หลิวชิงเย่วมองอย่างไม่เข้าใจ ในเมื่อไม่รักไม่ชอบจะยื้อไปทำไม ไม่สู้ต่างคนต่างเดินในทางที่ตัวเองต้องการไม่ดีกว่าเหรอ อีกทั้งเมียอีกคนท้องเจ็ดแปดเดือนแล้วจะยื้อกันเพื่ออะไร
“ฉันไม่ได้บ้าแต่ฉันอยากเป็นอิสระ ฉันเองก็มีความฝันของฉันเหมือนกัน เวลาสองปีที่ผ่านมามันสูญเปล่ามากพอแล้ว ในเมื่อไม่มีความรู้สึกต่อกันจะอยู่และยื้อไปเพื่ออะไร ไม่สู้ต่างคนต่างเดินดีกว่าเหรอ คุณเองมีทั้งภรรยาและลูกอยู่แล้ว”
ส่วนฉันจะตามหาอนาคตที่สดใสของตัวเอง อีตานี่บ้าหรือเปล่า ร้อยวันพันปีไม่เคยย่างกรายเข้ามาที่ห้องนี้ วันนี้นึกครึ้มอะไรขึ้นมา แล้วดูสายตานั่นคืออะไร เกิดความไม่ยินยอมเหรอ เหอะๆ ๆ คิดว่ารั้งได้ก็เอา
“ผมพูดชัดเจนพอแล้วนะชิงเย่วว่าผมไม่หย่า คุณยังเป็นเมียผมอยู่อย่างถูกต้องตามกฎหมาย และถ้าเกิดเราสองคนหย่ากันจริงๆ คุณจะอยู่ยังไง ญาติพี่น้องก็ไม่มีเหลือแล้ว ไม่เช่นนั้นท่านผู้พันหลิวจะฝากคุณกับผมไปทำไม อีกอย่างลูกผู้ชายพูดและรับปากแล้วไม่มีทางผิดสัญญาแน่นอน” หลี่เหว่ยเฉียงขมวดคิ้วเถียงกลับ วันนี้ภรรยาเขาเกิดบ้าอะไรขึ้นมาจึงชวนเขาหย่าหลายครั้ง
“ฉันว่าเราสองคนคุยไม่รู้เรื่องแล้ว คุณกลับไปเถอะ อ้อ อีกเรื่อง ต่อไปนี้ค่าใช้จ่ายภายในบ้านหลี่พวกคุณก็รับผิดชอบกันเองก็แล้วกัน ฉันคงไม่จ่ายให้อีก ตลอดสองปีที่ผ่านมาฉันหมดสินเดิมไปเยอะแล้ว พอกันที” หลิวชิงเย่วคิดว่าพูดเรื่องนี้ไปด้วยเลย จะได้ไม่ต้องมาพูดว่าเธอใจแคบหรือใจดำอีก
“เดี๋ยวก่อน ที่คุณพูดหมายความว่ายังไง ใครเอาสินเดิมของคุณออกมาใช้”
หลี่เหว่ยเฉียงตกใจกับเรื่องที่ได้ยิน ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น ทำไมหลิวชิงเย่วจะต้องเอาสินเดิมออกมาเพื่อใช้จ่ายในบ้านหลี่ด้วย ในเมื่อเขาส่งเงินมาให้แม่ทุกเดือน และคิดว่าสามชีวิตคงอยู่ได้ไม่ลำบากออกจะสบายเสียด้วย
“คุณลองไปถามแม่กับเมียสุดที่รักคุณดูนะ ว่าทำอะไรกับฉันไว้บ้าง แม้แต่ชาวบ้านในหมู่บ้านยังรู้เลย ถ้าเกิดเดือนไหนที่ฉันไม่หยิบยื่นให้ ไม่อยากจะพูด โดนด่าได้ยินไปเจ็ดบ้านแปดบ้าน คุณคิดว่าอดีตลูกคุณหนูแบบฉันจะทนได้ไหม ที่ทนมาได้สองปีนับว่าเก่งแล้ว ถ้าเป็นหญิงสาวคนอื่นคงเปิดไปตั้งแต่สามเดือนแรก และไม่ทนให้โดนโขกสับอยู่แบบนี้แน่”
หลี่เหว่ยเฉียงเมื่อได้ยินแม่และคนรักทำแบบนั้นชายหนุ่มกำหมัดแน่น นี่ไม่เท่ากับเอาศักดิ์ศรีเขามาล้อเล่นเหรอ หากเมื่อไหร่เขาเกิดเลื่อนตำแหน่งขึ้นมาแล้วเกิดมีคนรู้เรื่อง บ้านของเขาทำกับลูกสาวอดีตเจ้านายและคนช่วยชีวิตเขาแบบนี้ ต่อไปเขาจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน ศักดิ์ศรีของตนจะมีอีกได้อย่างไร
“พรุ่งนี้ผมจะจัดการเรื่องทั้งหมดเอง วันนี้ผมเหนื่อยมากกับการเดินทาง พักผ่อนเถอะ” ชายหนุ่มพูดจบเตรียมจะเดินไปที่เตียงเพื่อจะล้มตัวนอน แต่โดนหลิวชิงเย่วเรียกไว้เสียก่อน
“หากจะนอน คุณควรจะไปนอนห้องตัวเองนะ ไม่ใช่มานอนในห้องนี้ ฉันพูดจนปากจะฉีกถึงหูแล้ว ไม่เข้าใจหรือยังไง” หลิวชิงเย่วพูดด้วยความโมโห อีตานี่ท่าจะสติไม่ดี เธอไล่ไม่รู้กี่รอบแล้วยังหน้าด้านจะนอนที่นี่อีก
“ผมจะนอนที่นี่ คุณเองอย่าเรื่องมากมานอนได้แล้ว” หลี่เหว่ยเฉียงยังคงยืนยันคำเดิม แต่พอเห็นภรรยากำลังจะเดินออกจากห้องชายหนุ่มจึงถามว่าจะไปไหน “นั่นคุณจะไปไหน”
หลิวชิงเย่วเลือกที่จะไม่ตอบแต่เดินออกมาจากห้อง ตั้งใจว่าไปหาที่หลบมุมสักหน่อยแล้วค่อยเข้าไปนอนในมิติ
หญิงสาวเดินมาเรื่อยๆ จนมาถึงลำธาร หากเป็นสมัยก่อนป่านนี้เพิ่งจะหัวค่ำ การได้ดื่มด่ำกับบรรยากาศทุ่งหญ้า ยุคสมัยของเธอนั้นยากที่จะพบเห็น เมื่อมาถึงกลับไม่คาดคิดว่ามีชายหนุ่มรูปร่างกำยำกำลังว่ายน้ำอยู่ ‘แม่เจ้า หุ่นนี่โคตรล่ำเลย หาเป็นยุคที่ฉันจากมาหุ่นแบบนี้เป็นนายแบบหรือพระเอกได้สบาย’ ไม่รู้ว่าหญิงสาวลืมไปหรือเปล่าว่าร่างนี้แต่งงานแล้ว ไม่ควรที่จะมาแอบมองชายหนุ่มที่ไม่ใช่สามี ไม่เช่นนั้นจะผิดผี
ทางด้านมู่ยวี่เฉินสัญชาตญาณนั้นเป็นเลิศ จึงทำให้มีความรู้สึกว่ามีคนกำลังแอบดูเขาอาบน้ำ ดังนั้นชายหนุ่มจึงรีบส่งเสียงเรียก “นั่นใคร”
