ตอนที่ 9 คำสั่งสังหาร 1.1

1628 คำ
พระราชวังหลวง ตำหนักฮองเฮา ปัง!!! พระหัตถ์กระหน่ำลงบนโต๊ะเสียงดังสนั่นด้วยแรงพิโรธ เมื่อองครักษ์ผู้ติดตามรัชทายาทให้กลับคืนวังหลวงต่างกลับมารายงานให้หวังฮองเฮาทรงทราบว่า องค์รัชทายาทปฏิเสธที่จะกลับเข้าวังหลวงและไม่ยินยอมที่จะเข้าพิธีอภิเษกสมรสกับสตรีจากสกุลหวังที่หวังฮองเฮากราบทูลให้ฮ่องเต้หยางหลงมีราชโองการแต่งตั้งให้พระชายารอง หวังซูเซียวให้ขึ้นมาเป็นพระชายาเอก แทนที่พระชายาจากสกุลเว่ยที่สิ้นชีพลงอย่างไม่คาดฝันโดยไม่ต้องเสียเวลาคัดเลือกใหม่อีกต่อไป พระนางไม่ประสงค์ที่จะให้มีการคัดเลือกตำแหน่งพระชายารัชทายาทอีก ด้วยหวั่นเกรงว่าสตรีจากสกุลหวังจะไม่ได้ครอบครองตำแหน่งพระชายารัชทายาทนั่นเอง แต่ฮ่องเต้ต้าโจวยังไม่มีพระราชโองการออกไป ด้วยทรงเห็นว่าการกระทำของหวังฮองเฮารานน้ำใจราชครูเว่ยอี้จนเกินไปเพราะตระกูลเว่ยเพิ่งจะสูญเสียธิดาเพียงคนเดียวอย่างไม่มีวันหวนคืน ในฐานะที่พระโอรสได้ขึ้นชื่อว่าเป็นพระสวามีตามพระราชโองการแต่งตั้งแม้จะยังไม่ได้เข้าพิธีกราบไหว้ฟ้าดินก็ตามแต่การคัดเลือกพระชายาในครั้งนี้ต่างล่วงรู้กันจนทั่วแผ่นดินต้าโจวแล้วว่าผู้ใดคือพระชายาเอกขององค์รัชทายาท จึงมีพระบัญชาให้รอรัชทายาทโจวหยางเย่วกลับเข้าวังหลวงภายหลังจากเสร็จพิธีศพของพระชายาจากจวนราชครูเสียก่อนจึงจะมีพระราชโองการออกไปอีกครั้ง เป็นเหตุให้หวังฮองเฮาขุ่นเคืองพระทัยพระสวามีและพระโอรสอย่างยิ่งยวด “เจ้าลูกคนนี้ชักจะเอาใหญ่แล้ว! ทำอะไรไม่ได้ดั่งใจข้าเลย เว่ยหลิงเหลียนมีดีตรงไหนจึงงมงายอยู่กับนางเช่นนั้น นี่ขนาดมันตายไปแล้วยังเป็นเช่นนี้ หากยังมีชีวิตอยู่ต้องวุ่นวายกว่านี้เป็นแน่”หวังฮองเฮารับสั่งออกมาอย่างเดือดดาลยิ่งนักกับสิ่งที่พระโอรสเพียงหนึ่งเดียวไม่ได้ดั่งใจพระนางเอาเสียเลย ทันใดนั้นเอง เสียงเอ็ดอึงดังขึ้นอยู่นอกพระตำหนักของฮองเฮาจนเล็ดรอดมาถึงภายใน เป็นเหตุให้นางพญาแห่งวังหลังที่กำลังขุ่นเคืองพระทัยอยู่ในขณะนั้นแผดเสียงดังก้องขึ้นมาทันที “ข้างนอกเอะอะอะไรกันหนักหนา! กฎของวังหลวงไม่รู้หรืออย่างไรว่าต้องวางตัวเช่นไรเหตุใดจึงส่งเสียงดังให้ข้าได้รำคาญหูเช่นนี้ลากพวกมันออกไปตัดลิ้นให้หมด ไม่มีลิ้นจะได้ไม่มีเสียงพูด!”คำสั่งลงโทษดังออกมาทันที หากแต่ไม่ทันจะมีผู้ใดลงมือกระทำการตามรับสั่งขันทีคนสนิทของหวังฮองเฮาก็กึ่งเดินกึ่งวิ่งเข้ามาด้วยความรีบร้อนด้วยมีเรื่องสำคัญที่จะต้องถวายรายงาน ร่างสันทัดแต่แข็งแกร่งกำยำรีบก้าวเข้ามาภายในห้องที่หวังฮองเฮาทรงประทับอยู่ในขณะนี้ “มีข่าวด่วนมาจากจวนราชครูเว่ยอี้พ่ะย่ะค่ะ”ขันทีคนสนิทนามว่าลู่กงกงรีบกราบทูลรายงาน ใบหน้างามอวบอิ่มสมวัยในพระชนมายุปีที่ 42 พระชันษาของหวังฮองเฮาแสดงท่าทีเบื่อหน่ายออกมาทันใดครั้นได้ยินมาว่าเป็นข่าวมาจากจวนราชครูเว่ยอี้ที่กำลังจัดงานศพให้แก่บุตรสาวอยู่ในขณะนี้ “มีข่าวอะไรออกมาอีกแค่นี้ยังวุ่นวายไม่มากพออีกหรือไง เพราะงานศพของลูกสาวราชครูผู้นั้นทำให้เย่วเอ๋อของข้าไม่ยอมกลับวังหลวงมิหนำซ้ำยังขัดขืนคำสั่งของข้าทุกอย่าง แม้แต่ฝ่าบาทก็ยังเข้าข้างพวกมันกล่าวหาว่าข้ากระทำการรานน้ำใจจนเกินไป! แค่นี้ยังน้อยไปที่พวกมันได้รับจากข้า!”หวังฮองเฮารับสั่งเกรี้ยวกราด ในขณะที่ลู่กงกงพยายามอ้าปากจะทัดทานไม่ให้พระนางมีรับสั่งออกไปมากกว่านี้ แต่ดูท่าจะไม่เป็นผลเพราะเวลาหวังฮองเฮาทรงพิโรธอะไรก็เอาไม่อยู่ ด้วยติดนิสัยเอาแต่พระทัยตัวเองเป็นใหญ่และพระนางถูกเลี้ยงมาเพื่อเป็นฮองเฮาของแคว้นต้าโจวโดยเฉพาะเป็นเช่นนี้นับรุ่นต่อรุ่น ถ่ายทอดนิสัยและความเหี้ยมโหดสืบทอดต่อกันมาไม่รู้จบ ลู่กงกงเห็นท่าไม่ดีรีบไล่เหล่านางกำนัลและขันทีคนอื่นๆ ที่คอยถวายการรับใช้ใกล้ชิดอยู่ในขณะนั้นออกไปจากห้องที่ประทับดังกล่าวออกไปจนหมด ท่ามกลางสายพระเนตรของหวังฮองเฮา “เจ้าไล่บรรดานางกำนัลและขันทีที่คอยถวายการรับใช้ข้าออกไปเช่นนี้มีเรื่องไม่ชอบมาพากลอย่างนั้นเหรอ”รับสั่งถามอย่างรู้เท่าทันว่ามีบางสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นเป็นแน่ ครั้นอยู่เพียงลำพังเช่นนั้นลู่กงกงซึ่งเป็นขันทีคนสนิทคอยรับใช้และติดตามหวังฮองเฮาตั้งแต่ยังเป็นเพียงคุณหนูจากสกุลหวังเท่านั้น