน้าไปบอกว่าชอบเธอตรงๆ เธอก็คงรังเกียจและไม่ยอมพูดคุยกับฉันนะสิ” ปราณสารภาพความจริงออกมาทั้งหมด แล้วมองเธอด้วยแววตาที่ดูเศร้า
“นายชอบฉันจริงๆ เหรอ”
เขาพยักหน้าเบาๆ แทนคำตอบ
ดุจฟ้าอึ้งไป เธอไม่รู้จะพูดอย่างไร ที่ผ่านมาเธอก็ไม่เคยสนใจเลยว่าเขานั้นชอบเธอ แต่พอเขาสารภาพวันนี้เธอก็ย้อนกลับไปถึงเหตุการณ์ต่างๆ ที่เขามายืมของที่ห้องเธอ แล้วมักจะพูดหยอดเธอเล็กๆ น้อยๆ พอนึกได้ดังนั้นก็เอามืออุดปากด้วยความตื่นเต้น หน้าแดงเรื่อขึ้นมาโดยอัตโนมัติ
“ฉันชอบเธอนะฟ้า ถ้าเธอไม่รังเกียจฉัน เราลองคุยๆ กันดูได้หรือเปล่า”
“ฉะ ฉัน ไม่รู้ ฉันนึกอะไรไม่ออกเลย ขอตัวนะ” เธอรีบเดินออกจากห้องเข้าไปหัวใจเต้นแรงด้วยความเขินอาย มันเป็นครั้งแรกที่มีคนมาสารภาพรัก แล้วยังอยู่ในชุดคลุมอาบน้ำที่ดูล่อแหลม
ปราณถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกพร้อมกับยิ้มเบาๆ ที่มุมปาก อย่างน้อยการที่เธอไม่ปฏิเสธเขา มันก็เป็นสัญญาณที่ดีแล้วว่าเขาอาจจะยังมีความหวังอยู่
พอกลับไปถึงห้องดุจฟ้าก็เอามือทาบหน้าอก หัวใจเธอเต้นแรง ย้อนกลับไปนึกถึงประโยคต่างๆ ที่เขาชอบพูดหยอดเธอคิดว่าเขาต้องการแค่ตีสนิทเพื่อยืมของ แต่จริงๆ แล้วเขากลับรู้สึกกับเธอจริงๆ มันทำให้เธอตื่นเต้นเป็นอย่างมาก
ที่ผ่านมาเธอเคยคบหากับเพื่อนตอนสมัยเรียนได้ไม่กี่เดือนก็ต้องเลิกรากันไป เพราะว่าถูก เขานอกใจ และเข็ดความรักจนไม่ยอมเปิดใจให้ใครอีก
พอทำงานเธอก็มุ่งแต่ทำงานเพื่อความก้าวหน้า จนลืมที่จะผูกสัมพันธ์กับใคร ถึงแม้จะเคยใจเต้นบ้างเวลาเข้าใกล้เจ้านายของตัวเอง แต่ก็รู้ว่าไม่มีทางเป็นไปได้ ก็เลยทำได้แค่แอบปลื้มเขาเท่านั้น
และพอปราณมาสารภาพรักเธอ เธอก็ต้องยอมรับว่าเขาทำให้เธอรู้สึกว่าตัวเองนั้นมีค่าพอให้ใครสักคนมารัก และเขาก็ไม่ใช่คนที่เลวร้ายอะไร ถึงอาชีพของเขาจะไม่ใช่พนักงานนั่งโต๊ะ แต่ว่ามันเป็นอาชีพที่สุจริต
ดุจฟ้าอมยิ้มบางๆ ก่อนที่จะเข้าไปอาบน้ำ เพื่อเตรียมตัวที่จะออกไปทำงานในเช้าวันนี้ โดยไม่ลืมแวะซื้อข้าวเหนียวหมูปิ้งของโปรดของเธอติดมือไปด้วย เพื่อทานเป็นอาหารเช้าที่บริษัท
เมื่อเธอไปถึงบริษัท เธอก็ถือถุงอาหารไปที่ห้องครัวด้านหลังของสำนักงานเพื่อที่จะนั่งทานอาหารให้เป็นกิจจะลักษณะก่อนที่เจ้านายของเธอจะมาถึง
แต่พอไปถึงในครัวเธอก็พบว่าอคินกำลังชงกาแฟอยู่ตรงนั้นทำให้เธอตกใจเล็กน้อย แล้วมองแผ่นหลังกว้างนั้นด้วยความชื่นชมในใจ เพราะว่าเขาตัวสูงมาก สูงถึงหนึ่งร้อยเก้าสิบเซนติเมตร จนเธอต้องเงยหน้าคุยกับเขาในบางครั้ง เพราะความสูงที่ต่างกันถึงหนึ่งไม้บรรทัด
“ท่านประธาน มาแต่เช้าเลยนะคะ ปกติเข้างานเก้าโมงไม่ใช่เหรอคะ” เธอถามเขา เมื่อเห็นว่าประธานนั้นมาชงกาแฟด้วยตัวเองตั้งแต่เช้าตรู่แบบนี้ อาจจะมีงานด่วนโดยที่เธอไม่ทันตั้งตัว
“ผมเบื่อนิดหน่อยนะ เลยรีบออกมาจากบ้าน เมื่อคืนไม่ได้นอนที่คอนโด รู้อย่างนี้ไม่กลับไปนอนบ้านก็ดี”
“เรื่องคุณช่อแก้วเหรอคะ”
เธอรู้ว่าตอนนี้เจ้านายหนุ่มกำลังถูกมารดานั้น หว่านล้อมให้ต้องไปเจอกับช่อแก้วบ่อยๆ และอคินก็มักให้เธอนั้นทำตารางงานให้เขาดูไม่ว่างเพื่อที่จะไม่ต้องออกไปพบช่อแก้ว
“ใช่”
“เธอก็แสนดีออกขนาดนั้น ท่านประธานไม่ใจอ่อนบ้างเหรอคะ”
“ไม่ล่ะ ไม่ชอบการถูกบังคับให้ต้องรักต้องชอบใคร”
เขาตอบเธอแล้วถอนหายใจเบาๆ ในบริษัทไม่ค่อยมีพนักงานคนไหนกล้าคุยกับเขานัก นอกจากเลขานุการตรงหน้าที่ทำงานมาด้วยกันสองปีแล้ว และเขาสบายใจที่จะคุยกับเธอมากกว่าคนอื่น เพราะดุจฟ้าไม่ได้มีท่าทีว่าจะคิดกับเขาเกินเลยกว่าเจ้านายและลูกน้อง อีกทั้งการทำงานของเธอก็อยู่ในเกณฑ์ที่ดี
เขายกกาแฟขึ้นจิบเบาๆ มืออีกข้างล้วงกระเป๋าไว้ ขนาดยืนเขาก็ยังเท่มากขนาดนี้ ทำให้เธอรู้สึกว่าอยู่คนละชั้นกับเขาเป็นอย่างมาก
“สนใจข้าวเหนียวหมูปิ้งไหมค่ะ กาแฟถ้วยเดียวจะไปมีพลังงานอะไร”
อคินมองข้าวเหนียวหมูปิ้งที่เธอซื้อมาอย่างชั่งใจ นานแค่ไหนแล้วที่เขาไม่ได้ทานอาหารข้างทางแบบนั้นเพราะต้องรักษาภาพลักษณ์ของตัวเอง
“ลองดูก็ได้ ขอบใจนะ” เขารับถุงข้าวเหนียวหมูปิ้งนั้น ออกไปทานที่ห้องทำงานของเขาพร้อมกับกาแฟของเขาด้วย
ดุจฟ้ามองตามอย่างเสียดาย เธอแค่ถามตามมารยาทเท่านั้น ไม่คิดว่าประธานหนุ่มรูปงามจะรับน้ำใจจากเธอจริงๆ
“แล้วเราจะกินอะไรล่ะทีนี้” เธอบ่นเบาๆ แล้วยิ้มออกมา
**********************