เมียรักนายหัวสิงห์ ตอนที่ 1
สิงหรัตน์ ไกรวรานนท์ นายหัวหนุ่มแห่งเกาะเสือ กำลังไล่ยิงลูกน้องคนสนิทอย่างประกิต และราตรีภรรยาที่ชายหนุ่มพามาอาศัยอยู่ยังเกาะแห่งนี้หลายเดือน
ปัง! ปัง! ปัง! เสียงปืนที่ดังก้องไปทั่วหาดของเกาะเสือ ทำให้เหล่าบรรดาลูกน้อง คนงาน และชาวบ้านต่างมามุงดูเหตุการณ์ด้วยความตกใจ
สายลมพัดโชยเอาเม็ดทรายขาวละเอียดปะทะกับร่างสูงของนายหัวหนุ่มหล่อเชื้อสายลูกน้ำเค็ม
ดวงตาแข็งกร้าวดุดันมองไปยังคนที่ทรยศหักหลังทั้งสอง แล้วลั่นไกปืนระรัว ไล่ล่าประกิตและราตรีที่หนีหัวซุกหัวซุนขึ้นเรือหนีไป
“นายหัว ตามไปไหมครับ” สายลมเอ่ยถามผู้เป็นนาย
“ไม่ต้อง!” น้ำเสียงดุดันเอ่ยตอบ ไม่มีใครรู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ ไตรภูมิกับคมกล้าหันสบตากันนิ่ง ไม่คิดว่าประกิต คนที่เจ้านายไว้ใจที่สุดจะทรยศหักหลังได้ถึงเพียงนี้ และราตรีภรรยาสาวที่เจ้านายให้การดูแลเป็นอย่างดีจะทำกันได้ลงคอ
เหตุการณ์ระทึกขวัญนั้นเป็นที่โจษจันกันไปทั่วเกาะ…
ประกิตกับราตรีหนีตายมาขอความช่วยเหลือจากพายัพซึ่งเป็นลูกน้องของเรวัตร เจ้าของเกาะเสืออีกฟากหนึ่ง ซึ่งเกาะแห่งนี้แบ่งเป็นสองส่วน มีพื้นที่กว้างใหญ่และอุดมสมบูรณ์ไปด้วยผืนป่า… แถมพายัพยังเป็นศัตรูคู่แค้นกับครอบครัวของสิงหรัตน์มานานนม...
สิงหรัตน์ บุรุษร่างสูงใหญ่ เกือบ 187 เซนติเมตร ผมดกหนายาวประบ่า ใบหน้ารกไปด้วยหนวดเครา ถ้าดูเพียงผิวเผินเหมือนโจรเถื่อนดุร้ายจนไม่มีใครอยากเข้าใกล้
แต่ชายหนุ่มมีเครื่องหน้าสมบูรณ์คมเข้ม คนทั่วไปแค่เห็นก็มองเมินเพราะรูปลักษณ์ภายนอกที่ดูทั้งโหด เถื่อน และติดดิน แต่หากสาวๆ หลายคนได้รู้ว่าชายหนุ่มคนนี้เพียบพร้อมไปด้วยรูปสมบัติและทรัพย์สมบัติ เขาคงไม่เป็นอันทำอะไรเพราะต้องคอยหลบหนีหญิงสาวทั้งหลายที่อยากโชคดีตกถังข้าวสารในชั่วข้ามคืน
... ดวงตาคมดุแฝงไว้ด้วยเสน่ห์เหลือร้าย คิ้วเข้มพาดเฉียงดำสนิทรับกับขนตาดกหนา หน้าเหลี่ยมที่ปลายคางมีรอยผ่าดูบึกบึนสมชายชาตรี ริมฝีปากสีเข้มหยักเป็นคันศร ผิวเรียบตึงสีแทนเพราะการทำงานกลางแจ้งทำให้เรือนร่างแกร่งกำยำบึกบึนสง่างามสมชายชาตรี กล้ามเป็นมัดๆ และร่างกายอุดมไปด้วยเส้นขน
สิงหรัตน์ ชายหนุ่มที่สมบูรณ์แบบ ทั้งหน้าที่การงาน ฐานะและรูปร่างหน้าตา แต่เขาไม่เคยต้องการหญิงสาวคนใดมาเคียงข้าง ยังใช้ชีวิตโสดอย่างอิสระไม่ผูกติดกับใคร
เขาคิดว่าหากจะมีภรรยาสักคน ผู้หญิงคนนั้นต้องเห็นความดีของเขา ไม่ใช่ทรัพย์สมบัติภายนอกที่เขามีอยู่
ใช่ว่าเขาจะจมอยู่กับอดีตฝังใจอย่างที่ใครๆ พูดกัน แต่เพราะไม่มีหญิงสาวคนไหนมีค่าให้เขาต้องรัก และทุ่มเทหัวใจให้ในตอนนี้...
นายหัวหนุ่มจอดรถโฟร์วิลคันแกร่งที่กำแพงรั้วบ้าน “ไตรสุรเดช” ซึ่งเป็นบ้านเรือนไทยหลังใหญ่ รั้วบ้านเป็นไม้แทบทั้งสิ้นจึงสามารถมองลอดเข้าไปด้านในได้อย่างชัดเจน
เขาค่อยๆ เปิดประตูลงจากรถ ดวงตาสีสนิมคมดุตวัดสายตามองลอดผ่านแว่นกันแดดยี่ห้อดังที่ปิดบังดวงตาเอาไว้ ในขณะที่ใบหน้านิ่งไร้อารมณ์
ร่างสูงใหญ่ก้าวเดินมั่นคงไปยังรั้วบ้านอันร่มรื่น พร้อมด้วยหัวใจที่กระหายอยากเห็นหน้าหญิงสาวผู้เป็นว่าที่เจ้าสาว
เจ้าสาวที่เขาไม่เคยต้องการสักนิด!!!
... แต่เพราะไม่อยากขัดใจบิดา และครั้งนี้ก็เป็นครั้งแรกที่คนเกเรอย่างเขายอมตามใจบุพการี
หึ! ผู้หญิงแค่ดอกไม้ให้เชยชมพอหมดกลิ่นหอมก็โยนทิ้งถังขยะอย่างไร้ค่า
ยิ่งถ้าผู้หญิงที่เห็นแก่เงินยิ่งหมดกลิ่นชั่วข้ามคืน หรือบางครั้งอาจจะไม่มีกลิ่นเลยด้วยซ้ำ
ดังเช่นสุภาษิตที่ว่าสวยแต่รูปจูบไม่หอม แค่หลอกล่อให้แมลงตัวผู้บินเข้าหา แต่ต้องผิดหวังเพราะน้ำหวานจากรวงผึ้งโดนชอนไชไปจนหมดสิ้นไม่เหลือทิ้งไว้ให้ภมรหน้าโง่ตัวถัดไปอีก
ชายหนุ่มค่อยๆ ถอดแว่นราคาแพงออกอย่างเชื่องช้า สายตามองเห็นหญิงสาวคนหนึ่งที่กำลังรดน้ำต้นไม้อยู่ในสวน รูปร่างอรชรกลมกลึงภายใต้เสื้อแขนกุดสีฟ้าอ่อนกับกระโปรงสีชมพูลายลูกไม้
เขากะประมาณส่วนสูงของเธอน่าจะไม่เกิน 165 เซนติเมตร ผมสลวยดำขลับจนถึงแผ่นหลังมัดเอาไว้อย่างไม่ค่อยพิถีพิถันมากนัก
ร่างบอบบางหันหลังให้เขาอยู่ จึงไม่ได้เห็นหน้าเธอ สิงหรัตน์ยืนจ้องอยู่เพียงครู่เธอจึงหันกลับมาให้เขาได้เห็นใบหน้าสวยหวานเต็มๆ ตา
นายหัวหนุ่มหัวใจหนุ่มกระตุกวูบ ก้อนเนื้อข้างซ้ายกำลังเต้นกระหน่ำรุนแรงเพียงแค่เห็นใบหน้าของหญิงสาวเต็มๆ ตา
ใช่ว่าไม่เคยเห็นผู้หญิงสวย แต่เธอทำให้เขารู้สึกแตกต่าง ความรู้สึกประหลาดล้ำเกิดขึ้นในหัวใจ เขาไม่เชื่อเรื่องรักแรกพบ แต่เชื่อเรื่องชอบแรกพบ เขาบอกตัวเองว่าเขาชอบเธอเข้าให้แล้ว...
แม้จะไม่ได้อยู่ใกล้มากนักแต่สายตาคมดุก็สามารถกวาดไล่มองเรือนร่างของหญิงสาวได้ชัดเจน ใบหน้ารูปหัวใจ หน้าผากมนเพราะผมที่รวบไว้ด้านหลัง คิ้วเรียวโก่ง ขณะกะพริบตามองเห็นแพขนตางอนงามขยับขึ้นลงจนเขานึกชื่นชมเสียไม่ได้
นายหัวหนุ่มยอมรับกับตัวเองว่าเธอเป็นหญิงสาวคนแรกที่ทำให้อัตราการเต้นของหัวใจผิดจังหวะ ถ้ามีโอกาสเขาจะทำโทษให้หนำใจโทษฐานที่ยั่วอย่างเดียงสาให้เขารุ่มร้อนในอก
สิงหรัตน์มองดวงตาสีน้ำตาลเข้มมีแววหวานปนเศร้า ก่อนเลื่อนสายตาลงมองริมฝีปากรูปกระจับที่เผยอออกน้อยๆ ด้วยรอยยิ้มขณะเอาใจใส่กับบรรดาดอกกุหลาบหลากสีในสวนงดงามของบ้าน จมูกโด่งงามที่ดูน่าขบกัดหยอกเย้า รวมถึงผิวขาวผุดผ่องสัมผัส ทำให้เขาอยากแนบชิดมากกว่าการมอง
ความต้องการที่ซุกซ่อนอยู่ภายในกายกำลังตื่นตัวอย่างห้ามไม่อยู่ ชายหนุ่มเผลอสบถกับความคิดของตัวเอง
เขาใคร่อยากรู้ว่าเธอเป็นใคร มีความสัมพันธ์กับ “ไตรสุรเดช” เช่นไร
... แต่หากเธอเป็นว่าที่เจ้าสาวของเขาล่ะ ใบหน้าคมเข้มกระตุกยิ้มเล็กน้อยเมื่อชายหนุ่มทอดสายตามองไปยังร่างอรชร
หญิงสาวคงยังไม่รู้ว่ามีคนแอบมองเพราะมัวเพลิดเพลินกับการรดน้ำต้นไม้ แม้เขาจะเห็นเธอยิ้ม แต่ก็ช่างเป็นรอยยิ้มที่ปนเศร้าเสียนี่กระไร
เมื่อถูกมองมากๆ เข้า พิณทิราเหมือนรู้ตัว กวาดสายตามองรอบกาย ร่างสูงจึงรีบหลบไปอีกด้านทันที
หญิงสาวขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนจะส่ายหน้าไปมา เมื่อคิดว่าตัวเองคงคิดมาก เพราะรู้สึกว่ามีสายตาของใครจ้องมองอยู่ อาจเป็นคนที่เดินผ่านไปผ่านมาก็เป็นได้ เพราะเธออยู่ใกล้รั้วบ้าน
“นังพิณ! มาทำอะไรอยู่ตรงนี้ ฉันเรียกหาแกตั้งนานสองนานจนเสียงแหบเสียงแห้งไปหมดแล้ว”
เสียงตวาดแสบแก้วหูลั่นมาจากทางด้านหลัง พิณทิราปล่อยบัวรดน้ำหลุดจากมือ ลนลานถอยหนีเมื่อรู้ดีว่าพายุใหญ่กำลังตั้งเค้าหนัก เธอรู้ว่าเสียงแบบนี้ของวิธาดาบ่งบอกว่ากำลังอยู่ในอารมณ์เช่นไร
“พิณมารดน้ำต้นไม้ค่ะคุณวิ”
พิณทิรารีบตอบอย่างเกรงใจ วิธาดาใบหน้าหยิกงอหมดความสวยไปทันทีที่โมโห จ้องมองอีกฝ่ายเหมือนจะกินเลือดกินเนื้อ
“ฉันให้แกไปซักผ้า เสร็จหรือยัง มัวแต่รดน้ำต้นกุหลาบอยู่นั่นแหละ จะรักอะไรกันนักกันหนา”
วิธาดาเหยียดริมฝีปากสีแดงสดที่เคลือบลิปสติกมองน้องสาวต่างสายเลือดด้วยความเกลียดชัง
“เสร็จแล้วค่ะคุณวิ”
พิณทิรารีบตอบ เพื่อไม่ให้อารมณ์ของอีกฝ่ายขุ่นมัวมากกว่าเดิม
“รีดผ้าหรือยัง ชุดที่ฉันจะใส่ไปงานเลี้ยง แกรีดหรือยัง นังพิณ!!!”
วิธาดาหาเรื่องเต็มที่ เสียงกราดเกรี้ยวชวนแสบแก้วหูดังออกไปนอกรั้วบ้าน คนที่แอบซุ่มดูอยู่แทบเอามืออุดหู สิงหรัตน์ส่ายหน้าไปมากับนิสัยของหล่อน
... แค่ได้ยินเสียงก็นึกไปถึงใบหน้าที่ไม่น่ามอง