EP.6 LOVE SICK GIRL

2299 คำ
EP.6 LOVE DIE EP.6 LOVE SICK GIRL "อ่อ ถ้าจะเอาแบบนั้น"เขาหลบสายตาของฉันและมองไปทางอื่นแทน ทำเอาฉันใจหวิวๆ เมื่อจะถูกปฎิเสธเลยแฮะ ผู้ชายใบหน้าหวานๆ กัดริมฝีปากบางๆ ของเขาอย่างครุ่นคิด "โทรมาบอกก่อนแล้วกันเผื่อว่าฉันไม่อยู่ห้อง กลัวเธอจะรอนาน"คนตรงหน้าตอบและเงยหน้ามองฉันเล็กน้อย ก่อนจะละสายตาไปเก็บขวดยาทาแผลต่างๆ ใส่กล่องไว้ตามเดิมเขาเก็บกล่องยาไว้ตามเดิมแบบมีระเบียบเรียบร้อยกว่าม้าดีดกระโหลกแบบฉันซะอีก (แม่เพลงชอบเรียกแบบนั้น) "งั้นเจอกันตอนเย็นนะคะ ฉันจะโทรหาพี่ก่อน"ฉันฉีกยิ้มกว้างก่อนจะโบกมือลาและหยิบกระเป๋าวิ่งออกมาจากคอนโดของเขา เพื่อขึ้นแท็กซี่ตรงไปโรงเรียนก่อนที่ครูจะเข้าสอนคาบเรียนแรก @Smart High school "หน้าเธอไปโดนอะไรมาอะ เจ็บมั้ย? "เพื่อนที่นั่งข้างๆ ฉันเอ่ยทักขึ้นอย่างห่วงใย แม้ว่าฉันจะรำคาญยัยลาลินน์ แต่เอาจริงๆ นางก็จริงใจและห่วงใยฉันอยู่ไม่น้อยถือว่าน่าคบหาสมาคมด้วยอยู่บ้างถึงแม้จะบ่นมากไปหน่อย "ถามเหมือนแม่ฉันเลยนะ"ฉันพูดไปก่อนจะหันไปมองหน้ายัยพลอยลาลิลณ์นิ่งๆ ยัยนี้คือเด็กทุนเต็มจำนวนของโรงเรียนผู้ที่มีผลการเรียนเป็นเลิศมาทุกๆ ปีและยังดำรงตำแหน่งเป็นหัวหน้าชั้นเรียนของเราอีกด้วย เห็นว่ากันว่าถ้าปีการศึกษาไหนที่ผลการเรียนไม่ได้ที่1ของชั้นหรือทำผิดกฏของโรงเรียนยัยนี้ก็จะหลุดทุนทันทีและต้องจ่ายเงินค่าเทอมเต็มจำนวนซึ่งเห็นว่าจริงๆ แล้วทางบ้านของพลอยลาลินน์ค่อนข้างมีปัญหาเรื่องเงินอยู่ไม่น้อยเลย แต่ด้วยความที่โรงเรียนนานาชาติที่นี้มีชื่อเสียงและใครๆ ก็อยากส่งลูกเข้ามาเรียนที่นี้ นั้นทำให้เธอต้องสู้และอดทนแม้ว่าค่าครองชีพในโรงเรียนเราจะสูงเกินไปสำหรับยัยลาลิลณ์ก็ตาม แต่ยัยนี้มักจะหางานพิเศษทำไม่เว้นว่างเลยสักวันและที่ยัยนี้มาสนิทกับฉันเหตุผลหนึ่งก็เพราะว่าฉัน จ้างนางทำการบ้านและก็เช็คชื่อให้ตลอดและยังรวมค่าติวเตอร์ก่อนสอบแบบตัวต่อตัวให้ไปด้วย "ขอโทษทีนะ" พอฉันตอบไปแบบนั้นยัยนั้นก็หน้าเสียไปเล็กน้อยที่เห็นว่าฉันบ่นๆ ใส่ไป "ฉันแค่ซ้อมมวยแล้วมันผิดพลาดทางเทคนิคนิดหน่อยก็เลยโดนหมัดมาแบบเต็มๆ นะ ไม่ต้องตกใจขนาดนั้นหรอกน่า"ฉันตอบไปอย่างไม่คิดอะไรมากหนัก ก่อนจะหยิบการบ้านขึ้นมาตั้งวางไว้บนโต๊ะ และนั้นยิ่งทำให้คนข้างๆ ช็อกไปตามๆ กัน "เธอ...ทำการบ้านเองอย่างเลยงั้นหรอ? "ยัยนั้นตาโตอย่างแทบไม่เชื่อในสิ่งที่เห็น เพราะปกติฉันต้องตื่นแต่เช้าก็เพื่อมานั้งลอกการบ้านนางแทบทุกวัน และก็ข่มขู่นางให้ช่วยปกปิดเรื่องโดดเรียนอยู่เป็นประจำ "นี้คงโดนต่อยมาแรงจริงๆ นะ"ยัยนั้นยังคงมองฉันอย่างไม่เชื่อในสายตาของตัวเองและพูดแบบยิ้มๆ " ย่ะ! "ฉันแบะปากกรอกตามองบนใส่ไปที "แต่ฉันไม่ได้ทำเอง มีคนทำให้! "ฉันตอบกลับไปอย่างคนขี้อวด "อ่อ"ลาลิลณ์พยักหน้าเบาๆ "จริงๆ เธอควรจะลองทำเองดูนะอลิเซีย"ยัยนี้กับพูดข้ามประเด็นที่ฉันจะอวดซะงั้น ดูนางเถอะ "เธอนะเป็นเก่งและก็หัวดีแต่ขี้เกียจไปหน่อย"ยัยพลอยลาลิลณ์ยังคงแนะนำเสียงเอื้อยๆ อ้ายๆ อย่างน่ารำคาญสุดๆ อย่างกับเป็นแม่ "รู้แล้วน่าๆๆ "ฉันก็ตัดไปบทไปก่อนจะยกมือห้ามไม่ให้ยัยนั้นพูดต่อ นั่งเรียนไปสักพักใหญ่ๆ จนถึงคาบพักขณะที่ฉันนั่งกินข้าวอยู่กับกลุ่มเพื่อน โรงเรียนเราเป็นโรงเรียนนานาชาติขนาดเล็กๆ จึงมีนักเรียนในห้องไม่เยอะและทุกคนก็รู้จักและสนิทกันดีเพราะเรียนด้วยกันมาตั้งแต่เด็กเสมือนโตมาด้วยกัน พอกลับมาถึงห้องเรียน "อลิเซีย รุ่นพี่มอ6เปิดโต๊ะพนันบอลสนใจไปถล่มมันปะ? "เสียงของไอ้เจบี เพื่อนผู้ชายในห้องที่เดินเข้ามาเคาะโต๊ะของฉัน เจบีเป็นเพื่อนจอมเฟี้ยวของฉันในห้องมันชอบทำตัวเท่ๆ ไปวันๆ ไอ้เจบีสนิทกับฉันเพราะเราเรียนศิลปะการต่อสู้ที่เดียวกันและก็เป็นคู่ซ้อมให้ฉันมาตั้งแต่เด็กๆ ระหว่างเราแทบไม่มีคำแบ่งแยกหญิงหรือชายเพราะอะไรที่มันทำได้ฉันก็ทำได้ "ดีเลยช่วงนี้ถูกลดค่าขนมอยู่ หารายได้เสริมทางอื่นบ้างก็น่าจะดี"ฉันหันไปแสยะยิ้มกับไอ้เจบีเบาๆ "ลุยดิวะเพื่อน"มันวางเงินของตัวเองไว้บนโต๊ะเรียนของฉัน ฉันแสยะยิ้มออกมาทันที "การพนันมันไม่ดีนะ มีแต่เสียกับเสีย"เสียงของพลอยลาลินน์พูดขึ้นท่ามกลางเราสองคนที่กำลังเปิดกระเป๋าสตางค์นับเงินบนโต๊ะอย่างมั่นอกมั่นใจ "ยัยลาลิลณ์ เงียบ"ฉันบอกให้ยัยเด็กเด๋อนั้นเงียบๆ ไปก่อนที่จะพูดอะไรไม่เป็นมงคลไปมากกว่านี้ ฉันเทกระเป๋านับเหรียญนับแบงค์เพื่อเอาไปลงพนันกับพี่บอมรุ่นพี่ขาใหญ่โต๊ะบอลของโรงเรียน "จารย์มาๆ "แล้วทุกคนก็กลับไปนั่งที่เพื่อเรียนคาบต่อไปตามเดิม แต่ละวิชาผ่านไปโคตรช้าราวกับข้ามปีฉันก็ได้แต่นั่งเท่าคางมองออกไปนอนหน้าต่าง ที่ในฝนตกอีกเช่นเคยๆ "ฉันไม่ชอบฤดูฝนเอาซะเลย"ฉันมองท้องฟ้าที่มืดครึ้มและดูน่าหม่นหมองนั้นอย่างเซ็งๆ มันทำให้เรียนไปง่วงไปหนักกว่าเดิมซะอีก เสียงครูก็เหมือนกับเสียงกล่อม ตาก็ใกล้จะปิดลงทุกทีทุกทีและแล้ว...เสียงสวรรค์ก็ดังขึ้นอย่างทันเวลา กริ้ง~~~~ เสียงออดหมดคาบเรียนก็ดังขึ้นฉันเก็บหนังสือเรียนทันทีก่อนจะเดินออกจากห้องเรียนอย่างไม่รีรอ "อลิซ อลิเซีย~"เสียงของยัยพลอยลาลิลณ์ตะโกนเรียกไล่หลังฉันและวิ่งตามมาติดๆ "อะไรอีกยัยลาลิลณ์? "ฉันกับไอ้เจบีหันไปมองทางยัยเด็กเรียนอย่างถอนหายใจ "เรื่องที่จะให้ฉันติวให้ก่อนสอบนะ เธอจะว่างให้ติวเมื่อไหร่? "ยัยนั้นหอบเหนื่อยเพราะวิ่งตามฉันมาแบบติดๆ "เอาไว้ก่อนน่า ฉันขี้เกียจ"ฉันตอบแบบบ่นๆ ไป และเดินมุ่งหน้าไปยังตึกเรียนชั้นมอ6ต่อทันทีโดยมีไอ้เจบีเดินมาเคียงข้างตลอดทาง "ยังไงก็ทักมานะอลิเซีย"ยัยนั้นตะโกนตามหลังมาติดๆ "โอเคๆ " ฉันเสียงดังตอบกลับไปก่อนจะยกมือโอเคแบบปัดๆ ไป -ตึกมอ6 หลังเลิกเรียน- "เท่าไหร่ดีจ่ะแม่สาวมาเฟีย? "รุ่นพี่เอ่ยทักทายฉันทันที เพราะนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่เรามาพนันกับโต๊ะบอลนี้ แถมยังขึ้นชื่อว่าเป็นลูกค้ามือดีอันดับต้นๆ อีกด้วย "10บาท เหมือนเดิม! "ฉันตอบไปอย่างมั่นใจก่อนจะเอาเงินของตัวเองที่รวมกับเงินของไอ้เจบีวางลงบนโต๊ะ (10บาทในวงการพนันคือเติม0ไป3ตัว เพราะฉะนั้น 10=10,000) "คู่เดียว? "คนตรงหน้าก้มหน้าจดชื่อของฉันลงในสมุด ฉันหันไปปรึกษากับไอ้คลีนซึ่งมันก็พยักหน้าและลงพนันตามที่เรานั่งคุยกันเอาไว้ "อื้มคู่เดียว"ฉันตอบไปเสียงห้วนๆ "ขอให้โชคดี"นั้นคือคำอวยพรอันแสนจอมปลอมของรุ่นพี่ที่เป็นเจ้าของโต๊ะบอลรายใหญ่ "สมพรปากนะพี่! "ไอ้เจบีก็ยักคิ้วตอบๆ ไปอย่างกวนๆ ก่อนที่เราจะเดินออกมาจากตึกนั้นทันทีเพราะกลัวครูฝ่ายปกครองจะผ่านมาเห็นเอา "พรุ่งนี้รวยเละแน่เรา"ไอ้เจบีกระแทกไหล่ของฉันเบาๆ "สาธุ! "ฉันตบไหล่ตอบไปแบบขำๆ "เออไอ้เจบี"ฉันชะงักฝีเท้าเล็กน้อย "ทำไมวะ? " เจบีหันมามองฉันนิ่งๆ "มึงว่าแผลที่หน้ากูมันชัดมั้ยวะ? "ฉันชี้ที่หางคิ้วกับโหนกแก้มตัวเองให้คนตรงหน้าดู "ก็ไม่ชัดมากนะ แผลใกล้หายแล้ว"ไอ้เจบีตอบตามจริงขณะที่เราเดินมาหยุดซื้อน้ำที่ร้านขายน้ำหน้าโรงเรียน และใกล้กับลานจอดรถมอไซค์ ไอ้เจบีไม่ตกใจกับเรื่องรอยแผลที่หน้าเพราะฉันมีเรื่องชกต่อยเป็นปกติอยู่แล้ว แต่ถ้าวันไหนที่ชกแพ้ขึ้นมามันคงด่าฉันชุดใหญ่แน่ๆ "งั้นมึงช่วยต่อยซ้ำให้กูทีดิ"ฉันยื่นหน้าไปหามันใกล้ๆ "ต่อยตรงนี้แรงๆ เลยนะ ให้ช้ำๆ เลย"ฉันหลับตาปี๋และรอรับหมัดจากนักมวยมืออาชีพอย่างไอ้เจบี "ห่ะ? "มันถามแบบงุนงง "มึงจะบ้าหรอ"มันเอามือแตะที่หน้าผากของฉันเบาๆ "ก็กูอยากมีแผลไปนานๆ นิ"ฉันชักสีหน้าทันทีเมื่อโดนขัดใจ "มีแผลบนหน้ามันไม่ได้ดูเท่นะเว้ย หรือมึงมีเหตุผลอื่น? "ไอ้เจบีดูดน้ำไปก็มองฉันไปแบบงุนงงๆ "มึงนี่แม่งไร้ประโยชน์ชะมัด ช่วยแค่นี้ก็ทำไม่ได้"ฉันเหวี่ยงๆ ใส่มันไปก่อนจะคว้าน้ำเป็ปซี่จากมือไอ้เจบีมาดูดให้ชื่นใจ "แล้วมึงกลับ../กูไปก่อนนะ กูรีบมากกกก"ยังไม่ทันที่ไอ้เจบีจะพูดจบฉันก็ยัดน้ำเป็ปซี่คืนไปแบบรีบเร่งและขี้นรถแท็กซี่คันที่ขับมาผ่านมาพอดี "เป็นคอนโดหน้ามหาลัยJYUค่ะ"พอขึ้นรถแท็กซี่ปุ๊ป ฝนก็ตกกระหน่ำปั๊ปทั้งที่เพิ่งจะหยุดไปแท้ๆ -ข้อความถึงพี่มาร์คัส?- "กำลังออกจากโรงเรียนไปทำแผลนะคะ" อื้ออ อื้อออ -ข้อความจากพี่มาร์คัส?- "Ok" @เพนท์เฮ้าส์ "ทำไมเปียกแบบนี้ละ? "พี่มาร์คัสถามฉันที่เปียกโชกไปทั้งตัวเพราะว่าเดินตากฝนมาหมาดๆ "พอดีฝนมันตกก็เลยต้องเดินตากฝนมา"ฉันตอบไปตามตรงอย่างเริ่มสบัดหัวที่เปียกโชกเล็กน้อย โดยลืมไปว่าชุดนักเรียนมันเป็นเสื้อเชิ้ตสีขาวบางเพียงเท่านั้นและมันก็เห็นไปถึงลวดลายของชุดชั้นในสีดำและเสื้อเปียกที่แนบเนื้ออย่างเด่นชัด "แปปนึงนะ เสื้อเธอเปียกหมดเลยอะ"คนตรงหน้าหลบหน้าหลบตาฉันด้วยท่าทีแปลกๆ ก่อนจะเดินหายไปในห้องของเขาและกลับมาพร้อมกับผ้าเช็ดตัวสีขาวผืนใหญ่ ฟุ๊บบ!! พี่มาร์คัสคลุมตัวที่เปียกโชกของฉันด้วยผ้าเช็ดตัวกลิ่นห๊อมหอมของเขา ทำให้ตอนนี้เหมือนกับว่าฉันอยู่ภายในอ้อมแขนของเขา ใบหน้าที่เปียกปอนของฉันค่อยๆ เงยหน้ามองคนตัวสูง ใบหน้าหล่อๆ ของเขาอยู่ห่างฉันเพียงแค่คืบเดียวเท่านั้น ลมหายใจอุ่นของเขาที่พ่นออกมาใส่หน้าผากเหม่งๆ ของฉันอย่างแผ่วเบา "ตากฝนแบบนี้"เขาก้มหน้าลงมาพูดกับฉันด้วยใบหน้าที่เรียบนิ่ง เสียงลมหายใจ จังหวะการเต้นของหัวใจของเขา ฉันได้ยินมันชัดขึ้นทุกวินาที "เธอจะไม่สบายเอาได้นะ" ทันทีที่พูดจบเขาก็ค่อยๆ คลายอ้อมแขนออกช้าๆ แคะ แคะ~ (ฉันไอออกมาเบาๆ และเริ่มคันๆ คอ) "ฉันต้องเป็นไข้แล้วแน่ๆ เลย"ฉันทำตาโตและบึนปากมองเขาและพูดออกไปอย่างตกใจ "พี่รักษาฉันหน่อยสิ"ฉันพูดต่อไปอย่างพยายามไม่หลุดยิ้ม "ป่วยจริงๆ นะหรอ? "คนตรงหน้าถามด้วยใบหน้าซื่อๆ "จริงๆ ปวดหัว"ฉันเอามือกุมขมับทันที "หนาว"พูดไปด้วยปากสั่นๆ "เออ....ตัวร้อนแล้วพี่ดูสิ"ฉันดึงมือของพี่มาร์คัสมาจับเข้าที่หน้าผากของตัวเองทันที "ฉันไม่สบายแล้วจริงนะเนี้ย"ฉันยังคงเล่นสมบทบาทต่อไปจนคนตรงหน้าพยักหน้าเบาๆ อย่างเชื่อสนิทใจ หลังจากที่ฉันเปลี่ยนชุดเปียกๆ ของตัวเองออกเพื่อเอาไปซักอบรีดเช่นเคยๆ ฉันก็สวมใส่ชุดนอนของพี่มาร์คัสและมานั่งตรงโซฟาที่เดิมอย่างสำราญใจ แม้ว่าชีวิตของฉันจะมีแต่คนหน้าตาดีอยู่รอบๆ ตัวทั้งพ่อ ทั้งพี่ชายตัวเอง แต่บอกเลยว่าพี่มาร์คัสเนี้ยสเปคฉันที่สุดเลยอะ แม้ว่าเราจะเพิ่งรู้จักกันแต่ชอบก็ชอบมันห้ามกันไม่ได้นิ จริงมั้ย? เขาเป็นสุภาพบุรุษตั้งแต่วินาทีแรกที่เจอ นี่ฉันกำลังมีอาการคลั่งพี่หมอหน้าหวานคนนี้อยู่ใช่มั้ยเนี่ย? "กินน้ำขิงร้อนๆ จะได้ไม่เป็นไข้"พี่มาร์คัสวางแก้วน้ำขิงร้อนไว้ตรงหน้า "พี่มาร์คัส.."ฉันเป่าน้ำขิงและมองไปทางเขาที่กำลังนั่งปรับอุณภูมิแอร์ในห้องอยู่ไม่ไกล "หื้ม? " เขาจะขานรับฉันทุกครั้งที่เรียกชื่อด้วยเสียงละมุนแบบนี้ไม่ได้นะ "ทำไมต้องน่ารักขนาดนี้ด้วยอะ.."
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม