EP.9 คฤหาสน์คอนสแตนเซีย
“ตอนนี้ทุกคนสามารถเป็นผู้ต้องสงสัยได้หมดครับน้ามาร์โล” เฟอร์นันโดเคาะนิ้วลงบนโต๊ะอย่างครุ่นคิด
“เอาเป็นว่าน้าขอฝากเรื่องนี้ด้วยแล้วกัน ช่วยกระชากหน้ากากคนทรยศออกมาให้ที น้าอยากรู้นักว่ามันเป็นใคร ถึงได้กล้าทำกับน้าขนาดนี้”
“ได้เลยครับน้ามาร์โล ช่วงนี้ผมพักร้อนยาว ไม่มีที่ไปพอดี มีงานให้ทำแบบนี้จะได้กระชุ่มกระชวยหน่อย” เฟอร์นันโดเอ่ยขึ้น ความจริงเขาทำคดีพลาดจึงถูกหัวหน้าสั่งพักยาวถึงสามเดือน อาจเพราะเขาเป็นตำรวจสายสืบที่ค่อนข้างคะนอง ในบางครั้งเขาก็ใช้อารมณ์มากกว่าเหตุผลในการทำงาน แต่บทเรียนในครั้งนี้และการลงโทษที่เขาได้รับก็ทำให้ชายหนุ่มรู้จักปรับปรุงตัวเองให้ดีขึ้น
“น้าคงต้องฝากแกด้วย” มาร์เซโลจำต้องโกหกกับทุกคนว่าหลานชายของเขานั้นเป็นนักศึกษาต้องการมาฝึกงานในบริษัทของเขา ทั้งที่จริงแล้วเฟอร์นันโดคือตำรวจสืบสวนฝีมือดีคนหนึ่งเลยทีเดียว อีกทั้งหลานชายของเขาอายุ 24 ปีหาใช่ 22 อย่างที่เขาบอกใครๆ ที่เขาต้องไหว้วานหลานให้มาช่วยในครั้งนี้ เพราะเขาไม่อาจไว้ใจใครได้ทั้งนั้น เพราะเขาไม่รู้ว่าใครนำความลับของบริษัทไปขายให้บริษัทของไอ้สิทธิชัย
ถ้าเขารู้ว่าใครเป็นคนทำ เขาก็จะมีหลักฐานพอที่จะฟ้องร้องสิทธิชัยได้อย่างเต็มที่
คราวนี้ล่ะ เขาจะทำให้มันแทบสิ้นเนื้อประดาตัวเลยทีเดียว!
คฤหาสน์คอนสแตนเซียตั้งอยู่ที่ รัฐเซาเปาโล ย่านถนนบังกูซึ่งเป็นย่านที่เศรษฐีพักอาศัย ที่นี่จึงไม่แออัดเหมือนส่วนอื่นๆ ของเมือง เซาเปาโลเป็นเมืองใหญ่ที่สุดในประเทศบราซิล และใหญ่ติดอันดับ 4 ของโลกหากนับจากจำนวนประชากร ตั้งอยู่ทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ของบราซิล นอกจากนี้ยังเป็นเมืองที่มีความมั่งคั่งที่สุดในประเทศ ชื่อเซาเปาโลเป็นภาษาโปรตุเกส มีความหมายว่า ‘นักบุญพอล’ เมืองนี้ไม่มีสถานที่ท่องเที่ยวอย่าง ริโอ เดอ จาเนโร แต่เมืองนี้เต็มไปด้วยตึกสูงและโบสถ์มากมาย เป็นเมืองแห่งอุตสาหกรรม และมีการหมุนเวียนทำธุรกรรมมากที่สุด โดยมากถึง 70% ของประเทศเลยทีเดียว
รถหรูแล่นเข้ามาในคฤหาสน์ แม้ว่าที่ดินในเมืองเซาเปาโลจะแพงราวกับทองคำ ทว่าสำหรับเศรษฐีอย่างตระกูลคอนสแตนเซียแล้ว การสร้างคฤหาสน์บนเนื้อที่กว่าร้อยไร่ไม่ใช่เรื่องยาก ก่อนถึงคฤหาสน์คอนสแตนเซียต้องขับรถผ่านคฤหาสน์ซิลวาซึ่งไม่ใช่ใครอื่นไกล คฤหาสน์คุณตาของเขานั่นเอง
สองตระกูลนี้รู้จักมักคุ้นมีความสัมพันธ์อันดีต่อกัน เมื่อมารดาของเขาเติบโตเป็นสาวก็พบรักกับบิดาที่เพิ่งกลับจากอังกฤษ ทว่าบิดาของเขาหอบหิ้วภรรยาและบุตรสาวกลับมาด้วย มารดาของเขาจึงอกหักไปตามระเบียบ แต่ไม่นานภรรยาของบิดาก็ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต มารดาของเขาอาสาปลอบใจและช่วยเลี้ยงดูบุตรสาวขาดแม่ที่ยังเสียขวัญ จนก่อเกิดเป็นความรัก ทั้งคู่ครองรักกันมากว่า 37 ปีแล้ว
นับเป็นความรักที่โรแมนติกมาก เขามักชื่นชมความรักของทั้งคู่เสมอๆ แม้ว่าตัวเขาเองนั้นจะไม่มีโอกาสได้พบกับความรักแสนบริสุทธิ์อย่างคนทั้งคู่ก็ตาม ส่วนพี่สาวต่างมารดาของเขาก็คือมารดาของเฟอร์นันโดนั่นเอง ซึ่งแต่งงานและย้ายไปอยู่กับสามีนานแล้ว
“สวัสดีค่ะคุณมาร์โล” พี่เลี้ยงชาวไทยที่บัดนี้ผันตัวมาเป็นแม่บ้านประจำคฤหาสน์เอ่ยทักทายเจ้านายหนุ่มที่หายออกจากบ้านไปหลายวัน ปกติแล้วเขามักหายไปครั้งละนานๆ เพราะต้องประจำอยู่ที่อังกฤษ แต่เมื่อเขาประกาศแขวนสตั๊ดไปแล้วเขาก็กลับบ้านบ่อยขึ้น แต่ก็ไม่ทุกวันเพราะเขามีห้องเพนต์เฮาส์อยู่ในเมืองซึ่งสะดวกแก่การเดินทางไปยังบริษัทของเขามากกว่าที่นี่
“คุณแม่ล่ะชื่น”
“ไปบ้านคุณตาค่ะคุณมาร์โล”
ชายหนุ่มขมวดคิ้วก่อนจะมองหน้าหญิงวัยห้าสิบอย่างสังเกต น้ำเสียงที่เอ่ยถึงมารดาของเขาแปลกไปจากทุกครั้ง เหตุใดจึงเต็มไปด้วยความกลัดกลุ้มและกังวลใจอย่างเห็นได้ชัด เกิดอะไรขึ้นตอนเขาไม่อยู่อย่างนั้นเหรอ
“คุณแม่ไม่สบายเหรอชื่น”
“เอ่อ...ค่ะ” ชื่นจิตลำบากใจที่จะต้องพูดหรือรายงานเรื่องส่วนตัวของเจ้านาย
“ไม่สบายเป็นอะไร แล้วไปหาหมอหรือยัง” ชายหนุ่มซักไซ้ด้วยความแปลกใจ หากเจ็บป่วยเช่นทุกครั้งชื่นจิตจะต้องโทรศัพท์ไปบอกเขา ไม่ใช่ปล่อยให้เขามาซักถามเอาเองอย่างในตอนนี้ ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องผิดปกติเอามากๆ
“เอ่อ...คือ”
“มีอะไรก็บอกมาสิชื่น มัวอ้ำอึ้งอยู่ได้ ถ้าไม่บอก ฉันก็จะไปถามคุณแม่เอง” ชายหนุ่มหมุนตัวหมายจะเดินลัดเลาะไปยังประตูเล็กที่สร้างเชื่อมทั้งสองคฤหาสน์เข้าไว้ด้วยกัน เขาหมายใจจะข้ามไปยังเขตคฤหาสน์ซิลวาของคุณตาเพื่อไปดูอาการของมารดาด้วยตนเอง แต่ชื่นจิตรีบวิ่งไปห้ามเอาไว้เสียก่อน
“คุณผู้หญิงตรอมใจค่ะคุณมาร์โล” ในที่สุดชื่นจิตก็จำต้องพูดออกมา เพราะถ้าหากให้มาร์เซโลไปถามบรูน่าด้วยตนเองเกรงว่านายผู้หญิงของเธอจะยิ่งเศร้าเสียใจมากขึ้นไปอีก
“ตรอมใจ! หมายความว่ายังไงเหรอชื่น”
“คือคุณผู้ชายพาภรรยาน้อยเข้ามาในบ้านเมื่อหลายวันก่อนค่ะคุณมาร์โล คุณผู้หญิงพอจะระแคะระคายเรื่องนี้มานานแล้ว แต่ก็ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นเพราะเข้าใจว่าเป็นธรรมชาติของผู้ชาย แต่ถึงขนาดพากันเข้ามาอยู่ในบ้านคุณผู้หญิงเลยรับไม่ได้ หอบเสื้อผ้าไปอยู่บ้านคุณตารามิเรซได้หลายวันแล้วค่ะ”
“อะไรนะ!”
มาร์เซโลทวนถามอย่างไม่อยากเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน บิดาซึ่งรักภรรยามากเสียยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด มีชู้! ถึงขนาดพาภรรยาน้อยเข้ามาหยามมารดาเขาถึงในบ้าน แบบนี้คงรักนังผู้หญิงแพศยาคนนั้นน่าดูสินะ ถึงได้กล้าทำอะไรแบบนี้อย่างไม่มีความละอายใจ
“ผู้หญิงคนนั้นเป็นคนไทยค่ะคุณมาร์โล ชื่อสิณีนาถ นิสัยไม่ดีเลยค่ะ มาถึงก็วางอำนาจราวกับเป็นบ้านตัวเองเสียอย่างนั้น นี่เห็นว่าคุณท่านพาไปเที่ยว ไม่รู้ว่าเย็นนี้จะกลับมาด้วยกันมั้ย” เมื่อได้พูดก็อดที่จะจาระไนอย่างละเอียดไม่ได้
“คนไทยอีกแล้วเหรอ!” ช่วงนี้รู้สึกว่าชีวิตของเขาจะมีอันต้องยุ่งเกี่ยวกับคนไทยบ่อยเสียเหลือเกิน ชายหนุ่มจัดการโทรศัพท์ไปหาเอ็นริโก้ทันที เพื่อให้เอ็นริโก้จัดการสืบว่าสิณีนาถเป็นใคร มาจากไหน มีประวัติความเป็นมาอย่างไร เพื่อที่เขาจะกำจัดหนามยอกอกของมารดาให้สิ้นซากได้โดยง่าย