EP.6 LOVE DIE
EP.6 LOVE SICK GIRL
"อ่อ ถ้าจะเอาแบบนั้น"เขาหลบสายตาของฉันและมองไปทางอื่นแทน
ทำเอาฉันใจหวิวๆ เมื่อจะถูกปฎิเสธเลยแฮะ ผู้ชายใบหน้าหวานๆ กัดริมฝีปากบางๆ ของเขาอย่างครุ่นคิด
"โทรมาบอกก่อนแล้วกันเผื่อว่าฉันไม่อยู่ห้อง กลัวเธอจะรอนาน"คนตรงหน้าตอบและเงยหน้ามองฉันเล็กน้อย ก่อนจะละสายตาไปเก็บขวดยาทาแผลต่างๆ ใส่กล่องไว้ตามเดิมเขาเก็บกล่องยาไว้ตามเดิมแบบมีระเบียบเรียบร้อยกว่าม้าดีดกระโหลกแบบฉันซะอีก (แม่เพลงชอบเรียกแบบนั้น)
"งั้นเจอกันตอนเย็นนะคะ ฉันจะโทรหาพี่ก่อน"ฉันฉีกยิ้มกว้างก่อนจะโบกมือลาและหยิบกระเป๋าวิ่งออกมาจากคอนโดของเขา
เพื่อขึ้นแท็กซี่ตรงไปโรงเรียนก่อนที่ครูจะเข้าสอนคาบเรียนแรก
@Smart High school
"หน้าเธอไปโดนอะไรมาอะ เจ็บมั้ย? "เพื่อนที่นั่งข้างๆ ฉันเอ่ยทักขึ้นอย่างห่วงใย แม้ว่าฉันจะรำคาญยัยลาลินน์
แต่เอาจริงๆ นางก็จริงใจและห่วงใยฉันอยู่ไม่น้อยถือว่าน่าคบหาสมาคมด้วยอยู่บ้างถึงแม้จะบ่นมากไปหน่อย
"ถามเหมือนแม่ฉันเลยนะ"ฉันพูดไปก่อนจะหันไปมองหน้ายัยพลอยลาลิลณ์นิ่งๆ ยัยนี้คือเด็กทุนเต็มจำนวนของโรงเรียนผู้ที่มีผลการเรียนเป็นเลิศมาทุกๆ ปีและยังดำรงตำแหน่งเป็นหัวหน้าชั้นเรียนของเราอีกด้วย เห็นว่ากันว่าถ้าปีการศึกษาไหนที่ผลการเรียนไม่ได้ที่1ของชั้นหรือทำผิดกฏของโรงเรียนยัยนี้ก็จะหลุดทุนทันทีและต้องจ่ายเงินค่าเทอมเต็มจำนวนซึ่งเห็นว่าจริงๆ แล้วทางบ้านของพลอยลาลินน์ค่อนข้างมีปัญหาเรื่องเงินอยู่ไม่น้อยเลย แต่ด้วยความที่โรงเรียนนานาชาติที่นี้มีชื่อเสียงและใครๆ ก็อยากส่งลูกเข้ามาเรียนที่นี้ นั้นทำให้เธอต้องสู้และอดทนแม้ว่าค่าครองชีพในโรงเรียนเราจะสูงเกินไปสำหรับยัยลาลิลณ์ก็ตาม
แต่ยัยนี้มักจะหางานพิเศษทำไม่เว้นว่างเลยสักวันและที่ยัยนี้มาสนิทกับฉันเหตุผลหนึ่งก็เพราะว่าฉัน
จ้างนางทำการบ้านและก็เช็คชื่อให้ตลอดและยังรวมค่าติวเตอร์ก่อนสอบแบบตัวต่อตัวให้ไปด้วย
"ขอโทษทีนะ" พอฉันตอบไปแบบนั้นยัยนั้นก็หน้าเสียไปเล็กน้อยที่เห็นว่าฉันบ่นๆ ใส่ไป
"ฉันแค่ซ้อมมวยแล้วมันผิดพลาดทางเทคนิคนิดหน่อยก็เลยโดนหมัดมาแบบเต็มๆ นะ ไม่ต้องตกใจขนาดนั้นหรอกน่า"ฉันตอบไปอย่างไม่คิดอะไรมากหนัก ก่อนจะหยิบการบ้านขึ้นมาตั้งวางไว้บนโต๊ะ และนั้นยิ่งทำให้คนข้างๆ ช็อกไปตามๆ กัน
"เธอ...ทำการบ้านเองอย่างเลยงั้นหรอ? "ยัยนั้นตาโตอย่างแทบไม่เชื่อในสิ่งที่เห็น เพราะปกติฉันต้องตื่นแต่เช้าก็เพื่อมานั้งลอกการบ้านนางแทบทุกวัน และก็ข่มขู่นางให้ช่วยปกปิดเรื่องโดดเรียนอยู่เป็นประจำ
"นี้คงโดนต่อยมาแรงจริงๆ นะ"ยัยนั้นยังคงมองฉันอย่างไม่เชื่อในสายตาของตัวเองและพูดแบบยิ้มๆ
" ย่ะ! "ฉันแบะปากกรอกตามองบนใส่ไปที
"แต่ฉันไม่ได้ทำเอง มีคนทำให้! "ฉันตอบกลับไปอย่างคนขี้อวด
"อ่อ"ลาลิลณ์พยักหน้าเบาๆ
"จริงๆ เธอควรจะลองทำเองดูนะอลิเซีย"ยัยนี้กับพูดข้ามประเด็นที่ฉันจะอวดซะงั้น ดูนางเถอะ
"เธอนะเป็นเก่งและก็หัวดีแต่ขี้เกียจไปหน่อย"ยัยพลอยลาลิลณ์ยังคงแนะนำเสียงเอื้อยๆ อ้ายๆ อย่างน่ารำคาญสุดๆ อย่างกับเป็นแม่
"รู้แล้วน่าๆๆ "ฉันก็ตัดไปบทไปก่อนจะยกมือห้ามไม่ให้ยัยนั้นพูดต่อ นั่งเรียนไปสักพักใหญ่ๆ
จนถึงคาบพักขณะที่ฉันนั่งกินข้าวอยู่กับกลุ่มเพื่อน โรงเรียนเราเป็นโรงเรียนนานาชาติขนาดเล็กๆ
จึงมีนักเรียนในห้องไม่เยอะและทุกคนก็รู้จักและสนิทกันดีเพราะเรียนด้วยกันมาตั้งแต่เด็กเสมือนโตมาด้วยกัน
พอกลับมาถึงห้องเรียน
"อลิเซีย รุ่นพี่มอ6เปิดโต๊ะพนันบอลสนใจไปถล่มมันปะ? "เสียงของไอ้เจบี เพื่อนผู้ชายในห้องที่เดินเข้ามาเคาะโต๊ะของฉัน เจบีเป็นเพื่อนจอมเฟี้ยวของฉันในห้องมันชอบทำตัวเท่ๆ ไปวันๆ ไอ้เจบีสนิทกับฉันเพราะเราเรียนศิลปะการต่อสู้ที่เดียวกันและก็เป็นคู่ซ้อมให้ฉันมาตั้งแต่เด็กๆ
ระหว่างเราแทบไม่มีคำแบ่งแยกหญิงหรือชายเพราะอะไรที่มันทำได้ฉันก็ทำได้
"ดีเลยช่วงนี้ถูกลดค่าขนมอยู่ หารายได้เสริมทางอื่นบ้างก็น่าจะดี"ฉันหันไปแสยะยิ้มกับไอ้เจบีเบาๆ
"ลุยดิวะเพื่อน"มันวางเงินของตัวเองไว้บนโต๊ะเรียนของฉัน ฉันแสยะยิ้มออกมาทันที
"การพนันมันไม่ดีนะ มีแต่เสียกับเสีย"เสียงของพลอยลาลินน์พูดขึ้นท่ามกลางเราสองคนที่กำลังเปิดกระเป๋าสตางค์นับเงินบนโต๊ะอย่างมั่นอกมั่นใจ
"ยัยลาลิลณ์ เงียบ"ฉันบอกให้ยัยเด็กเด๋อนั้นเงียบๆ ไปก่อนที่จะพูดอะไรไม่เป็นมงคลไปมากกว่านี้
ฉันเทกระเป๋านับเหรียญนับแบงค์เพื่อเอาไปลงพนันกับพี่บอมรุ่นพี่ขาใหญ่โต๊ะบอลของโรงเรียน
"จารย์มาๆ "แล้วทุกคนก็กลับไปนั่งที่เพื่อเรียนคาบต่อไปตามเดิม แต่ละวิชาผ่านไปโคตรช้าราวกับข้ามปีฉันก็ได้แต่นั่งเท่าคางมองออกไปนอนหน้าต่าง ที่ในฝนตกอีกเช่นเคยๆ
"ฉันไม่ชอบฤดูฝนเอาซะเลย"ฉันมองท้องฟ้าที่มืดครึ้มและดูน่าหม่นหมองนั้นอย่างเซ็งๆ มันทำให้เรียนไปง่วงไปหนักกว่าเดิมซะอีก
เสียงครูก็เหมือนกับเสียงกล่อม ตาก็ใกล้จะปิดลงทุกทีทุกทีและแล้ว...เสียงสวรรค์ก็ดังขึ้นอย่างทันเวลา
กริ้ง~~~~ เสียงออดหมดคาบเรียนก็ดังขึ้นฉันเก็บหนังสือเรียนทันทีก่อนจะเดินออกจากห้องเรียนอย่างไม่รีรอ
"อลิซ อลิเซีย~"เสียงของยัยพลอยลาลิลณ์ตะโกนเรียกไล่หลังฉันและวิ่งตามมาติดๆ
"อะไรอีกยัยลาลิลณ์? "ฉันกับไอ้เจบีหันไปมองทางยัยเด็กเรียนอย่างถอนหายใจ
"เรื่องที่จะให้ฉันติวให้ก่อนสอบนะ เธอจะว่างให้ติวเมื่อไหร่? "ยัยนั้นหอบเหนื่อยเพราะวิ่งตามฉันมาแบบติดๆ
"เอาไว้ก่อนน่า ฉันขี้เกียจ"ฉันตอบแบบบ่นๆ ไป
และเดินมุ่งหน้าไปยังตึกเรียนชั้นมอ6ต่อทันทีโดยมีไอ้เจบีเดินมาเคียงข้างตลอดทาง
"ยังไงก็ทักมานะอลิเซีย"ยัยนั้นตะโกนตามหลังมาติดๆ
"โอเคๆ " ฉันเสียงดังตอบกลับไปก่อนจะยกมือโอเคแบบปัดๆ ไป
-ตึกมอ6 หลังเลิกเรียน-
"เท่าไหร่ดีจ่ะแม่สาวมาเฟีย? "รุ่นพี่เอ่ยทักทายฉันทันที
เพราะนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่เรามาพนันกับโต๊ะบอลนี้
แถมยังขึ้นชื่อว่าเป็นลูกค้ามือดีอันดับต้นๆ อีกด้วย
"10บาท เหมือนเดิม! "ฉันตอบไปอย่างมั่นใจก่อนจะเอาเงินของตัวเองที่รวมกับเงินของไอ้เจบีวางลงบนโต๊ะ
(10บาทในวงการพนันคือเติม0ไป3ตัว
เพราะฉะนั้น 10=10,000)
"คู่เดียว? "คนตรงหน้าก้มหน้าจดชื่อของฉันลงในสมุด
ฉันหันไปปรึกษากับไอ้คลีนซึ่งมันก็พยักหน้าและลงพนันตามที่เรานั่งคุยกันเอาไว้
"อื้มคู่เดียว"ฉันตอบไปเสียงห้วนๆ
"ขอให้โชคดี"นั้นคือคำอวยพรอันแสนจอมปลอมของรุ่นพี่ที่เป็นเจ้าของโต๊ะบอลรายใหญ่
"สมพรปากนะพี่! "ไอ้เจบีก็ยักคิ้วตอบๆ ไปอย่างกวนๆ
ก่อนที่เราจะเดินออกมาจากตึกนั้นทันทีเพราะกลัวครูฝ่ายปกครองจะผ่านมาเห็นเอา
"พรุ่งนี้รวยเละแน่เรา"ไอ้เจบีกระแทกไหล่ของฉันเบาๆ
"สาธุ! "ฉันตบไหล่ตอบไปแบบขำๆ
"เออไอ้เจบี"ฉันชะงักฝีเท้าเล็กน้อย
"ทำไมวะ? " เจบีหันมามองฉันนิ่งๆ
"มึงว่าแผลที่หน้ากูมันชัดมั้ยวะ? "ฉันชี้ที่หางคิ้วกับโหนกแก้มตัวเองให้คนตรงหน้าดู
"ก็ไม่ชัดมากนะ แผลใกล้หายแล้ว"ไอ้เจบีตอบตามจริงขณะที่เราเดินมาหยุดซื้อน้ำที่ร้านขายน้ำหน้าโรงเรียน และใกล้กับลานจอดรถมอไซค์
ไอ้เจบีไม่ตกใจกับเรื่องรอยแผลที่หน้าเพราะฉันมีเรื่องชกต่อยเป็นปกติอยู่แล้ว แต่ถ้าวันไหนที่ชกแพ้ขึ้นมามันคงด่าฉันชุดใหญ่แน่ๆ
"งั้นมึงช่วยต่อยซ้ำให้กูทีดิ"ฉันยื่นหน้าไปหามันใกล้ๆ
"ต่อยตรงนี้แรงๆ เลยนะ ให้ช้ำๆ เลย"ฉันหลับตาปี๋และรอรับหมัดจากนักมวยมืออาชีพอย่างไอ้เจบี
"ห่ะ? "มันถามแบบงุนงง
"มึงจะบ้าหรอ"มันเอามือแตะที่หน้าผากของฉันเบาๆ
"ก็กูอยากมีแผลไปนานๆ นิ"ฉันชักสีหน้าทันทีเมื่อโดนขัดใจ
"มีแผลบนหน้ามันไม่ได้ดูเท่นะเว้ย หรือมึงมีเหตุผลอื่น? "ไอ้เจบีดูดน้ำไปก็มองฉันไปแบบงุนงงๆ
"มึงนี่แม่งไร้ประโยชน์ชะมัด ช่วยแค่นี้ก็ทำไม่ได้"ฉันเหวี่ยงๆ ใส่มันไปก่อนจะคว้าน้ำเป็ปซี่จากมือไอ้เจบีมาดูดให้ชื่นใจ
"แล้วมึงกลับ../กูไปก่อนนะ กูรีบมากกกก"ยังไม่ทันที่ไอ้เจบีจะพูดจบฉันก็ยัดน้ำเป็ปซี่คืนไปแบบรีบเร่งและขี้นรถแท็กซี่คันที่ขับมาผ่านมาพอดี
"เป็นคอนโดหน้ามหาลัยJYUค่ะ"พอขึ้นรถแท็กซี่ปุ๊ป ฝนก็ตกกระหน่ำปั๊ปทั้งที่เพิ่งจะหยุดไปแท้ๆ
-ข้อความถึงพี่มาร์คัส?-
"กำลังออกจากโรงเรียนไปทำแผลนะคะ"
อื้ออ อื้อออ
-ข้อความจากพี่มาร์คัส?-
"Ok"
@เพนท์เฮ้าส์
"ทำไมเปียกแบบนี้ละ? "พี่มาร์คัสถามฉันที่เปียกโชกไปทั้งตัวเพราะว่าเดินตากฝนมาหมาดๆ
"พอดีฝนมันตกก็เลยต้องเดินตากฝนมา"ฉันตอบไปตามตรงอย่างเริ่มสบัดหัวที่เปียกโชกเล็กน้อย
โดยลืมไปว่าชุดนักเรียนมันเป็นเสื้อเชิ้ตสีขาวบางเพียงเท่านั้นและมันก็เห็นไปถึงลวดลายของชุดชั้นในสีดำและเสื้อเปียกที่แนบเนื้ออย่างเด่นชัด
"แปปนึงนะ เสื้อเธอเปียกหมดเลยอะ"คนตรงหน้าหลบหน้าหลบตาฉันด้วยท่าทีแปลกๆ ก่อนจะเดินหายไปในห้องของเขาและกลับมาพร้อมกับผ้าเช็ดตัวสีขาวผืนใหญ่
ฟุ๊บบ!! พี่มาร์คัสคลุมตัวที่เปียกโชกของฉันด้วยผ้าเช็ดตัวกลิ่นห๊อมหอมของเขา
ทำให้ตอนนี้เหมือนกับว่าฉันอยู่ภายในอ้อมแขนของเขา
ใบหน้าที่เปียกปอนของฉันค่อยๆ เงยหน้ามองคนตัวสูง
ใบหน้าหล่อๆ ของเขาอยู่ห่างฉันเพียงแค่คืบเดียวเท่านั้น ลมหายใจอุ่นของเขาที่พ่นออกมาใส่หน้าผากเหม่งๆ ของฉันอย่างแผ่วเบา
"ตากฝนแบบนี้"เขาก้มหน้าลงมาพูดกับฉันด้วยใบหน้าที่เรียบนิ่ง เสียงลมหายใจ จังหวะการเต้นของหัวใจของเขา ฉันได้ยินมันชัดขึ้นทุกวินาที
"เธอจะไม่สบายเอาได้นะ" ทันทีที่พูดจบเขาก็ค่อยๆ คลายอ้อมแขนออกช้าๆ
แคะ แคะ~ (ฉันไอออกมาเบาๆ และเริ่มคันๆ คอ)
"ฉันต้องเป็นไข้แล้วแน่ๆ เลย"ฉันทำตาโตและบึนปากมองเขาและพูดออกไปอย่างตกใจ
"พี่รักษาฉันหน่อยสิ"ฉันพูดต่อไปอย่างพยายามไม่หลุดยิ้ม
"ป่วยจริงๆ นะหรอ? "คนตรงหน้าถามด้วยใบหน้าซื่อๆ
"จริงๆ ปวดหัว"ฉันเอามือกุมขมับทันที
"หนาว"พูดไปด้วยปากสั่นๆ
"เออ....ตัวร้อนแล้วพี่ดูสิ"ฉันดึงมือของพี่มาร์คัสมาจับเข้าที่หน้าผากของตัวเองทันที
"ฉันไม่สบายแล้วจริงนะเนี้ย"ฉันยังคงเล่นสมบทบาทต่อไปจนคนตรงหน้าพยักหน้าเบาๆ อย่างเชื่อสนิทใจ
หลังจากที่ฉันเปลี่ยนชุดเปียกๆ ของตัวเองออกเพื่อเอาไปซักอบรีดเช่นเคยๆ ฉันก็สวมใส่ชุดนอนของพี่มาร์คัสและมานั่งตรงโซฟาที่เดิมอย่างสำราญใจ
แม้ว่าชีวิตของฉันจะมีแต่คนหน้าตาดีอยู่รอบๆ ตัวทั้งพ่อ ทั้งพี่ชายตัวเอง แต่บอกเลยว่าพี่มาร์คัสเนี้ยสเปคฉันที่สุดเลยอะ แม้ว่าเราจะเพิ่งรู้จักกันแต่ชอบก็ชอบมันห้ามกันไม่ได้นิ จริงมั้ย?
เขาเป็นสุภาพบุรุษตั้งแต่วินาทีแรกที่เจอ
นี่ฉันกำลังมีอาการคลั่งพี่หมอหน้าหวานคนนี้อยู่ใช่มั้ยเนี่ย?
"กินน้ำขิงร้อนๆ จะได้ไม่เป็นไข้"พี่มาร์คัสวางแก้วน้ำขิงร้อนไว้ตรงหน้า
"พี่มาร์คัส.."ฉันเป่าน้ำขิงและมองไปทางเขาที่กำลังนั่งปรับอุณภูมิแอร์ในห้องอยู่ไม่ไกล
"หื้ม? " เขาจะขานรับฉันทุกครั้งที่เรียกชื่อด้วยเสียงละมุนแบบนี้ไม่ได้นะ
"ทำไมต้องน่ารักขนาดนี้ด้วยอะ.."