ด้วยความเร็วที่น่ากลัวยามที่ชายแปลกหน้าโผล่มายืนอยู่ตรงหน้าทำให้อเล็กซานเดรียเริ่มหวาดระแวง ดวงตาคู่งามมองใบหน้าหล่อคมเข้มอย่างอึดอัด ไม่เข้าใจตนเองเหมือนกันว่าเพราะเหตุใด ยามจ้องมองนัยน์ตาสีแดงก่ำคู่นั้นแล้วปวดใจ นี่เธอเป็นบ้าอะไร ทำไมถึงได้เกิดความรู้สึกทรมานยามเห็นความเจ็บปวดภายในดวงตาของเขา มือเรียวยกขึ้นกุมหน้า ประหลาดใจกับความรู้สึกที่มันจู่โจมเธออยู่ในขณะนี้
“อิสเบลล่ายอดรัก เจ้าลืมความรักที่เราเคยมีต่อกันแล้วใช่ไหม เจ้าไม่รักข้าแล้วหรือ”
“ต้องขอโทษด้วยที่ฉันจำคุณไม่ได้ และฉันชื่ออเล็กซานเดรียไม่ใช่อิสเบลล่า”
“ไม่จริง! เจ้าโกหก...ข้าไม่เชื่อ”
“ฉันไม่ใช่ผู้หญิงที่คุณรัก ฉันขอร้องล่ะอยากพยายามเรียกฉันอีก เพราะเสียงของคุณทำให้ฉันประสาทเสีย กลับไปในที่ของคุณซะ”
“เจ้าใจร้ายมากอิสเบลล่า เจ้าใจร้ายกับข้าเสียเกิน...ยอดรัก”
เสียงทุ้มนุ่มรำพันออกมาอย่างเจ็บปวด ดวงตาคู่คมจ้องมองใบหน้านางอันเป็นที่รักอย่างทรมาน ทำไมนางถึงจำเขาไม่ได้ ในเมื่อหลายศตวรรษก่อนเขาเป็นสามีของนางและยังเป็นผู้ช่วยชีวิตนางจากความตายมาก็หลายครั้ง เจ้าของร่างสูงใหญ่เริ่มเลือนหายไปทีล่ะนิดๆ สายตามองใบหน้าคมสวยอย่างอาลัยอาวรณ์ เสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นหรือกาลเวลาทำให้จิตใจของนางเปลี่ยนไป ยอดรักของเขา ไม่รักเขาเฉกเช่นในอดีต นางเขาลืมไปแล้วตลอดกาล เขามองสายตาคู่งามนั้นออก นางไม่มีความรักหลงเหลือให้เขาอีกแล้ว
อเล็กซานเดรียยืนอยู่ท่ามกลางแสงจันทร์ ดวงดาวบนฟากฟ้าส่องแสงประกายระยิบระยับ ไม่ว่ามองกี่ครั้งก็ทำให้หัวใจเปี่ยมสุข หากแต่ในยามนี้เธอกลับรู้สึกเจ็บปวดและทรมานกับภาพความงดงามเหล่านี้ ภาพที่เธอฝันเห็นมาตลอดสองปีกับชายหนุ่มแปลกหน้าที่พยายามบอกเธอว่าเธอคือผู้หญิงที่เขารัก แต่มันจะเป็นไปได้อย่างไร ในเมื่อเธอไม่เคยเห็นเขาหรือแม้แต่พูดคุยกับเขาสักครั้ง
ทุกครั้งที่เธอหลับเขาก็มักมาปรากฏกายต่อหน้าเธอเสมอ พร้อมกับน้ำเสียงตัดพ้อว่าเธอไม่รักเขาไม่หลงเหลือความรักให้แก่เขา มือเรียวยกขึ้นกุมหน้าอกแน่น สายตาจ้องมองไปยังทิศทางที่ชายหนุ่มเลือนหายไป ชายแปลกหน้าผู้นี้เป็นใครกันแน่ ทำไมถึงเรียกเธอว่า ‘อิสเบลล่า’ ทั้งที่ความเป็นจริงมันไม่ใช่ชื่อของเธอ สงสัยหน้าตาของเธอคล้ายกับผู้หญิงที่เขารักล่ะมั้ง
“ข้าไม่ยอมเลิกราเพียงแค่นี้หรอกยอดรัก ข้าจะทำให้เจ้าจำข้าได้และกลับมารักข้าเหมือนเมื่อหลายศตวรรษก่อนอิสเบลล่า”
เสียงที่แว่วมาตามสายลมทำให้ร่างสูงโปร่งถึงกับหนาวยะเยือกอย่างไม่รู้ตัว สายตากวาดมองไปรอบๆ แต่ก็ไม่พบแม้แต่เงาของชายหนุ่ม อเล็กซานเดรียยกมือกอดอกกับความหนาวที่มันแล่นพล่านอยู่รอบตัว โดยที่เธอไม่รู้สักนิดว่าชายแปลกหน้าที่เธอฝันเห็นบ่อยๆ กำลังโอบกอดเธอเอาไว้อย่างหวงแหน
“เจ้าเป็นของข้า...อิสเบลล่า”
เสียงกระซิบข้างหูทำให้อเล็กซานเดรียขนลุกซู่ หญิงสาวหันไปมองรอบๆ อย่างตื่นตระหนก แต่ก็ไม่พบชายแปลกหน้าคนนั้น ในสมองเริ่มสั่งให้เธอออกวิ่ง เพราะเริ่มหวาดกลัวกับเสียงคร่ำครวญของเขา หากแต่วิ่งออกไปได้ไม่กี่ก้าว เท้าก็สะดุดเข้ากับก้อนหิน จนต้องล้มลงไปนอนกองอยู่กับพื้นหญ้านุ่มนิ่ม
แล้วความเย็นวิ่งพล่านอยู่ภายในกาย เมื่อพบว่าหนุ่มแปลกหน้านอนอยู่ใต้ร่างของเธอ อเล็กซานเดรียพยายามสะบัดหน้า สองมือดึงแขนแกร่งให้พ้นจากเอวคอดกิ่ว แรงสะบัดและดิ้นรนนี่เองทำให้ร่างสูงโปร่งกลิ้งลงในนอนอยู่บนพื้นหญ้าสำเร็จ
“ตุ๊บ! โอ๊ยยยยย...”
อเล็กซานเดรียร้องครางออกมาอย่างเจ็บปวด หญิงสาวพยายามพยุงร่างกายให้ลุกขึ้น สายตากวาดมองไปรอบๆ ก็พบว่าตอนนี้อยู่ในห้องนอนของตนเอง สรุปว่าเธอฝันเรื่องไร้สาระอีกแล้ว ทำไมผู้ชายคนนั้นถึงชอบเข้ามาในความฝันของเธอ ร่างสูงโปร่งเซเล็กน้อยเพราะเจ็บสะโพก โชคดีที่เธอตกเตียงเสียก่อน ไม่อย่างนั้นเธอคงแย่ หากปล่อยให้ชายคนนั้นเข้ามาใกล้
“คุณเป็นใคร ทำไมถึงเข้ามาในความฝันของฉันอีกแล้ว บ้าเฮ้ย! นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันแน่”
หญิงสาวสบถออกมาอย่างหัวเสีย เมื่อหาคำตอบของสิ่งที่ตนสงสัยไม่ได้ ตกลงผู้ชายแปลกหน้าคนนี้เป็นใครกัน เธอฝันเห็นเขามาตลอดสองปี น้ำเสียงที่ต่อว่าและตัดพ้อว่าเธอไม่รักและลืมเขา ทำให้เธอรู้สึกเจ็บปวดที่ใจอย่างประหลาด เห็นทีเธอต้องไปโรมาเนียก่อนกำหนดคงเป็นเรื่องดีที่สุด
บางทีปราสาทเซเวอร์ลัสอาจมีคำตอบให้เธอก็ได้ เพราะตั้งแต่ทนายความของคุณปู่มาหาเธอเมื่อสองปีก่อน เธอก็เริ่มฝันเห็นหนุ่มแปลกหน้าคนนี้ เธออยากรู้จริงๆ ว่าปราสาทเก่าแก่หลังงามแห่งนั้นที่คุณปู่ยกให้เธอเกี่ยวข้องอะไรกับผู้ชายที่เธอฝัน แล้วยังชื่อที่เขาใช้เรียกเธออีก ‘อิสเบลล่า’ นี่มันใครกัน ในตระกูลของเธอมีผู้หญิงคนไหนชื่อนี้หรือเปล่า เท่าที่เธอรู้มาไม่เคยมีเลยสักคน
คุณปู่อเล็กซิสก็เป็นบุตรชายเพียงคนเดียวของตระกูลเซเวอร์ลัส ส่วนทางคุณย่าเฮเลนก็เป็นบุตรสาวเพียงคนเดียวของตระกูลโรซาลีน ส่วนญาติๆ ที่เธอมีอยู่ในตอนนี้ก็เป็นเพียงบุตรบุญธรรมอีกสามหรือสี่ของคุณปู่กับคุณย่าเท่านั้น หากจะนับไล่เรียงชื่อของแต่ละคนในตระกูล เธอก็ยังไม่พบชื่อที่ชายแปลกหน้าคนนั้นเอ่ยออกมาเลยสักคน หรือว่าเขาจำชื่อผิดกันแน่
“โอ๊ยยยย… ยิ่งคิดยิ่งปวดหัว นอนต่อดีกว่า”
อเล็กซานเดรียล้มตัวลงนอน แขนตั้งหนึ่งยกขึ้นมาพาดเอาไว้ที่หน้าผาก นึกทบทวนคำพูดของชายในฝันอย่างเคร่งเครียด ตกลงเธอกับเขามีความสัมพันธ์แบบไหนกัน ทำไมเขาถึงบอกเธอเป็นคนรักของเขา
‘ให้ตายเถอะ! คิดเท่าไรก็คิดไม่ออก สงสัยเราคงจะเป็นโรคประสาทเข้าสักวัน’
หากเขายังเข้ามาในความฝันของเธออยู่เช่นนี้ แต่ก็เอาเถอะในเมื่อตัดสินใจที่ไปโรมาเนียแล้ว ทุกอย่างคงดีกว่าที่เป็นอยู่ก็ได้ ดวงตาคู่งามเริ่มปิดสนิทอีกครั้ง หากแต่ในสมองกำลังคิดถึงคำพูดกับน้ำเสียงเจ็บปวดของชายแปลกหน้าอยู่ไม่วาย
///////////
...โปรดติดตามตอนต่อไป...