ตอนที่ 11 สนับสนุนทุกเรื่อง

1629 คำ
ขณะที่เอสกำลังชวนโมนาคุยนั่นคุยนี่ระหว่างขับรถก็ต้องชะงักเมื่อมีคนโทรเข้ามาหาเขา ใบหน้าหล่อจากที่ยิ้มอารมณ์ดีก็เปลี่ยนมานิ่งขรึมทันทีเมื่อคนที่โทรมาคือพ่อของเขาจนโมนาได้แต่มองเอสด้วยความสงสัยเมื่อเห็นสีหน้าเขาเปลี่ยนมานิ่งขรึม “ใครโทรมาหรอคะ” โมนาเอ่ยถามเอสด้วยความอยากรู้ “พ่อพี่โทรมาครับ พี่รับสายแป๊บนะครับ” เอสตอบกลับโมนาด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนแต่ใบหน้ากลับไม่มีรอยยิ้มเลยแม้แต่น้อย เมื่อได้ยินคำพูดของเอส โมนาก็พยักหน้าแล้วเงียบเสียงเพื่อให้เขาได้คุยโทรศัพท์ ส่วนเอสเมื่อพูดจบก็กดรับสายขณะที่ขับรถอยู่ “ครับ” (แกไปเรียนยัง) “กำลังไปครับ” (วันนี้เลิกเรียนมาที่บ้านด้วยนะ) “ไปทำไมครับ” (แกไม่คิดจะกลับมาบ้านเลยรึไง ฉันแค่อยากกินข้าวด้วย) “มีแขกมาที่บ้านหรอครับ ถึงได้โทรตามผมไป” เอสพูดกับผู้เป็นพ่อด้วยน้ำเสียงเย็นชา จนโมนาได้แต่มองด้วยความสงสัยเพราะตอนอยู่กับเธอ เขานั้นไม่มีท่าทางเย็นชาเลยแม้แต่น้อย แต่ก็ไม่ได้พูดถามอะไรเพราะเห็นเขาคุยโทรศัพท์อยู่ (อย่ามาถามยอกย้อนฉัน ฉันบอกให้มาก็ต้องมา อย่าให้ฉันต้องเสียหน้า) “ครับ โทรมาแค่นี้ใช่มั้ยครับ” ยังไม่ทันที่เอสจะพูดจบพ่อของเขาก็ตัดสายไปทันที เอสจึงวางโทรศัพท์ไว้หน้ารถแล้วถอนหายใจออกมาเหมือนกำลังเหนื่อยใจ แต่ก็ต้องชะงักหันไปมองโมนาเมื่อเธอนั้นเอามือมาลูบแขนเขาเบาๆ “พี่โอเคมั้ยคะ ถ้ามีอะไรไม่สบายใจเล่าให้หนูฟังได้นะ” โมนาพูดกับเอสด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน จนเอสต้องปรับสีหน้ามาส่งยิ้มให้เธอ “อย่างที่หนูได้ยิน พี่กับพ่อไม่ค่อยจะลงรอยกันเท่าไหร่ครับ พี่โดนพ่อบงการมาตั้งแต่เด็ก ท่านให้ทำอะไรก็ต้องทำ ท่านให้เรียนอะไรก็ต้องเรียน ไม่เคยถามว่าพี่อยากทำอะไร อยากได้อะไร นี่ก็เป็นสาเหตุที่พี่ออกมาอยู่คอนโดเพราะอย่างน้อยการได้ออกมาอยู่คนเดียวมันก็ทำให้พี่สบายใจขึ้น” เอสบอกโมนาไปตามตรงโดยไม่ปิดบัง เรียกได้ว่านอกจากอคิน เขาก็ไม่เคยเล่าเรื่องของตัวเองให้ใครฟังเลย แต่กับโมนาเขาอยากเล่าให้เธอฟังเพราะเธอคือคนที่เขาอยากจะใช้ชีวิตด้วย และเคยสัญญากับเธอไว้ว่ามีอะไรจะคุยกับเธอทุกเรื่องโดยไม่ปิดบังอะไรกัน ทางด้านโมนาเมื่อได้ฟังสิ่งที่เขาเล่าก็รู้สึกเห็นใจเขาไม่น้อย “แสดงว่าที่พี่เรียนบริหาร พี่ไม่ได้เรียนเพราะความชอบหรอคะ” โมนาถามเอสด้วยความอยากรู้ “ครับ พ่อพี่ให้เรียนบริหารเพราะจะให้พี่รับช่วงต่อจากท่าน” เอสตอบโมนาด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “แล้วจริงๆ พี่อยากเรียนอะไรหรอคะ” โมนาถามเอสขึ้นอีกครั้ง “พี่ชอบเรียนออกแบบครับ ตอนนี้ก็รับงานวาดแบบบ้านบ้างแต่รายได้ไม่ได้เยอะอะไร ได้แค่หลักพันเอง” “จริงหรอคะ โห เก่งจังวาดแบบบ้านได้ด้วยแถมยังมีคนจ้างวาดอีกอะ” เอสถึงกับหันไปมองโมนาด้วยความแปลกใจเมื่อเห็นท่าทางตื่นเต้นของเธอ “เป็นแค่งานเล็กๆ ครับ แล้วนานๆ ทีถึงจะมีคนมาจ้างวาดด้วย คงยึดเป็นอาชีพหลักไม่ได้” เอสพูดขึ้นพร้อมกับส่งยิ้มอ่อนๆ ให้โมนาแต่สายตาก็ยังสนใจถนนเพราะขับรถอยู่ “ใครบอกล่ะคะ ถ้าอยู่ถูกที่ถูกทางยังไงก็รุ่ง ว่าแต่นอกจากวาดแบบบ้านพี่ออกแบบอย่างอื่นได้มั้ยคะ อย่างเช่นแบบเสื้อผ้าแฟชั่นประมาณนี้น่ะค่ะ” โมนาเอ่ยถามเอสด้วยความอยากรู้ “จริงๆ นอกจากวาดแบบบ้าน พี่ก็ชอบออกแบบชุดแฟชั่นนะครับ แต่ทำได้แค่วาดแบบเพราะพี่ตัดชุดไม่เป็น” คำตอบของเอสทำเอาโมนายิ้มกว้างขึ้นทันที “แล้วพี่มีแบบชุดที่ออกแบบไว้รึเปล่าคะ” โมนาเอ่ยถามเอสต่ออย่างสนใจ “น่าจะมีประมาณสามสี่ชุดครับ พอวาดแล้วคิดว่าไม่น่าจะได้ใช้เลยไม่ค่อยได้ออกแบบ ว่าแต่หนูถามทำไมหรอครับ” เอสหันไปถามโมนากลับทันทีเพราะเป็นช่วงรถติดไฟแดงพอดี “พี่เอสคะ สนใจไปประกวดงานออกแบบชุดแฟชั่นกับหนูมั้ยคะ” โมนาเอ่ยชวนเอสด้วยรอยยิ้มจนเอสถึงกับคิ้วขมวดรู้สึกแปลกใจเล็กน้อยเมื่อได้ยินคำพูดของเธอ “งานประกวดที่ไหนหรอครับ” เอสถามโมนากลับด้วยความอยากรู้ “อีกสองอาทิตย์มีงานประกวดที่ห้าง xxx ค่ะ รางวัลหนึ่งแสนบาท ถ้าเราชนะนอกจากจะได้รางวัลแล้วเผลอๆ ผลงานอาจจะไปถูกใจเจ้าของแบรนด์ดังๆ แล้วติดต่อพี่ไปเป็นดีไซน์เนอร์ประจำแบรนด์นั้นก็ได้น๊า” โมนาพูดรายละเอียดงานขึ้นด้วยรอยยิ้ม “แต่พี่ทำได้แค่ออกแบบเองนะครับ พี่ตัดชุดเองไม่เป็นเลย จะให้จ้างคนอื่นตัดให้หรอครับ” เอสถามโมนาขึ้นด้วยความสงสัย “จ้างทำไมให้เปลืองเงินคะ ในเมื่อหนูก็ตัดเป็น อย่าลืมนะคะว่าพ่อกับแม่หนูเปิดร้านตัดชุด เราแค่ลงทุนซื้อผ้ามาตัดก็พอ ขอแค่พี่บอกรายละเอียดของชุดมาก็พอค่ะ สนใจมั้ยคะพี่” โมนาพูดขึ้นพร้อมกับอวดสรรพคุณตัวเองในเรื่องงานฝีมือจนเอสถึงกับยิ้มตามกับท่าทางของเธอ “หนูยังไม่เห็นแบบชุดพี่เลย แล้วมั่นใจว่ามันจะโอเคหรอครับ บางทีพี่อาจจะทำไม่สวยก็ได้” เอสพูดขึ้นอย่างไม่มั่นใจเพราะเขาไม่เคยเอางานออกแบบชุดให้ใครดูเลยสักครั้ง “หนูเชื่อมั่นในตัวพี่ค่ะ จะสวยหรือไม่สวยเราก็ช่วยกันปรับแก้ได้ คนเรามันต้องลองผิดลองถูกกันทุกคนไม่งั้นงานก็ออกมาไม่ดีสิคะ ว่าไงคะ สนใจลองประกวดสักครั้งมั้ย” โมนาเอ่ยชวนเอสอีกครั้งด้วยรอยยิ้ม “ถ้าหนูมั่นใจในตัวพี่ พี่ลองก็ได้ครับ งั้นเย็นนี้ถ้าพี่กลับคอนโดพี่ส่งแบบให้ดูนะ แต่คงจะดึกหน่อยเพราะพี่ต้องไปกินข้าวเย็นที่บ้านก่อน” เมื่อพูดถึงเรื่องที่บ้านแววตาเอสก็ดูเศร้าทันทีแต่ก็แค่แว๊บเดียวแล้วกลับมายิ้มต่อเพราะไม่อยากให้โมนาเป็นห่วงและเป็นจังหวะสัญญาณไฟเขียวพอดีเอสจึงหันไปสนใจถนนต่อแต่เขาไม่รู้ว่าเธอนั้นสังเกตเห็นตั้งแต่แรกแล้ว โมนาจึงตัดสินใจเปิดข้าวกล่องออกแล้วตักข้าวยื่นไปตรงหน้าเอสทันที “กินข้าวก่อนมั้ยคะ สมองจะได้ไหล” เอสหันไปมองโมนาทันทีเมื่อเห็นการกระทำของเธอ เพราะไม่คิดว่าเธอจะป้อนข้าวเขาแบบนี้ จึงส่งยิ้มให้เธอแล้วอ้าปากกินข้าวที่เธอป้อนทันที “อร่อยจังครับ ป้อนข้าวตอนขับรถแบบนี้เหมือนเมียกำลังดูแลผัวเลยเนาะว่ามั้ย” เอสพูดขึ้นอย่างกวนๆ “ชิ เห็นคนบางคนเหมือนจะเครียดๆ เลยอยากทำให้อารมณ์ดีเฉยๆ หรอก ถ้ารู้ว่าป้อนแล้วจะโดนพูดกวนแบบนี้ไม่ทำดีกว่า” “ไม่กวนแล้วครับ หยอกนิดหยอกหน่อยก็งอนซะแล้ว ขอบคุณนะครับได้อยู่กับหนูทำให้พี่สบายใจขึ้นเยอะเลย” เอสพูดขอบคุณโมนาด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนรู้สึกดีไม่น้อยที่เธอดูเป็นห่วงและใส่ใจเขาแบบนี้ทั้งๆ ที่เธอยังไม่ได้ตกลงจะเป็นแฟนเขาเลยด้วยซ้ำ “อยู่กับหนูพี่เป็นตัวของพี่เองได้เต็มที่เลยค่ะ อะไรที่ทำแล้วสบายใจหรือมีความสุขพี่ทำได้เลย หนูจะสนับสนุนพี่ทุกเรื่องเลย” โมนาพูดขึ้นด้วยรอยยิ้มแล้วตักข้าวป้อนเขา “พี่ทำได้ทุกเรื่องจริงๆ หรอครับ” เอสถามโมนากลับด้วยรอยยิ้มพร้อมกับเคี้ยวข้าวที่เธอป้อน “ใช่ค่ะ” โมนาตอบกลับเอสสั้นๆ แต่ก็ต้องตกใจเมื่ออยู่ดีๆ เอสกลับเลี้ยวจอดข้างทางกะทันหัน โชคดีที่เข้ามาซอยเล็กแล้วแถมรถก็ไม่ค่อยเยอะจึงไม่มีรถอยู่ข้างหลัง “พี่จอดรถทำไมคะเนี่ย ดีนะไม่มีรถข้างหลังไม่งั้นโดนเค้าด่าแน่ๆอยู่ๆ มาเลี้ยวจอดกะทันหันแบบนี้” โมนาบ่นให้เอสทันทีเมื่ออยู่ดีๆ เขาเลี้ยวจอดข้างทางกะทันหันโดยไม่บอกก่อน “ตอนนี้มีสิ่งหนึ่งที่พี่ทำแล้วจะทำให้พี่สบายใจมากเลย พี่ขอทำได้มั้ยครับ” เอสหันไปพูดกับโมนาด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “ทำอะไรคะ ทำตรงนี้เนี่ยนะ” โมนาเอ่ยถามเอสด้วยความสงสัยเพราะเธอไม่รู้ว่าอะไรที่เขาทำแล้วสบายใจตอนนี้ “หนูตอบมาก่อนสิครับ ว่าพี่ทำได้มั้ย” เอสถามโมนาอีกครั้ง “ถ้าทำแล้วทำให้พี่สบายใจพี่ก็ทำสิคะ” โมนาตอบเอสแต่ก็ยังทำหน้าสงสัยเพราะไม่รู้ว่าเขาจะถามเธอทำไม “พี่ถือว่าหนูอนุญาตแล้วนะครับ” เอสพูดขึ้นพร้อมกับส่งยิ้มเจ้าเล่ห์ใส่เธอ “อยากทำอะไรก็ทำไปสิคะ จะมารอให้หนูอนุญาตทำ…อื้อออ” โมนาถึงกับกลืนคำพูดลงคอตากลมเบิกกว้างด้วยความตกใจเมื่อโดนเอสจู่โจมแบบไม่ทันตั้งตัว
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม