“ เป็นอะไรมั้ย ” ธาดาถามทันทีที่เขาควบคุมรถได้โดยที่ไม่ได้ชนสุนัขตัวนั้น หวายค่อยๆลืมตาและเงยหน้าขึ้นจากแผงอกของธาดาที่ลืมตัวโผลเข้าไปซบด้วยความตกใจ
ทั้งคู่สบตากันนิ่ง หนึ่งคนหัวใจเต้นแรง
พอตั้งสติได้หวายก็รีบผละออกแต่เสียงหัวใจที่เต้นตึ่กตั่กอยู่ข้างในทำให้เธอออกอาการประหม่า
ทำไมความรู้สึกมันเหมือนเวลาที่เราบรรยายฉากของเนี่ยถานเอ๋อตอนที่ตกหลุมรักคุณชายลู่ในนิยายเลยล่ะ! ไม่จริง เป็นไปไม่ได้!
หวายพยายามสลัดความคิดบ้าๆออกจากหัวก่อนจะรีบกลับไปนั่งที่เบาะตัวเอง
“ เจ็บตรงไหนหรือเปล่าให้ผมดูหน่อย ” ธาดาถามด้วยความเป็นห่วง
“ ปะ…เปล่าค่ะ ” หวายรีบปฏิเสธ
จากนั้นธาดาก็ออกรถ ระหว่างทางไม่มีการพูดคุยกันอีกจนกระทั่งมาถึงยังบ้านหลังหนึ่ง ทันทีที่รถแล่นเข้ามาจอดก็เห็นทิพย์ธารามายืนรอต้อนรับทั้งคู่อยู่ก่อนแล้ว
“ เป็นยังไงบ้างเหนื่อยมั้ย ”
ทิพย์ธาราถามว่าที่ลูกสะใภ้คนโต
“ ไม่เหนื่อยค่ะ ”
“ งั้นเราเข้าไปในบ้านกันดีกว่านะ น้าเตรียมอาหารไว้รอเราสองคนแล้ว ”
หวายเดินตามทิพย์ธาราเข้าไปในบ้านพร้อมกับสำรวจรอบๆไปด้วย
โหยยย อย่างกับในละครแน่ะ
เนื่องจากคุณปู่ของธาดาออกไปทำธุระข้างนอก ตอนนี้จึงมีเพียงทิพย์ธารา ธาดาและภาคิณเท่านั้นที่ร่วมโต๊ะอาหารกันอยู่
“ ผมชื่อภาคิณนะ เป็นน้องชายของพี่ธาดา ยินดีที่ได้รู้จักนะ พี่สะใภ้ ”
ภาคิณแนะนำตัวเองด้วยท่าทางที่เป็นมิตรและเขาก็ไม่ลืมที่จะหันหน้าไปหาธาดาในตอนที่พูดคำว่า "พี่สะใภ้ "
ภาคิณไม่คิดว่าพี่ชายของเขาจะได้เมียเด็กขนาดนี้
“ หวายค่ะ ”
“ หวาย ชื่อน่ารักดีนะ ”
ภาคิณยิ้ม เขารู้สึกถูกชะตากับหวายไม่น้อยในขณะที่ธาดาเอาแต่นั่งทานข้าวไม่พูดไม่จา
“ เอ๊ะ! นั่นคอหนูไปโดนอะไรมาจ๊ะ ”
ทิพย์ธาราพูดขึ้น เธอพึ่งสังเกตเห็นผ้าก็อชที่ติดอยู่ตรงคอของหวาย
“ เอ่อ หนูโดนเล็บตัวเองข่วนค่ะ ”
หวายยิ้มแห้งๆ
“ เล็บข่วนเนี่ยนะ ”
ภาคิณถาม เขาเกือบจะหลุดขำออกมา
เด็กหนอเด็ก
“ รีบทานข้าวเถอะครับเราสองคนอยากรีบไปพักผ่อนแล้ว ”
คราวนี้ธาดาเป็นคนที่พูดขึ้น พอเห็นหวายเริ่มจะจนมุมเขาเลยต้องยื่นมือเข้าช่วยแต่ทิพย์ธารากับภาคิณกลับพากันคิดไปไกล
เขาสองคนมองหน้ากันแล้วยิ้ม
จนกระทั่งทุกคนทานข้าวอิ่ม หวายก็ถูกพามาที่ห้องๆหนึ่ง
“ พออยู่ได้มั้ย ”
ธาดาถามหลังจากที่เปิดประตูห้องให้ หวายมองไปรอบๆห้อง เฟอร์นิเจอร์ทุกอย่างดูหรูหราทั้งนั้น
“ ได้ค่ะ ”
ธาดาถือกระเป๋าของหวายเข้าไปในห้อง
“ เอ่อ เราสองคนไม่ได้พักห้องเดียวกันใช่มั้ยคะ ”
อยู่ๆหวายก็เกิดกลัวธาดาขึ้นมา เพราะคำพูดกำกวมพวกนั้น
แต่ไม่ทันที่ธาดาจะได้พูดอะไร มือถือของเขาก็ดังขึ้น ธาดารับสาย
“ ได้ เจอกันที่เดิมนะ อืม ฉันจะออกไปตอนนี้เลย ”
คำพูดของธาดาที่กำลังคุยกับคนในสายทำให้หวายแอบยิ้ม
ไม่น่าคิดมากเลยเรา เขาเป็นเกย์นินา แล้วนี่คงจะรีบออกไปหาคู่ขาสิท่า
“ ยิ้มอะไร ”
ธาดาถาม
“ เอ่อ เปล่าค่ะ ถ้าคุณมีธุระก็รีบไปเถอะ เรื่องแบบนี้หนูเข้าใจ ”
หวายยื่นหน้าเข้าไปใกล้ธาดา ประโยคหลังเธอพูดเสียงเบา
“ เข้าใจอะไรแล้วเมื่อกี้ที่พูดหมายความว่าไง ”
“ ไม่มีอะไรหรอกค่ะ หนูอยากอาบน้ำแล้วคุณรีบไปเถอะ ”
หวายเกรงว่าธาดาจะเกิดอายเรื่องเพศทางเลือก เลยรีบตัดบท
“ งั้นก็รับพักผ่อนเถอะ พรุ่งนี้เรายังต้องไปลองชุดแต่งงานกันอีก เจอกันตอนแปดโมง ห้ามสาย ”
ธาดาปิดประตูห้องให้หวายก่อนจะรีบออกไปหา "วีกิต" รุ่นน้องคนสนิทที่โทรมาเพื่อขอความช่วยเหลือจากเขาแค่นั้น
วันต่อมา
ธาดาและหวายมายังร้านพรีเวดดิ้งแห่งหนึ่งที่ทิพย์ธาราได้นัดไว้ให้แล้ว
“ เลือกได้หรือยัง ”
ธาดาถามขึ้นเพราะเห็นหวายใช้เวลาในการเลือกตรีมงานแต่งไม่ต่ำกว่ายี่สิบนาที เทียบกับชุด เธอกลับใช้เวลาไม่ถึงห้านาทีด้วยซ้ำ
“ ยังค่ะ แล้วคุณชอบแบบไหนคะ ”
หวายคิดว่าธาดาควรจะมีส่วนในการตัดสินใจเลยขอความเห็นจากเขา อีกอย่างเธอก็รู้สึกเกรงใจเงินในกระเป๋าด้วย
“ ผมชอบแบบเรียบง่าย ”
ธาดาเงยหน้าขึ้นมาตอบก่อนจะก้มลงไปสนใจหน้าจอมือถือที่กำลังคุยเรื่องงานอยู่ พอหวายได้ยินคำตอบจึงเลือกตรีมงานที่เรียบง่ายที่สุด ราคาถูกที่สุดในบรรดาแพคเก็จของทางร้าน ไม่ได้เน้นการตกแต่งหรูหราที่คู่แต่งงานส่วนใหญ่จะชอบจัดอย่างอลังการงานสร้าง
“ เราชอบแบบนี้หรอ ”
ธาดาถามหลังจากที่พนักงานในร้านสรุปรายละเอียดให้ฟัง ตรีมงานที่หวายเลือกแทบจะไม่ได้ตกแต่งอะไรเลย ธรรมดามาก
“ ก็คุณบอกว่าชอบแบบเรียบง่ายไม่ใช่หรอคะ อีกอย่างหนูก็…….. ”
“ เราชอบแบบไหนก็เลือกเลยไม่ต้องเกรงใจ ผมไม่ค่อยถนัดเรื่องพวกนี้เพราะฉะนั้น…..ถ้าเราชอบ ผมก็ชอบ ”
คราวนี้ธาดามองหน้าหวายทุกคำที่พูดและเขาก็คิดอย่างนี้จริงๆ แม้ว่าการแต่งงานจะเกิดขึ้นเพราะต่างฝ่ายต่างมีผลประโยชน์ร่วมกันแต่ธาดาก็อยากเห็นเธอมีความสุขเท่าที่เขาจะทำให้ได้
“ งั้นขอเลือกอีกรอบได้มั้ยคะ ”
หวายหันไปพูดกับพนักงานในร้าน เธอแอบดีใจที่อย่างน้อยธาดาก็ยังใส่ใจความรู้สึกของเธอบ้าง
ตึ่ก!
ต่ก!
ตึ่ก!
ทำไมเรารู้สึกแบบนี้อีกแล้วนะ
หลังจากที่เลือกตรีมงาน ชุดแต่งงานและของชำร่วยเรียบร้อยแล้วธาดาก็พาหวายกลับนครสวรรค์ทันทีเพราะเขายังต้องรีบกลับไปเคลียร์งานที่มหาวิทยาลัยต่อ
ด้านทิพย์ธาราที่รับหน้าที่แม่งานในการจัดเตรียมงานทุกอย่างจนเรียบร้อยก็ส่งคนไปรับหวายกับยายของเธอมาที่กรุงเทพก่อนวันงานสองวันเพื่อให้ทั้งสองคนได้มีเวลาพักผ่อน
และแล้ววันนี้ก็มาถึง
งานแต่งงานของทั้งคู่ถูกจัดขึ้นที่โรงแรมแห่งหนึ่ง แขกเหรื่อส่วนมากที่มาร่วมงานก็ล้วนแต่เป็นคนสนิทของปู่ของธาดาและเป็นนักธุรกิจที่ทำการค้าด้วยกันทั้งนั้น ฝ่ายของหวายที่มาร่วมงานด้วยมีเพียงยายของหวายกับคนรู้จักใกล้เคียงเพียงไม่กี่คน ส่วนธาดา เขาไม่ได้เชิญใครมานอกจากเพื่อนรุ่นน้องที่ชื่อวีกิต