เมื่อคืนกว่าจะได้กลับห้องนอนก็ปาเข้าไปเกือบตีสอง ดีที่วันนี้ฉันมีเรียนแค่ช่วงบ่าย ไม่อย่างนั้นคงได้หอบสังขารอันอิดโรยมาเข้าเรียน
ระหว่างยืนรอลิฟต์ขึ้นชั้นสาม สายตาเหลือบเห็นคนสวยประจำคณะเข้าก็เลยทำการโปกมือให้ เหมือนฝันอดีตดาวปีก่อนเดินมาหาพร้อมกับสายตาหลายสิบคู่ที่มองตามเจ้าตัวมา ...ฮอตไม่เปลี่ยนเลยเพื่อนฉัน
“คุณหนูนิว เมื่อคืนไปสร้างเรื่องอะไรไว้ที่ถาปัตย์” ได้ยินคำถามถึงกับต้องย่นคิ้ว เหมือนฝันคงรู้ว่าฉันกำลังงง ถึงได้ยื่นโทรศัพท์ของตัวเองมาให้กัน
ฉันรับมา ไล่มองหน้าเพจที่มักเอาเรื่องของนิสิตในมหา’ ลัยไปเม้าท์มอย
“นี่มันอะไรกัน”
“ดิฉันต้องถามคุณค่ะ ไม่ใช่ให้คุณมาถามฉัน” คนพูดเก็บโทรศัพท์คืน เป็นจังหวะที่ลิฟต์มาพอดีเราเลยยังไม่ได้คุยอะไรกัน
พอถึงห้องเรียน ฉันจึงหยิบโทรศัพท์ตัวเองเพื่อเข้าไปดูโพสในเพจนั้นอีกครั้ง
มีเรื่องแซ่บ ๆ มาเม้าท์อีกแล้วค่าทุกคนขาาาาา
เรื่องมีอยู่ว่าเมื่อคืนนี้ที่ตึกสถาปัตย์ มีการบอกรักกันเกิดขึ้น! ใช่แล้วค่ะ ฟังไม่ผิด บอกรักกกกกกก!!!!
ทุกคนก็รู้ใช่มั้ยล่า ว่าสมบัติคณะนี้หนึ่งในนั้นคือพี่ฟิลด์ถากรรมปี 3 ผู้ซึ่งเป็นที่หมายปองของสาว ๆ ทั่วทุกสารทิศ แล้วเมื่อวานก็มีสาวน้อยผู้ใจเด็ด ประกาศบอกรักลั่นคณะเลยเจ้าค่ะ แอดมินนี่ยอมใจในความใจกล้านั้นจริง ๆ
ลูกศิษย์ขอคารวะ!!!
#แนบภาพการ์ฟิลด์กับนินิวมองหน้ากัน
“บอกรักบ้าอะไร ไม่มีคำว่ารักออกจากปากฉันเลยเหอะ” หัวเสียจนต้องโยนโทรศัพท์เข้ากระเป๋าไว้ตามเดิม เพจบ้าเพจบอนี่มันน่าตามไปตบนัก พลิกเก่งยิ่งกว่าแม่ค้าขายลูกชิ้นปิ้ง
“สรุปยังไง จะได้เข้าไปถล่มถูก” ฉันเล่าเรื่องทุกอย่างให้เพื่อนฟัง เริ่มตั้งแต่ไอ้บอสชวนให้ไปทำงานช่วย จนกระทั่งมันไม่ยอมให้ฉันนอน เล่าทุกอย่างโดยไม่มีตกหล่นแม้แต่ไทม์ไลน์เดียว
พอฟังจบเหมือนฝันก็หัวเราะน้ำตาเล็ด บอกว่า ‘บอสขาหยอกเพื่อนน่ารักจัง’
จ๊ะ... น่ารักมาก น่ารักอย่างกับผี!
“ไม่ต้องคิดมาก บางคอมเม้นต์บอกอยู่ว่าแกไม่ได้เป็นคนพูด” เหมือนฝันปลอบใจกัน “เดี๋ยวเข้าไปยืนยันช่วยอีกแรง”
ฉันพยักหน้า พ่นลมหายใจออกมาด้วยความเซ็ง
ที่จริงเรื่องนี้ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรหรอก เป็นข่าวเม้าท์มอยที่เพจนี้มักสรรหา จริงบ้างลวงบ้างแต่ก็ยังเอามาลงเรียกยอดไลค์ ฉันไม่อยากใส่ใจแต่ว่ามันน่าหงุดหงิด
“เราจะรู้ได้ยังไงว่าใครเป็นแอดมินเพจ” ฉันอยากจะเห็นหน้าคนโพส อยากจะถามต่อหน้าสักหน่อยว่าเอาเรื่องมั่ว ๆ แบบนี้มาจากไหน ใส่ใจกันเก่งนัก เรื่องไม่จริงคนอื่นเนี่ย
“ยาก พวกนี้มันหลบเก่ง”
“ไม่มีเพื่อนเรียนไอทีบ้างเหรอฝัน” เหมือนฝันนางรู้จักคนเยอะมาก เรียกได้ว่าเดินเข้าคณะไหนก็สนิทกับเขาไปหมด เลยเป็นเหตุว่าทำไมฉันถึงถาม ก็เผื่อว่านางจะมีเพื่อนที่สามารถหาตัวแอดมินได้
“เดี๋ยวถามไอ้ฟอสให้ แต่ไม่รับปากนะว่าจะได้ตัว”
“ไม่เป็นไร ได้ก็ดี ไม่ได้ก็ปล่อย” ก็มีเท่านี้แหละ ฉันไม่ใช่คนยึดติดอะไรนัก ถ้าเรื่องไหนไม่มีประโยชน์กับชีวิต ฉันก็ไม่คิดใส่ใจนาน
Incoming call from… ‘NOTT’
หยิบโทรศัพท์ที่กำลังสั่นออกจากกระเป๋า พอเห็นว่าเป็นใครที่โทรมา ก็รู้ทันทีว่าเรื่องที่เรากำลังคุยถึงหูแล้ว
“รับให้เอาไหม” คนยื่นหน้ามาใส่ใจเอ่ยปากถาม เมื่อเห็นฉันยังชั่งใจไม่กดรับ
เหมือนฝันถือว่าเป็นเอฟซีตัวยงอีกคนของเฮียน็อต เจ้าตัวชื่นชอบในตัวพี่ชายฉันชนิดที่ว่าแค่เห็นหน้าก็ร้องกรี๊ด ตัวบิดตัวงออย่างเขินอาย ซึ่งแตกต่างโดยสิ้นเชิงกับพี่ชายของฉัน ที่เวลาเจอไอ้ฝันก็ทำเพียงปรายตามอง ไม่ได้แสดงออกว่าสนใจเหมือนกับผู้ชายคนอื่น ๆ
“ไม่ต้องเลย เดี๋ยวก็โดนมองแรงอีก” ฉันเดินหนีคนหน้างอออกมายืนหน้าห้อง สูดลมหายใจลึก ๆ เข้าปอดแล้วกดรับ
“ค่ะ”
“เห็นโพสแล้วใช่ไหม สรุปยังไง” ไม่จำเป็นต้องซักไซ้ว่าหมายถึงเรื่องอะไร เริ่มเล่าเหมือนที่เคยเล่าให้ฝันฟัง ไม่ขาดตกบกพร่องแม้คำเดียว
“เดี๋ยวเฮียเคลียร์ให้ ไม่จำเป็นไม่ต้องไปอยู่ใกล้พวกมันอีก” ฉันรับปากไม่อิดออด เพราะไม่ได้คิดจะเข้าไปยุ่งกับพี่ฟิลด์เขาอยู่แล้ว
“ไม่ต้องคิดมากล่ะ” เฮียคงกลัวว่าฉันจะคิดมากถึงยังไม่ยอมวางสายกัน
“คร้าบ นิวไม่คิดมากหรอก เฮียก็รู้ว่านิวไม่ชอบเรื่องซีเรียส”
“ดีแล้ว งั้นเฮียไปเรียนก่อน” สายถูกตัดไปหลังจากประโยคนั้น
ยังพอมีเวลาก่อนที่อาจารย์จะเข้าสอน ฉันเลยขยับเดินมายืนตรงระเบียง หลับตาลง ผ่อนลมหายใจปล่อยเรื่องหงุดหงิดให้ปลิวไปกับสายลมที่กำลังพัดโชยเอื่อย
เอาน่านินิว ถ้าเฮียบอกว่าจะจัดการ เดี๋ยวทุกอย่างก็เรียบร้อย
ฉันนั่งเรียนจนตะวันลาลับฟ้า กว่าอาจารย์จะยอมปล่อยก็กินเวลาเพิ่มไปอีกสิบนาที สะบัดหน้าไล่ความง่วงแล้วเก็บของลุกตามคุณคนสวย
“หมูกระทะไหม ฉลองที่ข่าวแกปลิวไปในอากาศ”
หลังเรียนเสร็จฉันหยิบโทรศัพท์กะว่าจะเช็กเรื่องของตัวเอง ปรากฎว่ากดเข้าไปหน้าเพจ โพสที่ว่านั่นไม่อยู่แล้ว มันถูกแทนที่ด้วยโพสแก้ ที่บอกว่าเกิดจากความเข้าใจผิด แถมทางเพจยังพิมพ์ขอโทษที่ทำให้ฉันเสียหายอยู่หลายบรรทัด ไม่แน่ใจนักว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ถ้าให้เดาคงเป็นเฮียน็อตแน่ ๆ ที่จัดการ
“เอาสิ” หมูกระทะหน่อยก็ดี อาทิตย์นี้ยังไม่ได้จัด
พอตกลงเลือกร้านกันเสร็จสรรพ ก็เดินแยกกับเหมือนฝัน เราตกลงจะไปร้านที่ตั้งอยู่หน้ามอ เป็นร้านที่มีทั้งหมูกระทะแล้วก็อาหารตามสั่ง
“น้องนิวครับ” เสียงเรียกรั้งดังขึ้นทางด้านหลัง ทำให้ฉันจำเป็นต้องเอี้ยวตัวกลับไปมอง ดวงตาหรี่แคบเพราะดูไม่ออกว่าเป็นใคร แต่พออีกฝ่ายเดินพ้นตรงมุมมืด ก็ทำเอาฉันเอียงคออย่างสงสัย
“พี่ฟิลด์?” ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่
“พึ่งเลิกเรียนเหรอครับ” ถามกันด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ฉันเองก็ไม่ได้ไร้มารยาทจึงยิ้มกลับแล้วเอ่ยตอบพร้อมพยักหน้า 'ค่ะ'
“พี่รู้เรื่องที่เพจเอาไปลง ก็เลยอยากมาขอโทษครับ”
ฉันส่ายหน้า “พี่ฟิลด์ไม่จำเป็นต้องขอโทษเลยค่ะ นิวต่างหากที่ต้องเป็นคนพูดคำนั้น” เป็นฉันมากกว่าที่ต้องเป็นฝ่ายขอโทษ ที่จู่ ๆ ก็ลากพี่เขาเข้ามาพัวพันกับเรื่องไม่เป็นเรื่องที่ไอ้บอสมันสรรหา
พูดถึงไอ้เพื่อนชั่ว มันกดรัวโทรหาฉันเป็นสิบสาย พอฉันไม่รับเพราะเรียนอยู่ มันเลยเปลี่ยนเขียนเป็นเรียงความด้วยลายมือส่งมาเพื่อขอโทษ ความยาวประมาณหนึ่งหน้ากระดาษได้
คงรู้สึกผิดจนจุกอก ที่ทำให้ฉันถูกคนอื่นมองไม่ดี แต่ฉันไม่ได้โกรธอะไรไอ้บอสมันหรอกนะ เพราะรู้ดีว่ามันเองไม่ได้ตั้งใจจะให้เรื่องนี้บานปลาย
“นิวเองก็ไม่ต้องขอโทษพี่หรอกครับ” คราวนี้พี่ฟิลด์ส่ายหน้าบ้าง
“ขอบคุณที่เข้าใจนะคะ” ฉันค้อมหัวให้พี่เขา “คือพอดีว่านิวมีนัดต่อ” ฉันอ้อมแอ้มบอก รู้สึกทำตัวไม่ถูกเมื่อพี่ฟิลด์เอาแต่มองหน้าโดยที่ไม่ได้พูดอะไร
“อ่า… ครับ งั้นพี่ไปก่อนนะ ไว้เจอกันใหม่ครับ”
ฉันไม่ได้ตอบรับ ทำเพียงยิ้มตามมารยาทให้เท่านั้น ก็เฮียน็อตสั่งไว้แล้วนี่นา ว่าอย่าเข้าใกล้พี่เขาอีก ดังนั้นฉันจะปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด จะได้ไม่มีปัญหาตามมาอีก
หวังว่านับจากวันนี้ไป ฉันกับพี่เขาคงไม่จำเป็นต้องมาเจอกันอีก