แต่ภายในแก๊งมังกรไม่ได้เป็นปึกแผ่นภายใต้อำนาจของหัวหน้าแก๊งเหมือนแก๊งหงส์ไฟ ทุกๆ สี่ปีหัวหน้าแกนนำของแก๊งจะมีการผลัดเปลี่ยนขึ้นดำรงตำแหน่งหัวหน้าแก๊ง นั่นหมายถึงความบาดหมางจะเกิดขึ้น เมื่อหัวหน้าแก๊งใหม่ต่างต้องการประกาศศักดาของตนต่อหัวหน้าแก๊งมาเฟียแก๊งอื่นเพื่อให้เป็นที่ยอมรับ หากสามารถเป็นพันธมิตรกันได้ก็ไม่เกิดอะไร แต่หากไม่สามารถปรองดองกันก็ย่อมมีการปะทะกันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ หลี่เจิ้งหนักใจกับเรื่องนี้อยู่ไม่น้อย
“คุณเจิ้งครับ มีเรื่องด่วนครับ”
หวังไป่ฉีเข้ามาบอกผู้เป็นนาย หลังจากได้รับโทรศัพท์จากลูกน้องที่ส่งไปเป็นสายสืบ ได้แจ้งข่าวสำคัญมาให้รับรู้
“ไปคุยกันที่ห้องทำงาน”
หลี่เจิ้งลุกขึ้นเดินนำออกไปยังชั้นบนสุดของตึกแดง เขานั่งลงที่เก้าอี้หลังโต๊ะทำงาน พยักหน้าให้หวังไป่ฉีพูดต่อ
“คนของเรารายงานมาว่า หย่งเซิ่งหัวหน้าเขตของแก๊งมังกรได้วางแผนชิงอำนาจจากคุณจางเหวิน ตอนนี้พวกนั้นได้สังหารคุณจางเหวินไปแล้ว คนของเราไม่สามารถช่วยอะไรได้ เพราะคนของหย่งเซิ่งลงมือรวดเร็วมาก” หวังไป่ฉีเสียงสั่นเล็กน้อย เขาสนิทสนมคุ้นเคยกับจางเหวินไม่น้อย จึงรู้สึกสะเทือนใจกับการจากไปอย่างกะทันหันของหัวหน้าแก๊งมังกรผู้นี้
หลี่เจิ้งหน้าเคร่งเครียดดวงตากระตุกไหว เมื่อสิ่งที่เขากังวลกำลังกลายเป็นจริง บิดาของเขาเคยบอกไว้ว่าอำนาจเป็นดังน้ำผึ้งหวานล่อหลอกให้แมลงมาดื่มกิน เช่นเดียวกับเป็นยาพิษร้ายสำหรับผู้ครอบครอง ซึ่งอาจทำให้ตัวเองถึงตายได้เช่นกัน มาเฟียหนุ่มระบายลมหายใจออกช้าๆ คิ้วดกหนาขมวดตึงจนหน้าผากยับย่น สมองประมวลความคิดเตรียมตั้งรับเหตุการณ์นี้อย่างหนัก พลัน... ใบหน้าของเด็กสาวคนหนึ่งก็วาบเข้ามาในสมอง
“แล้วลูกกับภรรยาของคุณจางล่ะ เป็นยังไงบ้าง”
“คุณนายจางยังปลอดภัยดี ลูกน้องคนสนิทของคุณจางช่วยดูแลไว้”
หวังไป่ฉีถอนหายใจแรง สีหน้าหนักใจ
“ซื่อเหวินหลัวคงดูแลคุณนายจางกับเด็กๆ ไม่ได้นาน เพราะเขาเองอาจจะตกเป็นเป้าโจมตี หย่งเซิ่งเองคงไม่ปล่อยให้ทายาทของคุณจางหนีรอด หากคิดจะยึดอำนาจก็คงถอนรากถอนโคนจนสิ้นซาก ไม่ปล่อยให้หวนกลับมาแก้แค้นได้อีก”
ความโหดร้ายของคนในวงการนี้เป็นเช่นไรหวังไป่ฉีรู้ดี หากต้องการกำจัดคนคนหนึ่งก็ต้องกำจัดคนในครอบครัวนั้นให้ตายตกตามกันให้สิ้นซาก เมื่อจะขึ้นเป็นใหญ่ต้องไม่มีความปรานีกับฝ่ายตรงข้าม เช่นเดียวกับที่หลี่เจิ้งเคยจัดการกับสองพ่อลูกจงเหอและจงลี่ถัง หย่งเซิ่งคงไม่ละเว้นครอบครัวของอดีตหัวหน้าแก๊งเช่นกัน
“คุณจางเขาส่งลูกชายกับลูกสาวไปอยู่เมืองนอกตั้งแต่เด็กๆ ใช่ไหม” หลี่เจิ้งเอ่ยขึ้น
“ครับ คนในแก๊งมังกรแทบไม่มีใครเคยเห็นหน้าลูกชายกับลูกสาวของคุณจางเลย คุณจางท่านคงรู้ว่าต้องมีวันนี้สักวัน ถึงได้เตรียมป้องกันลูกๆ ไว้ แต่ตอนนี้เด็กสองคนนั้นเพิ่งกลับมาจากต่างประเทศ คงเลี่ยงการสูญเสียไม่พ้น”
เหมือนฟ้าจงใจแกล้งให้ครอบครัวนี้ต้องเผชิญกับเคราะห์กรรม เมื่อลูกชายกับลูกสาวของจางเหวิน เพิ่งเดินทางมาจากต่างประเทศในช่วงปิดเทอม เพื่อร่วมงานวันเกิดของบิดา แต่ต้องมาพบกับการสูญเสียอย่างสาหัส สายสืบรายงานว่าจางเหวินปกป้องภรรยาและลูกจนตัวตาย เขายอมเอาตัวเองเป็นเป้าล่อเพื่อให้ลูกเมียหนีพ้น
“ติดต่อซื่อเหวินหลัวให้ผมด้วย ผมจะช่วยครอบครัวของคุณจางเอง” หลี่เจิ้งเอ่ยอย่างตัดสินใจ
“ทำแบบนั้นอาจทำให้เรากับแก๊งมังกรผิดใจกันนะครับ หย่งเซิ่งคงไม่ยอมปล่อยพวกเขาง่ายๆ” หวังไป่ฉีท้วงขึ้น
แม้จะเคยสนิทสนมกับจางเหวิน แต่หากยื่นมือเข้าไปยุ่งเกี่ยวด้วย อาจส่งผลให้หัวหน้าแก๊งมังกรคนใหม่หาเหตุขัดแย้งกับแก๊งหงส์ไฟได้ ความสัมพันธ์เปราะบางอาจจะร้าวจนต่อไม่ติด
“ผมไม่เคยกลัวหย่งเซิ่ง” น้ำเสียงของหลี่เจิ้งแข็งกร้าวขึ้น ดวงตาวาววับทอแสงกล้า
“ถ้าคุณกลัวจะเกิดปัญหา ผมมีวิธีช่วยครอบครัวของคุณจาง โดยที่ไม่กระทบกับแก๊งของเรา”
“คุณเจิ้งจะทำยังไงครับ”
หวังไป่ฉีมองหน้าหลี่เจิ้งด้วยสายตามีคำถาม
หลี่เจิ้งกระตุกยิ้มเย็น “ผมว่าหย่งเซิ่งคงไม่สนใจคนที่ตายไปแล้วหรอก”
เขาเอ่ยเป็นปริศนา ขณะหยิบปากกามาเขียนแผนการให้หวังไป่ฉีอ่านแทนการพูด
หลี่เจิ้งรู้ดีว่าการกระทำครั้งนี้อาจส่งผลกระทบในภายภาคหน้า แต่เขาไม่อาจปล่อยให้เด็กสองคนนั้นเป็นอะไร โดยเฉพาะลูกสาวของจางเหวิน
เธอเป็นคนที่ทำให้เขาตัดสินใจยอมก้าวเท้าเข้ามาบนเส้นทางนี้ เขาจึงควรตอบแทนเธอด้วยการปกป้องชีวิตของเธอไม่ใช่หรือ...
รถตู้สีขาวคันหนึ่งแล่นไปบนถนน ภายในรถคันนั้นมีร่างของผู้หญิงสองคน เด็กชายคนหนึ่งและชายแก่คนหนึ่งซึ่งทำหน้าที่เป็นสารถี นำพาสามแม่ลูกตระกูลจางออกมาจากบ้านของซื่อเหวินหลัวหนึ่งในสมาชิกอาวุโสคนสำคัญคนหนึ่งของแก๊งมังกร โดยไม่ได้บอกกล่าวเจ้าของบ้านให้รับรู้ ด้วยเกรงอีกฝ่ายจะพลอยได้รับความเดือดร้อนไปด้วย หลังจากสามแม่ลูกได้รับความช่วยเหลือให้รอดพ้นจากเงื้อมมือของคนทรยศอย่างหย่งเซิ่ง ที่นำสมุนของตนบุกเข้าไปถล่มบ้านตระกูลจาง สังหารจางเหวินหัวหน้าแก๊งมังกร เพื่อแย่งชิงอำนาจและก้าวขึ้นเป็นผู้นำของแก๊งมังกร
“หลินหลิน เราจะไปอยู่ที่ไหนกันลูก”
นางลัดดาผู้เป็นมารดาเอ่ยถามบุตรสาวที่นั่งเงียบมาตลอดทาง
จางหลินหลินหญิงสาวในวัยยี่สิบ หันมามองหน้ามารดาที่นั่งอยู่ด้านหลังของรถพร้อมน้องชายที่นอนหลับซบบนตักมารดา ดวงตาเรียวยาวทอดมองคนในครอบครัวทั้งสองด้วยแววตาอ่อนโยน
“หนูจะพาแม่กับอาหลงออกนอกประเทศค่ะ เรามีบ้านพักที่คุณพ่อซื้อไว้ที่อังกฤษ ถ้าเราไปถึงที่นั่นเราจะปลอดภัยค่ะ”
“แล้วพวกนันมันจะตามไปทำอะไรเราไหมลูก ตอนนี้เราไม่มีใครดูแลแล้ว คุณพ่อก็...”
คนเป็นแม่น้ำตาคลอเมื่อนึกถึงสามีที่จากไป
จางเหวินเป็นหัวหน้าแก๊งมังกรมาสี่ปีแล้ว ปีนี้เขาจะออกจากตำแหน่งตามข้อตกลงของแกนนำของแก๊ง ซึ่งจะผลัดเปลี่ยนกันขึ้นดำรงตำแหน่งคนละสี่ปี แต่หย่งเซิ่งหนึ่งในแกนนำที่อยู่ในอันดับสุดท้ายกลับรอคอยการขึ้นสู่อำนาจไม่ไหว เขาจัดการส่งคนไปลอบสังหารหยวนเปียวผู้ซึ่งจะมารับตำแหน่งแทนจางเหวิน และคืนเดียวกันนั้นก็นำกำลังบุกถล่มบ้านตระกูลจาง สังหารหัวหน้าแก๊งคนปัจจุบัน ปัดกวาดคนที่ขวางทางให้ลงนรกอย่างเหี้ยมโหด โดยไม่เห็นแก่ความสัมพันธ์ในอดีต ที่จางเหวินเคยส่งเสริมลูกน้องคนนี้ให้ก้าวขึ้นสู่การเป็นหัวหน้าแกนนำของแก๊งแม้แต่น้อย
“แม่คะ หนูจะพยายามขอความช่วยเหลือจากเพื่อนคุณพ่อนะคะ คุณลุงฟรานเชสโก้ท่านเคยบอกว่ายินดีช่วยเหลือเราทุกอย่าง” หลินหลินบอกให้มารดาคลายใจ
หญิงสาวซ่อนความหนักใจไว้ภายใต้ท่าทางเรียบนิ่งอย่างคนที่รู้จักควบคุมอารมณ์ ขอเพียงเธอสามารถพามารดากับน้องชายออกจากฮ่องกงได้อย่างปลอดภัย เธอยินดีเสียสละความสุขทั้งชีวิตของตัวเอง ยอมแต่งงานกับริคคาโด้ ลูกชายของฟรานเชสโก้มาเฟียผู้ทรงอิทธิพลของอิตาลี ตามที่อีกฝ่ายยื่นข้อเสนอ แลกกับการให้ความช่วยเหลือครอบครัวของเธอ อำนาจบารมีของฟรานเชสโก้จะเป็นเกราะคุ้มกันภัยให้แม่กับน้องของเธอได้ หลินหลินจำต้องเลือกทำแบบนี้
“แม่ไม่ต้องห่วงนะคะ หนูจะทำทุกอย่างเพื่อปกป้องแม่กับอาหลง”
หญิงสาวให้สัญญากับมารดาด้วยน้ำเสียงหนักแน่น จริงจังย้ำชัดถึงความตั้งใจจริงของตน
ลัดดาพยักหน้าให้ลูกสาว สีหน้าผ่อนคลายความตึงเครียดลง นางหันไปดูแลลูกชายที่นอนหลับอยู่บนตัก ลูบศีรษะของจางหลงเบาๆ ด้วยความห่วงใย นางเป็นคนไทยที่เดินทางมาทำงานที่ฮ่องกง และได้พบรักกับมาเฟียหนุ่มชาวฮ่องกง หลายปีที่ผ่านมาตั้งแต่แต่งงานกับจางเหวิน ชีวิตของนางก็เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ ต้องคอยระแวงภัยจากศัตรูของสามีตลอดเวลา นางแทบไม่ได้ดูแลลูกชายกับลูกสาวเลย จางเหวินส่งลูกทั้งสองไปอยู่อังกฤษตั้งแต่ชั้นประถม ให้เรียนโรงเรียนประจำเพื่อความปลอดภัยของลูกๆ นางจะได้พบหน้าลูกเพียงปีละสองครั้งในช่วงปิดเทอม แต่สี่ปีที่ผ่านมาจางเหวินไม่ยอมให้ลูกกลับมาบ้าน เขาห่วงความปลอดภัยของลูกๆ เกรงว่าจะกลายเป็นเป้าให้ศัตรูทำร้าย ตำแหน่งหัวหน้าแก๊งมังกรทำให้ครอบครัวของนางต้องอยู่บนความหวาดระแวง อำนาจในมือไม่ได้ช่วยให้คนมีอำนาจอยู่อย่างสงบสุข แต่กลับสร้างความทุกข์และความพินาศให้ เมื่อคนที่ต้องการแย่งชิงอำนาจส่งคนมาทำร้าย นางได้แต่หวังว่าตัวเองและลูกๆ จะหนีพ้นจากคนชั่วเหล่านี้ บั้นปลายชีวิตจะได้พบกับความสงบสุขเสียที