EPISODE11 รู้กันอยู่

1717 คำ
เท่าที่จำได้คนโปรดเช็ดทำความสะอาดร่างกายส่วนล่างให้ ฉันหนีอาการเห่อร้อนด้วยวิธีแกล้งหลับ แรก ๆ ก็แกล้ง นานเข้าหลับจริง ตอนนี้รู้สึกตัวทั้งที่นอนไม่เต็มอิ่ม ฉันที่นอนคว่ำรู้สึกว่ามีคนกำลังกวนด้วยการขบงับแก้มก้น ซึ่งในห้องนี้มีฉันกับคนโปรด ก็ต้องเป็นเขาที่ทำ “โปรดทำไร” “เติมพลังก่อนไปสอบครับ พี่ฬินอนคว่ำก็ได้ โปรดจะใส่แล้วครับ” “อ้ะ!” ไม่ทันได้ปฏิเสธคนโปรดก็สอดใส่เข้ามาในร่างกายฉัน คงเพราะก่อนหน้านี้หลับสนิทมากถึงไม่รู้ตัวว่าคนโปรดทำอะไรกับร่างกายฉันจนมันพร้อมสู้ขนาดนี้ “อ่า ท่านี้เสียวมากพี่ฬิ” คนโปรดพูดพลางจับบั้นท้ายฉันโก่งโค้ง “และพี่ฬิสวยมากครับ” ให้ตายเถอะ หลังจากคำว่าสวยมากมือใหญ่ล็อคที่สะโพก ร่างกายฉันถูกกระแทกเข้ามาอย่างหนัก ที่ยึดเหนี่ยวไม่พ้นผ้าปูที่นอนอีกตามเคย ฉันไม่ชอบท่านี้สักเท่าไหร่ เหตุผลก็…จุกท้องน้อยทุกดอกที่เขาเด้งใส่ เสียงตับ ตับ ตับยังคงดังอย่างต่อเนื่องประสานกับเสียงครางของคนโปรด ขอนอนได้ไหมนะ ฉันจุกจนไม่อยากรู้สึกอะไรแล้ว ถามว่าเสียวไหมมันก็เสียว แต่ก็จุกเหมือนกันไงแล้วฉันก็ง่วงมาก ๆ ด้วย เพี้ยะ! “โปรด!” ตาสว่างหลับไม่ลงเมื่อฝ่ามือคนโปรดฟาดลงที่แก้มก้น จำความได้ไม่มีใครตีฉันสักคน เขาเป็นใครกล้าดียังไงทำเนื้อฉันเป็นรอย “ขอโทษครับ มือลั่น” “?” แบบนี้ก็มีเหรอ ขอโทษง่าย ๆ แล้วยังกระแทกเข้ามาไม่หยุด ยัง ยังไม่พอนะ ตอนนี้มือเขาบีบแก้มก้นฉันแรงมาก “อ่า พี่ฬิครับ พี่ฬิ…โปรดจะถึงแล้ว อะ อ้า…” คนโปรดกดมือลงที่แก้มก้นแล้วแช่ค้างสักพักค่อยปล่อยมือออก ฉันจึงทิ้งตัวนอนราบกับที่นอน ไม่แคล้วเขาตามพรมจูบทั่วแผ่นหลัง จบลงที่ริมฝีปาก “รักนะครับ” “ไปเรียนได้แล้ว” “ครับ โปรดอาบน้ำอีกรอบก่อน” “อาบน้ำแต่งตัวแล้วยังจะทำ เดี๋ยวก็ไปสอบไม่ทัน” “ก็ฬิสวยไง ตอนแรกโปรดแค่จะหอมเฉย ๆ แต่ก็อดใจไม่ไหว” “พอเลยไม่ต้องอธิบายแล้ว” “งั้นโปรดอาบน้ำนะ ฬิอาบด้วยกันไหมครับโปรดจะได้สระผมขัดตัวให้” “ไม่เอา ฬิจะนอนต่ออีกนิด โปรดห้ามกวน ตั้งใจสอบนะ” ฉันคว้าผ้าห่มมาคลุมตัว คิดว่าจะนอนต่ออีกนิดแล้วค่อยลุกไปธุระ รอให้คนโปรดออกไปก่อนอะนะ “ครับ” คนโปรดลุกออกจากที่นอนเมื่อเห็นฉันหลับตา ฉันตามใจเขามากเกินไปไหมนะ คิดไปคิดมาเริ่มเคลิ้มหลับอีกครั้งทว่าก็รับรู้ว่าคนโปรดเดินมาหอมแก้มและบอกว่าจะไปมอ ฉันไม่ได้ตอบกลับอะไร หลับประมาณสามชั่วโมงก็ตื่นเพราะมีนัดกับน้อง ๆ อีกหลายคน ตั้งแต่ออกจากโรงพยาบาลมาฉันว่าทุกอย่างในชีวิตคล้ายกำหนดกฎเกณฑ์ลำบาก เหมือนชีวิตไม่ใช่ชีวิตของฉันอีกต่อไป คงเป็นธรรมดาของคนที่เคยใช้ชีวิตอิสระมาตลอด ห้างสรรพสินค้า ฉันมาที่ห้างของแซนหลังจากที่แวะหาน้องดริฟไปแล้ว น้องดริฟยังคงเป็นน้องดริฟที่น่ารักพอรู้ว่าฉันจะไปก็ทำอาหารไว้รอมากมายไปหมด เห็นแล้วก็ชื่นใจ “สวัสดีค่ะ รับยาอะไรดีคะ อ้าว ไหนว่าช่วงนี้คิวยาว” แซนตี้เอ่ยถามเมื่อเห็นว่าฉันไม่ใช่ลูกค้า แซนตี้เปิดร้านขายยาในห้างสรรพสินค้า เธอเรียนหมอแต่เพราะเหตุผลส่วนตัวทำให้ไม่สามารถไปต่อได้ “คนสำคัญทำไมจะปลีกเวลามาหาไม่ได้” ฉันก็แค่เกิดเบื่อขึ้นมากลางทางก็เลยแวะมาหาพี่น้องสักหน่อย “ยังไงไหนเล่า ร่างกายดูเพลีย ๆ นะ” “คิดไปเอง ไม่เห็นจะรู้สึกเพลีย” เพลียมากต่างหาก เหนื่อยเหมือนวิ่งมาราธอนทั้งที่นอนเฉย ๆ “อะ อีกสองวันจะหมด เอาไปด้วยเลย อย่าลืมกินตลอดนะ” แซนตี้วางกล่องยาคุมยี่ห้อที่ฉันกินประจำเป็นเวลาหนึ่งปี “กินทำไมนักก็ไม่รู้ ไม่ได้ป่วยสักหน่อย” คนไม่ป่วยจะกินยาทำไมถูกไหม ฉันไม่ชอบที่สุดคือการกินยา เวลาเอาเข้าปากแล้วพะอืดพะอมกลืนไม่ลง ถ้าเป็นพวกแคปซูลก็คือละลายขมในปากเลยทีเดียว ทำให้เกลียดการกินยามาก ๆ “รู้ว่าไม่ป่วย แต่เด็กเยอะแบบนั้นแซนไม่ได้อยู่กับฬิตลอด เกิดพลาดเผลอตัวเผลอใจหรือโดนเด็กมอมยามอมเหล้าแล้วเกิดพลาดท้องขึ้นมาจะทำไง โดยเฉพาะคนโปรดที่ชอบอ่อยฬิตลอด เสียท่าเมื่อไหร่ใครจะรู้” “เออ ๆ จริงจังเกินไปแล้ว กินก็กิน” บ่นขนาดนี้ที่ว่าจะเล่างั้นไม่เล่าละ ไม่งั้นมีหวังโดนด่าหูชาถ้ารู้ว่าฉันยอมคนโปรด ฉันเดาว่าถ้าไม่มีเรื่องแต่งงานแซนตี้จะเฉยกับเรื่องที่ฉันกินคนโปรด แต่นี่มีเรื่องแต่งมาละ แซนตี้จะจริงจังกับการใช้ชีวิตของฉันเพราะพ่อขอมา ชัวร์ ใช่ มันต้องเป็นแบบนั้นแน่ ๆ พ่อนอสร้ายยิ่งกว่าอะไร “ไม่ต้องมาทำหน้างอคอหัก พูดให้มันง่าย ๆ โตกว่าเค้าตั้งเยอะ ชอบให้เค้าออกหน้าแทนแล้วเค้าก็โดนพ่อดุ หาว่าสอนฬิไม่ดี เค้าจะสอนอะไรฬิได้ ฬิแก่กว่าเค้า พอเค้าเถียงพ่อก็บอกว่าเค้ามีศักดิ์เป็นอาต้องคุมหลานให้อยู่ ต้องเป็นหูเป็นตาให้ผู้ใหญ่ ฬิอ่า ฬิช่วยทำตัวเหมือนคนปกติบ้างได้ไหม เค้าหูชาไม่ไหวแล้ว” ใบหน้าของแซนตี้เวลานี้น่ารักที่สุด สีหน้าประมาณอยากดุแต่ก็ดุไม่สุด คล้อยไปทางออดอ้อนซะมากกว่า “ฬิปกติดีนะ แซนเห็นฬิมีแขนเกินมาเหรอหรือฬิมีหางเพิ่มมา” “ฬิก็รู้ว่าเค้าหมายถึงอะไร” “ไข่มาร้านไหมนะ อืม ไปดูสักหน่อยนะ” ฉันวางเงินค่ายาคุมแล้วก็รีบออกจากร้านโดยไม่รอเงินทอน ท่าทีของแซนตี้วันนี้ชัดเจนว่าโดนผู้ใหญ่สั่งให้มาพูดกับฉันเรื่องแต่งงาน เร่งรัดเข้ามาเรื่อย ๆ สินะ ร้านหนังสือรัมภา “หน้าแบบนี้โดนคนสวยดุมาใช่ไหม” คำเอ่ยทักของไข่เจียวทำให้ฉันมั่นใจในความคิดที่ว่าแซนตี้ถูกผู้ใหญ่บังคับให้มาหว่านล้อม “ไข่ว่าวิธีดุของอาแซนเราน่ากลัวไหม” ฉันเดินเข้ามานั่งในร้านหนังสือ ไข่เจียวเปิดร้านหนังสือเพราะไม่อยากฟุ้งซ่านเรื่องลุงเป้ง เนี่ย คนมีความรักมันดีที่ไหน เท่าที่ฉันเห็นมีแต่คนทุกข์ใจ รู้ว่าทุกข์ขนาดนี้ฉันไม่ขอเอาตัวเองเข้าไปรู้จักความรักแบบชายหญิง “ขนกรีลุก” “ไข่!” “รู้ ๆ กันอยู่ อาแซนเขาจะกล้าดุเจ้ฬิคนสวยและมวยมากได้ไง” “อะไรคือมวย ไม่เป็นมวยนะ จำผิดคนไหมเนี่ย” “มวยโค้ก” “…” “อะ มุกนี้เก็บพับเข้าเป๋า” ว่าแล้วก็ทำท่าเก็บอากาศใส่กระเป๋ากางเกง อยู่กับไข่เจียวไม่ต้องกลัวเรื่องเครียด นางขยันคุยเรื่องเพศให้ฟังตลอด “ลมเพลมพัดที่ไหนพาเจ้ฬิคนสวยมาถึงที่นี่” “ทำหน้าแปลกใจอะไรแบบนั้น ไม่มีอะไร แค่แวะมาดูว่าน้องเขาอ่อยสาวอย่างที่หมูสับพูดไหม” ฉันหมายถึงน้องแชมป์ที่เปิดร้านขายชานมไข่มุก “เจ้ฬิ” ไข่เจียวถลามาอยู่ตรงหน้าในระยะใกล้ “อะไร อย่ามาขอจับนมกลางห้างนะ” “ไข่สงสัยอะ” “เรื่อง?” “ทำไมเจ้ต้องเลี้ยงผู้ชายเยอะแยะทั้งที่เจ้ไม่อยากมีความรัก เจ้ทำแบบนี้เพื่ออะไร” “ความสุข” “นาฬิกา” ไข่เจียวเอ่ยเสียงเข้ม “ก็ชอบไง ชอบเห็นอะไรที่เจริญหูเจริญตา อยากได้ อยากเป็น ชอบเห็นบ่อย ๆ ก็ซื้อมาไว้ใกล้ ๆ สิ อยากจับอยากชมตอนไหนก็ได้” “เออ ความคิดนี้ดี” “มีลูกแล้วไม่ต้องเลียนแบบ” “ชิ รู้ทันอีกแล้ว” ไข่เจียวเบะปากก่อนจะถอยออกห่าง “แล้วไม่คิดไปคุยเรื่องแต่งให้เรียบร้อยอะเจ้” “คุยกับใคร” ฉันต้องคุยกับใครก่อน เรื่องนี้ไม่อยากคุยกับใครเลยด้วย “ก็ผู้ใหญ่ทางเรา หรือไม่ก็แอบไปเจอว่าที่สามีดูดิ ลอง ๆ คุยดูเผื่อทางนั้นบอกหัวเด็ดตีนขาดก็ไม่แต่งเจ้ก็ไม่ต้องแต่งไง” “ยังไม่อยากเอาเรื่องพวกนั้นมาใส่หัวอะ ถ้าพี่ไปสนใจทุกอย่างมันก็จะเร่งรัดเข้ามา รอเส้นตายแล้วค่อยปวดหัว” “เป็นกำลังใจนะ” “เหมือนกัน” ฉันยิ้มเป็นกำลังใจให้น้องสาวเพราะช่วงนี้ชีวิตของเธอก็ไม่ราบรื่นนัก เทียบปัญหาฉันกับไข่เจียวเรื่องของฉันมันคงเล็กนิดเดียว นับถือใจน้องที่ก้าวผ่านความรู้สึกพวกนั้นมาได้ สำหรับฉันถ้ากลัวก็จะไม่ใกล้ ทว่าไข่เจียวเป็นพวกพร้อมพุ่งชน ครืด ครืด (น้องแซม) “ครับ” เนี่ยวิธีอ้อนเด็กของฬิ คนอื่นอ้อนยังไงไม่รู้ แต่ฉันเริ่มแบบนี้ก่อน (วันนี้ตอนเย็นคนสวยมีคิวให้ผมบ้างไหมครับ) “ที่ไหนครับ” (นอกสถานที่) “ส่งโลมานะ” (แล้วเจอกันครับ) “ครับ คิดถึงนะ” (คิดถึงมากกว่าครับ) “ยิ้มเหงือกแห้งละ เอากำลังใจที่ให้ไปเมื่อกี้กลับมาเดี๋ยวเน้” เสียงไข่เจียวดังทันทีที่ฉันกดวางสาย “กำลังใจของคนในครอบครัวสำคัญกว่ากำลังใจข้างนอกอยู่แล้ว” “ชิ น้อยใจเนี่ย ไปเลี้ยงข้าวเลย” “เออ ๆ ไปสิ อยากกินอะไร” “ผู้ชาย” “ถ้าซื้อแล้วไม่กิน หมี่เหลืองแน่เรา” “ง่ะ ก็รู้ ๆ กันอยู่” ไข่เจียวพูดพลางเดินมากอดแขน เห็นนางชอบเรื่องใต้สะดือ แต่ผู้ชายที่ได้ดูของนางมีแค่ลุงเป้งคนเดียว
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม