Chapter 4 อารมณ์เปลี่ยวของสาวใช้
“ดึกแล้วคุณหนูจะออกไปไหนหรือเจ้าคะ”
สาวใช้เอ่ยถามเมื่อเห็นเจ้านายสาวเพิ่งเดินขึ้นมาจากห้องลับใต้ดินด้วยท่าทางเหนื่อยอ่อน แต่แทนที่จะกลับขึ้นไปยังชั้นสามของโรงเตี๊ยมเพื่อพักผ่อนเฉกเช่นทุกครั้ง ทว่าครั้งนี้กลับเดินออกไปนอกประตู
“ข้าเหนื่อย อยากอาบน้ำเย็นๆ”
“ถ้าอย่างนั้นให้บ่าวผสมน้ำให้อาบนะเจ้าคะ เมื่อเช้าบ่าวเพิ่งได้กุหลาบป่ามาเต็มตะกร้า จะได้เด็ดกลีบกุหลาบหอมๆ โรยลงไปในอ่างช่วยให้คุณหนูรู้สึกผ่อนคลายยิ่งขึ้น”
“ข้าบอกเจ้าหลายครั้งแล้วมิใช่หรือหลิงอี ว่าอย่าเรียกข้าว่า ‘คุณหนู’ ถ้าแขกในโรงเตี๊ยมมาได้ยินเข้าจะว่าอย่างไร”
“ก็ยามนี้บ่าวอยู่กับคุณหนูแค่เพียงสองคนนี่เจ้าคะ”
“...”
ยี่เจินไม่ตอบ มีเพียงสายตาตำหนิที่ทำให้สาวใช้ถึงกับยิ้มแหยอย่างยอมจำนน
“เจ้าค่ะเถ้าแก่เนี้ย”
เงือกสาวผู้เป็นนายพยักหน้าน้อยๆ อย่างพอใจ ก่อนจะก้าวออกไปจากโรงเตี๊ยม แล้วพูดปัดไม่ให้สาวใช้ตามมายุ่มย่ามเวลาส่วนตัวของนาง
“ข้าอยากอาบน้ำใต้แสงจันทร์เงียบๆ คนเดียว”
“ตะ...แต่ว่า”
สาวใช้อึกอักด้วยความเป็นห่วงเจ้านายสาว ซึ่งเป็นถึงธิดาของท่านประมุขเผ่าเงือก หากเป็นอะไรขึ้นมา นางคงไม่อาจรักษาศีรษะเอาไว้บนบ่า แต่ถึงจะเป็นห่วงเช่นไรนางก็รู้ดีว่าคำสั่งของคุณหนูยี่เจินถือเป็นสิทธิ์ขาด และนางต้องทำตามโดยไม่อาจคัดค้าน
“รีบกลับมานะเจ้าคะคุณ...อะ...เอ่อเถ้าแก่เนี้ย บ่าวอ่า...ขะ...ข้าจะรอเจ้าค่ะ”
หลิงอีตะโกนไล่หลังแล้วถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนจะเดินตรวจตราความเรียบร้อยภายในโรงเตี๊ยมเงียบๆ
โรงเตี๊ยมแห่งนี้มีชื่อว่า ‘โรงเตี๊ยมอ้ายอัน’ แปลว่า โรงเตี๊ยมแห่งความรักและความสงบสุข จัดตั้งขึ้นเฉพาะกิจ หากนับจากวันแรกที่ก่อสร้างขึ้นก็ล่วงเลยมาถึงสองฤดูกาลแล้ว
ตัวโรงเตี๊ยมมีขนาดไม่ใหญ่นัก มีทั้งหมดสามชั้น ชั้นแรกเป็นส่วนโถงต้อนรับและห้องอาหาร ชั้นที่สองเป็นห้องนอนของแขกผู้มาพักมีทั้งหมดเจ็ดห้องด้วยกัน ส่วนชั้นที่สามนั้นเป็นที่พักผ่อนของคุณหนูยี่เจินซึ่งไม่อนุญาตให้ใครเข้าไปยกเว้นเพียงนางซึ่งเป็นสาวใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวเท่านั้น
ที่นี่มีคนงานทั้งหมดสามคน แม่ครัวและผู้ช่วยแม่ครัว เสี่ยวเอ้อร์คอยดูแลบริการลูกค้าทั่วไป ส่วนนางและเจ้านายสาวจะจัดการในส่วนของการเข้าพักด้วยตัวเองทั้งหมด ไม่ยอมให้คนอื่นๆ เข้ามายุ่งวุ่นวาย
โดยคนงานทั้งสามคนเป็นชาวบ้านละแวกนี้ มาทำงานแบบมาเช้าเย็นกลับ เวลานี้นอกจากนางและคุณหนูยี่เจิน ก็มีแขกที่เข้ามาพักเพียงแค่ห้องเดียวเท่านั้น และดูเหมือนว่าพวกเขาจะไม่ยอมหลับยอมนอน คงจะเริงราคะกันถึงรุ่งสางอย่างแน่นอน
แรกทีเดียวโรงเตี๊ยมประกอบกิจการเป็นไปได้สวย จนทำให้มีชายหญิงมากหน้าแวะเวียนเข้ามาพัก ทว่าพอย่างเข้าฤดูฝนที่แสนบ้าคลั่ง แขกเหรื่อก็ลดน้อยลงอย่างน่าใจหาย
จนหลิงอีอดเป็นห่วงไม่ได้ ว่าภารกิจของเจ้านายสาวอาจจะล้มเหลวเพราะไม่สามารถหาสายน้ำแห่งชาติพันธุ์ได้ครบตามกำหนด
ถ้าเป็นเช่นนั้น คุณหนูของนางคงจะต้องพบกับความผิดหวังอีกครั้ง ซึ่งนางไม่อยากเห็นน้ำตาของคุณหนูแม้แต่หยดเดียว นางอยากเห็นคุณหนูยิ้มและหัวเราะเฉกเช่นวันวานที่ผันผ่านไปแล้ว
อาห์
ตับ! ตับ! ตับ!
แรงขึ้นอีกเสี่ยวต้า แรงขึ้นอีก ซะ...ซี้ด อะ...อูวส์
เสียงเริงรักและเสียงเนื้อกระแทกเนื้อดังเล็ดลอดมาจากห้องพักชั้นสอง หลิงอีถึงกับหยุดนิ่ง นางแลบลิ้นเลียริมฝีปากน้อยๆ อย่างเผลอไผล
ตั้งแต่ติดตามเจ้านายสาวมายังโลกมนุษย์ นางก็แทบไม่ได้สัมผัสรสรักจากบุรุษเพศ มิหนำซ้ำยังต้องมาเห็นมาได้ยินบทรักอันแสนร้อนแรงของมนุษย์อีกนับไม่ถ้วน
เวลานี้นางกระสันอยาก จนร้อนผ่าวไปหมดทั้งสรรพางค์กาย ไวกว่าความคิดนางขยับขึ้นนั่งบนเก้าอี้ ก่อนจะถลกกระโปรงยาวขึ้น ปลดกางเกงสีขาวตัวในลงมากองที่ต้นขา แล้วใช้นิ้วมือถูไถติ่งสวาทของตัวเองไปมา
“ซี้ด...”
นางครางเสียงแหบพร่า เงี่ยหูฟังเสียงกระแทกกระทั้นของคู่รักผิดศีลธรรมแล้วยิ่งเกิดอารมณ์ร่วมจนต้องเร่งปลายนิ้วบดขยี้เมล็ดสวาทรัวเร็ว
“อาห์ อาห์ ซะ...ซี้ด”
หลิงอีหลับตาพริ้ม เม้มริมฝีปากเข้าหากันเป็นเส้นตรง อ้าขาออกกว้างเพื่อให้นิ้วมือได้แหย่เข้าไปในโพรงอุ่นอย่างถนัดถนี่ นางจึงไม่รู้ว่าเวลานี้มีบัณฑิตหนุ่มกำลังยืนแอบมองอยู่นอกโรงเตี๊ยม
ชายหนุ่มเพิ่งมาใหม่กำลังจะยกมือเคาะที่บานประตู แม้ประตูจะเปิดแง้มเอาไว้แต่เขาก็ไม่อาจเสียมารยาทเดินเข้าไปในยามวิกาล ทว่าเขากลับต้องดึงมือที่กำลังจะเคาะไพล่ไปทางด้านหลัง แล้วหลบอยู่หลังบานประตู
งดงามเหลือเกิน
บัณฑิตหนุ่มกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก หญิงงามกำลังนั่งอยู่บนโต๊ะไม้ นางอ้าขาเรียวยาวออกกว้าง เผยให้เห็นเนินหนันโหนกนูน และกลีบบุปผาสีชมพูระเรื่อ ยามเมื่อนางสอดนิ้วเข้าไปในช่องแคบ เขาถึงกับหายใจสะดุด
หลิงอีแลบลิ้นเลียริมฝีปากอิ่มของตนเองไปมา นางใช้มืออีกข้างดึงเสื้อป้ายทับของตนเองออกอย่างรีบร้อน แล้วใช้มือควักเต้าอวบออกมาบีบขยำ
“อื้อ...”
นางครางเสียงแผ่ว ทว่าบนชั้นสองกลับเริงรักกันเสียงดัง เดาได้เลยว่าคงกำลังเริงรักกันบนโต๊ะหรือไม่ก็เก้าอี้ จึงได้ส่งเสียงเอี๊ยดอ๊าดดังสนั่น อีกทั้งเสียงเนื้อกระแทกเนื้อยิ่งทำให้นางอยากจนแฉะไปหมด
ชายหนุ่มได้ยินเสียงชายหญิงเสพสมกันดังมาจากด้านบน ก็รู้ได้ในทันทีว่านางถูกปลุกเร้าด้วยสิ่งใด จึงได้ลงมือปรนเปรอตนเองเช่นนี้
“อะ...อื้อ อื้อ...”
สาวใช้ครางเสียงหอบกระเส่า เร่งปลายนิ้วซอยยิกๆ เข้าไปในโพรงสวาทของตัวเองรัวเร็ว
ตับ! ตับ! ตับ!
ยิ่งเสียงกระแทกกระทั้นจากชั้นสองรัวเร็วขึ้นมากเท่าไหร่ ยิ่งบ่งชัดว่าทั้งคู่กำลังจะก้าวเข้าไปสู่ห้วงหฤหรรษ์ ทำให้หลิงอีเร่งปลายนิ้วแหย่เข้าออกเร็วขึ้นอีก เร็วขึ้นอีก เร็วขึ้นอีก จนบิดเกร็งกระตุกไปทั้งเรือนกาย
“อะ...อะ...อะ...อื้อ...ซะ....ซี้ด”
นางครางเสียงแผ่วกระตุกเกร็งจนห่อไหล่ อ้าปากเผยอทั้งที่หลับตาพริ้ม ก่อนจะแหงนเงยใบหน้าแล้วดึงนิ้วตัวเองออกมาจากช่องอุ่น ดูดเลียนิ้วของตนเองไปมา