สองชั่วโมงที่ได้นอนพัก ปราณปริยาต้องฝืนลืมตาตื่นเพราะเสียงปลุกเบาๆ ของมารดา ก่อนจะดีดตัวลุกออกจากที่นอนเมื่อเห็นว่าหากยังช้า วันนี้เธอต้องสายแน่ๆ
ปราณปริยาเพิ่งขึ้นชั้นปีที่สองระดับปริญญาตรีในมหาวิทยาลัยรัฐบาลแห่งหนึ่งที่ตนสอบติด และได้รับคำแนะนำเรื่องกู้เรียนซึ่งเป็นเรื่องดีสำหรับเธอ เพราะจะได้ไม่ทำให้ท่านต้องมาลำบากด้วย แค่นี้ท่านก็หาเงินมาจุนเจือแทบไม่พออยู่แล้ว
แล้วท่านยังมาล้มป่วยอีก นั่นยิ่งแย่
เป็นเหตุให้เธอต้องหางานทำเพื่อแบ่งเบาภาระของท่าน
สามีใหม่ของมารดานอกจากไม่ช่วยเหลือค่าใช้จ่ายในบ้านแล้ว ยังมุบมิบหยิบเงินเก็บของมารดาไปใช้อีกด้วย
ลุกออกมาหุงข้าวและทำอาหารง่ายๆ สองอย่างเป็นผัดผักรวมที่มีเหลือติดในตู้กับไข่น้ำเตรียมไว้ให้มารดา ถึงค่อยอาบน้ำเปลี่ยนชุดนักศึกษา ออกจากบ้านมาจนถึงป้ายรถประจำทาง ขึ้นแล้วก็ต้องโหนยืนจนถึงจุดหมาย เพราะเป็นเวลาที่ใครๆ ต่างออกจากบ้านเหมือนกันหมด ถึงจุดหมายเดินเข้าไปยังห้องที่มีเรียนเช้านี้ พอดีกับที่มีคนโบกมือเรียกจากมุมหนึ่งของห้อง
“นิ่ม ทางนี้”
จึงเดินไปหาอีกฝ่าย นั่งลงใกล้ๆ พร้อมถาม
“อาจารย์มาหรือยังภา”
“ยังน่ะสิ แล้วนี่นิ่มได้ทำรายงานมาให้ภาไหม”
ปราณปริยาหยิบรายงานที่ถูกเพื่อนทวงออกมายื่นส่งให้ คนทวงยิ้มหวาน บอกประจบประแจง
“ขอบใจมากนะ นี่ถ้าภาไม่ติดงานมอเตอร์โชว์คงไม่ต้องรบกวนนิ่มแบบนี้ อะนี่จ้ะค่าเหนื่อย” เพื่อนคนเดียวที่พยายามตีสนิทกับปราณปริยาหยิบธนบัตรส่งให้ เจ้าตัวมองเงินของอีกฝ่ายแล้วยิ้มบางๆ บอก
“ไม่เป็นไรภา ที่ทำให้เพราะเห็นว่าภาไม่ว่างหรอกนะ”
“ไม่เอาเงินหรือ” ทางนั้นเลิกคิ้วถาม
“ไม่เอาหรอก เพราะจะช่วยทำให้แค่ครั้งนี้ครั้งเดียว คราวหน้าไม่ช่วยแล้วจ้ะ”
“แหม...นิ่มน่ะ นิ่มจะใจร้ายกับภาจริงๆ น่ะหรือ แต่ยังไงภาก็ขอบใจนิ่มมาก นิ่มน่ารักที่สุดเลย”
ปราณปริยายิ้มตอบ พอดีกับที่อาจารย์ประจำวิชาเข้ามาในห้องพอดี ทุกคนจึงเงียบเสียงราวกับถูกรูดซิปปาก นั่งฟังบรรยายอีกชั่วโมงเศษๆ จนจบ สุริวิภาบ่นทันทีที่หมดชั่วโมงเรียน
“อาจารย์โหดชะมัด สั่งงานยากแล้วยังเร่งให้ส่งอีก”
“ภาว่างไหมล่ะวันนี้” เก็บหนังสือเข้ากระเป๋า ถามไปพลาง
“ทำไมหรือนิ่ม”
“เราก็รีบทำเลยไง จะได้ทันส่ง”
“หูย...” สาวสวยที่กะจะให้ปราณปริยาช่วยทำรายงานให้อีกร้องโอดโอย เธอว่างอยู่หรอก แต่ไม่อยากอ่านหนังสือ ไม่อยากทำรายงานหลายหน้ากระดาษเช่นนี้ส่งอาจารย์นี่นา คิดวิเคราะห์ไม่เป็นสักอย่างจะเอาที่ไหนไปเขียนส่ง ขณะคิดหาทางให้อีกฝ่ายช่วยเหลือเธออีกครั้ง ก็พอดีมีเสียงทักดังมาจากด้านหลังของห้องเรียน
“นิ่มครับ”
สองสาวหันไปมองพร้อมกัน ก่อนที่สุริวิภาจะเอ่ยปากทักอีกฝ่ายก่อน
“อ้าว...พี่ธัญ เข้ามาในนี้ได้ไง”
“พี่มีเรียนห้องนี้ต่อเราน่ะสิ”
ไทธัญเป็นเพื่อนต่างคณะกับสองสาว ชายหนุ่มเป็นนักศึกษาที่ย้ายมหาวิทยาลัยมาแล้วสามครั้ง อายุมากกว่าพวกเธอสามปี และที่รู้จักก็เพราะเรียนวิชาเลือกเสรีด้วยกัน
ไทธัญขึ้นชื่อว่าเป็นหนุ่มเจ้าชู้ ด้วยความเป็นคนหน้าตาดี แต่งตัวเก่ง บวกกับฐานะเข้าขั้นเศรษฐีจึงทำให้สาวๆ ในมหาวิทยาลัยต่างพากันทอดสะพานให้เขากันทั้งนั้น ยกเว้นอยู่คนที่ไทธัญถูกใจแต่ไม่ยักกะเล่นหูเล่นตากับเขา
‘เห็นพี่แบบนี้ พี่ก็เลือกนะครับ’
‘พี่เคยชอบนะ ผู้หญิงสวยๆ ง่ายๆ สบายๆ แต่ง่ายไปแบบที่เคยเจอก็ไม่ไหว ถ้านิ่มจะลดความยากให้พี่หน่อยก็น่าจะดี’
ไทธัญแสดงออกชัดเจนว่าชอบพอในตัวปราณปริยา เขาลงมือจีบตั้งแต่เทอมสองของชั้นปีที่หนึ่งจนถึงทุกวันนี้ และเอ่ยประโยคหวานเลี่ยนอย่างข้างต้นเมื่อเดือนที่ผ่านมา ที่เห็นว่าความสัมพันธ์ระหว่างตนกับปราณปริยาเริ่มดูเข้าที่เข้าทางมากขึ้นในความคิดของตนเอง แต่ปราณปริยาก็คือปราณปริยา หญิงสาวเป็นคนเข้าสังคมไม่เก่ง ใครคุยด้วยเธอก็คุยตอบไปโดยไม่ได้คิดอะไรด้วยทั้งนั้น บวกกับแววตาเศร้านั่นด้วยละมังที่ผู้ชายบางคนเห็นแล้วอาจคิดว่าเธอโปรยเสน่ห์ด้วยการส่งสายตาให้
ไทธัญแวะมารับประทานอาหารกลางวันกับปราณปริยาทุกวัน เคยไปส่งหญิงสาวกลับบ้านแล้วมากกว่าสามครั้ง ในวันที่ฝนตกหนักๆ และมีสุริวิภาติดรถไปด้วย ไม่อย่างนั้นปราณปริยาไม่มีทางไปด้วยโดยเด็ดขาด
หนุ่มเจ้าชู้ถูกใครต่อใครกล่าวถึงกันว่าคงสิ้นลายกันคราวนี้แน่แล้ว เมื่อหลงรักสาวเงียบเรียบร้อยอย่างปราณปริยาเข้าอย่างจังชนิดถอนตัวไม่ขึ้น ปราณปริยาไม่เคยเห็นเขาควงสาวสวยคนใดในรั้วมหาวิทยาลัยเลย นอกจากเรียน พอว่างก็มาขลุกอยู่กับพวกเธอ
‘แต่ไม่ได้หมายความว่าข้างนอกนั่นเขาจะไม่ควงใครนะนิ่ม’
สุริวิภาเคยบอกเธอแทบนั้น และเธอเองก็เห็นพ้องตามที่เพื่อนว่ามา แม้ไม่ได้ตอบตกลงที่จะเป็นแฟนกับไทธัญ หนุ่มหล่อบ้านรวย แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเธอจะไม่ชอบเขา
ชอบในที่นี้คือความเป็นมิตร ความเป็นเพื่อนที่มีให้กัน
เพราะด้วยความเป็นคนพูดน้อย เข้าสังคมไม่เก่ง และมักจะมองโลกในแง่ดีเสมอ เมื่อมีใครเข้ามาหา เข้ามาสนิทสนมด้วยก่อนก็ทำให้ไม่กล้าปฏิเสธความสัมพันธ์อันดี
ปราณปริยาเองก็มนุษย์คนหนึ่ง มีรัก โลภ โกรธ หลง เหมือนคนทั่วไป ถูกพะเน้าพะนอเอาใจ มีหรือที่จะไม่ไขว้เขวไปบ้าง
“มีเรียนอีกหรือเปล่าครับสาวๆ”
“วันนี้ไม่มีแล้วค่ะ แต่ว่าจะไปทำรายงานกัน”
เป็นสุริวิภานั่นเองที่เอ่ยปากบอกยิ้มๆ
“ไปที่ไหน พี่ไปด้วยได้ไหมครับ”
จากที่คิดจะเอาเปรียบให้ปราณปริยาช่วยทำรายงานแบบคราวก่อนเลยต้องคิดใหม่เสียเลย
“งั้นไปทำรายงานที่ห้องภากันไหมนิ่ม”
“เราทำที่โต๊ะของคณะก็ได้นี่ภา” ปราณปริยาบอกขัดทันที
“ร้อนจะตาย หิวด้วย ไปที่ห้องภาดีกว่านะนิ่มนะ”
“คือ...เรากลัวจะไปเข้างานไม่ทันน่ะสิ” เอ่ยออกมาเสียงอ่อยเมื่อต้องบอกเหตุผลให้รู้
“งานอะไร” ทั้งไทธัญและสุริวิภาถามแทบจะพร้อมกัน
“พอดีว่านิ่มไปสมัครงานไว้ที่ร้าน…” เอ่ยชื่อร้านที่เพิ่งไปได้เมื่อวานวันเดียว สุริวิภาเบ้หน้าบอกอย่างไม่เห็นด้วยทันที
“โธ่ นิ่ม ถ้าอยากหารายได้เพิ่มทำไมไม่บอกภา ภาเคยชวนนิ่มแล้วนี่ อย่างนิ่มใครจะไม่อยากได้ไปทำงานด้วย”
สุริวิภาเข้าใจว่าเพื่อนไปเป็นเด็กนั่งดริ๊งค์ หรือพวกเชียร์เบียร์อะไรเทือกนั้น เลยออกปากอย่างไม่ให้ราคาเพราะเคยชวนให้ไปทำงานด้วยกันแล้วแต่อีกฝ่ายไม่ไป
“นิ่มไม่ชอบงานแบบนั้น”
“ไม่ชอบงานที่ภาชวนไปทำ แต่บอกว่าไปทำงานร้านแบบนั้นเนี่ยนะ จะบอกให้นะนิ่มว่าร้านที่นิ่มไปทำน่ะ เถื่อนจะตาย มีแต่พวกขี้ยาตีกัน ไม่เหมือนร้านของพี่ที่ภาสนิทกันหรอก ทางนั้นเป็นร้านหรูมากเลยนะ มีแต่พวกไฮโซไปนั่งกัน ทิปหนัก เงินดีจะตาย”
สุริวิภาว่าเสียยาวเหยียดแล้วสรุปต่อ
“แต่เอาเถอะ ตามใจนิ่มก็แล้วกัน ทำที่ไหนสบายใจกว่าก็ทำ งั้นบ่ายนี้เราไปทำรายงานกันที่ห้องภานะ เสร็จแล้วนิ่มค่อยไปที่ร้านก็แล้วกัน อยู่ถัดจากคอนโดภาไปไม่กี่ซอยเอง”
“เอาอย่างนั้นหรือ”
“งั้นสิ” สุริวิภารีบรวบรัด แล้วหันไปยิ้มหวานกับไทธัญที่นั่งฟังอยู่เงียบๆ “พี่ธัญไปด้วยกันไหมคะ”
หนุ่มเจ้าชู้หรือจะดูไม่ออกว่าสุริวิภาคิดเช่นไรด้วย หากไม่สบโอกาสเขาจะไม่ทำเด็ดขาด เพราะไม่อยากพลาดจากปราณปริยา แต่หากโอกาสเปิดให้คนเจ้าชู้นั่นก็อีกเรื่อง
“พี่ไปด้วยครับ วิชานี้พี่ไม่เข้าก็ได้ อาจารย์ไม่ดุหรอก ให้พี่ไปด้วยได้ไหมครับนิ่ม”
ปราณปริยาได้แต่ยิ้มพร้อมลอบถอนหายใจเบาๆ เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เธอจะไปยังห้องของเพื่อน โดยมีไทธัญตามมาด้วย
“พี่ธัญน่ะต้องไปด้วยค่ะ เราจะได้มีราชรถไปส่งไง แล้วเดี๋ยวเราแวะซื้ออะไรไปกินที่ห้องนะ ทำงานไปกินไป เสร็จแล้วนิ่มจะได้ไปทำงานต่อ”
สุริวิภาบอกขณะเดินเคียงไปกันสามคน ถึงที่รถหรูของไทธัญแล้วเลือกที่นั่งด้านหลังเพื่อเปิดโอกาสให้ชายรุ่นพี่ได้ใกล้ชิดกับเพื่อนของตนเอง
คอนโดของสุริวิภาเป็นห้องชุดขนาดไม่ใหญ่มาก มีสัดส่วนส่วนตัว สะอาด เดินทางสะดวกทีเดียว
“แพงนะเนี่ย” ไทธัญว่ายิ้มๆ เมื่อขึ้นมาถึงบนห้องด้วยกัน
“พอสมควรค่ะ”
บอกอย่างภูมิใจ แม้ไม่ได้หาซื้อด้วยเม็ดเงินของตนเอง แต่สุริวิภาก็ใช้ความสาวความสวยที่มีแลกกับห้องหรูๆ ข้าวของเครื่องใช้ และเงินรายเดือนจากผู้อุปถัมภ์ที่เวียนหน้ากันมาไม่ได้ขาด
“กินอะไร ภาลงไปซื้อให้”
“ไม่เป็นไรภา นิ่มยังไม่หิว”
“แต่ภาหิวนี่นา ร้านอยู่ข้างล่างนี่เอง งั้นนิ่มทำรายงานล่วงหน้าไปก่อนนะ เผื่อภาด้วยก็ดี แล้วเดี๋ยวภาลงไปแป๊บเดียว ฝากดูแลเพื่อนภาด้วยนะคะพี่ธัญ”
ไม่ลืมทิ้งช่วงให้สองคนได้อยู่ด้วยกันตามลำพัง
ชายรุ่นพี่ยิ้มถูกใจในความรู้งานของเจ้าของห้อง
สุริวิภาจากไปแล้ว และทิ้งให้อยู่กับไทธัญเพียงสองคน
ไทธัญมองหญิงสาวที่มีท่าทีเก้อๆ อยู่ครู่ แล้วเลยเดินไปหยิบน้ำออกมา บริการราวกับเป็นเจ้าของสถานที่ จุดประสงค์คือต้องการให้อีกฝ่ายผ่อนคลายลง
“นิ่มต้องไปทำงานกี่โมงครับ”
ไทธัญส่งน้ำให้ปราณปริยาแล้ว ทำทียืนมองวิวผ่านกระจกด้านนอกเหมือนสนใจเต็มประดา แต่แท้ที่จริงลอบสังเกตเงาสะท้อนของอีกฝ่ายเพื่อไม่ให้เธอต้องอึดอัดใจจนเกินไปที่ต้องอยู่ด้วยการตามลำพัง
เมื่อเห็นไทธัญมองวิวของห้องพักอยู่เลยคลายใจลงแล้วเลือกที่นั่งชุดเก้าอี้ไม้กลางห้อง หยิบงานออกจากกระเป๋าผ้าพร้อมตอบคำถามของเขาไปด้วย
“หกโมงเย็นค่ะ”
“ให้พี่ไปส่งนิ่มนะครับ”
“คะ? ไม่ต้อง...” กำลังจะออกปากบอกปัด แต่แล้วไทธัญก็รุกถามต่อ
“แล้วนิ่มเลิกงานกี่โมง”
“ตีสามค่ะ”
“ดึกมากนะนิ่ม แล้วนิ่มกลับยังไง ให้พี่ไปส่งไปรับนิ่มนะครับ”
“เอ่อ...ไม่เป็นไรหรอกค่ะ หน้าร้านมีสองแถวที่เขาวิ่งรับคนงานพอดี นิ่มอาศัยไปกับเขาได้ค่ะ พอดีว่ารู้จักกับลุงคนขับน่ะค่ะ”
“ยังไงก็อันตรายอยู่ดี”
ปราณปริยาเลือกที่จะเงียบ เธอหยิบงานขึ้นมาจัดแจงทำได้ครู่ใหญ่ กว่าที่เจ้าของห้องชุดจะกลับขึ้นมา
“มาแล้วจ้า”
สุริวิภามองยิ้มๆ ไปที่ไทธัญ เห็นชายหนุ่มหน้านิ่งไป ก็พอรู้ว่าคงไม่มีอะไรคืบหน้า เลยเดินไปจัดของลงจานนำมาวางที่โต๊ะให้ผู้มาเยือนได้รับประทานไปพลางๆ
แล้วลงมือทำรายงานจนเสร็จเรียบร้อยดี ในที่สุดไทธัญก็อาสาไปส่งที่ร้านของซ้อเสียงจนได้ โดยมีกองหนุนจากสุริวิภาอีกคน คร้านจะยืนกรานว่าดูแลตัวเองได้ เลยต้องยอมให้ชายรุ่นพี่มาส่ง ก่อนลงรถ ไทธัญถือโอกาสแตะข้อศอกเบาๆ ย้ำอีกที
“นิ่มเลิกงานแล้ว รอพี่ตรงนี้นะครับ เดี๋ยวพี่มารับกลับบ้าน”
ยิ้มบางๆ ก่อนบอกกลับไป
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะพี่ธัญ นิ่มกลับเองได้”
ไทธัญมองตามหลังของหญิงสาวที่เขามาส่งจนเธอเดินลับหายเข้าไปด้านในก่อนเบนสายตามาที่โทรศัพท์เนื่องจากมีสายเรียกเข้ามาพอดี ชายมากเสน่ห์กดรับสาย เอ่ยทักออกไปก่อนด้วยน้ำเสียงชวนละลายหัวใจ
“ว่าไงครับคนสวย”
“ส่งนิ่มแล้วหรือคะ”
“ครับ มีอะไรหรือเปล่าครับภา”
“พี่ธัญลืมของไว้ที่ห้องภาแน่ะค่ะ”
ไทธัญยิ้มมุมปากก่อนตอบกลับ
“ได้ครับ เดี๋ยวพี่แวะไป ‘เอา’ ตอนนี้เลย”
ก่อนวางสายพร้อมกับนึกถึงของฟรีที่กำลังจะกินในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้านี้ ส่วนของสดๆ ใหม่ๆ เขาต้องหาทางตะล่อมกินจนได้ และต้องได้กินในอีกไม่นานนี้แน่ๆ