9

1123 คำ
“ลูกหมีมาแล้วค่ะคุณหมอ” อำพรบอกทั้งสอง “สวัสดีครับลูกหมี ได้เจอตัวจริงสักที ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ รู้ไหมว่านิชมลูกหมีกับพี่ไม่ขาดปากเลยนะ” ฐากูรทักทายกุลธิรัตน์ที่ยกมือไหว้ตน “สวัสดีค่ะคุณหมอ ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ” ทั้งสองยิ้มให้กัน “พี่ขอตัวนะคะ ครั้งหน้าไว้คุยกันนะคะคุณหมอเอื้อ” “ครับพี่พร สวัสดีครับ” อำพรรับไหว้ ก่อนเดินไปทำงานตามหน้าที่ตน “เราไปกันเลยนะ กว่าจะถึงบ้านพี่เดี๋ยวรถติด” “ค่ะคุณหมอ” “เรียกพี่ว่าพี่ดีกว่านะ พี่เอื้อไรงี้ ดูเป็นกันเองดี เหมือนน้องสาวเรียกพี่ชายน่ะ” “ได้ค่ะพี่เอื้อ” กุลธิรัตน์ไม่ขัดข้อง ลึกๆ ในหัวใจอยากให้ฐากูรเป็นพี่ชาย แต่ก็รู้ว่า ไม่มีทางเป็นไปได้ สองหนุ่มสาวพากันเดินไปที่รถ ฐากูรเป็นสุภาพบุรุษ เปิดประตูให้กุลธิรัตน์สอดตัวเข้าไปนั่ง ก่อนที่เขาจะเดินอ้อมมานั่งประจำที่คนขับ ไม่กี่วินาทีต่อมา เขาทะยานรถออกจากหน้าอาคาร มุ่งหน้ากลับบ้าน เสียงโมบายหน้าประตูร้านดังขึ้น คนเปิดประตูเดินเข้ามาพร้อมกับสตรีร่างเล็ก ทั้งคู่เดินมาหยุดยืนตรงเคาน์เตอร์ร้าน พนักงานหญิงยกมือไหว้ลูกค้าหนุ่มสุดหล่อ ที่คุ้นเคย “สวัสดีค่ะคุณหมอเอื้อ” แต้วพนักงานร้านดอกไม้ยกมือไหว้ฐากูร “รอสักครู่นะคะ เดี๋ยวแต้วไปหยิบดอกไม้ให้ค่ะ” ก่อนถึงบ้านราวหนึ่งกิโลเมตร ฐากูรแวะเอาพานดอกบัว สำหรับไหว้พระในห้องพระให้มารดา ที่จะผลัดเปลี่ยนทุกวันพระ ปกติลุงวินจะขับรถมาเอา ทว่าวันนี้ฐากูรขันอาสาเพราะเป็นทางผ่านพอดี ชุตินันท์นั่งรอช่อดอกไม้อยู่มุมร้าน ปกติหล่อนจะไม่สนใจคนรอบข้าง ก้มดูมือถือตัวเองฆ่าเวลา จังหวะที่เงยหน้าเพื่อขยับคอ ขับไล่ความเมื่อย สายตามองเห็นกุลธิรัตน์ยืนอยู่ข้างชายหนุ่มรูปงาม ท่าทางดูสนิทสนมกัน เพราะเห็นคุยไปยิ้มไป และผู้ชายดูมีชาติตระกูล แน่นอนว่า บุรุษผู้หล่อเหลาคนนี้ไม่ใช่ธรรม์บดี หล่อนเกิดความสนใจขึ้นมาทันใด มือถือในมือยกขึ้นมาบันทึกภาพฐากูรกับกุลธิรัตน์ไว้หลายภาพ ก่อนส่งภาพไปให้คีรยา พร้อมกับพิมพ์ข้อความส่งไปให้อีกหลายประโยค ส่งข้อความเสร็จ สายตาหล่อนมองไปยังกุลธิรัตน์ แล้วกระตุกยิ้มเจ้าเล่ห์ กุลธิรัตน์เดินเข้ามาในบ้านหลังใหญ่พร้อมกับฐากูร เขาส่งถุงใส่พานดอกบัวให้มะขาม สาวใช้นำไปเก็บไว้ในตู้เย็น กรกนกมารดาฐากูรที่นั่งอยู่ในห้องรับแขก มองสตรีร่างสมส่วนด้วยรอยยิ้มเป็นมิตร รู้สึกถูกชะตาอย่างบอกไม่ถูก “มาแล้วค่ะคุณแม่ ลูกหมีที่นิเล่าให้คุณแม่ฟังค่ะ” ชนิตพรบอกแม่สามี ที่ยังคงยิ้มขณะมองหน้ากุลธิรัตน์ “ลูกหมี คุณแม่พี่เองครับ” ฐากูรแนะนำให้กุลธิรัตน์รู้จักกรกนก “สวัสดีค่ะคุณป้า” กุลธิรัตน์ยกมือไหว้กรกนก “หน้าตาน่ารักแล้วก็สวยด้วย” กรกนกชมจากใจ รู้สึกเอ็นดูหญิงสาวที่อายุคงเท่ากับลูกสาวคนเล็ก นามว่าเก็จมณี แววตากุลธิรัตน์ยามนางสบมอง คล้ายกับใครคนหนึ่งไม่มีผิด ทว่านางกลับนึกไม่ออกว่า คนนั้นคือใคร “ขอบคุณค่ะคุณป้า” “นิชมลูกหมีไม่ขาดปากเลยนะ บอกว่าน่ารัก ทำงานเก่ง ใจดีกับเด็กๆ ด้วย” กรกนกชวนคุย “ลูกหมีชอบเด็กค่ะ อยู่กับเด็กแล้วมีความสุข แม้จะซน จะดื้อ ฟังเราบ้างไม่ฟังบ้าง ทำให้เราปวดหัวในบางเวลา แต่ก็ไม่ทำให้เจ็บช้ำน้ำใจ ไม่ว่าจะด้วยคำพูดหรือการกระทำ กลับทำให้ลูกหมียิ้มได้ค่ะ” กุลธิรัตน์บอกตามความรู้สึกตัวเอง หล่อนยิ้ม ทว่านัยน์ตามีความเศร้า ชนิตพรที่รู้เรื่องกุลธิรัตน์ จากคำบอกเล่าของมิ่งเมือง เกิดความสงสารคนพูดขึ้นมาจับใจ กรกนกอายุรุ่นแม่ ผ่านประสบการณ์อะไรหลายอย่างมาเยอะ จึงรับรู้ได้ว่าประโยคที่กุลธิรัตน์พูดเมื่อสักครู่แฝงไปด้วยความขมขื่นเต็มหัวใจ สายตาที่ทอดมองกุลธิรัตน์เลยอ่อนโยนขึ้นหลายส่วน “แต่ก็จริงค่ะ อยู่กับเด็กแม้จะเหนื่อย แต่ก็มีความสุข” ชนิตพรเห็นด้วย “น่าเสียดายนะ ที่นิรับคนอื่นไว้ก่อนแล้ว ไม่งั้นลูกหมีคงได้ทำงานที่มูลนิธิ” กรกนกถูกชะตากุลธิรัตน์ จนอยากให้มาทำงานกับมูลนิธิที่ตนกับสามีเป็นคนก่อตั้ง “นิผิดเองแหละค่ะ ตอนนั้นน่าจะถามปูจาก่อนว่ามีเพื่อนหรือคนรู้จักที่ว่างงานไหม ถ้าถามก่อนป่านนี้นิก็ได้ร่วมงานกับลูกหมีแล้ว” ชนิตพรยิ่งพูดยิ่งเสียดาย “ลูกหมีว่างงานอยู่เหรอลูก” “ใช่ค่ะ ว่างงานมาสามเดือนกว่าแล้วค่ะ บริษัทเก่าคัดคนออกน่ะค่ะ ลูกหมีหางานมาตลอด สมัครไปหลายที่ แต่ทุกที่ก็รอเรียกตัว” “แหม จังหวะดีเลย ป้ากำลังมองหาคนทำงานแทนอุ้ม เลขาของป้าที่ขอลาออกไปดูแลพ่อที่ป่วย ถ้าลูกหมีไม่เกี่ยงงาน มาทำงานกับป้าไหมลูก ป้าให้เงินเดือนสองหมื่นห้า ถ้าตกลงต้นเดือนหน้าลูกหมีก็มาเรียนรู้งานกับอุ้ม พอถึงเวลาทำงานจริงๆ ป้าเชื่อว่าลูกหมีทำได้” กรกนกรีบกล่าวชวนกุลธิรัตน์ ไม่พิถีพิถันเลือกคนมาร่วมงานด้วย นางมีความเชื่อมั่น เชื่อใจขึ้นมาทันใดว่า กุลธิรัตน์จะทำได้ดีแน่นอน “จริงหรือคะคุณป้า” กุลธิรัตน์ดีใจ ที่อยู่ๆ ได้งานแบบไม่ทันตั้งตัว โชคดีที่ว่า หล่อนไม่ใช่คนเลือกงาน ขอแค่ให้ได้งาน หนักเบาไม่เกี่ยง “จริงสิลูก มาทำงานกับป้านะ” “ค่ะคุณป้า ขอบคุณมากค่ะ ลูกหมีจะตั้งใจทำงาน ไม่ทำให้คุณป้าผิดหวังค่ะ” กุลธิรัตน์ยกมือไหว้ ใบหน้าระบายยิ้ม “โชคดีมากเลยลูกหมี ทำงานกับพี่เสร็จก็ทำงานกับคุณแม่เลย” ชนิตพรยิ้ม ยินดีกับสาวนิสัยน่ารักที่ได้งาน “ต้องขอบคุณพี่นิค่ะ ถ้าพี่นิไม่ชวนลูกหมีมากินข้าวที่บ้าน ลูกหมีก็คงไม่ได้เจอคุณป้า และไม่ได้งานค่ะ ขอบคุณพี่นิกับพี่เอื้อมากค่ะ” กุลธิรัตน์มือไม้อ่อน นอบน้อมกับทุกคน
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม