บ้านพรอัครเดชา

936 คำ
เช้าวันหยุดวันแรกของวันหยุดยาวช่วงปีใหม่ โฮมออฟฟิศขนาดสี่ชั้นซึ่งเป็นที่ตั้งของบริษัทโฆษณาเล็กๆ รวมทั้งเป็นที่อยู่ของสามพี่น้องพรอัครเดชา ขณะนี้ทั้งสามพี่น้องนั่งพร้อมหน้าพร้อมตากันอยู่ที่มุมรับแขกของบริษัททานของว่างและคุยกันรอรถตู้นำเที่ยวที่เวียนไปรับพนักงานคนอื่นของบริษัทที่บ้านก่อน จากนั้นจึงจะมารับพวกเขาเพื่อไปทริปทัวร์กาญจนบุรีซึ่งเป็นโบนัสการท่องเที่ยวที่บริษัทเปิดให้พนักงานที่มีกันไม่กี่ชีวิตให้ได้มีความสุขและได้ฉลองปีใหม่กับเพื่อนร่วมงานกันสองวันก่อนจะกลับมาฉลองกับครอบครัว... เสียงรถจอดหน้าตึกสามชั้นอาทิตยะพี่ชายคนโตลุกขึ้นยืนดูคนแรกเพื่อเตรียมหิ้วกระเป๋าของน้องสาวทั้งสอง รัศมีดาราน้องคนเล็กลุกขึ้นยืนตามด้วยความตื่นเต้น มีเพียงจันทร์เจ้าขาลูกคนกลางคั่นระหว่างพี่ชายกับน้องสาวยังไม่ลุกเพราะต้องการรอดูให้แน่ใจก่อนว่ารถที่กำลังวิ่งมานั้นเป็นรถตู้ที่จะมารับพวกตนหรือเปล่า เพราะกะเวลาดูจากการรับพนักงานคนสุดท้ายก่อนมารับพวกเธอนั้นยังไงก็ไม่ได้มาในเวลานี้ คาดว่าคงอีกสักสามสิบนาทีเป็นอย่างน้อย... “อ้าว ไม่ใช่รถตู้นี่” รัศมีดาราพูดขึ้นมาก่อน จันทร์เจ้าขาอมยิ้มน้อยๆ ที่การคาดเดาของตัวเองถูกต้อง แต่หล่อนก็ต้องเงยหน้าจากหนังสือที่อ่านติดมืออยู่เพราะคำพูดของพี่ชาย “แต่เขามาที่บ้านเรา จะมาทำไมกันตั้งเป็นขบวนไม่รู้หรือว่านี่วันหยุดยาว บริษัทสกายยกโขยงหนีเที่ยวหมดไม่เหลือ” รถเบนซ์คันสีดำที่คุ้นเคยปรากฏให้เห็นในสายตาจันทร์เจ้าขาก็นิ่งงันราวกับถูกหมุดตรึงไว้กับโซฟา... หนังสือเล่มหนาหลุดมือตกลงกับพื้นและไม่ได้ถูกใยดีอีก เพราะเจ้าของมัวแต่มองรถที่แล่นเข้ามาจอดหน้าบ้าน ตามด้วยรถลัมเบอร์กินีสีเหลืองสดและรถยุโรปคันใหญ่อีกคันวิ่งตามเข้ามาจอดเต็มพื้นที่จอดรถหน้าบริษัทสกายที่มีความจุมากที่สุดได้แค่สามคัน... แขกผู้มาเยือนเป็นผู้ชายทั้งหมดซึ่งเริ่มลงจากรถและมุ่งหน้าเดินเข้ามาที่บริษัทซึ่งมีสามพี่น้องยืนมองอยู่ด้วยความงุนงงและตกใจ เพราะทุกคนล้วนมีท่าทางอย่างกับมาเฟียหรือไม่ก็เป็นหน่วยจู่โจมของกองทัพที่มาพร้อมอาวุธร้ายแรงกำลังจะบุกกองโจรทั้งที่พวกเขาใส่สูทมาเสียเรียบร้อย... แต่ก็นั่นแหละลองมีใครเห็นผู้ชายตัวใหญ่อย่างกับตึกสวมชุดดำห้าหกคนกำลังก้าวเดินอาดๆ เข้ามาในบ้านโดยมีคนที่มีมาดผู้นำอย่างเห็นได้ชัดสองคนเดินนำหน้ามาก็คงไม่คิดว่าเป็นลูกค้าบริษัทโฆษณาแน่ รัศมีดารารู้สึกว่าบรรยากาศดูระทึกและรู้สึกว่านี่ไม่ใช่เรื่องธรรมดาเสียแล้วกับการมาของคนไม่ธรรมดาทั้งสอง... หนึ่งในสองคนที่เดินนำหน้านั้นคือคมเพชร แม้เขาจะเป็นพี่ชายของเพื่อนสนิทจันทร์เจ้าขาแต่ก็ไม่เคยได้พูดคุยกัน หากแต่หล่อนก็พอจะรู้ว่าเขาเนื้อหอมและเป็นคนที่สาวทั้งบ้านทั้งเมืองใฝ่ฝันที่จะได้เป็นคนรักของเขา... ส่วนอีกหนึ่งคนคือน้ำเงินหนุ่มเสเพลบอยลูกชายคนเล็กของเจ้าสัวธานินทร์เจ้าของกิจการส่งออกทั้งทางบก ทางน้ำ ทางอากาศ นอกนั้นเขายังก่อตั้งบริษัทอสังหาริมทรัพย์เป็นของตนเอง เขาโด่งดังในวงสังคมมากแต่มีเพียงคนในไม่กี่คนที่รู้ว่านอกจากเขาเป็นเพื่อนสนิทของคมเพชรแล้วเขายังเป็นคู่หมั้นของวาวพลอยอีกด้วย จันทร์เจ้าขาเองรู้จักกับผู้มาใหม่ทั้งสองมากกว่าคนในบ้านตัวเองรู้จัก แต่พี่ชายกับน้องสาวของหล่อนคงพอรู้จักคมเพชรและน้ำเงินบ้างเพราะมีข่าวไม่เว้นแต่ละวันเกี่ยวกับพวกเขา ไม่ต้องเสียเวลาอธิบายว่าทั้งคู่เป็นใครเพราะทุกวันนี้คนรวยกับดาราดังก็มีข่าวดังได้พอกันจึงไม่แปลกที่สองหนุ่มโดดเด่นอยู่หน้าจอโทรทัศน์และเป็นข่าวสังคมให้รู้จักและชื่นชมในความหล่อรวยแสนเพียบพร้อมของพวกเขาอยู่เสมอ แม้หนึ่งในสองนั้นจะมีคู่หมั้นแล้วแต่ด้วยหน้าตาที่โดดเด่นกว่าคนธรรมดาหลายเท่าตัวบวกความสามารถที่พ่วงพร้อมฐานะเศรษฐีท็อปเท็นของเมืองไทยของทั้งคู่ก็ทำให้คนที่ได้เห็นพวกเขาต่างปลาบปลื้มใจเพราะมันไม่ต่างจากการได้เห็นเทพบุตรตัวเป็นๆ ที่เดินดินอยู่รวมกับคนธรรมดา แต่ก็นั่นแหละ บ้านพรอัครเดชาเป็นบ้านของสามพี่น้องที่กำพร้าพ่อแม่และรวมตัวกันเปิดบ้านเป็นโฮมออฟฟิศของบริษัทโฆษณาเล็กๆ ที่สามพี่น้องซึ่งสมัครสมานกันก่อตั้งขึ้นมาด้วยใจรัก รัศมีดาราก็ยังไม่เข้าใจว่าเหตุผลใดที่สองเทพบุตรจะย่างกรายเข้ามาที่นี่ ถึงแม้ว่าวาวพลอยจะเป็นเพื่อนสนิทของจันทร์เจ้าขาและฝ่ายนั้นมาที่บ้านนี้บ่อยครั้งแต่พี่ชายและคู่หมั้นของวาวพลอยก็ไม่เคยมาที่นี่เลยจนกระทั่งวันนี้ เหตุใดพวกเขาทั้งสองถึงได้เดินหน้าเครียดขรึมเข้ามาหาพวกเธอ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม