“ผู้มีพระคุณมาแล้วหรอคะ”
โมนาตะโกนถามขึ้นขณะเดินลงมาจากบันไดจนมาหยุดที่โต๊ะอาหาร
“พี่เอส!/น้องโมนา!”
โมนาเรียกชื่อเอสด้วยความตกใจเมื่อเห็นเขาเช่นเดียวกันกับเอสก็ตกใจไม่ต่างจากโมนาเพราะคิดไม่ถึงว่าจะได้เจอกันที่นี่
“พี่โมรู้จักพี่เอสด้วยหรอครับ”
มาร์เวลเอ่ยถามพี่สาวด้วยความสงสัยเมื่อเห็นโมนาเรียกชื่อเอส
“น้องโมนาเป็นน้องรหัสของพี่น่ะ”
เมื่อเห็นโมนามัวแต่ยืนอึ้งไม่ตอบน้องชายเอสจึงตอบแทนเธอ ปากหนายกยิ้มชอบใจทันทีเมื่อรู้ว่าเธอเป็นพี่สาวของมาร์เวลเพราะอย่างน้อยเขาก็มีกองหนุนช่วยเขาจีบโมนาเพราะมาร์เวลพึ่งบอกว่าอยากได้เขาเป็นพี่เขย
“จริงหรอครับ โห บังเอิญมากอะ”
มาร์เวลพูดขึ้นด้วยความตื่นเต้นเมื่อรู้ว่าพี่ชายที่เขานับถือกับพี่สาวแท้ๆ ของตัวเองนั้นเป็นสายรหัสกัน
“นี่พี่คือคนที่ช่วยมาร์เวลไว้หรอคะ”
เมื่อโมนาตั้งสติได้ก็เอ่ยถามเอสทันที
“ครับ”
เอสตอบกลับโมนาด้วยรอยยิ้ม
“ดีเลยที่รู้จักกัน อย่าพึ่งถามพี่เค้าลูก มากินข้าวกันก่อนมา กินไปคุยไปดีกว่า”
ขวัญใจพูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม โมนาจึงเดินไปนั่งที่ประจำตัวเองที่อยู่ตรงข้ามกับเอสแต่ก็ต้องชะงักเมื่ออยู่ดีๆ มาร์เวลก็วิ่งมาแย่งที่นั่งของเธอ
“วันนี้ผมขอนั่งตรงนี้นะครับ พี่โมไปนั่งข้างๆ พี่เอสเลย”
มาร์เวลพูดขึ้นด้วยรอยยิ้มทำเอาเอสถึงกับยิ้มตามเมื่อเห็นโมนากำลังมองค้อนใส่มาร์เวลแต่ก็ไม่ได้ว่าอะไรน้องชายแล้วเธอก็เดินมานั่งข้างๆ เอส เมื่อทุกคนนั่งกันครบแล้วก็เริ่มกินข้าวเย็นด้วยกันทันที การกระทำของครอบครัวโมนาทำเอาเอสรู้สึกดีไม่น้อยเพราะทั้งพ่อแม่ ทั้งมาร์เวลก็ต่างตักอาหารใส่จานให้เขาไม่ขาดแถมยังชวนคุยอย่างเป็นกันเอง
“พอแล้วค่ะพี่เอส พี่จะตักอาหารใส่จานหนูเยอะไปแล้วนะคะ”
โมนาพูดห้ามเอสทันทีเพราะขณะที่คนอื่นตักอาหารให้เขา แต่เขาดันตักอาหารให้เธอตลอดจนอาหารนั้นเต็มจานข้าวเธอแล้ว
“ก็เห็นแขนสั้นๆ กลัวตักอาหารไม่ถึง พี่เลยตักให้ไงครับ”
“พี่เอส!”
โมนาแว๊ดเสียงใส่เอสทันทีเมื่อโดนเขาพูดกวนใส่ทำเอาทุกคนถึงกับหัวเราะออกมา
“พี่โม พี่ลืมอาหารจานเด็ดที่พี่ทำไว้ให้พี่เอสรึเปล่าเนี่ย”
มาร์เวลเอ่ยถามโมนาทันทีเมื่อเห็นอาหารหายไปหนึ่งเมนู ซึ่งเป็นเมนูที่พี่สาวเธอทำเองกับมือ
“จริงด้วย งืออ เกือบลืมเลย”
โมนาพูดขึ้นด้วยความตกใจแล้วรีบลุกเดินไปในห้องครัวด้วยท่าทางรีบร้อนจนเอสได้แต่มองตามอย่างงงๆ
“อาหารจานเด็ดอะไรหรอมาร์เวล”
เอสหันไปถามมาร์เวลด้วยความอยากรู้
“เป็นเมนูที่พี่โมเตรียมไว้ให้พี่ครับ บอกเลยไม่ได้กินง่ายๆ เลยนะ เพราะเมนูนี้พี่โมจะทำเฉพาะวันพิเศษเท่านั้นครับ”
มาร์เวลตอบเอสไปตามตรงเพราะพี่สาวเธอแทบไม่ทำเมนูนี้ให้ใครกินนอกจากจะเป็นวันพิเศษของคนในครอบครัวเท่านั้น ทำเอาเอสรู้สึกดีใจไม่น้อยเมื่อรู้ว่าเธอเตรียมเมนูนี้ไว้ให้เขา ถึงจะรู้ว่าเธอไม่ได้รู้ว่าคนที่ช่วยน้องชายตัวเองเป็นเขามาก่อนก็ตาม นั่งรอสักพักโมนาก็เดินถือถ้วยข้าวซอยออกมาจากห้องครัวแล้ววางตรงหน้าเอสทันที
“ข้าวซอยน่องไก่เนื้อเน้นๆ มาเสิร์ฟแล้วค่ะ”
โมนาพูดขึ้นพร้อมกับวางถ้วยข้าวซอยให้เอส ทำเอาเอสถึงกับชะงักนิ่งเมื่อเห็นถ้วยข้าวซอยอยู่ตรงหน้าเพราะเมื่อก่อนมันเคยเป็นอาหารจานโปรดของเขาและคนที่ทำให้เขากินก็คือแม่ของเขานั่นเอง แต่หลังจากเอสเสียแม่ไปเขาก็ไม่ได้กินข้าวซอยอีกเลยเพราะคนเป็นพ่อไม่ชอบเลยไม่มีคนทำ พอโตขึ้นเขาก็ลองไปกินมาหลายร้านแต่กลับไม่มีร้านไหนทำถูกปากได้รสชาติเหมือนที่แม่เขาทำเลยสักร้าน เอสจึงเลือกที่จะไม่กินมาจนทุกวันนี้เพราะอยากจำรสชาติอาหารที่แม่ทำให้
“พี่ไม่ชอบกินหรอคะ งั้นเดี๋ยวหนูกินเองก็ได้ค่ะ”
เมื่อเห็นเอสนั่งมองถ้วยข้าวซอยนิ่งแววตาไม่มีความร่าเริงเหมือนตอนแรก โมนาจึงคิดว่าเขาอาจจะไม่ชอบกินจึงพูดขึ้นแล้วยื่นมือจะหยิบถ้วยข้าวซอยมากินเองแต่ก็ต้องชะงักเมื่อเอสนั้นจับมือเธอไว้ก่อน
“ขอโทษครับ พี่ไม่ได้ไม่ชอบกินหรอกครับ แต่…พอเห็นแล้วเลยเผลอคิดถึงแม่ พอดีแม่ชอบทำข้าวซอยให้พี่กินน่ะ ขอบคุณนะครับ”
เอสปรับสีหน้ามาพูดกับโมนาด้วยรอยยิ้มเพราะกลัวเธอจะน้อยใจ แต่โมนากลับมองหน้าเขาไม่วางตาเพราะแววตาของเอสดูเศร้าลงอย่างชัดเจน
“แม่ของเอสไม่ได้อยู่ที่กรุงเทพหรอลูก”
ขวัญใจเอ่ยถามเอสด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนเพราะเห็นแววตาของเอสดูซึมลงชัดเจนจึงคิดว่าเขาอาจจะอยู่ห่างจากแม่ของเขา
“แม่ผมเสียไปตั้งแต่ผมยังเด็กแล้วครับคุณแม่”
เอสหันไปตอบขวัญใจด้วยรอยยิ้ม คำตอบของเอสทำเอาทุกคนถึงกับชะงักนิ่งหันไปมองเอสทันที แต่เอสก็ส่งยิ้มให้ทุกคนเพื่อสื่อให้ทุกคนรู้ว่าเขาไม่เป็นอะไร แต่ก็ต้องชะงักเมื่อโมนามาจับมือเขาไว้ เอสจึงหันไปมองโมนาทันที
“พี่โอเคมั้ยคะ ถ้าเห็นแล้วทำให้พี่รู้สึกเศร้า เดี๋ยวหนูเอาไปเก็บดีมั้ยคะ”
โมนาเอ่ยถามเอสด้วยน้ำเสียงเป็นห่วงเมื่อรู้สาเหตุของแววตาที่เศร้าของเอส คำพูดของโมนาทำเอาเอสแทบน้ำตาคลอเมื่อได้ยินคำว่าโอเคมั้ยจากปากของเธอ แต่ก็ห้ามตัวเองไว้แล้วส่งยิ้มให้เธอทันที
“พี่โอเคครับ แม่พี่เสียไปนานแล้ว พี่แค่คิดถึงท่านแค่นั้นเองครับ ข้าวซอยนี้หนูทำเองหรอครับ”
เอสเปลี่ยนเรื่องคุยทันทีเพราะไม่อยากให้เสียบรรยากาศในการกินข้าว ทุกคนจึงรู้สึกโล่งใจเมื่อเห็นเอสยิ้มขึ้นเหมือนเดิม
“ใช่ค่ะ เป็นเมนูที่หนูชอบกินมากเลย พี่ลองชิมหนูสิคะ หนูอยากรู้ว่าหนูทำอร่อยสู้แม่พี่รึเปล่า”
โมนาพูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม เอสจึงยิ้มตอบแล้วตักข้าวซอยเข้าปากทันทีทำเอาเอสถึงกับชะงักนิ่งเพราะรสชาติข้าวซอยที่โมนาทำนั้นเหมือนกับที่แม่เขาทำเป๊ะ จนเอสแทบน้ำตาคลอเพราะเป็นรสชาติที่เขาโหยหามานาน เมื่อเห็นเอสเริ่มน้ำตาคลอโมนาก็ยื่นมือไปวางบนขาเขาทันทีเพราะคิดว่าเอสคงจะคิดถึงแม่มาก เอสจึงหันมามองเธอก็เห็นสายตาที่สื่อถึงความเป็นห่วงมองมาที่เขา
“อร่อยมากเลยครับ รสชาติเหมือนที่แม่พี่ทำเลย”
เอสพูดกับโมนาด้วยรอยยิ้ม เมื่อได้ยินคำพูดของเอสโมนาก็ยิ้มกว้างขึ้นทันที
“ถ้าอร่อยก็กินให้หมดนะคะ”
“หมดแน่นอนครับ”
เอสและโมนาต่างก็ส่งยิ้มให้กัน
“อะแฮ่มๆ กินข้าวต่อได้แล้วมั้งครับ พี่เอสอย่าไปสบตาพี่โมเยอะเดี๋ยวจะหลงเสน่ห์พี่โมเค้าเอานะ”
“มาร์เวล!”
โมนาหันไปแว๊ดเสียงใส่มาร์เวลทันทีเมื่อโดนน้องชายพูดแกล้ง ทำเอาทุกคนได้แต่หัวเราะเมื่อเห็นพี่น้องพูดแกล้งกัน เมื่อโดนมาร์เวลพูดแกล้ง โมนาก็หันมาก้มหน้าก้มตากินข้าวเพื่อกลบเกลื่อนความเขินของตัวเองจนเอสได้แต่กระตุกยิ้มเอ็นดูกับท่าทางเขินของเธอแล้วหันไปกินข้าวซอยฝีมือเธอต่อ จากนั้นก็หันไปพูดคุยกับพ่อแม่ของโมนาอย่างเป็นกันเองแถมบรรยากาศในการกินข้าวของครอบครัวโมนานั้นเต็มไปด้วยรอยยิ้มแตกต่างจากเขาในอดีตที่พ่อแทบจะไม่กินข้าวพร้อมเขาและแม่เลย เมื่อกินข้าวเสร็จเอสก็ขอตัวกลับเพราะไม่อยากรบกวนผู้ใหญ่
“ขอบคุณสำหรับมื้อเย็นวันนี้นะครับ อร่อยมากเลยครับ”
เอสพูดขอบคุณมนตรีและขวัญใจพร้อมกับยกมือไหว้ผู้ใหญ่ทั้งสองด้วยท่าทางนอบน้อม
“วันหลังมากินอีกนะลูก มาทุกวันยิ่งดีคุยสนุกดี ฮ่าๆ”
มนตรีพูดขึ้นพร้อมกับหัวเราะออกมาอย่างชอบใจเพราะเขากับเอสนั้นพูดถูกคอกันมากเลยทีเดียว
“ใช่พี่เอส มาทุกวันก็ดีนะ พี่จะได้มาสอนผมต่อสู้ด้วยไง”
มาร์เวลพูดขึ้นอีกคนเพราะเขาอยากให้เอสมาบ้านทุกวัน จนโมนาได้แต่มองบนหมั่นไส้เอสเมื่อทุกคนในบ้านดูจะรักเขามากเหลือเกิน
“ออกหน้าออกตามากเกินไปแล้วนะคะสองพ่อลูกคู่นี้ ถ้าอยากเจอทุกวันขนาดนั้นไม่ให้พี่เอสมานอนที่บ้านเลยล่ะคะ”
โมนาพูดประชดพ่อตัวเองทันที เมื่อเห็นพ่อตัวเองดูจะเอ็นดูเอสมากไม่น้อย
“จริงด้วย แม่ไปเตรียมห้องให้ลูกเอสหน่อย”
“พ่อ หนูแค่พูดประชด”
โมนาแว๊ดเสียงใส่พ่อตัวเองทันทีเมื่อเห็นพ่อเธอแกล้งเธอกลับ จนเอสได้แต่หัวเราะขึ้นเมื่อเห็นท่าทางกระฟัดกระเฟียดของโมนา
“เดี๋ยววันหลังผมมาหาดีกว่าครับคุณพ่อ แค่มากินข้าวด้วยผมก็เกรงใจแล้วครับ”
เอสพูดกับมนตรีด้วยน้ำเสียงสุภาพ
“มาได้ตลอดเลยนะลูก บ้านนี้ต้อนรับลูกเสมอ”
คำพูดของขวัญใจทำเอาเอสรู้สึกอบอุ่นไม่น้อยเพราะทั้งน้ำเสียงและสายตาของท่านนั้นมองเขาเหมือนที่ของเขาไม่มีผิด
“ขอบคุณครับคุณแม่ งั้นผมลานะครับ สวัสดีครับ ไปน่ะน้องชาย”
เอสยกมือไหว้ผู้ใหญ่ทั้งสองแล้วหันไปพูดกับมาร์เวล
“สวัสดีครับพี่เอส”
มาร์เวลยกมือไหว้เอสด้วยท่าทางนอบน้อมเอสจึงส่งยิ้มกลับ แล้วหันไปหาโมนาทันที
“พี่กลับก่อนนะครับ”
“เดี๋ยวหนูเดินไปส่งที่รถค่ะ”
เอสพยักหน้าแล้วเดินออกจากบ้านไปพร้อมกับโมนาทันที
“ขอบคุณนะคะพี่เอส ที่ช่วยมาร์เวลไว้”
เมื่อมาถึงรถของเอสโมนาก็พูดขอบคุณเอสทันที
“เปลี่ยนจากคำขอบคุณเป็นอย่างอื่นได้มั้ยครับ”
เอสพูดขึ้นอย่างกวนๆ แล้วแกล้งแก้มไปหาเธอ
“อยากให้หอมแก้มหรอคะ”
โมนาเอ่ยถามเอสด้วยรอยยิ้ม ทำเอาเอสรู้สึกแปลกใจไม่น้อยเมื่อได้ยินคำถามของเธอ
“ถ้าบอกว่าอยากให้หอมหนูจะหอมมั้ยครับ”
เอสพูดขึ้นด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์
“งั้นก้มลงมาอีกนิดได้มั้ยคะ พอดีหนูไม่ถึงค่ะ”
เอสรีบโน้มหน้าลงไปใกล้เธออย่างเร็วด้วยความดีใจเมื่อโมนาจะหอมแก้มเขาครั้งแรก ส่วนโมนาก็ยิ้มเจ้าเล่ห์ขึ้นทันทีเมื่อเอสโน้มหน้ามาแล้ว จากนั้นก็ลงมือทำในสิ่งที่เขาคาดไม่ถึงทันที
“โอ๊ยย!”