มีหน้าที่คอยดูแลปกป้องคุ้มครองประหนึ่งพี่เลี้ยงและคอยถวายอารักขาด้วยเพราะมีวรยุทธ์คู่กาย จึงได้รับความไว้วางใจจากพระนางให้ทำงานสำคัญทุกครั้งโดยเฉพาะงานฆ่าคนไม่เคยมีคำว่าพลาดแม้แต่ครั้งเดียว แต่งานสังหารพระชายาเอกผู้นี้ซึ่งมาจากสกุลเว่ยกำลังทำให้ลู่กงกงทำงานผิดพลาดเป็นครั้งแรกในชีวิต นับตั้งแต่ถวายการรับใช้หวังฮองเฮามาตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์ “รัชทายาทให้องครักษ์ผู้ติดตามเข้าวังหลวงกลับมากราบทูลฝ่าบาทว่าพระชายาจากสกุลเว่ย ยังไม่ตายพ่ะย่ะค่ะ” สิ้นเสียงกราบทูลรายงานพระพักตร์ที่คร้านจะฟังเรื่องราวของสกุลเว่ยด้วยความเบื่อหน่ายและรำคาญแปรเปลี่ยนไปทันที พระเนตรเบิกกว้างด้วยความตกพระทัยด้วยไม่อยากจะเชื่อว่าจะมีเหตุการณ์เช่นนั้นเกิดขึ้น “ว่าอะไรนะ!”หวังฮองเฮาตวาดถามกลับไปทันทีก่อนจะได้ยินเสียงของลู่กงกงกราบทูลอีกครั้ง “เว่ยหลิงเหลียนยังไม่ตายพ่ะย่ะค่ะ”ลู่กงกงกราบทูลอย่างชัดถ้อยชัดคำ และนั่นทำให้หวังฮองเฮาทอดพระเนตรขันทีคนสนิทด้วยสายพระเนตรแข็งกร้าวเต็มไปด้วยแรงพิโรธอย่างยิ่งยวด พระหัตถ์คว้าถ้วยชาที่ตั้งอยู่บนโต๊ะปาไปที่บริเวณศีรษะของขันทีคนสนิท พลั่ก!!!! ถ้วยชากระแทกถูกบริเวณศีรษะของลู่กงกงเข้าให้อย่างจัง เพล้ง!!!! ถ้วยชาแตกกระจายพร้อมรอยปริแตกปรากฏเลือดไหลซึมออกมาอย่างรวดเร็วท่ามกลางสุรเสียงที่เต็มไปด้วยความเกรี้ยวกราดอย่างยิ่งยวด “เจ้าฆ่าคนประสาอะไร! จึงปล่อยให้นางกลับฟื้นขึ้นมามีชีวิตขึ้นมาได้อีก ให้มันกลับมาทำลายสกุลหวังของข้าอย่างนั้นเหรอเหตุใดจึงกลายเป็นเช่นนี้ไปได้ลู่เจี้ยน!!!”หวังฮองเฮารับสั่งถาม “กระหม่อมมั่นใจว่าได้สังหารนางจนสิ้นชีพจริงๆ พ่ะย่ะค่ะ แต่เหตุใดจึงฟื้นกลับมามีชีวิตได้อีกก็ไม่ล่วงรู้ ตอนนี้องค์รัชทายาททรงให้ตามหัวหน้าหมอหลวงรีบเร่งไปตรวจอาการของพระชายา และได้รับการยืนยันกลับมาว่าเป็นปกติดีทุกอย่างราวกับว่าไม่เคยสิ้นชีพมาก่อนเลย กระหม่อมสอบถามองครักษ์ที่นำรายงานมากราบทูลฝ่าบาท ล่วงรู้มาว่าพระชายามีลักษณะพิเศษอย่างหนึ่งก็คือนางมีอากรหลับลึกจนกระทั่งหยุดหายใจประหนึ่งคนตายไปชั่วระยะเวลาหนึ่งและจะตื่นขึ้นมาได้เองพ่ะย่ะค่ะ”ลู่กงกงทูลรายงาน และนั่นทำให้หวังฮองเฮามีสีพระพักตร์ที่ไม่อยากจะเชื่อเลยว่ามีลักษณะดังกล่าวเกิดขึ้นเช่นนั้นจริงๆ “ลักษณะพิเศษบ้าบออะไรกัน! ข้าไม่เคยได้ยินจากที่ไหนมาก่อนเลย เจ้าไปสอบถามกับหัวหน้าหมอหลวงที่ไปตรวจอาการของนางหรือยัง”รับสั่งถามกลับไปเพื่อต้องการความแน่ใจ “กระหม่อมไปสอบถามหัวหน้าหมอหลวงที่เดินทางไปตรวจอาการพระชายามาแล้วพ่ะย่ะค่ะ และได้รับการยืนยันมาว่าอาการเช่นนี้เรียกว่าหลับลึกจนชีพวาย” “หลับลึกจนชีพวายอย่างนั้นเหรอ”หวังฮองเฮารับสั่งทวนประโยคดังกล่าว “พ่ะย่ะค่ะ หัวหน้าหมอหลวงบอกว่าบางคนกว่าจะตื่นก็ผ่านไปสามวันหรือบางคนก็ยาวนานถึงเจ็ดวันบ้าง บางคนก็แค่ข้ามวันหรือบางคนก็ไม่กี่ชั่วยาม อาการของพระชายาเพิ่งเริ่มต้นจึงหลับลึกไปเพียงไม่กี่ชั่วยามเท่านั้น หากผู้ใดมีอาการเช่นนี้สังเกตง่ายๆ คือร่างจะไม่เน่าเปื่อยยังคงสภาพเดิมเอาไว้ทุกอย่างพ่ะย่ะค่ะ แต่ส่วนใหญ่จะไม่รอดเพราะญาติต่างพากันคิดว่าตายแล้วจึงจัดการศพฝังลงดินเมื่อฟื้นขึ้นมากลับพบว่าตัวเองอยู่ในหลุมฝังศพจึงทำให้ส่วนใหญ่ตายไปจริงๆ พ่ะย่ะค่ะ” หวังฮองเฮาถึงกับสูดลมหายใจเข้าปอดอย่างแรงครั้นได้ยินรายงานอย่างละเอียด พระเนตรยังคงแข็งกร้าวทอดพระเนตรขันทีคนสนิทด้วยความขุ่นเคืองที่ทำงานครั้งนี้พลาดอย่างใหญ่หลวง “เจ้าทำให้ข้าผิดหวังมากเลยนะลู่เจี้ยน นางเด็กนั่นฟื้นขึ้นมากลางคันแบบนี้แน่นอนว่า ตราบัญชาทัพที่ข้าสั่งให้นำส่งกลับคืนมามีอันต้องล้มเลิกไป และสกุลเว่ยจะก้าวเข้ามาแทนที่ข้ารวมไปถึงยึดครองกำลังทหารอีกครึ่งแผ่นดินไว้ในกำมือของพวกมันจนหมด ข้าและสกุลหวังกำลังจะกลายเป็นเพียงเสือกระดาษที่ไร้สิ้นอำนาจอยู่ในมือ ผู้คนทั่วทั้งแผ่นดินจะต้องหัวเราะและสมเพชข้าอย่างแน่นอน ไม่ได้! ข้าจะไม่ยอมให้เกิดเหตุการณ์เช่นนั้นขึ้นเป็นอันขาด!”รับสั่งอย่างเกรี้ยวกราด ปัง!!! พระหัตถ์ฟาดลงบนโต๊ะตรงพระพักตร์พร้อมทรงลุกยืนจากตั่งที่ประทับ พระดำเนินอย่างช้าๆ ด้วยกำลังวางแผนการบางอย่างอยู่ภายในพระทัยขณะนี้
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม