ตอนที่ 4 ของฉัน

2883 คำ
อึก!! สาวน้อยหลับตาปี๋ด้วยความเจ็บปวด เธอร้อนรุ่มไปทั่วร่างกาย ไม่นานนักเธอสัมผัสถึงความนุ่มจากเตียง ทำให้เธอลืมตาตื่นขึ้น "อึก. ที่นี่.." เธอกวาดสายตามองรอบห้อง ก่อนจะสบตาเข้ากับคนตรงหน้า "นอนซะ อย่าขยับเยอะ" เกรย์เอ่ยเสียงเรียบ "ดะ เดี๋ยวก่อน" "เฮ้อ... ฉันไม่อยากอยู่นานกว่านี้ ไม่อย่างนั้นเธออาจจะไม่รอด..." เขาพูดโดยไม่แม้จะสบตาเธอ "นี้ หนะ..หนูจะตายหรอคะ ทำไมมันทรมานแบบนี้" น้ำใสๆเอ่อล้นที่ตาอีกครั้ง เธอทรมานและหวาดกลัวทั้งคนตรงหน้าและความตายที่รอเธออยู่ "เธอจะไม่เป็นไร เธอแค่ต้องนอนพัก" เกรย์หันกลับมามองเจ้าตัวน้อยที่นอนตัวสั่นเทาบนเตียง ตัวของเธอร้อนรุ่มจนเม็ดเหงื่อผุดออกทั่วร่าง ผิวขาวเนียนที่ตอนนี้มีสีแดงปะปน ใบหน้าระเรื่ออาบไปด้วยคราบน้ำตา ปากที่เม้มไว้เเน่นสนิทนั้นมีเลือดออกเล็กน้อย เกรย์ยื่นมือมาลูบใบหน้าใสอย่างแผ่วเบา เขาค่อยๆเลื่อนนิ้วลงแตะที่ริมฝีปากบาง "อย่ากัด." คำพูดแกลมคำสั่ง ใบหน้าที่แสนเย็นชากลับเปลี่ยนสี ดวงตาสีดำสนิทยังคงมองเธออย่างสงบนิ่ง เขาอดใจไม่ไหวที่จะโน้มหน้าเข้ามาดูดดื่มริมฝีปากบางจนแทบกลืนกิน สาวน้อยค่อยๆเอียงหน้าลงหนุนมือใหญ่อย่างไม่รู้ตัว เธอสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นผ่านฝ่ามือหนา "อืมม.." จูบเนิ่นนานช่างหอมหวาน กลิ่นคาวเลือดที่คละคลุ้งภายในปาก ทำให้เกรย์รู้สึกเร้าใจ เขาเผลอดื่มมันอย่างกระหาย จนน้ำลายใสไหลออกจากปากเล็ก "อื้ออ" สาวน้อยถูกช่วงชิงลมหายใจนานจนไหล่เกร็ง เธอเอามือเรียวดันอกแกร่งของชายหนุ่ม แม้เขาแทบจะไม่รู้สึกถึงแรงอันน้อยนิดของเธอก็ตาม ร่างใหญ่ค่อยๆผละออกจากเธออย่างเสียดาย ฮู่ววว เสียงถอนหายใจเฮือกใหญ่ดัง เขาเสยผมสีเทาขึ้นอย่างไม่สบอารมณ์ ก่อนจะขบกรามแน่น "บ้าเอ๊ย!!" เกรย์มองสาวน้อยที่ตอนนี้นอนหายใจหอบ เพราะถูกช่วงชิงอากาศไป "แฮ่ก แฮ่ก.. พะ พี่คะ " เสียงหวานเอ่ยกระเส่าขึ้น ด้วยตาล้นด้วยน้ำใสสายตาวิงวอนให้เขาช่วยเหลือ "แฟรี่!!!" เกรย์ตะโกนลั่น เขาพยายามข่มใจตนเองสุดขีด เพราะภาพของสาวน้อยช่างเย้ายวนเขาเหลือเกิน "มาแล้วค่ะนายท่าน" สาวใช้ทั้งสองของลูน่ารีบวิ่งเข้ามา "อยู่กับเธอซะ จนกว่า.....เธอจะหาย ออร่าของพวกเธอน่าจะช่วยได้" เกรย์เอ่ยก่อนจะเดินออกมา เขาข่มใจไม่ให้มองกลับมาที่เธอ "อย่าลืมเรื่องแผลด้วยละ" เขาย้ำอีกครั้งก่อนออกจากห้องไป "ทำได้ดีนี้~" เสียงคุ้นหูเอ่ยขึ้นจากหน้าประตู ขวับ!! แกร๊ก! ตึง! เกรย์หันไปล็อคคอคนตรงหน้าดันเข้ากำแพง พร้อมชักปืนจ่อที่ปลายคาง เขาจ้องเข้าไปในดวงตาแดงอย่างไม่เกรงกลัว "หึ" คูซีเพียงกระตุกยิ้ม เกรย์สัมผัสได้ถึง ของมีคมจ่อที่ท้ายทอยของเขา "นายท่านครับ....ตอนนี้มีรายงานว่าทางตระกูลอากัสต้องการมาแสดงความยินดีครับ..." เสียงของเคนทำให้ทั้งคู่ผละออกจากกัน เกรย์ที่หันมามองเคนเล็กน้อยก่อนจะผยักหน้าและเดินจากมา "พวกมันหูตาไวจริงๆ" เกรย์พึมพำเบาๆ คูซีมองทั้งคู่ แม้เคนจะส่งสายตาว่าเขาต้องเข้าไปด้วยแต่คูซีทำเพียงส่ายหน้าเบาๆและเดินจากมา เช้าวันรุ่งขึ้น [ลูน่า]  อือ~ โอยยย ปวดตัวชะมัด แต่นุ่มจัง อยากนอนต่ออีกสักนิด สักนิด.... "เอ๊ะ!! เดี๋ยวนะ ตอนนี้ฉัน" ลูน่าสะดุ้งตื่นลุกพรวดขึ้นมานั่ง ภาพความทรงจำต่างๆแล่นเข้ามาในสมอง เธอนั่งกุมหัวแต่เหมือนมีมือใหญ่มาจับหัวเธอ ทำให้เธอหันไปมองช้าๆ "ยังไม่หายเจ็บหรอ หื้ม?" หนุ่มผมบลอด์เทา ดวงตาสีฟ้าจ้องมองมาทางเธอ "เอ่อ...." มองกี่ทีพี่ไวบ์นี้เหมือนเทพบุตรเลย "หรือว่าพี่ต้องเรียกหมอมั้ย" ไวบ์ขมวดคิ้ว เมื่อเห็นท่าทางของสาวน้อยตรงหน้าเหม่อมองเขา "อ่ะ มะ ไม่ค่ะ ก็ดีขึ้นแล้ว แต่ว่าตอนนี้...อุ๊บ!!" จะบ้าตาย ฉันเพิ่งนึกได้ว่ายังไม่ได้แปรงฟันเลย ไวบ์มองสาวน้อยเอามือปิดปากตัวเอง หน้าของเธอค่อยๆเปลี่ยนเป็นสีแดงนิดๆ "คลื่นไส้หรอ?" ไวบ์ก้มลงถาม เมื่อเธอหันหน้าหนี "มะ ไม่ค่ะ เดี๋ยวหนูขออาบน้ำแต่งตัวก่อนได้มั้ยคะ พะ พี่ช่วยรอหนูข้างนอกก่อนได้มั้ย" อ๊ากก ฉันต้องรีบไปเตรียมตัว "ได้สิ...หรือให้พี่ช่วยอะไรมั้ย?" "คะ?" หมายถึงยังไงนะ ฉันว่าฉันบอกไปว่าจะอาบน้ำนี้หน่า พี่ไวบ์จะช่วยได้ยังไง.. "อุ๊บ ฮ่ะๆ งั้นเดี๋ยวพี่ไปรอข้างนอกนะ" พี่ไวบ์หัวเราะเบาๆก่อนออกไป หน้าฉันต้องมีอะไรติดแน่ๆ พี่เขาถึงมองแล้วฉันแบบนั้นแล้วหลุดขำออกมา แกร๊ก... ฉันรีบมองไปที่ประตู เพราะคิดว่าพี่ไวบ์เปิดเข้ามา ตอนนี้ฉันกำลังถอดชุดนอนนี้เลยนะ "นายหญิงคะ เดี๋ยวพวกเเราช่วยนะคะ" สองสาวใช้ที่คุ้นตา รีบเดินเข้ามาหาด้วยหน้าตาแตกตื่น เหมือนฉันทำอะไรผิดอย่างนั้นแหละ ไม่นานนักพวกเธอทั้งสองก็พาฉันไปอาบน้ำแต่งตัว "จะว่าไปแล้ว...ทั้งคู่ชื่ออะไรหรอ?" "รินค่ะ" สาวผมสั้นตอบด้วยหน้าตายิ้มแย้ม แต่มือของเธอยังหวีผมฉันอย่างแผ่วเบา "เรนค่ะ" สาวผมยาวตอบเสียงใส ด้วยใบหน้านิ่งเรียบ เธอดูโตเป็นผู้ใหญ่มากถ้าเทียบกับรินที่ดูร่าเริงตลอดเวลา "ขอบคุณทั้งคู่มากนะ พวกเธอทำให้ฉันรู้สึกว่าการอยู่ที่นี่มัน...อาจจะดีก็ได้" ฉันส่งยิ้มให้ทั้งดูด้วยความตื้นตัน บอกตามตรงว่าพวกเธอปรบนิบัติฉันราวกับเป็นเทพธิดาเลย แถมพวกเธอยังดูเต็มใจทำมันมากจริงๆ ตั้งแต่เกิดมา ยังไม่เคยโดนดูแลขนาดนี้มาก่อนเลย.... "นายหญิงงง~" รินทำหน้าเหมือนจะหลั่งน้ำตา "พวกเราเต็มใจค่ะ นายหญิงมีปัญหาตรงไหนสามารถบอกเราได้ทุกเมื่อเลยนะคะ" เรนเองที่ปกติทำหน้าเรียบเฉยตอนนี้กับพบรอยยิ้มเปื้อนหน้าด้วยความภูมิใจ "เรียบร้อยค่ะ นายหญิงลองดูกระจกสิคะ น่ารักมากๆเลย" รินพูดพร้อมกับจับฉันหันไปส่งกระจกบานใหญ่ "กะ กรี๊ดดดดด" ปัง!!! เสียงประตูเปิดขึ้นทันทีที่เสียงของฉันดังขึ้น อาจจะด้วยเดซิเบลหรืออะไรก็แล้วแต่ แต่มันไวมากๆ "เกิดอะไรขึ้น" ตัวการที่แทบทำประตูบานยักษ์พังเอ่ย "นายหญิง ถ้าไม่ชอบพวกเราต้องขอประทานโทษด้วยนะคะ" ทั้งสองสาวรีบคุกเข่าลงกับพื้นทันที "ตะ ตาฉัน!! ทำไมมันเป็นสีแดงแบบนี้" ใช่แล้ว ตามันแดงเหมือนกับสีอัญมณีเลย แต่มันคุ้นๆจัง.... ไม่สิ ฉันต้องตกใจแน่นอนอยู่แล้ว คนอะไรจะตาแดงแบบนี้ หรือว่าที่จริงแล้วฉันกำลังจะกลายร่างกันนะ!! "พี่คะ?! ตอนนี้หนูจะกลายร่างแล้วใช่ไหม" ฉันรีบหันไปถามพี่ไวบ์ที่ยืนทำหน้าเหมือนโลกกำลังจะแตกอยู่ตรงประตู ก่อนจะถอนหายใจเฮือกใหญ่ออกมา เขาเพียงเดินไม่กี่ก้าวด้วยท่อนขายาวคู่นั้นก็ถึงฉันโดยทันที "เอ่อ....." ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบ ทั้งสามคนมองหน้าฉันพลางทำหน้าแปลกๆ "นายหญิงคะ คือว่า.." รินต้องการจะพูดะไรบางอย่าง แต่โดนพี่ไวบ์ยกมือขึ้นปรามไว้ก่อน "ดูสิ ตอนนี้มือหนูสั่นมากๆ หนูรู้สึกได้...หนูหิว หิวมาก แบบกระหายเลย หรือนี้จะเป็น..." ฉันพูดพลางยกมือทั้งสองข้างที่สั่นระริกขึ้นมาดู ฉันกระหายหิวแบบสุดๆ อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน "เอ่อ.." รินกับเรนยังคงมองหน้ากันเลิ่กลั่ก แต่ก็ยังคงหวั่นเกรงชายร่างสูงที่ตอนนี้คว้ามือฉันพร้อมกับพาเดินออกไปด้านนอก "แค่หิว.." พี่ไวบ์เอ่ยสั้นๆ มุมปากอมยิ้มนิดๆ โดยที่เขาไม่รู้ตัว "พี่คะ หนูจะมีพลังอะไรแบบนั้นใช่มั้ย...มันเป็นหนึ่งในกระบวนการกลายร่างหรือเปล่า" ฉันถามซ้ำเพื่อความแน่ใจ อย่าว่าอย่างนั้นอย่างนี้เลย ฉันเองก็ดูหนังมาเยอะ เวลาแบบนี้มันต้องเป็นกระบวนการกลายร่างแน่ๆ "ฮ่ะๆๆ เธอนี้ตลกดีจริงๆ" นอกจากจะไม่ตอบคำถามใดๆ พี่ไวบ์ยังมาหัวเราะฉันอีก ฟุดฟิด ฟุดฟิด ฉันได้กลิ่นอาหาร ตอนนี้ฉันอยากจะวิ่งกระโจนเข้าไปในห้องตรงหน้าเสียด้วยซ้ำ "ยัยนั่นกำลังทำอะไร..." เสียงกวนประสาทคุ้นหูดังขึ้น เจ้าของเสียงยืนรออยู่ที่โต๊ะอาหารเรียบร้อยแล้ว ฉันไม่รอช้าขอแก้แค้นสักที ปัก! "อ๊ากกกก" ฉันเชื่อว่าพลังของเด็กใหม่จะต้องทรงพลังมากๆ แต่มันผิดมหันต์ คนบ้าอะไรท้องแข็งอย่างกับหิน ฉันรู้สึกเหมือนกระดูกนิ้วลั่นเลย "ยัยนี้กำลังทำอะไร..." พี่เมเดฟจิ้มที่หัวฉันไปมา แต่กับหันหน้าไปถามพี่ไวบ์ด้วยสายตาสงสัย "ทำไมพี่ไม่เจ็บเลยหละ หนูได้ยินมาว่า พวกมีพลังเกิดใหม่ จะต้องแรงเยอะนี้หน่า" ฉันสะบัดมือทำหน้าบึ้งตึง ยิ่งเงยหน้าขึ้นมาสบตาสีดำสนิทนั่นยิ่งชวนให้หงุดหงิด "พวกเกิดใหม่?" เมเดฟเลิกคิ้วสูง "นะ นายหญิงง" รินเรียกฉันด้วเสียงสั่นเครือ เธอยื่นมือออกมาเหมือนจะปรามฉันไว้ แต่ทำไมเธอต้องทำหน้าเหมือนจะร้องไห้แบบนั้นด้วยเล่า "น้องคิดว่าตัวเองจะกลายร่าง ละมั้ง.." พี่ไวบ์พูดโดยที่ไม่สบตาเมเดฟ เขาเพียงหั่นสเต็กเป็นชิ้นพอดีคำ ก่อนจะวางมันลงตรงหน้าฉัน "ฮ่าๆๆๆๆ" เมเดฟพ่นเสียงหัวเราะก้อนใหญ่ ยิ่งไอท่าทางที่เขาขำเหมือนจะสิ้นลมแบบนั้นยิ่งทำให้ฉันหงุดหงิด "ยัยเบ๊อะ ดูหนังมากไปป่ะเนี่ย" เมเดฟได้สติจากการขำฉันแทบสิ้นลม ก็ไม่วายหันมาพูดเหน็บแหนม ส่วนมือใหญ่ของเขาเลื่อนเก้าอี้พร้อมกับจับฉันนั่งลง "ก็หนูตาแดงแบบนี้ หิวแทบกระหาย...หิวมากๆเลยนะ พี่ดูสิมือสั่นขนาดนี้เลยนะ!!!" ฉันเถียงสุดใจ เพื่อกอบกู้หน้าและศักดิ์ศรีของเด็กใหม่กลายพันธุ์ ไม่วายที่ฉันจะยื่นมือที่สั่นระริกไปให้เขาดู เมเดฟเหลือบมองมือที่สั่นไหวของฉัน เขาดึงมันเข้ามาจับแนบแน่น "ทีนี้ก็ไม่สั่นแล้ว...เธอแค่หิวยัยโง่" แม้ความอบอุ่นที่มือเขามันจะรู้สึกดีก็ตาม แต่ปากเขานี้น่าเสยชะมัด "อ่ะนี้" สิ้นคำเมเดฟ พี่ไวบ์ก็จิ้มชิ้นเนื้อตรงหน้าเข้าปากฉันทันที "อูแอ่อิ๋วอ่ออะ" ฉันพยายามจะถามแต่สเต็กนี้อร่อยจริงๆนะ แปล: หนูแค่หิวหรอคะ "ใช่สิ ก็เธอไม่ได้กินอะไรเลยตั้งแต่เย็นเมื่อวาน จำไม่ได้หรอ?" เมเดฟเท้าคางมองหน้าฉันที่กำลังเคี้ยวเจ้าก้อนเนื้อแสนอร่อย "แล้วก็อย่าพูดตอนเคี้ยวเต็มปากขนาดนั้น" เขาขมวดคิ้ว ก่อนนจะดีดหน้าผากฉัน "โอ๊ยย พี่.." "สนุกกันอยู่เลยสินะ..." ไม่ทันที่ฉันเอ่ยจบประโยค เสียงทุ้มต่ำแสนเย็นยะเยือกก็ดังขึ้น เจ้าของเสียงจะใช่ใครที่ไหน ถ้าไม่ใช่ จ่าฝูงอย่าง เกรย์ ฉันไม่กล้าจะสบตาเขาตรงๆหรอก แค่เห็นเขาภาพอันน่าอายก็ค่อยๆฉายเขามาเล่นเอาหน้าฉันร้อนผ่าว "หึ " เขาจ้องฉันเพียงครู่ ก่อนจะผุดรอยยิ้มอันแสนเจ้าเล่ห์ที่มุมปาก "เมื่อกี้เสียงเอะอะอะไรกัน เกิดอะไรขึ้น" เสียงพี่ไคที่ตามเขามาทำให้เจ้าของดวงตาคมละสายตาจากฉัน "ก็ยัยนี้นะสิ เพ้อเจ้อว่าตัวเองจะ แปล.." พรวด!! อุ๊บ!! สองขากระตุกขึ้น สองมือของฉันทำงานอย่างรวดเร็ว เพื่อปิดปากหยักงามของหนุ่มด้านข้าง แม้ฉันจะแทบโน้มทั้งร่างทับเขาก็ตาม เรื่องน่าอายของฉันต้องไม่แพร่งพรายไปมากกว่านี้! ฉันส่งสายตาอ้อนวอนให้เขาปิดปากให้สนิท แต่เหมือนมันคงสื่อไปไม่ถึงชายผมแดงเพลิงตรงหน้า เขาเลียนิ้วมือฉันที่ปิดปากเขา รอยยิ้มแฝงเลิศนัยผุดขึ้นที่ใบหน้าของปีศาจตรงหน้าฉัน "สรุปคือมีเรื่องสินะ...." พี่ไคเอ่ยถามอีกครั้ง ในระหว่างที่ฉันทำหน้าปานจะกระโดดกัดหัวพี่เมเดฟที่ยิ้มเยาะแบบผู้ชนะ "ก็ยัยนี้คิดว่าตัวเองจะกลายร่าง เลยโวยวายนะสิ" พี่เมเดฟพูดมันออกมา และผลที่ตามมาอย่างที่คาด สายตาของทั้งสองคนที่เข้ามาใหม่มองฉันแบบนิ่งเรียบ แต่ฉันสัมผัสได้ถึงความเอือมระอา มีเพียงพี่ไวบ์เท่านั้นที่ยังคงส่งยิ้มอ่อนและป้อนอาหารฉันเงียบๆ "ดูเจริญอาหารดีนี่ สงสัยการกลายร่างคงจะสมบูรณ์แล้วหล่ะ" "ฮ่าๆๆๆๆ" หลังจากพี่เกรย์เหน็บแหนมฉัน พี่เมเดฟก็หัวเราะร่า ไม่แม้เเต่พี่ไคที่ยิ้มมุมปากอ่อนๆ อยากจะมุดลงใต้โต๊ะชะมัด หลังจากที่เห็นทุกคนลงมาพร้อมหน้าขนาดนี้ ทำให้นึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืนที่โดนกรีดแขน… แต่จะว่าไป เหมือนคนจะหายไปหนึ่งคนสินะ "มองหาใคร" เกรย์เอ่ยขึ้นด้วยเสียงที่ไม่สบอารมณ์นัก "ลุงเคนค่ะ พอดีหนูจะถามว่าวันนี้หนูต้องทำอะไรบ้าง" ฉันเลี่ยงคำตอบที่จะทำให้ชะตาขาด บอกเลยว่าดวงตาดำคมกริบเย็นยะเยือกนั่นทำให้ใจฉันสั่นๆยังไงไม่รู้ "ไม่ต้องทำอะไร แค่กินให้อิ่ม นอนให้พอ" เกรย์กล่าวก่อนจะเปิดไอแพดเช็คงาน "ค่ะ...." ชีวิตคนเราจะน่าเบื่อได้ขนาดนั้นเลยหรอ "งั้นหนูขอออกไปเดินเล่นได้มั้ยคะ?" พี่เกรย์ละสายตาจากไอแพดเข้ามาสบตาอันเป็นประกายของฉัน "เธออยากทำะไรก็ทำ ไม่ต้องขออนุญาตใครทั้งนั้น" เขาจิบกาแฟดำนั้นก่อนจะมองไอแพดต่อ ทุกอย่างเลยหรอ.... นี้มันเหมือนกับว่าฉันเป็นเจ้าของที่นี่ยังงั้นแหล่ะ "ทุกย่างของที่นี่เป็นของเธอ" พี่ไคเอ่ยเสียงนุ่ม มองฉันด้วยสายตาอบอุ่น เขาคลี่ยิ้มบางๆ "ทุกอย่าง...เป็นของหนู..." นี้มันเรื่องบ้าอะไรกันเนี่ยย ฉันอึ้งพร้อมกับมองไปรอบๆ ห้องอันใหญ่โต สวนด้านหน้า เหล่าคนต่างๆที่พร้อมคุกเข่า ทำไมเขาพูดเหมือนเอาลูกอมให้ฉันทั้งๆที่มันมากมายขนาดนี้ "ทุกอย่าง..หรือเธออยากได้อะไรเพิ่มไหม พวกคนที่ดูแลเธอ หรือสวน หรือ.." "พอแล้วค่ะ มันเยอะมากไปแล้ว หนูจะเอาไปทำอะไรเยอะแยะละคะ" ฉันรีบปรามพี่ไคก่อนที่เขาจะยกอะไรให้ฉันไปมากกว่านี้ นี้เราเพิ่งเข้ามาได้แค่วันที่สองเองนะ อะไรที่ทำให้พวกเขากล้ายกทุกอย่างให้ฉันขนาดนี้… 'ทุกอย่างของฉัน ฉันยกให้เธอ' ใบหน้าของฉันร้อนขึ้นทันที คำสาบานที่พี่เกรย์เอ่ยไว้เมื่อคืน…เรื่องจริงหรอเนี่ย "พวกพี่ไม่กลัวว่าหนูจะหนีหรอคะ" สิ้นเสียงฉัน รอบห้องกับสัมผัสได้ถึงจิตสังหาร ฉันไม่ได้คิดไปเองสินะ เพราะข้าบริวารทั้งหมดตัวสั่นระริก รินกับเรนถึงกับทรุดตัวลงที่พื้น เหมือนมีอายควันจางๆที่กลิ่นชวนคลื่นไส้ ท้องไส้ปั่นป่วน ร้อนดั่งโดนไฟโลกันต์แผดเผาไปทั่วร่าง อากาศรอบข้างเหมือนค่อยๆจางแทบหายใจไม่ออก ร่างกายหนักอึ้งเหมือนแรงดึงดูดโลกเปลียนทำให้แม้แต่แรงจะยกมือยังไม่มี รู้สึกเหมือนอยากจะตายเสียตรงนั้น…. แต่ไม่รู้ทำไม ร่างกายฉันกลับเหมือนมีออร่าจางๆ ลอยรอบตัวพวกมันคงปกป้องไว้ฉันสินะ แต่มันก็ชวนให้รู้สึกไม่ดีจริงๆนั้นแหละ "อ่า..นั้นคือมุกค่ะ" แน่ละสิฉันก็กลัวตายเหมือนกันนะ ฉันยกนิ้วพร้อมยิ้มสู้ เผื่อบรรยายกาศจะดีขึ้น แม้สายตาอาฆาตของทั้งสี่คนเฉียบคมดั่งมีดก็ตาม "เธออย่าแม้แต่จะคิด" เกรย์กล่าวสั้นๆ "ค่ะ.." ฉันรีบตอบพร้อมยิ้มเจื่อ อ่าพวกเขาไม่ได้กลัวฉันหนี แต่ฉันเองที่หนีไปไหนไม่ได้...
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม