บทที่3 ข้อตกลง

1367 คำ
" งานแต่งของลูกจะถูกจัดขึ้นอาทิตย์หน้านี้ อย่าลืมลางานด้วยล่ะ ทุกอย่างเตรียมพร้อมไว้หมดแล้ว " “ ผมนึกว่าเราคุยเรื่องนี้กันรู้เรื่องแล้วนะครับ ” “ ถ้าอย่างนั้นลูกก็คุยกับคุณปู่เอาเองแล้วกันนะ ” ทิพย์ธารายื่นไอแพดให้กับธาดา ซึ่งหน้าจอกำลังโทรวิดิโอคอลหาใครบางคนอยู่ ไม่ถึงห้าวินาทีก็ปรากฎภาพของชายชราขึ้น ธาดาเดินออกไปคุยตรงระเบียงห้อง “ คุณปู่กำลังทำอะไรครับ ” ธาดาเอ่ยน้ำเสียงราบเรียบ “ ฉันเคยบอกแกแล้วไงว่าถ้าฉันอยากให้แกแต่งงานเมื่อไหร่ฉันจะบอกแกเอง ” ปู่ของเขาตอบท่าทางสบายใจ “ แต่นี่ไม่ได้ใกล้เคียงคำว่าบอกเลยนะครับ ” “ แล้วยังไง ” ปู่ของเขาพูดในขณะที่กำลังตัดแต่งกิ่งไม้ในสวนไปด้วย “ ผมจะกลับไปคุยกับปู่ที่บ้านนะครับ ” “ แกไม่ต้องมาหรอก ยังไงแกก็ต้องแต่งงานกับหลานสาวของเพื่อนฉัน ” “ แต่ว่าผมกับเธอไม่ได้รู้จักกันนะครับเราจะแต่งงานกันได้ยังไง ” ธาดาเอ่ยอย่างร้อนใจ “ เด็กคนนั้นชื่ออะไร อายุเท่าไหร่ ” ธาดาคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตอบ “ หวายครับ อายุน่าจะไม่เกิน20ปี ” ธาดาตอบจากสิ่งที่เห็นและได้ยิน “ แกก็รู้จักแล้วนิ ” คำตอบของชายชราทำให้ธาดาถึงกับอึ้ง “ แบบนี้ไม่ได้เรียกว่ารู้จักนะครับ อีกอย่างตอนนี้ผมก็กำลังทำวิจัยสำคัญอยู่ ผมทุ่มเทกับงานวิจัยครั้งนี้มากเพราะฉะนั้นผมไม่….. ” “ เพราะฉะนั้นถ้าแกยังอยากทำวิจัยนั้นต่อแกต้องแต่งงานกับเด็กคนนั้น ไม่อย่างนั้นแม้แต่โรงพยาบาลที่แกจะสร้างก็อย่าหวังว่าฉันจะสนับสนุน ” “ แต่คุณปู่ครับ! ผม…. ” “ แค่นี้นะ ฉันยุ่งอยู่ ” ชายชรากดวางสายโดยไม่ได้สนใจที่ธาดา คัดค้าน ธาดาใช้ความคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเดินกลับเข้ามาในห้อง “ คุณปู่ว่ายังไงบ้าง ” ทิพย์ธาราถามทั้งที่รู้คำตอบอยู่แล้ว เธอรู้จักลูกชายของเธอดีพอๆกับพ่อของสามี ในชีวิตของธาดามีจุดมุ่งหมายชัดเจนตั้งแต่ที่ยังเรียนอยู่ระดับมัธยม เขามีความตั้งใจที่จะก่อตั้งโรงพยาบาลในต่างจังหวัดเพื่อจะได้ช่วยเหลือคนยากไร้ที่ป่วยโรคร้ายแรงแต่ไม่มีเงินรักษาหรือมีฐานะยากจน ซึ่งโครงการใหญ่ขนาดนี้ นอกจากความรู้และความสามารถทางการแพทย์ของธาดาที่ทุกคนยอมรับยังต้องอาศัยเรื่องทุนทรัพย์จำนวนมหาศาลอีกด้วย จึงมีเพียงปู่ของเขาคนเดียวเท่านั้นที่จะทำความฝันของเขาให้เป็นจริง ธาดาถอนหายใจก่อนจะพูด “ ผม……... จะแต่งงานกับเด็กคนนี้ครับ ” ธาดาชี้ไปที่หวาย “ ให้มันได้อย่างนี้สิ แม่ภูมิใจในตัวลูกจริงๆ ” ทิพย์ธาราเดินเข้าไปกอดลูกชายด้วยใบหน้าที่ยินดีก่อนจะหันไปคุยกับยายของหวาย “ เรื่องงานแต่งทางหนูจะเป็นคนจัดการทุกอย่างเองค่ะ คุณพ่อฝากมาบอกว่าจะให้คนมารับหนูหวายโดยเร็วที่สุดเพื่อจะได้ไปเตรียมตัวค่ะ ” “ เดี๋ยวนะคะ แต่หนูยังไม่ได้บอกว่าจะแต่งงานกับเขาสักหน่อย ” “ แต่เอ็งสัญญากับยายแล้วนะหรือว่าเอ็งอยากเห็นยายอาการกำเริบขึ้นมาอีก ” “ แต่ยายจ๋า หวายไม่อยากแต่งงานกับเขาจริงๆนะ ” หวายพยายามขอร้องยาย “ ผมขอคุยกับหลานสาวของคุณยายได้มั้ยครับ ” ขณะนั้นธาดาก็พูดขึ้น ยายของหวายพยักหน้าให้เขาทันที “ ไปสิ ออกไปคุยกับพี่เขา ” หวายตัดสินใจออกมาคุยกับธาดาเพราะเธอเองก็ต้องการจะบอกจุดยืนของเธอเช่นกัน ทั้งสองคนพากันออกมาคุยตรงทางเดินระหว่างตึกของโรงพยาบาล “ ผมรู้ว่าคุณไม่ได้อยากแต่งงานกับผม ผมก็เหมือนกัน ” ธาดาเป็นคนเปิดประเด็น “ ถ้างั้นคุณจะรับปากแม่คุณทำไมล่ะคะ ” “ ผมขอถามอะไรคุณหน่อยได้มั้ย ” “ ได้ค่ะแต่ไม่ต้องเรียกหนูว่าคุณได้มั้ย มันฟังดูแก่ยังไงไม่รู้ ” หวายบอกเพราะรู้สึกไม่ชินที่มีผู้ชายเรียกเธอแบบนี้ ธาดาพยักหน้า “ อายุเท่าไหร่ ” “ 19 เต็ม 20 อาทิตย์หน้าค่ะ ” หวายตอบแบบขอไปที ธาดามองชุดนักเรียนที่เธอสวมใส่อยู่จึงเกิดความแปลกใจ “ แน่ใจนะว่าไม่ได้โกงอายุ ” ธาดาจ้องหน้าเธอ “ หนูอายุจะ20แล้วจริงๆค่ะแต่หนูเข้าโรงเรียนช้ากว่าคนอื่นเลยพึ่งจะจบม.6 ใครเขาจะอยากโกงอายุให้ตัวเองแก่ล่ะคะ ” พอได้ยินคำตอบทำให้ธาดาเผลอยิ้มออกมา สายตาอ่อนโยนภายใต้กรอบแว่นหนาเตอะทำให้หวายก็เผลอมองเขาเช่นกัน “ แล้วเรียนจบอยากจะเรียนต่อด้านไหน ” ธาดากำลังรวบรวมข้อมูลของหวาย “ หนูอยากเรียนคณะพยาบาลค่ะแต่หนูหัวไม่ค่อยดีเท่าไหร่คงจะสอบไม่ติด ” พอต้องพูดถึงเรื่องนี้หวายก็รู้สึกเครียดขึ้นมาทันทีเพราะความฝันสูงสุดของเธอคือการได้ช่วยเหลือชีวิตคนอื่นและได้ดูแลยาย ธาดาแอบพอใจเพราะคำตอบของหวายเข้าทางเขาพอดี “ ถ้าผมจะบอกว่าผมช่วยได้ล่ะ ” “ ช่วยหนูได้ โม้หรือเปล่าคะ คุณจะช่วยหนูได้ยังไง ” หวายแอบเบะปากใส่ธาดา “ ผมเป็นอาจารย์สอนอยู่คณะแพทย์ที่มหาวิทยาลัย ถ้าคุณอยากเข้าเรียนที่นั่นผมสามารถช่วยคุณได้ " “ จริงหรอคะ! เดี๋ยวนะ อย่าบอกนะว่าคุณจะให้หนูยัดเงินใต้โต๊ะ หนูไม่มีเงินหรอกค่ะอีกอย่างหนูก็ไม่อยากโกงคนอื่นด้วย มันไม่ภูมิใจค่ะ ” หวายยืนกอดอกพูดด้วยความหนักแน่น ทำให้ธาดาเริ่มมองเธอในแง่ดีขึ้น ธาดายิ้มก่อนจะพูดต่อ “ ผมก็ไม่ชอบรับสินบนจากใครเหมือนกันแต่ผมช่วยติวให้ได้ ” ธาดาไม่ลืมที่จะเปิดโปรไฟล์ที่ได้รับการยอมรับของตัวเองผ่านมือถือให้หวายดูเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจและเพื่อบอกให้หวายรู้ว่า เขาเก่งแค่ไหน “ ติวให้หนูเนี่ยนะ ” แม้ว่าหวายจะได้อ่านประวัติของธาดาคร่าวๆแล้วและยอมรับว่าเขาเป็นคนที่น่าเชื่อถือแต่การติวหนังสือไม่ใช่ว่าจะทำให้สอบติดเสมอไป “ ใช่ เรามีเวลาเตรียมตัวตั้งสามเดือนซึ่งผมคิดว่าน่าจะเพียงพอ ” “ พอจริงหรอคะแล้วคุณแน่ใจได้ไงว่าเวลาแค่นี้จะทำให้หนูสอบติด หนูโง่นะ ” ประโยคสุดท้ายหวายกัดฟันพูดออกมาเพราะคิดว่าอย่างน้อยควรจะต้องบอกระดับไอคิวตัวเอง “ ผมเปิดคอร์สติวสำหรับคนที่อยากเข้าเรียนคณะแพทย์และพยาบาล ผมใช้เวลาสองเดือนเท่านั้น แล้วกว่า80 เปอร์เซ็นเด็กพวกนั้นสอบติด ” “ แค่80 เปอร์เซ็นเองหรอคะแล้วอีก20เปอร์เซ็นล่ะ ” “ อีก20เปอร์เซ็นขึ้นอยู่ที่ตัวเอง ถ้าอยากเรียนจริงๆก็ต้องมีความตั้งใจและความพยายามด้วยนอกจากว่าเรา….จะไม่มีสองสิ่งนี้อยู่ ” ธาดามองหวายด้วยสายตาที่แอบดูถูกเธอ เขาคิดว่าเด็กอย่างเธอคงจะไม่ยอมให้ใครมาดูถูกง่ายๆซึ่งมันก็ได้ผล “ ใครบอกว่าหนูไม่มีล่ะคะ ทั่วทั้งดอนกกไม้หวายใครๆก็รู้ว่าหนูน่ะไม่เคยยอมแพ้อะไรง่ายๆ ถึงไหนถึงกัน! ” พอหวายได้ยินที่ธาดาดูถูกเธอก็ตั้งหน้าตั้งตาเถียง ทันที แม้ว่าเธอจะเป็นคนที่เรียนไม่เก่งแต่ถ้าเรื่องความตั้งใจและความพยายามนั้นเธอมีจนล้นเหลือ “ ถ้างั้นเราก็มาทำสัญญากัน ” “ สัญญาอะไรคะ ” หวายถามเพราะไม่ค่อยเข้าใจที่ธาดาพูด เมื่อกี้คุยเรื่องสอบเข้าอยู่แท้ๆ เกี่ยวอะไรกับเรื่องทำสัญญา หรือว่า....ตาลุงนี่จะคิดมิดีมิร้ายกับเรานะ “ ผมยินดีจะช่วยให้เราสอบเข้าคณะพยาบาลติดแต่ว่า…...... เราจะต้องแต่งงานกัน ”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม