Ep.11
HE IS HER BOYFRIEND - แฟนเพื่อน -
Bae ??? : ดูแลตัวเองด้วยสิค่ะ ยิ่งอยู่ไกลกันเพลินยิ่งเป็นห่วงนะ รู้มั้ย
T2? : เพลินก็เหมือนกันนะ อากาศที่โน้นหนาวแล้ว ดูแลตัวเองเยอะๆ นะ
Bae ??? : หนาวมากเบย คิดถึงอ้อมแขนอุ่นๆ ของพี่ทีสองจังเลย
T2? : ไม่อยากพิมพ์ต่อแล้วเดี๋ยวเราร้องไห้อีก พรุ่งนี้สอบใช่มั้ย ตั้งใจอ่านหนังสือนะเบบี๋ พี่รู้ว่าเพลินทำได้
Bae ??? : ช่วงนี้เพลินอาจจะเงียบหายไปบ้าง เพราะเพลินงานเยอะ แต่พี่ทีสองค่ะ
Bae ??? : เพลินรักพี่ทีสองนะคะ
T2? : พี่ก็รักเพลินตาที่สุดครับ และรักเพลินคนเดียว
>>>จะอ้วก รักเพื่อนฉันงั้นหรอ << ฉันได้แต่แบะปากใส่ เจ้าชายนิทราที่นอนสลบอยู่ตรงหน้าก่อนจะกดปิดหน้าจอไอโฟนของเขา......
ทุกอย่างมืดมิดสนิทลงสักที....
“ได้พักสักที ...... ชีวิตของฉัน ..” ถอนหายใจยาวๆ
“คุณทีสองขาาาาาาา ลูกขวัญมา....เยี่ยม” เสียงแหลมๆ ดัดๆ ร้อง โห้ยห้วนมาแต่เช้า ก่อนที่นาฬิกาฉันจะปลุกซะอีก
ยัยลูกขวัญเลขาสุดอึ๋มเดินถือกระเช้าดอกไม้มาแต่เช้าตรู่ ....
“นี่แก มาอยู่ที่นี้ได้ยังไง?” พอเห็นหน้าฉันนางก็เปลี่ยนสีหน้าทันที
“พอดีว่าท่านรองเรียกใช้เป็นพิเศษน่ะค่ะ” ฉันตอบอย่างจีบปากจีบคอ
“มาทำไรแต่เช้าลูกขวัญ ไม่ต้องไปทำงานหรอ?” ทีสองบิดขี้เกียจไปถาม ยัยเลขา
ยัยลูกขวัญเดินเข้าไปนั่งบนเตียงพี่ทีสอง
“ก็ลูกขวัญเป็นห่วงนี่ค่ะ ห่วงจนกินไม่ได้ นอนไม่หลับเลยค่ะ” ลูกขวัญใช้นมเบียดๆ ไปที่มือของทีสอง
“ฉันก็สบายดีแล้วละ” ทีสองพูดอย่างไม่มองหน้า แต่มองต่ำลงๆ
“ฮะแฮ่มๆ แค๊กๆๆ” ฉันแกล้งไอเสียงดังๆ
จนทีสองรีบเงยหน้าขึ้น
ฉันแกล้งกดเฟสไทม์หายัยเพลินทันที โดยกดเปิดลำโพง ให้ได้ยินทั่วห้อง
“เห้ยๆ นั้นเธอทำไรอะ” ทีสองรีบเด้งตัวขึ้นทันที
“คิดถึงเพื่อนน่ะ อยากโทรหาเพื่อน ไม่ได้หรอ” ฉันหันไปตอบอย่างเล่นหูเล่นตา
“กุ๊กก กกักก” เสียงยัยเพลินรับสายพอดี
“ฮาโหล โมนาาาา จ๋าาาา” เสียงหวานๆ ปนง่วงๆ ของยัยเพลินตอบกลับมา
“ฉันกลัวแกคิดถึง พี่ทีสองเลยจะเฟสไทม์ให้ดู” ฉันแกล้งเหวี่ยงกล้องไปทางเตียง
อิพี่ทีสองเด้งลงจากเตียงเดินมาหาฉันทันที
“ฮัลโหลเบบี๋ หลับยังค่ะ” นางเดินเอาหน้ามาจ่อกล้องเฟสไทม์
“จะนอนแล้วค่ะ พี่ทีสองหายแพ้รึยังค่ะ” ยัยเพลินถามทั้งที่ตาจะปิด
“หายแล้วค่ะ คนดี คนดีไปนอนหลับพักผ่อนเถอะนะ ดูเหนื่อยๆ” สงสัยนางใช้สมองเยอะไป กับการเรียน
“ค่ะ ไว้เพลินจะโทรหานะคะ ยัยโม ฝากดูแลพี่ทีสองด้วยน๊าา” ยัยเพลินยังคงใช้เสียงอ้อนๆ ตามเคย
“อื้มๆ”
หลังจากสายตัดไป
“เล่นบ้าอะไรอะ” พี่ทีสองหัวเสียทันที
“ทำไมละ นี่กลัวว่าตื่นมา ท่านรองจะลืมหน้าแฟนสาว เลยเฟสไทม์ให้ไง”
พี่ทีสองคงแทบอยากจะโดดถีบฉันแต่เขาก็ต้องระงับอารมณ์ไว้ ฉันคิดว่า
“ลูกขวัญ คุณไปรอผมที่ห้องทำงานเลยก็ได้นะ เดี๋ยววันนี้ผมก็จะเข้าไปเป็นปกติละ” เขาเดินไปจับไหล่แม่เลขาสาวนั้นพูดอย่างไม่สนใจฉันเลยสักนิด
“อ่อ ได้สิค่ะ ลูกขวัญนะ รอทีสองได้เสมอ” เธอพูดอย่างยั่วย้วน
ปัง เสียงยัยลูกขวัญเดินเปิดประตูออกไป
“ถ้าอยากได้ เลขานมโตนั้น ทำไมคุณไม่เลิก กับคนดีแบบเพื่อนฉันไปซะละ” ฉันเก็บกระเป๋า เตรียมจะออกไป แต่ก็อดที่จะพูดไม่ได้
“เลิก?? ฉันไม่เคยคิดจะเลิกกับเพลินตา” เขาตอบหน้าตาเฉย
“ถามจริงนะ นี่คุณรักเพื่อนฉันจริงๆ รึป่าว ที่ทำอยู่เนี้ย รู้มั้ยว่ายัยเพลินจะเสียใจแค่ไหน” ฉันจ้องอย่างต้องการคำตอบ
“ฉันไม่จำเป็นต้องอธิบาย แต่เพลินคือผู้หญิงคนเดียวที่ฉันรัก นอกนั้นใช้เอาไว้ระบาย”
“แล้ววันหนึ่งนายจะไม่เหลือใครเลย”
Ep.10
ทุกอย่างกลับมาเป็นปกติ ฉันยังคงมาฝึกงาน ตามหน้าที่ไป 3 เดือนเท่านั้น ฉันก็จะหลุดพ้นจากเรื่องบ้าๆ นี้สักที
“นศ.ฝึกงานโมนา ท่านรองเรียกพบตอนนี้เลย” พี่นงนุชเดินมาพูดกับฉัน
“เอาเอกสารไปพรีเซนต์ด้วยนะ”
“ค่ะ พี่นงนุช”
พี่ทีสองของยัยเพลินหายดีเป็นปกติละค่ะ อาการแพ้คันต่างๆ เห็นว่า เจ้าแรมโบ ก็อยู่ในบ้านแค่ไม่ให้ขึ้นมานอนบนเตียงด้วยแล้ว ยัยเพลินว่าอย่างนั้นนะ
“ก๊อกๆๆ” ฉันเคาะประตูอย่างคนมีมารยาท
ก่อนจะเปิดเข้าไปพบว่ายัยลูกขวัญกำลังนั่งป้อนกาแฟอยู่บนตักพี่ทีสอง อยากจะถ่ายรูปไปให้ยัยเพลินดูจริงๆ
“ออกไปก่อนลูกขวัญ” เขาผลักยัยนั้นให้ลุกขึ้น
“แต่ว่า ให้ลูกขวัญ” ยัยลูกขวัญเหมือนไม่ยอมลุกง่ายๆ พอเห็นฉัน
กลัวฉันแย่งตำแหน่งนางบำเรอเธอรึไง
“ลูกขวัญ?” พี่ทีสองพูดเสียงเข้ม
“ค่ะๆ” ลูกขวัญยิ้มเจื่อนๆ ก่อนจะเดินชนไหล่ฉันออกไป
“ทำหน้าให้มันดีๆ หน่อยสิโมนา” เขาทักฉันที่ยืนทำหน้ารังเกียจ อยู่ไกลๆ
“จะให้พรีเซนต์งานหรือยังไง ก็รีบบอกมาเถอะ” ฉันตอบห้วนๆ
“แล้วเธอยืนไกลขนาดนั้น ฉันจะได้ยินที่เธอพรีเซนต์มั้ย? เดินมายืนตรงนี้สิ” ห้องเขากว้างมากแต่ฉันยืนห่างออกไปไกลมาก
“ค่ะ” ฉันเลยจำใจต้องเดินเข้าไป
หลังจากนั้นฉันก็เริ่มการพรีเซนต์ แผนการตลาดที่คิดขึ้นมาได้ ให้เขาฟัง เขาตั้งใจฟังมาก หรือว่าจะหาจุดผิดก็ไม่รู้
“เธอทำเองทั้งหมดใช่มั้ย” เขาเลิกคิ้วถามฉัน
“ใช่ค่ะ แล้วจะให้ใครมาช่วยละค่ะ” ตอบแบบห้วนๆ
“ถึงว่า ห่วยแตก” เขาพูดพลางถอดหายใจ
“อะไรนะ” ช๊อคสิ มาเก็ตติ้งคือชีวิตจิตใจของฉัน พรีเซนต์งานมาเป็นร้อย ไม่เคยโดนใครติว่าห่วยแตก พระเจ้า
“อวดฉลาด” เขาลุกขึ้นยืนและเดินออกจากโต๊ะมาที่ฉัน
“ถ้าคุณอคติ ต่อให้ฉันทำดีแค่ไหน มันก็เปล่าประโยชน์” ดูก็รู้ว่าเขาเองก็ไม่ค่อยชอบหน้าฉัน
“ฉันไม่ได้อคติ กับเรื่องงานฉันซีเรียส” เขาเดินมาหยุดพูดที่หน้าฉัน
“เธอรู้เรื่องการตลาด พอใช้ได้ แต่ด้านเศรษฐกิจเธอโง่มาก ดูจากรายงานนี่สิ”
“ห๊ะ?” เขาชี้ให้ฉันดูแฟ้มรายงานที่ฉันเอามาส่ง
“ฉันยอมรับนะว่าไม่ค่อยสันทัดเรื่องมาเก็ต แต่ถ้าออกแผนการตลาดของเธอในเศรษฐกิจรูปแบบนี้ บริษัทฉันเสี่ยงต่อการขาดทุนเลยละ” เขาพูดพลางส่ายหัวไปมา
ฉันได้แต่นิ่ง เพราะก็จริงของเขา ฉันรู้เรื่องเศรษฐกิจนะคะ แต่....ก็ผ่านมาด้วยเกรด C ฉันวางแผนเก่งอย่างเดียว ก็จริงอย่างที่เขาพูด
“ค่ะ ฉันจะเอารายงานกลับไปแก้ แล้วก็จะไปถามผู้รู้”
“งานที่เธอทำ มันเป็นโปรเจกต์จริง” เขาพูดเน้นทุกคำ นี่เขากล้าเอา โปรเจกต์งานจริงๆ มาฝากไว้กับฉันเนี้ยนะ
ขณะที่ฉันกำลังใช้ความคิดว่าจะถามเรื่องนี้จากใครได้บ้างนั้น...
“ฉันจะเป็นคนสอนเธอเอง เรื่องเศรษฐกิจระหว่างประเทศ อันไหนควร mix macth กับ มาเก็ตติ้งของเธอ”
“ผีเข้าหรอ?” ก็จริงเขาเกลียดหน้าฉันจะตาย อยากจะสอนฉันเนี้ยนะ บ้าไปแล้ว
“เธอนี่มัน โพล้งพลางจริงๆ อะ เพลินตาคบกับเธอได้ยังไงเนี้ย”
“เธอมาฝึกงาน เพื่อเรียนรู้ไม่ใช่หรอ? ฉันไม่ได้ให้นักศึกษามานั่งโง่ๆ ไปวันๆ แล้วจะผ่านฝึกงานจากที่นี้ไปได้นะ” เขาพูดจริงจัง
“เข้าใจละค่ะ” ฉันตอบเขาไป
“วันนี้พอแค่นี้แหละ กลับไปได้”
“ค่ะ” ฉันหันหลังกลับไปที่ประตู ก่อนจะเดินออกมา
ก๊อกๆๆ แต่ก็มีคนเปิดสวนเข้ามาพอดี
“เจ้โย” พี่โยทะกา ว่าที่พี่สะใภ้ของยัยเพลินนี่เอง
“อ้าวว ขุ่นน้องโมนา คิดถึงๆๆ” พี่โยเข้ามากอดฉันทันที เราสนิทกันน่ะค่ะ
“อ้าวโย มาทำไรที่นี้อะ สามภพละมาด้วยป่าว” พี่ทีสองที่ยืนอยู่ข้างหลัง ทักขึ้นทันที
“โยแวะมาเยี่ยมพี่ทีสองนะสิค่ะ สามภพกำลัง” พี่โยพูดขึ้นยังไม่ทันจบ