EP.8 ละอองฝน...นังลูกชู้
ถ้าได้ผู้หญิงที่น่ารักราวกับตุ๊กตาแก้วเจียระไนไปนอนกอด เขาจะกอดรัดเช้าเย็น เลี้ยงดูเป็นอย่างดี อยากได้อะไรจะหามาให้ทุกอย่างยกเว้นเดือนกับดาว
“ขึ้นไปรอบนบ้านก่อนมั้ยคะ เดี๋ยวฝนเอาน้ำขึ้นไปให้ค่ะ”
“ไม่เป็นไรจ้ะ ฉันรออยู่ตรงนี้ดีกว่า”
ละอองฝนได้ยินดังนั้นก็ขมวดคิ้วด้วยความแปลกใจ แต่ก็เดินกลับเข้าไปในครัว เพื่อรินน้ำเย็นใส่แก้วออกมาเสิร์ฟให้แก่เพื่อนสนิทของบิดา
“น้ำค่ะ”
“ขอบใจมากนะหนูละอองฝนคนสวย” กำจรจับมือหญิงสาวแทนที่จะจับที่แก้วน้ำอย่างที่ควร หญิงสาวพยายามดึงมือออกแต่ชายสูงวัยกลับไม่ยอมปล่อย ละอองฝนเห็นท่าไม่ดีจึงสะบัดมือออกทันที
เพล้ง!
แก้วน้ำตกแตกกระจายเกลื่อนพื้นทันที หญิงสาวถอยห่างไปหลายก้าว ดวงตาจ้องจับชายรูปร่างท้วมตรงหน้าอย่างไม่ไว้ใจ
“อย่ากลัวฉันไปเลยหนูฝน ฉันชื่อกำจรเห็นหนูมาตั้งแต่เล็กๆ จนกระทั่งโตเป็นสาวสวยขนาดนี้” กำจรสาวเท้าเข้าหา ทว่าหญิงสาวกลับวิ่งไปยืนอีกมุมอย่างระมัดระวังตัว แม้เธอจะเคยเห็นเขาเข้าออกบ้านนี้บ่อยๆ แต่หญิงสาวก็มั่นใจว่าไม่ได้รู้จักเขาเป็นการส่วนตัว พอจะให้เขามาทำรุ่มร่ามกับเธอเช่นนี้ได้
“คุณกลับขึ้นไปบนบ้านเถอะค่ะ ที่ตรงนี้เป็นส่วนของครัวและเรือนคนใช้ มายืนแบบนี้คงไม่เหมาะ” หญิงสาวออกปากไล่ทว่ากำจรกลับยิ้มกริ่มไม่สะทกสะท้าน
“ฉันชอบหนูนะหนูละอองฝน แล้วพ่อของหนูก็เปิดทางให้ฉันเรียบร้อยแล้วด้วย ขอแค่หนูตกลง หนูก็จะได้ย้ายไปอยู่บ้านฉันทันที บ้านของฉันหลังใหญ่โตไม่น้อยไปกว่าบ้านพ่อของหนูหรอก หนูจะสบายเพราะฉันจะไม่ให้หนูต้องทำงานหนักอย่างทุกวันนี้ หนูจะได้นอนเป็นคุณนายนับเงิน จะได้แต่งตัวสวยๆ ออกเที่ยวทุกวัน ขอแค่หนูยอมเป็นเมียฉัน ฉันจะให้หนูทุกอย่าง หนูอยากได้อะไรบอกฉันได้เลย”
“ไม่มีทาง!” หญิงสาวปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใยก่อนจะวิ่งหนีออกไปจากตรงนั้น รีบเข้าห้องของตนเองแล้วล็อกประตูอย่างแน่นหนา ก่อนจะทิ้งตัวลงนอนบนเตียงอย่างหมดอาลัยตายอยาก
ละอองฝนไม่คิดเลยว่าบิดาจะเกลียดเธอถึงขนาดนี้ ที่ผ่านมาเธอรู้ว่าเขาพยายามผลักไสให้เธอออกไปจากบ้านหลังนี้ด้วยสารพัดวิธี ไม่ว่าจะเป็นการกดดันเธอและตัดค่าใช้จ่ายของเธอทั้งหมดเพื่อไม่ให้เธอได้มีโอกาสเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัย แต่หญิงสาวก็ไม่เคยคิดจะหนีไปจากที่นี่ นั่นเพราะว่าถึงอย่างไร สิทธิชัยก็คือบิดาบังเกิดเกล้าของเธอ เธอเฝ้าหวังว่าการที่เธอเป็นเด็กดีจะทำให้ท่านกลับมารักเธอได้บ้าง
แต่วันนี้เธอได้ตระหนักแล้วว่า มันไร้ประโยชน์โดยสิ้นเชิง ไม่ว่าเธอจะทำดีจนตัวตายท่านก็ไม่มีวันมองเห็น อคติของท่านทำให้ท่านไม่คิดยอมรับเธอเป็นลูก อีกทั้งยังจะยกเธอให้เป็นเมียของชายแก่รุ่นราวคราวเดียวกับบิดาอีกด้วย
ละอองฝนปล่อยน้ำตาให้รินไหล ทำไมชีวิตของเธอถึงได้พบเจอแต่เรื่องที่ทำให้เจ็บปวดหัวใจอยู่ตลอดเวลา เธออยากมีความสุขเหมือนคนอื่นๆ อยากมีโอกาสกอดพ่อและบอกรักท่านอย่างพี่ชายทั้งสองคนบ้าง แต่ก็ไม่มีโอกาส
“แม่จ๋า ฝนทำผิดอะไร ทำไมคุณพ่อถึงไม่เคยรักฝนเลย ทำไมคะ” หญิงสาวสะอื้นฮัก ซบหน้าลงกับหมอนจนเปียกชุ่ม ร้องไห้ให้กับชะตาชีวิตอันแสนอาภัพของตนเอง หญิงสาวได้แต่ฝัน เธออยากมีชีวิตเหมือนซินเดอเรลลา เฝ้ารอคอยว่าสักวันหนึ่งจะมีเจ้าชายรูปงามมาพาเธอไปจากที่นี่
แต่ต้องไม่ใช่ผู้ชายแก่คราวพ่อที่ชื่อกำจร! เธอไม่มีวันยอมโดยเด็ดขาด
“เปลี่ยนผลิตภัณฑ์และใช้กลิ่นสำรองออกมาขายแทน ยังไงปลายปีนี้เราก็ต้องเปิดตัว MarZelo No.3 ให้ได้ เราจะไม่เลื่อนวันเปิดตัวแก่สื่อมวลชน และแน่นอนว่าเรื่องที่เราเปลี่ยนตัวผลิตภัณฑ์ต้องเป็นความลับห้ามแพร่งพรายโดยเด็ดขาด” เจ้าของแบรนด์ MarZelo สั่งในที่ประชุม โดยระดมผู้จัดการทุกฝ่ายเข้าไปหารือถึงแนวทางการแก้ปัญหาในครั้งนี้
“เราน่าจะเลื่อนการเปิดตัวออกไปเป็นช่วงปีใหม่ดีมั้ยคะคุณมาร์เซโล ดิฉันกลัวว่าการปรับเปลี่ยนโดยมีระยะเวลาที่จำกัดจะทำให้งานออกมาไม่ดีเท่าที่ควร” ซินดี้รองผู้จัดการฝ่ายการตลาดทักท้วงขึ้น
“ถ้าเลื่อนออกไปก็แสดงให้คนภายนอกเห็นว่าเรากำลังประสบปัญหา ซึ่งผมไม่อยากให้เป็นเช่นนั้น ช่วงนี้จึงต้องขอให้ทุกคนทำงานหนักสักหน่อย เพื่อแบรนด์ของเรา”
“ค่ะ/ครับ”
ทุกคนต่างขานรับเพราะรักที่นี่ การพัฒนาเพื่อให้บริษัทก้าวต่อไปจึงเป็นหน้าที่ของทุกคนที่ต้องช่วยกัน ซึ่งการบริหารงานของมาร์เซโลนั้น เขาเน้นพูดคุยกันได้อย่างทั่วถึงราวกับคนในบริษัทเป็นพี่น้อง เป็นเพื่อน และเป็นญาติสนิท หาใช่เพียงพนักงานคนหนึ่ง ในเมื่อเจ้านายให้หัวใจแก่พวกตนเต็มร้อย พวกตนก็จะให้คืนกลับไปเต็มร้อยเช่นกัน
“และโอกาสนี้ผมขอแนะนำหลานชายของผมที่จะมาฝึกงานที่นี่ เขาชื่อเฟอร์นันโด ระหว่างนี้ผมจะให้เขาฝึกงานกับทุกแผนก โดยให้หมุนเวียนสลับสับเปลี่ยนกันไป ผมขอฝากหลานชายของผมด้วย ช่วยสอนงานและตักเตือนเขาได้อย่างเต็มที่ ไม่ต้องเกรงใจเพราะถือว่าเขาเป็นหลานชายของผม แต่ให้ถือว่าเขาเป็นเพียงนักศึกษาฝึกงานคนหนึ่ง”
“ผมขอฝากตัวด้วยครับ” ชายหนุ่มหน้าตาดีไม่ต่างจากผู้เป็นน้าชาย แต่ความสูงและความบึกบึนน้อยกว่า ด้วยรูปร่างที่ผอมเก้งก้างคล้ายวัยรุ่นอยู่ในที
เฟอร์นันโดเดินทักทายและฝากตัวกับผู้จัดการฝ่ายต่างๆ อย่างเป็นกันเอง เขาเป็นชายหนุ่มอายุ 22 ปี กำลังศึกษาระดับปริญญาโท แต่มีความสนใจเกี่ยวกับบริษัทของน้าชายจึงมาขอฝึกงานในช่วงว่างจากการทำวิทยานิพนธ์
“ขอฝากตัวด้วยนะครับคุณอลัน คุณซินดี้ คุณเอ็นริโก้” เฟอร์นันโดยิ้มแย้ม เขาเป็นคนยิ้มง่ายแตกต่างจากผู้เป็นน้าลิบลับ อัธยาศัยดี พูดคุยเก่ง เพียงแค่พูดคุยไม่กี่คำก็สร้างความคุ้นเคยกับทุกคนได้เป็นอย่างดี
“เป็นยังไงบ้างเฟอร์นันโด มีอะไรน่าสงสัยมั้ย” ผู้เป็นน้าชายเอ่ยถามทันทีเมื่ออยู่กันเพียงลำพังสองคนในห้องทำงานของเขา หลานชายทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาด้วยท่าทางสบายเป็นกันเองกับผู้เป็นน้าแตกต่างจากการแสดงละครตบตาเมื่อครู่ที่แสดงออกไปว่าค่อนข้างเกรงใจน้าชายที่ดุและเจ้าระเบียบ