‘ตายแล้วชิงเย่ว พ่อเทพบุตรคนนี้ดันรู้ตัวเสียแล้ว’ หญิงสาวตั้งท่าจะวิ่งหนี ร่างกายไม่รักดียังไม่ทันได้ขยับกลับโดนชายหนุ่มคว้าตัวไว้ได้ แรงกระชากนั้นทำให้ร่างบางของหลิวชิงเย่วปะทะเข้าที่แผงอกอันเปล่าเปลือยของชายหนุ่ม
“พี่ชายฉันไม่ได้ตั้งใจจะแอบดูนะเพียงแค่เดินผ่านมาทางนี้ ไม่คิดว่าพี่ชายจะอาบน้ำอยู่” หลิวชิงเย่วหลับตาปี๋และเอามือปิดตา แต่สิ่งที่ทำให้ชายหนุ่มหน้าคล้ำ เพราะความโมโหที่มีคนมาอาบดูเขาอาบน้ำแทบจะหลุดขำออกมา อะไรคือปิดตาแล้วนิ้วที่กางออกมาคืออะไร
“ถ้าเกิดคุณไม่คิดจะแอบดูก็ช่วยหุบนิ้วด้วย เพราะไม่ใช่แค่ท่อนบนเท่านั้นที่ผมเปลือย แต่ท่อนล่างของผมก็เปลือยเช่นกัน”
จริงๆ มู่ยวี่เฉินไม่ได้แก้ผ้าหมด เขาเพียงแค่ถอดเสื้อลงมาว่ายน้ำเท่านั้น แต่ใครอยากให้ผู้หญิงคนนี้เจ้าเล่ห์ใส่เขาก่อนล่ะ เขาจึงคิดอยากจะแกล้ง ว่าแต่หญิงสาวคนนี้เป็นใครทำไมเขารู้สึกคุ้นหน้า แล้วค่ำมืดแบบนี้เดินออกมาจากบ้านได้ยังไง ไม่กลัวบ้างเหรอ
หลิวชิงเย่วเมื่อโดนจับได้ว่าแอบดูเธอจึงไม่กางนิ้วและปิดตาสนิทเพราะกลัวว่าเขาจะแก้ผ้าล่อนจ้อนอย่างที่บอกจริงๆ ไม่อย่างนั้นเธอต้องผิดผีและรับชายคนนี้เป็นสามีน้อยหรอกเหรอ
“ลืมตาได้แล้ว ผมแต่งตัวเสร็จแล้ว” มู่ยวี่เฉินสวมเสื้อเรียบร้อยจึงได้บอกให้หญิงสาวลืมตาได้
“ขวัญเอ๊ยขวัญมา เฮ้อ...โล่งอก ดีนะที่เป็นคนนึกว่าจะเป็นเจ้าป่าเจ้าเขาเสียแล้ว ว่าแต่ทำไมพี่ชายจึงมาอาบน้ำที่ลำธารล่ะ ที่บ้านไม่มีห้องน้ำเหรอ”
หลิวชิงเย่วเอ่ยถามอย่างไม่เข้าใจ นี่มันต้นยุคแปดศูนย์แล้วนะ แต่ละบ้านน่าจะมีห้องน้ำเป็นของตัวเองไม่ใช่หรือไง ขนาดเธออ่านนิยายจีนโบราณ ชาวบ้านธรรมดายังสร้างห้องอาบน้ำแล้วเลย
“ถามหน่อยเถอะคุณเป็นลูกสาวบ้านไหน ทำไมพ่อแม่จึงปล่อยให้เดินออกมามืดค่ำแบบนี้ แม้ว่าจะเป็นคนคุ้นหน้าคุ้นตาแต่ไม่ได้ปลอดภัยเสมอไปหรอกนะ ผู้ชายถ้าเห็นหญิงสาวเดินคนเดียว ไม่ว่าจะเป็นลูกเป็นเมียใคร หากหน้ามืดขึ้นมามันก็ลืมทุกอย่างแล้ว จะกลับบ้านไหมผมจะเดินไปส่ง”
หลิวชิงเย่วมองชายหนุ่มตรงหน้าอย่างคาดไม่ถึง ไม่ได้ซึ้งใจนะที่ชายหนุ่มหน้าตาดีจะไปส่งบ้าน แต่เธอเพิ่งจะหนีออกมา ยังจะให้เธอกลับไปถูกเชือดหรือไง หมดกันพอดีนะสิความบริสุทธิ์ของฉัน
“ไม่ต้องหรอก ขอบใจพี่ชายมาก ฉันกลับเองได้ ฉันขอตัวก่อนนะ”
จากนั้นหญิงสาวจึงรีบเดินออกมาให้ห่างจากบริเวณนั้น ก่อนจะมองซ้ายขวาเมื่อไม่เห็นใครจึงรีบเข้าไปมิติทันที
“ฉันจะหาวิธีไหนมาหย่าขาดกับสามีเจ้าของร่างนี้ดี หากฉันออกไปทำการค้ามีหวังแม่เฒ่าหลี่คงตาเป็นมัน แทนที่จะได้หย่าง่ายๆ กลับกลายเป็นเกาะหนึบยิ่งกว่าเก่านะสิ”
หลิวชิงเย่วบ่นกับตัวเอง เธอเพียงแค่อยู่ร่วมกับบ้านหลี่วันเดียวยังจะบ้าตาย หากต้องอยู่ไปตลอดไม่ต้องรอให้ใครมาฆ่าหรอก เธอนี่แหละจะผูกคอตายด้วยตัวเอง
วันต่อมาหลิวชิงเย่วอาบน้ำแต่งตัวเสร็จจึงออกมาจากมิติ จากนั้นจึงเดินกลับมาที่บ้านหลี่ แม้ว่าเมื่อวานจะเห็นหญิงสาวเดินผ่านตาบ้างแล้วก็ตามแต่ก็ยังไม่ชินอยู่ดี เมื่อมาถึงบ้านก็เจอกับนางจ่างซื่อยืนหน้าดำหน้าแดงอยู่ก่อนจะร้องโวยวายเหมือนจะเล่นงิ้วให้ใครดู
“นี่หล่อนแต่งงานแล้วนะไม่ใช่หญิงสาวทั่วไป ป่านนี้แล้วข้าวปลาอาหารยังไม่ได้จัดเตรียม ช่างเป็นลูกสะใภ้ที่ดีจริงๆ เวรกรรมอะไรของบ้านหลี่ที่ได้ลูกสะใภ้เช่นนี้”
หลิวชิงเย่วเลือกที่จะยืนมองดูอย่างเฉยเมย ในเมื่อเล่นงิ้วเธอก็จะเป็นผู้ดูที่ดีก็แล้วกัน เชื่อเถอะเดี๋ยวสะใภ้สุดที่รักก็ต้องออกมาด้วยอีกคน
“แม่คะ ฉันทำเองก็ได้ค่ะ” เสียงสะใภ้คนโปรดเดินเข้ามาอย่างน่าสงสาร นั่นไงหลิวชิงเย่วยืนหัวเราะอยู่คนเดียวเบาๆ เอาเถอะอยากจะทำอะไรก็ทำไปอย่ามาวุ่นวายกับเธอก็พอ
“ไม่ต้องหรอกหล่อนกำลังท้องอยู่ ให้ยายแก่อย่างฉันทำเองดีกว่า ในเมื่ออาเฉียงมีภรรยาเพียงสองคน คนหนึ่งท้องอีกคนไม่สนใจที่จะทำ ยายแก่อย่างฉันจะจัดการเอง ทำไมฉันไม่คลอดลูกออกมาหลายๆ คนกันนะ” นางจ่างซื่อตีอกชกหัวอยู่คนเดียว จนหลิวชิงเย่วรำคาญจึงพูดขึ้น
“ถ้าอย่างนั้นแม่สามีก็หาสะใภ้เข้ามาเพิ่มอีกสิคะ จะได้มีคนช่วยทำงาน ลูกชายของแม่ยังหนุ่มยังแน่นคงมีแรงทำอีกเยอะ อีกทั้งลูกสะใภ้คนโปรดกำลังท้องซะด้วย หากดูแลปรนนิบัติสามีจะเป็นอันตรายแก่หลานในท้องได้นะ”